ตอนที่ 129 เดอ ครุช วันที่สี่ การมาถึง

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

129 ทำงานต่างประเทศที่แว็ง เดอ ครุช วันที่สี่ การมาถึง

 

“――ถึงจะน่าเสียดายนิดหน่อย แต่ไปกันเถอะ”

 

ต้องขอบคุณบทสนทนาที่สนุกสนานระหว่างการเดินทาง พวกเราจึงมาถึงที่หมายก่อนที่จะรู้ตัวเสียอีก

 

ฮิเอโร่ลงจากเรือที่ฝั่งตรงข้ามก่อน แล้วเดินไปอ้อมมาอีกฝั่งก่อนเปิดประตู และช่วยเอสคอร์ทฉันในตอนที่กำลังลงจากเรือ ช่างเป็นเจ้าชายที่ฉลาดและเอาใจใส่

 

……ชายคนนี้เป็นรองผู้อำนวยการสถานีออกอากาศแห่งเมืองหลวงสินะ

 

ถ้าจำไม่ผิด ราชาองค์ก่อนเป็นผู้อำนวยการอย่างเป็นทางการ และเป็นหัวหน้าแผนกเมจิกวิชั่น

ยังไงก็ตาม นั่นเป็นเรื่องที่ประกาศสู่สาธารณะ แต่ความจริงแล้วเป็นแค่เรื่องหน้าฉากเท่านั้น

ฮิเอโร่・อาร์ตัวร์ รักษาการผู้อำนวยการคนนี้คือ ผู้นำในอุตสาหกรรมเมจิกวิชั่นตัวจริง

 

――แม้ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ ฉันก็เข้าใจดีถึงความจริงที่ว่าเขาเป็นคนที่น่าสะพรึงกลัวแค่ไหน เมื่อพิจารณาว่าเขาเป็นบุตรชายของราชาองค์นั้น

 

ราชาทุ่มเทให้กับบทบาทของราชามากจนปิดกั้นครอบครัวของตนเองออกจากจิตใจของเขา แต่ชายคนนี้หมกมุ่นอยู่กับบทบาทในฐานะรักษาการผู้อำนวยการสถานีออกอากาศ

 

หลักฐานเรื่องนั้นคือ ฮิเอโร่ได้ดูรายการของเมจิกวิชั่นที่สร้างขึ้นถึงแปดหรือเก้าส่วนของทั้งหมด ไม่สิ บางทีเขาอาจจะดูไปทั้งหมดแล้วก็ได้

 

ฉันไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องยากอะไร หากเป็นช่วงก่อนหน้าที่ดินแดนซิลเวอร์จะเข้าร่วมสงคราม แต่ตอนนี้แตกต่างออกไปแล้ว มีรายการใหม่หลายรายการถูกสร้างขึ้นทุกวัน และต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งวันในการรับชม

 

รายการ――เหมือนว่าเขาจะดูโดยตรงจากหินเวทมนตร์ที่ทำหน้าที่บันทึกภาพสะท้อนไว้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรอเวลาออกอากาศ มีข้อดีที่สามารถดูได้ทุกที่ทุกเวลา……

ถึงอย่างงั้น ในเมื่อเขาต้องยุ่งอยู่กับการเดินทางไปต่างประเทศและกิจกรรมต่าง ๆ เขาหาเวลาดูมาจากไหนกัน

 

พอลองคิดดูแล้ว ฉันก็เกิดจินตนาการที่น่าสะพรึงกลัวว่า ชีวิตของฮิเอโร่นอกเหนือจากเวลางานทั้งหมดถูกใช้ไปกับการดูเมจิกวิชั่น

 

……………

 

ฉันไม่กล้ายืนยันเรื่องนั้น

ฮิเอโระอาจไม่ต้องการยืนยัน หรือต้องการให้คนอื่นเข้าใจ หรือโอ้อวดเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

ทว่า ดูเหมือนจะไม่มีข้อสงสัยเลยว่าเขาเป็นคนที่มีคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง

ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าอุตสาหกรรมเมจิกวิชั่นจะสามารถก้าวต่อไปได้หรือไม่ หากต้องสูญเสียเขาไป ฉันรู้สึกว่าเขากำลังแบกความรับผิดชอบมากเกินไป

 

