บทที่ 110 พยายามอิจฉา

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า

บทที่ 110 พยายามอิจฉา

บทที่ 110 พยายามอิจฉา

โจวอี้จรดนิ้วลงเพื่อบรรเลง ทว่าก่อนจะเริ่มบรรเลง เสียงเคาะประตูก็ขัดจังหวะเสียก่อน

ซีชิงอิ่งขมวดคิ้ว ความโกรธวาบผ่านดวงตา ตอนหยิบกู่ฉินออกมา เธอโทรไปแจ้งแล้วว่าห้ามให้ใครมารบกวนเธอ

ทันใดนั้นประตูก็ถูกผลักออกโดยจวงรุ่ย เขากำลังจะขอโทษที่เข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ ทว่าหลังจากที่เขาเห็นฉากในห้อง ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันใด

ผู้ชาย? แถมยังเป็นหนุ่มหล่อ

หมอนี่ใคร?

มีความสัมพันธ์อะไรกับซีชิงอิ่ง?

สถานการณ์อะไรกัน ทำไมถึงอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ดื่มชาและเล่นเครื่องดนตรีโบราณงั้นเหรอ?

หวงไห่เทาที่เดินตามมาอย่างร่าเริงเห็นฉากนี้ก็ตกตะลึงในทันที ดวงตาของเขาล่อกแล่ก มองเข้าไปด้านในอย่างอึ้ง ๆ

“ใครให้คุณเข้ามา มีมารยาทหรือเปล่า” ซีชิงอิ่งลุกขึ้นช้า ๆ เธอมองไปที่คนทั้งสองด้วยความไม่พอใจ

เธอรู้จักชายทั้งสอง ถึงจะรู้ว่าทั้งสองคนมีเกียรติ แต่เพราะพวกเขาขัดจังหวะการเล่นของโจวอี้และทำลายโอกาสในการฟังเพลงของเธอ เธอจึงแสดงท่าทีเย็นชาใส่

“ชิงอิ่ง เขาเป็นใคร” จวงรุ่ยไม่ได้คาดหวังว่าซีชิงอิ่งจะดุเขาทางสายตา เขาอายมากเลยเปลี่ยนเรื่องถามโจวอี้

เขาชอบซีชิงอิ่งมาตลอด ไล่ตามเธอมาตั้งหลายปีแล้ว

เนื่องจากเขารู้ว่าความเจ็บป่วยของซีชิงอิ่งนั้นรักษาไม่หาย และเธออาจจะตายในไม่ช้านี้ เขาจึงหยุดที่จะยึดติด และสร้างโอกาสในการพบกับซีชิงอิ่งเป็นครั้งคราวเท่านั้น

แต่เมื่อเขาได้ยินว่ามีแพทย์ชาวจีนสามารถรักษาโรคของซีชิงอิ่งได้ เขาก็ไล่ตามเธออีกครั้งและตัดสินใจที่จะแต่งงานกับซีชิงอิ่ง

ทว่าเมื่อมาเห็นซีชิงอิ่งอยู่ในห้องเดียวกันกับผู้ชายคนอื่น แถมบรรยากาศก็เป็นใจแบบนี้ เขาจะอิจฉาก็เป็นธรรมดา

“ไม่ใช่เรื่องของคุณ ออกไปจากที่นี่ซะ” ซีชิงอิ่งโกรธ

จวงรุ่ยจ้องไปที่โจวอี้อย่างเย็นชาและถามว่า “คุณเป็นใคร เป็นอะไรกับชิงอิ่ง”

โจวอี้ลุกขึ้น เขามองไปที่ซีชิงอิ่งและหวงไห่เทาที่อยู่หลังจวงรุ่ยอย่างแปลกใจ จากนั้นเขาก็มองไปที่จวงรุ่ยแล้วพูดอย่างใจเย็นว่า “คุณเป็นอะไรไป ไม่มีอะไรทำหรือไง?”

จวงรุ่ยเป็นคนใจร้อน แต่เมื่อมองไปที่ใบหน้าของซีชิงอิ่งอีกครั้ง เขาก็ต้องพยายามข่มอารมณ์

เย็น!

เขาต้องใจเย็น!

ถึงจะไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของสองคนนี้ แต่ก็ต้องไม่สูญเสียความสงบต่อหน้าซีชิงอิ่ง

จวงรุ่ยหายใจเข้าลึกเพื่อระงับความโกรธ ก่อนจะเดินเข้าไปข้างในสองสามก้าวแล้วพูดด้วยสีหน้าหนักแน่น “ขอโทษ ผมเพิ่งเห็นคุณอยู่ในห้องเดียวกับชิงอิ่งเลยตกใจน่ะ เมื่อครู่ผมทำตัวไม่ดีเลย หวังว่าคุณจะไม่รังเกียจ ผมขอแนะนำตัวเอง ผมจวงรุ่ย ตระกูลจวง เพื่อน ๆ เรียกอย่างนั้น”

“คนรวยนี่นา” โจวอี้ยกนิ้วให้ ก่อนจะส่ายหัวแล้วพูดว่า “คนที่มีฐานะสูงส่งอย่างคุณ เทียบกับผมแล้ว ผมไม่กล้าบอกคุณหรอกครับว่าผมเป็นใคร ผมเป็นเพื่อนกับคุณไม่ได้หรอก”

“คุณ…” จวงรุ่ยกำลังจะโกรธอีกครั้ง แต่ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าแขนของเขาถูกใครบางคนคว้าไว้

เขาหันไปก็พบว่าเป็นหวงไห่เทาที่เดินผ่านเขาไป

“ฮ่าฮ่า โลกกลมจริง โจวอี้ คุณก็มีอารมณ์ขันเหมือนกันนะ! คุณมาที่นี่ตอนเช้าอย่างนี้เพื่อดื่มด่ำอารมณ์สุนทรีย์เหรอ?” หวงไห่เทากล่าวอย่างมีความสุข

“คุณไม่ได้มาที่นี่เพราะคิดแบบเดียวกับผมหรือไง?” โจวอี้กลอกตา เขาเดินไปที่โซฟาด้านในและนั่งลง จากนั้นก็ชี้ไปฝั่งตรงข้ามอย่างไม่ตั้งใจ

“เฮ้ เฮ้ ผมถูกผู้ชายคนนี้ลากให้มาสนุกต่างหาก ผมตื่นเช้าขนาดนี้ไม่ไหวหรอก” หวงไห่เทากล่าว ก่อนจะนั่งลงหน้าโจวอี้แล้วพูดว่า “แม่สาวงาม เราแค่อยากมาเยี่ยมเยียน เห็นแก่น้องโจว อย่าโทษพวกเราที่เข้ามาที่นี่โดยไม่ตั้งใจเลย”

ซีชิงอิ่งเหลือบมองจวงรุ่ยอย่างเย็นชา จากนั้นก็เดินไปหาโจวอี้และนั่งลง

จวงรุ่ยยังคงชะงักตกใจ

เขาไม่ได้ตกใจเรื่องของโจวอี้และซีชิงอิ่ง แต่เป็นเรื่องที่หวงไห่เทารู้จักโจวอี้

“คุณรู้จักเขาเหรอ” จวงรุ่ยชี้ไปที่โจวอี้

“ไม่ใช่แค่รู้จัก เขายังเป็นเพื่อนของผม และเขาเป็นน้องชายของผมด้วย” หวงไห่เทาแสดงท่าทีให้รู้ว่าตนอยู่ฝ่ายไหนทันที

สีหน้าของจวงรุ่ยพลันแปรเปลี่ยน

ศักดิ์ของหวงไห่เทาดีกว่าของเขามาก ถึงตระกูลจวงของพวกเขาจะเป็นใหญ่ในเมืองจินหลิง มีความมั่งคั่งมากมาย แต่คนที่สามารถแข่งขันกับหวงไห่เทาได้คือพ่อของเขาจวงเหอเฉียง หัวหน้าตระกูลจวง

เหตุผลที่เขาสามารถพูดเล่นกับหวงไห่เทาได้ ส่วนใหญ่เป็นเพราะเขาและหวงไห่เทาอายุใกล้เคียงกัน

แต่ผู้ชายคนนี้เป็นใคร? ตัวตนและภูมิหลังของเขาคืออะไร และทำไมถึงกลายเป็นน้องชายของหวงไห่เทาได้?

สายตาของซีชิงอิ่งมองไปที่หวงไห่เทาด้วยความประหลาดใจ

น่าสนใจนี่!

