บทที่ 105 การผนึกกำลังของกับดักและคำสาป
ภายในไม่กี่นาที ฉู่เหินก็ตั้งปราการด่านแรกสำเร็จ หลังจากนั้น เขาก็เรียกกองทัพให้ถอยกลับมาตั้งหลักตามที่เขาวางแผนไว้ เมื่อเห็นพวกเขากลับมาแล้ว ฉู่เหินก็รีบบอกให้พักผ่อน เพราะสงครามอีกระลอกกำลังจะมาถึง
ฉลามพิษเต็มไปด้วยความแค้นและกระหายเลือด ในตอนแรกพวกมันเห็นศัตรูกำลังพ่ายแพ้และสามารถฆ่าให้ตายได้ มันกำลังยิ้มย่องอย่างได้ใจ แต่แล้วพรรคพวกอีกฝ่ายก็โผล่มา ฝ่ายฉลามรู้สึกประหลาดใจอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนที่พวกมันจะกรูกันเข้ามาด้วยความโกรธแค้น
ฉู่เหินกำลังหลบอยู่ในที่ที่เดียวที่ไม่มีปราการป้องกัน เพราะเขาต้องการเปิดทางไว้ทุกคนกลับเข้ามาได้อย่างปลอดภัย ชายหนุ่มกำลังคิดว่าเวลากำลังหมดลงทุกที เขาต้องอยู่ป้องกันช่องว่างที่เขาเว้นเอาไว้ขนาด 2 เมตร แม้ฉลามพิษหลายตัวจะเข้ามาจู่โจม แต่พวกมันก็ต้องฝีมือดีกว่าฉู่เหิน ถ้าไม่เช่นนั้น เจ้าฉลามก็คงไม่มีวันผ่านไปได้ และนั่นก็คงเป็นการหาเรื่องใส่ตัวไม่น้อยที่ไปท้าตีท้าต่อยกับคู่ปรับที่แข็งแรงกว่าตัวเอง
แต่ครั้งนี้มันต่างจากครั้งอื่น ๆ ถึงฉลามจะมีจำนวนมากกว่า แต่พวกมันต้องคำสาปหายนะหมดทุกตัว เพราะอย่างนี้เอง ฉู่เหินจึงมีหน้าที่แค่ป้องกันทางเข้าออกเพียงไม่กี่นาที และแน่นอนว่าเขามีอาวุธเด็ดอยู่กับตัว แม้เขาจะยังไม่แน่ใจว่ามันมีอานุภาพร้ายแรงเพียงใด และไม่มั่นใจเจ้าอาวุธที่ว่ามันจะส่งผลอะไรตามมาอีกหรือไม่ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าใช้มันมาก่อน ใช่แล้ว อาวุธที่ว่าก็คือพัดปลายดาบที่ชายหนุ่มได้มานั่นเอง ถ้าฉู่เหินถ่ายทอดพลังจากดวงดาวลงไปในพัด พัดนี้ก็จะสามารถเปล่งพลังจู่โจมออกมาเหมือนกับสิ่งที่ฉู่เหินถ่ายทอดลงไปได้ ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่ามันจะมีพลังมากขนาดไหน
“ฆ่า!”