……ขณะที่ฉันกำลังกังวลเกี่ยวกับสถานะการเงินของตระกูลลิสตัน แต่ในแง่พื้นฐานแล้ว สิ่งที่ควรต้องการมากที่สุด คือการให้อุตสาหกรรมสามารถดำเนินงานไปตามกลไกให้ได้โดยเร็วที่สุด

 

และถึงจะแค่เล็กน้อย ฉันก็อยากให้ฮิเอโร่สามารถรู้สึกสบายใจได้สักหน่อย

 

ดูเหมือนว่าการเป็นรักษาการผู้อำนวยการสถานีออกอากาศจะเป็นงานที่หนักกว่าที่ฉันจินตนาการไว้

จิตสำนึกและจิตวิญญาณของคุณอาจจะสามารถผ่านเวลาไปได้โดยไม่เกิดปัญหาใด ๆ แต่ร่างกายของคุณจะตามทันหรือไม่นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ในขณะที่อายุยังน้อย คุณสามารถทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้หรือไม่สมเหตุสมผลได้ แต่ถึงอย่างนั้นทุกอย่างก็มีขีดจำกัดของตนเอง ฉันหวังว่าเขาจะไม่ล้มลงจากการทำงานที่หนักเกินไป

 

 

 

“――ยินต้อนรับสู่ตระกูลฮาสกิตันขอรับ”

 

ในช่วงที่ฉันยังคุยกับฮิเอโร่บนเรือเหาะ เรือลำเล็กก็เข้ามาพื้นที่ด้านใน ผ่านบริเสณสวน และมาถึงหน้าคฤหาสน์ซึ่งอยู่ห่างจากประตูค่อนข้างมาก

 

ทันที่ที่พวกเราลงจากเรือลำเล็ก พ่อบ้านวัยกลางคนก็เข้ามาทักทาย

 

……พวกเราได้รับเชิญจากคริสโต เจ้าชายลำดับที่สี่ของจักรวรรดิแว็ง เดอ ครุชดังนั้นย่อมต้องเป็นที่รู้จักของคนจำนวนมาก เอ๊ะโตะ ตระกูลฮาสกิตัน? ฉันไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับพวกเขามาก่อน แต่ดูเหมือนน่าจะเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงมาก และดูท่าจะเป็นขุนนางระดับสูงพอสมควร

 

…………

 

ดีล่ะ ฉันไม่รู้เกี่ยวกับมารยาทของที่นี่ ดังนั้นหากมีปัญหาอะไร ฉันก็แค่แกล้งทำตัวเป็นเด็กก็รอดได้แล้วใช่ไหม

 

“――เนีย! รออยู่เลย เนีย!”

 

โอ๊ะโตะ

 

ทันทีที่ฉันเข้ามาภายในคฤหาสน์ คริสโตที่เหมือนกำลังรออยู่ก็พุ่งเข้ามาต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่น ――ริโนกิสอย่าเดาะลิ้นของเธอได้ไหม ฉันได้ยินนะ

 

“มาจริงด้วย! มาหาข้าจริง ๆ ด้วยสินะ!ตื้นตันใจเหลือเกิน!”

 

“นี่ก็เที่ยงแล้ว ยังละเมออยู่รึไง?”

 

เขาหลบคำพูดเย็นชาที่เป็นดังหอกอันหนาวเหน็บของฮิเอโร่ 「ซ้า มาเถอะ」และเอามือโอบหลังฉันก่อนออกแรงพลักอย่างร้อนแรง ดูเหมือนว่าเขาต้องการนำทางฉันไปที่ไหนสักแห่ง ――ฮิเอโร่ ฉันคิดว่าไม่ควรตะโกน「ไอ้เวร」ใส่เจ้าชายของประเทศอื่นกลางที่สาธารณะน่ะ จากตำแหน่งของกันและกัน นี่อาจกลายเป็นปัญหาทางการทูตจริง ๆ ก็ได้

 

ก่อนอื่น ฉันอยากจะไปทักทายคนของตระกูลเจ้าบ้านก่อน แต่คริสโตบังคับเชิญฉันอย่างแข็งขัน ดังนั้นตอนนี้ฉันจึงตัดสินใจมุ่งหน้าไปตามที่เขาต้องการก่อน ในกระแสนี้ในสถานที่นี้ ฉันไม่อยากทำตัวเสียมารยาท

 

ฉันถูกพาตัวมายังห้องที่อบอุ่นจากกองไฟในเตาผิง……ห้องรับรอง ห้องรับแขกสินะ แม้ว่าขนาดของห้องจะไม่ใหญ่มากแต่ก็ครบครันด้วยเฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูง และดูสะดวกสบายน่าใช้เวลาอยู่

 

“เนียมาแล้ว! เจ้าหญิงของอาร์ตัวร์ไงล่ะ!”

