ตอนที่ 121 เถ้าแก่ซู แม่ค้าหน้าเลือด

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 121 เถ้าแก่ซู แม่ค้าหน้าเลือด

ตอนที่ 121 เถ้าแก่ซู แม่ค้าหน้าเลือด

ในตอนเช้าของวันถัดไป ซูเถาได้แจ้งให้จวงหว่านทราบเกี่ยวกับห้องชุดที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่เจ็ดห้อง

จวงหว่านตกใจมาก “เถ้าแก่ อะไรดลใจให้คุณจ่ายเงินเพื่อสร้างห้องหลายห้องพร้อมกัน และทั้งหมดยังเป็นห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย”

เมื่อก่อน ซูเถาแจ้งอะไรกับเธอก็เหมือนกับการบีบยาสีฟัน การที่เธอต้องไปประกาศให้ผู้คนรับรู้ ก็ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน กว่าที่จะปล่อยห้องเช่าได้ มันก็ทำให้หลาย ๆ คนเป็นกังวล

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เช่าที่มาแบบครอบครัวมักต้องการห้องแบบ 2 ห้องนอนและ 1 ห้องนั่งเล่น

ซูเถาคิดในใจ เพราะเป็นปัญหาทางด้านสภาพคล่องทางการเงิน

ค่าใช้จ่ายในการขยาย 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นสูงถึง 32,000 เหลียนปังซึ่งถือว่าไม่น้อย

เธอจึงมีความลังเลที่จะสร้างทุกครั้ง

เมื่อดูเงินฝากเมื่อวานนี้ เธอก็รู้สึกว่ายังพอมีเงินอยู่บ้าง ก็ไม่อยากที่จะตระหนี่ถี่เหนียว

“อ้าว? นั่นพลตรีสือไม่ใช่เหรอ เขาจะไปแล้ววันนี้แล้วใช่ไหม เถ้าแก่ ทำไมคุณไม่ไปส่งเขาหน่อยล่ะ”

ซูเถากวาดสายตามองลงไปที่หน้าต่าง ก็เห็นสือจื่อจิ้นที่พร้อมจะไปแล้ว

หึ!

ไปก็ไป ไม่ใช่ว่าจะไม่กลับมาเสียหน่อย

เป็นแค่เพื่อนกัน เธอไม่ต้องเป็นห่วงมากขนาดนั้นก็ได้

เมื่อเห็นสิ่งนี้ จวงหว่านก็ถามอย่างไม่แน่ใจ “พวกคุณทะเลาะกันเหรอ”

ซูเถาปฏิเสธทันควัน “เปล่า”

จวงหว่านต้องการถามอีกครั้ง แต่จู่ ๆ เครื่องสื่อสารก็ดังขึ้น เธอเดินไปที่ด้านข้างเพื่อรับโทรศัพท์ สีหน้าดูเศร้าหมองมากเรื่อย ๆ กับสิ่งที่ได้ยิน

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”

จวงหว่านจิบน้ำเพื่อสงบสติอารมณ์และพูดว่า

“มีครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่ที่ห้องชุด 010 แบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น พวกเขาต้องการจะเลิกการเช่าเนื่องจากเหตุระเบิดเมื่อ 2 วันก่อน และพวกเขาก็กังวลมากว่าสิ่งที่คล้ายกันจะเกิดขึ้นอีก”

ซูเถาขมวดคิ้ว “ผู้เช่ารายอื่นมีปฏิกิริยาแบบนี้อีกไหมคะ”

“ตอนนี้มีเพียงครอบครัวนี้ครอบครัวเดียว”

ซูเถาโบกมือ “งั้นก็ให้คืนห้องเถอะค่ะ แต่ตามข้อตกลง เงินมัดจำหนึ่งเดือนจะถูกหักหากไม่ครบกำหนดค่าเช่ารายไตรมาส พี่แจ้งให้พวกเขาทราบด้วยนะคะ นอกจากนี้หากเสียใจในภายหลัง จะไม่มีโอกาสย้ายมาพักที่นี่ได้อีก”

จวงหว่านเห็นด้วยและรีบจัดการกับสิ่งที่เธอบอก

ซูเถาลงไปข้างล่างและเฝ้าดูสือจื่อจิ้นหายเข้าไปในความว่างเปล่าของห้วงมิติจากระยะไกล เขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย เหมือนกับเขาไม่เคยกลับมาที่นี่มาก่อน

เธอถอนหายใจ คิดว่าบางทีเมื่อเขากลับมาจากการปฏิบัติหน้าที่ พวกเขาควรจะคุยกันดี ๆ

เธอไม่ชอบความสัมพันธ์ที่คลุมเครือและน่าสงสัยตลอดเวลา

ในขณะเดียวกัน เวลานี้มีเสียงเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ดังขึ้นมาทางประตู