ฉู่เหินที่กำลังเฝ้าทางเข้าออกถึงกับต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ในเวลาชั่วพริบตา เขาต้องรับมือฉลามพิษที่ตรงเข้ามาทำร้าย พัดที่อยู่ในมือพลันแสดงอิทธิฤทธิ์อย่างเต็มที่ ทุกครั้งที่ชายหนุ่มลงมือ ฝ่ายตรงข้ามจะล้มตายไปทีละตัว อภินิหารของเขาช่างไร้เทียมทาน
ฉลามพิษมากมายพุ่งตรงเข้ามาที่ฉู่เหิน แต่เป้าหมายที่แท้จริงของมันคือคนที่เพิ่งถอยทัพกลับไป หาใช่ฉู่เหิน ฉลามนับสิบตัวพุ่งมายังปราการที่ฉู่เหินสร้างไว้ และนั่นก็ทำให้กับดักที่เขาวางไว้เริ่มทำงาน ทันใดนั้นเอง ฉลามนับสิบต้องตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า หอกแหลมมากมายโผล่ขึ้นมาจากพื้นดินอันแล้วอันเล่า หอกแหลมที่ว่านี้ทำจากไม้เบิร์ช ในที่สุดฉู่เหินก็สามารถนำมันมาใช้ประโยชน์ได้
หอกแหลมผุดขึ้นมาแทงฉลามจากโคลนในพื้นทะเลด้วยความเร็วสูง ดังนั้นพวกมันจึงไม่มีทางหนีได้เลย หอกแหลมอันแล้วอันเล่าพุ่งเสียบร่างของฉลามและยังมีอีกหลายอันที่พุ่งออกไปด้านหลัง ทำให้ฉลามที่ว่ายตามมาติด ๆ ได้รับบาดเจ็บไปด้วย
ฉลามตัวหนึ่งที่ได้รับการช่วยเหลือ มันสามารถหลบหอกแหลม ๆ นี้ได้ หากแต่ขณะที่มันกำลังหลบหอกแหลมนั้นเอง น้ำในท้องทะเลก็เกิดการเคลื่อนไหว เจ้าฉลามจึงต้องหยุดชะงัก แต่การหยุดนี้เองที่ทำให้มันต้องตาย หอกแหลมอันหนึ่งพุ่งเสียบเข้าที่หัวใจทำให้มันตายคาที่โดยไม่ทันตั้งตัว ขณะที่ฉู่เหินกำลังต่อสู้ศัตรูอยู่ที่นี่ อีกใจเขาก็ยังเป็นห่วงสิ่งที่เกิดขึ้นในที่อื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
เมื่อเขาเห็นภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า ชายหนุ่มก็อดคิดในใจไม่ได้ว่า “เมื่อใช้ทั้งกับดักและคำสาปร่วมกัน ผลที่ออกมาช่างไร้ที่ติและแข็งแกร่งโดยแท้” เจ้าฉลามอาจสามารถหลบเลี่ยงกับดักนี้ได้ แต่ด้วยความซวยจากคำสาป มันจึงทำให้ฉลามพวกนี้ต้องตาย
ตัวอย่างปรากฏให้เห็นเกือบทั่วทั้งสนามรบแห่งนี้ ภายในเวลาไม่ถึง 2-3 นาที ฉลามกลับตายไปหลายร้อยตัว ในตอนนี้ฉลามพิษรู้สึกหวาดกลัว พวกนางเงือก ปลาทูน่า และปลาเฟลมฟิชแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ฉลามพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดขณะโดนหอกแหลมพุ่งเข้าทิ่มแทง
ภาพที่เห็นตรงหน้าช่างดูแปลกประหลาดมาก ราชาฉลามพิษเริ่มรู้ตัวว่าพวกมันกำลังเพลี่ยงพล้ำ มันเห็นฉู่เหินวางกับดักอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ตอนนี้มันรู้แล้วว่ากับดักนี้ช่างร้ายกาจนัก นี่จึงทำให้มันยิ่งอยากฆ่าฉู่เหินมากขึ้นไปอีก
“ฆ่าเจ้าสัตว์สองขานั่นซะ! มันคือคนที่วางกับดัก!” ระหว่างกำลังต่อสู้กับฉู่เหิน มันยังไม่ลืมที่จะหันไปสั่งลูกน้อง เมื่อได้ยินคำสั่งของลูกพี่ ฉลามก็กรูเข้ามาหาฉู่เหิน