 

ไม่ไม่ไม่ เจ้าหญิงคือฮิลเดโทร่าต่างหาก ……ฉันคิดว่าเขาคงจะพูดถึงในแง่ของความเป็นคนดัง แต่ก็ชวนน่าสับสนไม่น้อยเหมือนกัน เพราะดันมีเจ้าหญิงตัวจริงอยู่ในวงการด้วย

 

ถ้าฉันพยายามพูดแก้ไขความจริงจะเป็นการพูดเสียมารยาท หรือการพูดทำร้ายจิตใจไหมนะ ……ยังไงก็ตาม คริสโตแนะนำตัวฉันแบบแปลก ๆ ให้กับคนสามคน

 

คนแรกเป็นผู้หญิงที่หน้าตาค่อนข้างคล้ายกับคริสโต ……รึเปล่านะ? ฉันดูไม่ออกว่าเป็นเพศไหนกันแน่ อายุน่าจะเท่ากันหรือ อาจจะน้อยกว่านิดหน่อย

 

คนที่สองเป็นชายหนุ่มผมสีแดงที่รูปร่างค่อนข้างใหญ่

แม้ว่าจะไม่แข็งแกร่งเท่าฉัน หรือแม้แต่ริโนกิส แต่ดูเหมือนว่าเขาจะผ่านการฝึกฝนมาบ้างแล้ว

 

และคนที่สามเป็นหญิงสาวที่มีความสวยงามตระการตาทีเดียว เธอมีผมสีน้ำตาลเข้มยาวสวย

 

ดูเหมือนทั้งสามคนจะนั่งคุยกันมาสักพักแล้ว จึงดึงโซฟาไปนั่งกันที่หน้าเตาผิง แปลว่าคริสโตก็น่าจะอยู่ที่นี่ก่อนที่พวกเราจะมาถึงด้วยเหมือนกัน

 

“――มาแล้วสินะ เอ๊ะโตะ……โทษที แต่ให้ข้าได้ทักทายเจ้าชายฮิเอโร่ก่อนแล้วกัน”

 

ชายผมสีแดงร่างใหญ่ยืนขึ้น และทักทายสั้น ๆ กับฮิเอโร่ซึ่งเดินตามหลังฉันมาทั้งที่ได้รับเชิญจากคริสโต

 

“ขอบคุณจริง ๆ ที่มา แต่จริง ๆ นี่ก็เป็นเพียงการรวมตัวของคนกันเองทั้งนั้น ดังนั้นขอให้นายช่วยลืมสถานะและตำแหน่งของตนเองไปก่อนในตอนนี้”

 

“แน่นอน ฉันได้รับเชิญจากคริสโต และจากคนที่เป็นเพื่อนกันอย่างนายด้วยนะ แซ็ค”

 

เข้าใจล่ะ เขาคือคนของคฤหาสน์หลังนี้สินะ พวกเขามีอายุใกล้เคียงกัน ดังนั้นเลยได้พบปะพูดคุยเชื่อมสัมพันธ์แบบเดียวกับคริสโต

 

หลังจากทักทายกันง่าย ๆ ชายผมแดงก็คุกเข่าลงต่อหน้าฉัน

 

” ――ยินดีต้อนรับ เนีย・ลิสตัน หน้าตาของเธอ ข้าเคยเห็นหลายครั้งผ่านเมจิกวิชั่นที่เจ้าชายฮิเอโร่เอามาให้ดูก่อนหน้านี้”

 

ด้วยรอยยิ้มเคอะเขินเล็กน้อย ในทางกลับกันก็ทำให้ฉันรู้สึกดีด้วย เขาอาจจะไม่เก่งเรื่องรับมือเด็ก ๆ หรือบางทีอาจจะไม่คุ้นชินกับผู้หญิงเลย ในแง่นั้น ความเหลาะแหละของคริสโตยิ่งโดดเด่นเข้าไปอีก

 

“ข้า ซัคเฟิร์ด・ฮาสคิตัน วันนี้เป็นวันเกิดคู่หมั้นของข้าเอง”

 

เห๊

 