ซูเถาเห็นเหลยสิงนั่งอยู่บนหลังคารถ

เหลยสิงโบกมือให้เธออย่างร่าเริง ก่อนที่รถจะหยุด เขาก็กระโดดลงมา และตรงเข้ามาหาเธอ

ซูเถาตกตะลึงกับความเร็วของเขา และอดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปหนึ่งก้าว

เหลยสิงแสดงฟันเขี้ยวสองซี่และพูดด้วยรอยยิ้ม

“เถ้าแก่ซู มาต้อนรับผมที่ประตูเลยเหรอ”

ซูเถา “คุณคิดมากไปหรือเปล่า พวกคุณจอดรถไว้ที่ประตูใหญ่นี่แหละ แล้วพวกคุณก็ตามฉันมา”

หั่วเสอเคาะฝากระโปรงรถด้วยมือขวา

“นี่คือรถอะไรน่ะเหรอ มันเป็นรถที่เราดัดแปลงเอง ไม่เท่เหรอ?”

ซูเถาไม่มีความรู้เรื่องความสวยงามของรถ สไตล์ของเครื่องยนต์แบบปล่อยเปลือย เครื่องยนต์ท่อเปิดโล่ง เต็มไปด้วยความรู้สึกของโลหะ

แต่เธอยังคงพูดว่า “มันเท่ แต่มันใหญ่เกินไป ที่ของฉันเล็ก ถ้าขับเข้าไปจะไม่มีที่จอด”

เมื่อเขาพูดแบบนี้ จิตใจของซูเถาพลันปั่นป่วน หรือต้องอัปเกรดร้านค้าสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ เพื่อให้สามารถสร้างชั้นใต้ดินและสร้างโรงรถใต้ดินที่ใหญ่ขึ้นนะ

แต่เธอก็ต้องรีบปฏิเสธความคิดของเธอ

เนื่องจากการอัปเกรดร้านค้าสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะต้องใช้เงินถึง 500,000 เหลียนปัง

ตอนนี้เธอยังจ่ายไม่ไหว

เหลยสิงจริงจังกับคำพูดของเธอ “คุณมีรถหรือเปล่า? ถ้าคุณชอบ ผมจะช่วยดัดแปลงให้คุณ มันต้องเท่กว่าของเราแน่ ๆ”

ซูเถา “…ขอบคุณ แต่ตอนนี้ฉันยังไม่ต้องการ คุณยังไม่ได้กินข้าวเช้ากันใช่ไหม ไปกินข้าวก่อนเถอะ แล้วฉันจะตกลงเรื่องค่าจ้างกับคุณ และจะพาไปหาหมอจง ซึ่งเป็นผู้ที่มีพลังรักษาที่สามารถสร้างแขนขาที่ขาดวิ่นขึ้นมาใหม่ได้”

เหลยสิงถาม “คุณจะเลี้ยงมื้อเช้าพวกเราเหรอ”

“แน่นอน”

“พวกเรากินจุนะ” เหลยสิงเตือน

ซูเถาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและมองไปที่ชายร่างกำยำทั้งสิบสี่คน สิ่งที่เขาพูดไม่น่าจะพูดเกินจริง

แต่เมื่อเธอเห็นคนทั้งสิบสี่คนกำลังรับประทานอาหารเช้าและเครื่องดื่มร้อนมูลค่า 40,000 เหลียนปังในโรงอาหาร โต๊ะบนชั้นสองของโรงอาหารเต็มไปด้วยกล่องอาหารที่กินเสร็จแล้วกองพะเนินราวกับเนินเขา

ซูเถา “…”

หั่วเสอหน้าแดงหลังจากกิน “เถ้าแก่ซู! นี่เป็นอาหารที่อร่อยและอิ่มท้องที่สุดที่ผมเคยกินในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา พระเจ้า คุณมีทุกอย่างจริง ๆ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปตอนที่ผมยังเป็นเด็กก่อนที่จะถึงวันสิ้นโลก หลายปีมานี้เดินทางไปทั่วสารทิศ ทำไมเราไม่เคยได้ยินชื่อสถานที่ของคุณเลย”

หลังจากที่เหลยสิงดื่มนมขวดขนาด 500 มิลลิลิตรในอึกเดียว รูม่านตาสีทองเข้มของเขาก็ขยายออก

ซูเถาเห็นดังนั้นก็รู้สึกว่าคล้ายกับไป๋จือหม่าเวลากินอิ่ม

เหลยสิงหยุดชั่วขณะ จากนั้นจู่ ๆ ก็พูดว่า “นมนี้คุณขายยังไง”

ซูเถากลายเป็นแม่ค้าหน้าเลือด แสวงหาผลประโยชน์ “ขวดละ 60 เหลียนปัง”

