ตอนที่ 136 หักมุม (2)

EnjoyBook

ตอนที่ 136 หักมุม (2)

เริ่นม่านลี่เห็นว่าสามีของตนไม่ตอบแล้วเดินไกลออกไปเรื่อย ๆ สีหน้าจึงดูบูดบึ้ง รู้สึกว่าเหยาอี้หนิงเริ่มตีตัวห่างออกจากตนมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้การแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เหยาอี้หนิงคงให้ความสำคัญกับหล่อนน้อยลงแน่ ดูเหมือนว่าหล่อนจะต้องคิดหาวิธีแก้ปัญหาเสียแล้ว

ขณะที่เหยาอี้หนิงกับเริ่นม่านลี่ดูเหมือนจะเป็นคู่รักที่ไม่มีความสุข ฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่ในอีกด้านหนึ่งก็ได้เขียนจดหมายเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ฉินมู่หลานรับจดหมายของเซี่ยเจ๋อหลี่ ก่อนจะเอ่ยบอก “พรุ่งนี้ฉันจะไปที่ทำการไปรษณีย์แล้วส่งจดหมายสองฉบับนี้ให้นะคะ”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินเช่นนี้จึงพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรบกวนคุณแล้ว”

เขามีภารกิจฝึกอบรมทุกวัน จึงไม่สามารถออกไปได้จริง ๆ

“ลำบากอะไรกันล่ะคะ เข้าเมืองแล้วฉันจะได้ไปซื้อของมาเพิ่มด้วย”

วันนี้ก็ซื้อของมาไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากมายขนาดนั้น จึงต้องรอครั้งต่อไป

เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่อยากให้ภรรยาของตนต้องลำบาก จึงเปิดปากพูดขึ้น “พรุ่งนี้จะมีรถของทีมที่ต้องออกไปซื้อของ ถึงตอนนั้นคุณก็ขอติดรถไปกับพวกเขาได้ เดี๋ยวผมจะไปบอกพวกเขาเอาไว้”

หากมีรถให้นั่งก็ถือเป็นเรื่องดี ฉินมู่หลานจึงยกยิ้มแล้วพยักหน้า “ตกลงค่ะ”

เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นฉินมู่หลานพยักหน้า จึงอดที่จะพูดไม่ได้ “ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้คุณก็ระวังตัวหน่อยนะ”

“อื้ม”

เมื่อถึงเช้าวันถัดไป ฉินมู่หลานก็ตรงเข้าเมืองเพื่อไปส่งจดหมาย

พี่หลี่กับเสี่ยวหวังจากที่ทำการไปรษณีย์รู้จักฉินมู่หลานแล้ว วันนี้เมื่อเห็นเธอมาอีก จึงอดไม่ได้ที่จะใจสั่น พลางคิดไม่ตกว่าทำไมฉินมู่หลานถึงมาที่นี่อีก

และฉินมู่หลานก็ได้ยกยิ้มให้กับทั้งสองคน ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว แล้วยื่นจดหมายไปให้ทันที

เมื่อเห็นฉินมู่หลานกลับไปแล้ว พี่หลี่กับเสี่ยวหวังก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เสี่ยวหวังถึงกับลูบหน้าอกของตัวเองก่อนจะเอ่ยขึ้น “โชคดีที่วันนี้ไม่มีเรื่องอะไร”

หลังจากพูดจบก็หันไปพูดกับพี่หลี่อย่างอดไม่ได้ “พี่หลี่ พี่ว่าผู้หญิงคนนั้นมาส่งจดหมายจริงเหรอคะ ทำไมวันนี้หล่อนถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ”

“เสี่ยวหวัง อย่าพูดเลย ตั้งใจทำงาน”

หากเมื่อวานหล่อนไม่พูดมาก แล้วพูดเรื่องเริ่นม่านลี่กับเสี่ยวหวัง ฉินมู่หลานคงไม่เห็นภาพถ่ายใบนั้น แล้วก็คงไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

เสี่ยวหวังได้ยินคำพูดนั้น จึงรีบพยักหน้าแล้วเอ่ยทันที “จริงด้วย ไม่พูดๆๆ”

ฉินมู่หลานเดินออกจากที่ทำการไปรษณีย์ แล้วคิดว่าจะไปซื้อของที่ร้านค้าสวัสดิการ แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือสายตาเธอพลันเห็นคนคุ้นตาบนถนน ก่อนจะเอ่ยออกไปด้วยความไม่แน่ใจ “หรูฮวน…”