เธอมองดูจวงรุ่ยนั่งลงอย่างหน้าด้านหน้าทน รู้สึกหมดหนทางจะไล่เขาออกไป

โจวอี้คงไม่ได้เล่นกู่เจิงแล้วมั้งวันนี้

“ชิงอิ่ง ผม…”

“นามสกุลของฉันคือซี และชื่อของฉันคือซีชิงอิ่ง อย่าพูดผิด คุณจวง” ซีชิงอิ่งพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก จากนั้นก็เหลือบมองโจวอี้โดยไม่รู้ตัว

อันที่จริงเธอรู้สึกผิดเล็กน้อย เพราะดูเหมือนว่าจวงรุ่ยจะตั้งตนเป็นศัตรูกับโจวอี้แล้ว

จวงรุ่ยเงียบไป เขาปรายตามองไปที่โจวอี้ แววตาของเขาเหมือนกำลังรู้สึกผิด

ซีชิงอิ่งดูให้ความสำคัญกับโจวอี้มาก แสดงให้เห็นว่า เธอกลัวว่าโจวอี้จะเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับเขา

หวงไห่เทาเป็นบุคคลที่มีความสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ เขายังสังเกตเห็นถึงสายตารักใคร่ของซีชิงอิ่งที่มองโจวอี้ได้

เขาอยากจะร้องไห้และอยากจะหัวเราะในคราวเดียวกัน เขานึกถึงความสามารถของโจวอี้ ทักษะทางการแพทย์ของโจวอี้ทำให้เขาเป็นเหมือนหมอเทวดา

และโจวอี้ยังเก่งเรื่องศิลปะการต่อสู้อีกด้วย

โจวอี้ไม่เพียงแต่แต่งงานกับถังหว่านซึ่งเป็นดาราชื่อดังที่มีความงามเป็นเลิศ แม้แต่ซีชิงอิ่งที่สวยเย็นชาก็ยังตกหลุมรักเขา

ชายหนุ่มปวดหัวขึ้นมาทันที

เขามักจะชอบผู้หญิงหลายคน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับถังหว่านและซีชิงอิ่งแล้ว ผู้หญิงพวกนั้นก็ตกแถวไปเลย

“ตอนนี้เรามาถึงนี่กันแล้ว มาดื่มชากันเถอะ!” โจวอี้ไม่ได้กลัวจวงรุ่ยแม้แต่น้อย

เพราะอย่างไรเขาก็ไม่รู้จักจวงรุ่ย

เหตุผลที่เขาไม่ได้เล็งไปที่อีกด้านหนึ่งก็เพราะเขาเห็นว่าอีกด้านหนึ่งเป็นชายที่หลงรักซีชิงอิ่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นหวงไห่เทา ท้ายที่สุดมองหวงไห่เทาที่เป็นสหายยังดีกว่า

เมื่อซีชิงอิ่งได้ยินคำพูดของโจวอี้ เธอก็รินชาให้โจวอี้ทันที จากนั้นเธอก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบถ้วยชาสองใบอีกครั้งแล้วรินชาให้หวงไห่เทาและจวงรุ่ย

“โจวอี้ คุณไม่ได้ไปทำงานที่โรงพยาบาลแพทย์แผนจีนเหรอ วันนี้วันพุธทำไมคุณถึงมีเวลามาดื่มชาที่นี่” หวงไห่เทาถามอย่างสงสัย

“ผมต้องทำงานสัปดาห์ละสองวัน ผมจะไปรักษาในวันจันทร์และวันอังคาร หากไม่มีผู้ป่วยพิเศษในโรงพยาบาลหรือคนที่ต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน ผมก็ไม่จำเป็นต้องไปที่นั่น” โจวอี้กล่าว

“ผมรู้สึกอิจฉาคุณจริง ๆ” หวงไห่เทายกนิ้วให้

“ไม่ต้องมาพูด! คุณเป็นเจ้าคนนายคน มีเวลาว่างมากมายทุกวัน ถ้าผมเบื่อโรงพยาบาล ผมจะทำธุรกิจ และกลายเป็นเจ้านายเหมือนคุณ”

“ผมสนับสนุน ผมจะลงทุนให้เอง หรือคุณจะขายยา…”

“หยุด อย่าแม้แต่จะคิด” โจวอี้เข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไรและปฏิเสธทันที

เขาจะเจียดเวลามาทำธุรกิจได้อย่างไร?

เอาเวลาไปเล่นกับลูกสาวดีกว่าไหม?