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉู่เหินก็อดคิดไม่ได้ว่า “ให้ตายสิ มนุษย์ที่มีเกียรติกลับเป็นสัตว์ในสายตาของแก นี่มันอะไรกันเนี่ย” ฉู่เหินกัดฟันกรอด พลางต่อสู้กับฉลามที่เข้ามาใกล้
ฉู่เหินเห็นฉลามที่อยู่เบื้องหน้าเป็นร้อยตัว มันทำให้เขาใจสั่นระรัว ถ้าพวกมันกรูเข้ามาพร้อมกันแบบนี้ ต่อให้เขามีแปดมือก็สู้ไม่ทันแน่ ๆ
แต่แล้วจู่ ๆ เจ้ากระต่ายหายนะ เสี่ยวหงก็กระโดดออกมาจากในแหวน แต่เมื่อเห็นภาพตรงหน้า มันก็ร้องออกมาเสียงหลง “อุ๊แม่เจ้า น่ากลัวจริง ๆ เจ้านาย รอเดี๋ยว ข้าขอหลบก่อนนะ” แต่ก่อนที่ฉู่เหินจะพูดอะไร เจ้ากระต่ายก็รีบกระโดดกลับเข้าแหวนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อฉู่เหินได้ยินเจ้ากระต่ายพูด เขาก็โกรธขึ้นมาอีก ชายหนุ่มไม่นึกว่ามันจะกล้าพูดอะไรแบบนี้ออกมา ฉู่เหินรู้ว่าครั้งนี้เขาต้องพึ่งตัวเองเสียแล้ว เขาต้องสู้ไม่ถอย ถ้าเขาถอยตอนนี้ อย่าว่าแต่เผ่านางเงือกที่จะแพ้ราบคาบเลย แม้แต่เขาเองก็คงเอาตัวไม่รอด
ถึงแม้ฉู่เหินบอกว่า เขาจะสู้กับราชาฉลามเพื่อถ่วงเวลาไว้ แต่ไม่ได้แปลว่าพวกมันสู้ไม่ได้ ที่เป็นแบบนี้เพียงแค่เพราะว่าฝ่ายตรงข้ามยังไม่ลงมือเต็มที่ต่างหากล่ะ พวกมันกำลังรอดูสถานการณ์อยู่ ซึ่งถ้าอีกฝ่ายหนี เจ้าฉลามพวกนี้ก็คงจะพุ่งเข้าไปฆ่าในทันที
ฉู่เหินจ้องเขม็งไปที่พัด ก่อนที่เขาจะถ่ายทอดพลังแห่งดวงดาวลงไปในนั้น พัดที่ก่อนหน้านี้มีความยาว 1 ฟุต ตอนนี้มันเริ่มยืดขยายไปยาวกว่า 1 เมตร และมีแสงเปล่งออกมาจากด้านข้างทั้งสองฝั่ง ทันทีที่มันปรากฏออกมา ฉลามที่กำลังสู้รบอยู่ในระยะไกลถึงกับใจสั่น พวกมันพากันเหลือบมองพัดที่อยู่ในมือของฉู่เหิน
ความโลภเข้าครอบงำเจ้าฉลามพิษ แต่แววตาของมันแฝงไปด้วยความกลัว ใจหนึ่งมันก็อยากพุ่งเข้าไปคว้าพัดมาจากมือของฉู่เหิน แต่อีกใจมันไม่กล้า เจ้าราชาฉลามพิษสัมผัสได้ถึงลมที่ออกมาจากพัด มันแรงมากพอที่จะฆ่ามันได้สบาย ๆ ราชาฉลามชำเลืองมองลูกน้องที่กำลังว่ายไปหาฉู่เหิน เหมือนได้สติ มันรีบตะโกนบอกลูกน้องตัวนั้นของมันทันทีว่า
“กลับมานะ! อย่าไปยุ่งกับสัตว์สองขานั่น!” เสียงตะโกนทำให้ลูกน้องของมันถึงกับมึนงง มันไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ครั้งนี้คำสั่งของราชาฉลามช้าเกินไป พัดที่ได้รับพลังจากฉู่เหินและพลังจากดวงดาวมากมายนับไม่ถ้วน ฉู่เหินรู้สึกถึงความแปลกประหลาด เขารู้สึกราวกับว่าพัดของเขาหนักขึ้นเป็นพัน ๆ ปอนด์ ดูเหมือนชายหนุ่มจะเผลอทุ่มพลังทั้งหมดลงไปในพัด ฉู่เหินรู้สึกราวกับว่าพลังทั้งหมดถูกถ่ายทอดออกจากตัวลงสู่พัด ถ้าเขาไม่รวบรวมกำลังรั้งตัวเองเอาไว้ ป่านนี้เขาคงจะหน้าทิ่มไปพร้อมกับน้ำหนักของพัดแล้ว
เมื่อเห็นว่าได้จังหวะแล้ว ชายหนุ่มก็สะบัดพันในมือของเขาออกไปทันที!
Next