เสิ่นหรูฮวนได้ยินจึงรีบหันไปมอง เมื่อเห็นว่าเป็นฉินมู่หลานก็มีสีหน้าตื่นเต้นขึ้นมาทันที “มู่หลาน ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ เธอตั้งใจมารับฉันอย่างนั้นใช่ไหม”

แต่หลังจากพูดจบ หล่อนก็ได้ทราบว่าไม่ใช่ เพราะฉินมู่หลานไม่ทราบว่าหล่อนจะมา

เรื่องนี้ช่างเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก “มู่หลาน พวกเราสองคนคงเป็นชะตาฟ้าลิขิต ทำให้ได้มาเจอกันที่นี่”

ฉินมู่หลานอดไม่ได้ที่จะพูด “หรูฮวน ทำไมเธอถึงไม่บอกฉันล่วงหน้าก่อนล่ะ ฉันก็จะได้เตรียมตัวต้อนรับให้ดีกว่านี้”

เสิ่นหรูฮวนเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “มู่หลาน ฉันอยากจะเซอร์ไพรส์ไม่ได้เหรอ เป็นยังไง เซอร์ไพรส์หรือเปล่า”

ฉินมู่หลานมองเสิ่นหรูฮวนด้วยท่าทางขบขัน ก่อนจะพูดขึ้น “เซอร์ไพรส์สิ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดี”

ระหว่างที่พูดคุยกัน ฉินมู่หลานก็ก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมเสิ่นหรูฮวน “จริงสิหรูฮวน เดี่ยวฉันพาเธอไปที่เกสต์เฮ้าส์ ได้เอาจดหมายแนะนำตัวกับของทุกอย่างมาหรือเปล่า”

เสิ่นหรูฮวนไม่ใช่สมาชิกในครอบครัว จึงไปค้างคืนในห้องพักของฐานทัพไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องพาไปพักที่เกสต์เฮ้าส์ซึ่งจัดไว้รับรองแขกของครอบครัวทหาร

“เอามาแล้ว”

เสิ่นหรูฮวนรีบพยักหน้าแล้วเอ่ยตอบ

“ดีแล้วล่ะ”

ฉินมู่หลานพาเสิ่นหรูฮวนไปที่เกสต์เฮ้าส์ จากนั้นก็ขอเปิดห้องหนึ่งห้อง แล้วพาเสิ่นหรูฮวนไปเก็บสัมภาระ หลังเก็บเสร็จ ฉินมู่หลานก็อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ “หรูฮวน ครั้งนี้เธอมาคนเดียวเหรอ?”

“ใช่แล้ว ฉันจะมาพูดคุย เที่ยวเล่นกับเธอ แล้วก็พักผ่อน”

ได้ยินเช่นนี้ ฉินมู่หลานก็เข้าใจว่าเรื่องราวครั้งนี้ยังส่งผลกระทบต่อจิตใจของเสิ่นหรูฮวนอยู่นิดหน่อย

“หรูฮวน ที่จริงแล้วเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเธอเลยนะ เธอไม่จำเป็นต้องเศร้าเสียใจเลย”

เสิ่นหรูฮวนก็ไม่อยากเป็นอย่างนั้น แต่มันก็ยังมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของหล่อนอยู่ “มู่หลาน จริง ๆ ฉันพยายามเต็มที่ที่จะไม่รู้สึกแล้ว แต่มันก็ยังรู้สึกอยู่นิดหน่อย”

ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนั้น จึงเกลี้ยกล่อมต่อ

“ที่จริงมันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอที่เธอได้รู้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่าเจิ้งเต๋อข่ายนั่นเป็นคนยังไง ดีกว่ามารู้เอาหลังแต่งงานไปแล้วใช่ไหมล่ะ”

ได้ยินคำพูดนี้ เสิ่นหรูฮวนก็เห็นด้วยทุกทาง ฉินมู่หลานพูดถูก จะเป็นยังไงถ้าหล่อนแต่งงานไปแล้วเพิ่งมารู้เรื่องของเจิ้งเต๋อข่ายกับซูอวี้เจี๋ยทีหลัง แบบนั้นคงตกใจตายแน่ๆ ถึงตอนนั้นคงทำอะไรไม่ถูก

เมื่อคิดได้เช่นนั้น สีหน้าของเสิ่นหรูฮวนก็รู้สึกสับสนนิดหน่อย

“มู่หลาน เธอคิดว่าการเป็นผู้หญิงจำเป็นต้องแต่งงานไหม จริง ๆ ฉันคิดว่าการอยู่เป็นโสดแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ อยู่ที่บ้านมีพ่อแม่ และพี่ชายที่รักแลห่วงใยฉัน แล้วพี่ชายฉันก็ยังไม่แต่งงานด้วย แล้วทำไมพ่อกับแม่ถึงอยากให้ฉันแต่งงานนัก พวกเขาคงคิดว่าฉันโดนจับไปนาน อาจจะเสียบริสุทธิ์ไปแล้ว เลยรีบจับฉันแต่งงานอย่างนั้นเหรอ”