“ยินดีที่ได้พบนะคะ ซัคเฟิร์ดซามะ เนีย・ลิสตันค่ะ ที่มาในวันนี้เป็นการร้องขอให้เจ้าชายฮิเอโร่ช่วยกรุณาพามาด้วยความเอาแต่ใจของหนูเองค่ะ

หนูค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับเรื่องมารยาท เพราะอยู่ต่างถิ่น แต่หากหนูทำเรื่องที่หยาบคายบางอย่างลงไป ได้โปรดช่วยกรุณายกโทษให้ด้วยนะคะ”

 

ฉันคลี่ชายกระโปรงของชุดเดรสออกแล้วก้มหัวเล็กน้อย แสดงการทักทายตามแบบขุนนางที่ถูกอบรมโดยคุณนายไลม์ ฉันไม่คิดว่านี่จะเป็นวิธีการทักทายที่ไม่สุภาพในประเทศนี้

 

“ซ้า ข้างนอกคงจะหนาวมาก ไปที่หน้าเตาผิงด้วยกันสิ ข้าจะแนะนำอีกสองคนตรงนั้นให้เอง”

 

ม๊า แบบนี้เท่ากับว่าพวกเขายินดีต้อนรับฉันแล้ว

อย่างน้อยที่สุด ฉันก็ยังไม่ได้ยินใครรู้สึกแย่เกี่ยวกับการมาถึงของฉัน

 

…………

 

ยังไงก็ตาม จากที่ฉันเห็น พวกเขาทั้งหมดดูเหมือนจะอยู่ในสถานะที่ค่อนข้างสูงทีเดียว

 

อันดับแรก ชายหนุ่มผมแดง ซัคเฟิร์ด

เมื่อพิจารณาจากขนาดของคฤหาสน์หลังนี้ และความกว้างของอาณาเขต ฉันคิดว่าน่าจะสามารถพูดได้อย่างไม่มีปัญหาว่าตระกูลอาสกิตันเป็นขุนนางที่ยิ่งใหญ่ได้ หากเขาเป็นคนที่มีนามนั้น ก็มีสิทธิ์ที่จะบอกว่าเขาเป็นคนใหญ่คนโตของจักรวรรดิเช่นกัน

 

ผู้หญิงที่ดูเหมือนคริสโตน่าจะเป็นคนในราชวงศ์ 

อาจจะเป็นน้างสาวแท้ ๆ ของเขา หรือน้องสาวต่างแม่ห่าง ๆ ญาติ? ม๊า ก็ไม่รู้ล่ะนะ แต่ก็คงไม่ใช่คนที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ถ้าใช่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีความสามารถในการเข้าไปพูดคุยกับบุคคลระดับสูงของจักรวรรดิได้

 

ผู้หญิงที่มีผมสีน้ำตาลเข้มนั้นคล้ายกับฮิเอโร่

เธอดูเป็นหญิงสูงศักดิ์สำหรับใครก็ตามที่ได้เห็น เธอมีทั้งความงดงามและความสง่างามราวกับเจ้าหญิงสำหรับใครก็ตามที่ได้มอง บางทีเธออาจจะเกี่ยวข้องกับราชวงศ์เหมือนกัน ม๊า ยังไงซะดูแล้วก็คงมีเงินกันใช่ไหม ถึงจะไม่มีอำนาจแต่ถ้ามีเงินก็ไม่มีปัญหา

 

และ คริสโต เจ้าชายลำดับที่สี่แห่งจักรวรรดิแว็ง เดอ ครุช

ในกรณีของเขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไร ฉันสามารถคาดหวังได้ทั้งเงินทอง อำนาจ และอิทธิพลได้ เขายังสนใจในเมจิกวิชั่นอีกด้วย

หากจะนำเมจิกวิชั่นเข้าสู่ประเทศแห่งนี้ ฉันแน่ใจว่าคริสโตจะเป็นผู้นำ

 

 

 

เป็นการรวมตัวที่ยอดเยี่ยมเลยไม่ใช่เหรอ

 

หากสามารถขายของที่นี่ได้ดี ฉันคิดว่าพวกเราจะสามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างมากในการแนะนำเผยแพร่เมจิกวิชั่น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เมล่อนเขียวในแม็คโคร หวานบาดลิ้นสมราคาดี ส่วนเนื้อแข็งๆติดเปลือกยังหวาน กินไปครึ่งลูกหวานติดปากทั้งวัน ฮา