ในความเป็นจริง เวลาเธอขายให้กับผู้เช่าในเถาหยาง เธอขายเพียง 20 เหลียนปัง และต้นทุนการซื้อของเธอคือ 10 เหลียนปังเท่านั้น

เหลยสิงทำการสั่งซื้อทันที “ก่อนออกไปผมเอา 1,000 ขวด เถ้าแก่ซู คุณจะหักออกจากค่าจ้างงานของเรา หรือจะให้ผมจ่ายให้คุณแยกต่างหาก”

สมองของซูเถาคำนวณทันทีว่าเธอสามารถทำกำไรสุทธิ 50,000 เหลียนปังจากการสั่งซื้อนี้ ซึ่งไม่เพียงกู้คืนการที่เธอต้องสูญเสียอาหารเช้า แต่ยังได้กำไรอีก 10,000 เหลียนปัง

“จ่ายให้ฉันต่างหากแล้วกัน”

เหลยสิงหันกลับมาและถามพี่น้องของเขาว่ามีสิ่งที่พวกเขาต้องการอีกหรือไม่

ตาของทุกคนเบิกกว้าง

“เหล่าต้า! ผมต้องการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี้!”

“น้ำอัดลมเพิ่มด้วยเหล่าต้า อากาศร้อน ๆ ดื่มแล้วสดชื่นจริง ๆ”

“ขอโทษนะ ผมอยากได้ขนมนั่น…”

ซูเถาจึงใช้เวลาทั้งเช้าขนของขึ้นชั้นสองของโรงอาหาร

คนกลุ่มนี้เหมือนปีศาจเข้ามาในหมู่บ้านเพื่อกวาดล้าง

เธอต้องใช้เครื่องอำนวยความสะดวกทุกเครื่องในโรงอาหาร เพราะสิ่งที่พวกเขาต้องการมีปริมาณมาก รวมไปถึงพวกของใช้ในชีวิตประจำวันก็เช่นกัน พวกเขาต้องการทั้งหมด

เขายังซื้อเตียง 20 เตียงพร้อมโต๊ะและเก้าอี้ 30 ตัวจากเธอ โดยบอกว่าจะย้ายไปที่ไซต์ของพวกเขา

หั่วเสอสัมผัสผ้าปูที่นอนนุ่ม ๆ และพูดกับเหลยสิงอย่างมีความสุข

“กัปตัน ทั้งหมดนี้ทำจากผ้าฝ้ายแท้ มันดีกว่าผ้าเก่า ๆ ที่เราปูนอนบนไม้กระดานมาก ภารกิจครั้งนี้คือการเดินทางที่ถูกต้องจริง ๆ กัปตัน คุณมีวิสัยทัศน์จริง ๆ!”

เพื่อนร่วมทีมคนอื่นก็ชื่นชมเหลยสิงบอกว่าเขามีวิสัยทัศน์ในการรับงาน ทุกคนเชื่อมั่นในตัวเขาอย่างไม่ต้องสงสัย เขามองเห็นภาพใหญ่ ซึ่งทำให้คนตัวเล็ก ๆ อย่างพวกเขามีชีวิตที่ดี มีอาหาร เครื่องนุ่งห่มที่เพียงพอ ทั้งยังมีที่นอนนุ่ม ๆ อีกด้วย

เมื่อซูเถาได้ยินสิ่งนี้ เธอก็คิดในใจ คนเหล่านี้อยู่เป็นจริง ๆ

แต่เธอก็มีความสุขไม่น้อยไปกว่ากลุ่มเป้าถูที่ทำการซื้อของอย่างบ้าคลั่ง ภารกิจครั้งนี้ไม่รวมค่าธรรมเนียมการจ้างงานที่จ่ายให้กับพวกเขา ยังทำให้เธอมีกำไรสุทธิมากกว่า 60,000 เหลียนปัง

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เธอไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตอู๋เจิ้น แต่ยังได้รับเงินอีก 60,000 เหลียนปังอีกด้วย

กำไรเห็น ๆ

“กัปตันเหลย ของมีเยอะแยะ คุณจะเอามันออกไปยังไง”

เหลยสิงไม่สนใจและโบกมือให้สมาชิกในทีมคนหนึ่งที่มีท้องโต “ต้าจุ่ย นายมาจัดการ”

จากนั้นซูเถาเห็นคนท้องใหญ่คนนี้อ้าปากกว้างขึ้นเรื่อย ๆ จนมีขนาดเกือบเท่าเตียงและกลืนสินค้าทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าเขาเข้าไป

จากนั้นมีอาการสะอึก

ซูเถาตกตะลึง สัตว์ประหลาดชนิดนี้คืออะไร ไม่สิ นี่คือพลังวิเศษประเภทไหนเนี่ย