“พวกเขาคิดว่าฉันทำให้พวกเขาอับอายหรือเปล่า”

ฉินมู่หลานรีบเอ่ยปลอบทันที “หรูฮวน ทำไมเธอถึงคิดแบบนั้นล่ะ คุณลุงกับคุณป้าแค่กลัวว่าเธอจะไม่ได้แต่งงาน ถึงได้รีบหาคู่หมั้นที่เหมาะสมกับเธอไงล่ะ ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอกนะ”

เสิ่นหรูฮวนก็เข้าใจว่าตัวเองคงคิดมากเกินไป

แต่ถึงอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะคิดเช่นนั้น เนื่องจากมีหลายคนในปักกิ่งที่รับรู้ว่าหล่อนเคยโดนพวกค้ามนุษย์จับตัวไป คนพวกนั้นต่างก็สงสัยว่าหล่อนยังบริสุทธิ์อยู่หรือเปล่า แต่หล่อนรู้ว่าตัวเองยังคงบริสุทธิ์ดี ทว่าจะให้ตนป่าวประกาศเรื่องนี้ก็คงไม่ได้ ต่อให้จะออกมายืนกรานก็จะมีบางคนที่ยังสงสัยว่าตระกูลเสิ่นพูดไม่จริง ดังนั้นไม่ว่าจะเอ่ยอธิบายเรื่องนี้อย่างไรก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรถูกต้องเลย

เมื่อเห็นสีหน้าของเสิ่นหรูฮวนดูอึดอัด ฉินมู่หลานจึงเอ่ยต่อ “เอาเถอะ อย่าคิดมากไปเลย ตอนนี้มาที่นี่เพื่อเที่ยวเล่น อย่างนั้นก็สนุกให้เต็มที่ อย่าเพิ่งคิดเรื่องอื่นเลย”

เสิ่นหรูฮวนได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าอย่างแรงแล้วพูดขึ้น “ตกลง พวกเรามาสนุกกันเถอะ”

เสิ่นหรูฮวนได้พูดคุยกับฉินมู่หลานอยู่พักหนึ่งก็รู้สึกดีขึ้นมาก “มู่หลาน ฉันรู้สึกว่าทุกครั้งที่ได้พูดคุยกับเธอ ฉันจะรู้สึกดีมากเลย เธอนี่สุดยอดจริง ๆ”

เมื่อเห็นสีหน้าของเสิ่นหรูฮวนกลับมายิ้มได้อีกครั้ง ฉินมู่หลานก็อดที่จะโล่งใจไม่ได้ หลังจากนั้นเธอก็คิดที่จะมาอยู่ แล้วดูแลเสิ่นหรูฮวนให้ดี

เสิ่นหรูฮวนได้ยินเช่นนั้นก็รีบโบกมือแล้วพูดขึ้น “มู่หลาน เธอไม่ต้องมาพักที่นี่ด้วยหรอก ฉันอยู่คนเดียวได้”

“จะทำอย่างนั้นได้ยังไง”

ฉินมู่หลานปฏิเสธตามตรง “เธออุตส่าห์ลำบากลำบนมาที่นี่ ยังไงช่วงนี้ฉันก็จะพาเธอออกไปเที่ยวเล่นด้วยแน่นอน”

“มู่หลาน อยู่กับฉันแค่ตอนกลางวันแล้วตอนเย็นค่อยกลับก็ได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่กับฉันทั้งวันทั้งคืนหรอก”

เมื่อเห็นเสิ่นหรูฮวนพูดเช่นนั้น ฉินมู่หลานก็คิดว่าเข้าท่า

หลังจากทั้งสองเก็บสัมภาระของเสิ่นหรูฮวนเรียบร้อยแล้วก็ออกไปข้างนอก แต่เมื่อออกไปได้ไม่นาน ก็บังเอิญเจอกับเริ่นม่านลี่อีกครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ

แต่เริ่นม่านลี่ไม่ได้มองไปที่ฉินมู่หลาน กลับมองไปที่เสิ่นหรูฮวนแทน สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “เสิ่นหรูฮวน ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?”

……………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

จะไม่ให้ห่วงได้ไงล่ะคุณหนูเสิ่น เล่นมาคนเดียวลุยเดี่ยวแบบนี้

ชะตาต้องกันอีกแล้ว เจอกันแบบบังเอิญตลอดเลย

ไหหม่า(海馬)