บทที่ 484 ยอดศาสตราในลานออกโรงพร้อมเพรียง ลั่วสุ่ยเป็นคนโปรดของทุกคน!

รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人

บทที่ 484 ยอดศาสตราในลานออกโรงพร้อมเพรียง ลั่วสุ่ยเป็นคนโปรดของทุกคน!

“เจ้าลองแตะต้องพี่ลั่วสุ่ยดูสิ! ข้าขอสู้ตายกับเจ้า!”

มัจฉาสัตมายาเดือดดาล พอเห็นว่าปลามังกรจะลงไม้ลงมือกับลั่วสุ่ย มันพุ่งเข้าไปตัวแรก

อนิจจา เมื่อเทียบกับปลามังกร มันยังห่างชั้นอยู่มาก ปลามังกรสะบัดหางปลาเบา ๆ มันก็ถูกเหวี่ยงจนกระเด็นไปอีกทาง

“ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!”

ปลามังกรยิ้มเย็น ไม่แยแสมัจฉาสัตมายา สำหรับมันแล้ว มัจฉาสัตมายาเป็นเพียงปลาอันต่ำต้อย อีกเดี๋ยวค่อยจัดการยังไม่สาย

ตอนนี้มันต้องการเพียงอัดลั่วสุ่ยให้หนัก!

สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำตัวหนึ่งบังอาจชี้นิ้วสั่งมัน เทศนาไม่หยุด หากมิใช่ว่าคำนึงถึงท่านบรรพจารย์เซียน มันคงไม่ใช่แค่อัดลั่วสุ่ยให้หนำใจ มันคงฉีกนางเป็นชิ้น ๆ!

“เจ้าแน่ใจหรือว่าต้องการลงมือกับข้า”

ลั่วสุ่ยมองปลามังกรอย่างนึกขัน

นับดูแล้ว นางอยู่ในลานเล็กท่านเซียนมานานที่สุด และนางมิได้อาศัยในลานเล็กท่านเซียนอย่างเปล่า ๆ ปลี้ ๆ…

ท่าทางขบขันของลั่วสุ่ยยิ่งเป็นชนวนให้ปลามังกรโมโหขึ้นไปอีก มันบันดาลโทสะ “วันนี้ผู้ใดก็ปกป้องเจ้ามิได้ ข้าจะอัดเจ้าให้ได้!”

มันเด้งตัวขึ้นสูง เหวี่ยงหางปลาใส่ลั่วสุ่ยอย่างแรง!

“ผู้ใดก็ปกป้องมิได้หรือ?”

“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร?”

“สมองเป็นของดี หวังว่าเจ้าจะมีไว้สักอัน!”

เสียงตวาดเย็น ๆ ดังติดต่อกัน จากนั้น ประกายเจิดจรัสส่องสะท้อนไม่หยุด ยอดศาสตราชิ้นแล้วชิ้นเล่าเหินเข้ามา!

ชุดเครื่องครัวอย่างอีโต้ เขียง กระทะ ตะหลิวที่หลี่จิ่วเต้าใช้พุ่งเข้ามาอย่างพร้อมหน้า!

รวมถึงฉิน พู่กัน คันศร กาน้ำชา สากตอกยา เครื่องมือแกะสลัก และของใช้ต่าง ๆ ก็เหินเข้ามาด้วย ลอยอยู่รอบ ๆ ลั่วสุ่ย

“หา?”

ปลามังกรตกตะลึง หล่น ‘แหมะ’ ลงบนพื้น

วัตถุทั้งหลายที่พุ่งเข้ามา ไม่ว่าชิ้นไหนต่างมีระดับสูงส่งเหนือจินตนาการของมัน ไม่ว่าชิ้นไหนล้วนสามารถเข่นฆ่ามันได้อย่างง่ายดาย!

วิญญาณของมันสั่นสะท้าน ร่างปลาสั่นระริก สวรรค์! วัตถุเหล่านี้ทรงพลังกว่าจอบเซียนมาก!

แม่จ๋า ข้าอยากกลับบ้าน!!!

มันร้องไห้ ร้องด้วยความชอกช้ำ!

จะมิให้มันเสียใจชอกช้ำได้อย่างไร

สถานะของลั่วสุ่ยสูงกว่าที่มันคิดไว้มาก!

มียอดศาสตรามากมายขนาดนี้คอยอารักขาลั่วสุ่ย ลั่วสุ่ยคือคนโปรดของทุกคนในลานนี้!

ตอนนี้ อย่าให้พูดเลยว่ามันสำนึกเสียใจเพียงใด สำนึกเสียใจจนอยากตาย

มันอยากตบหน้าตัวเองหลาย ๆ ฉาด ยุ่งกับใครไม่ยุ่ง ไยต้องไปยุ่งลั่วสุ่ยด้วย เหยียบย่ำผู้ใดก็ได้ แต่ดันไปเหยียบย่ำลั่วสุ่ย!

ลั่วสุ่ยมิใช่ผู้ที่มันยุ่งได้ หรือเหยียบย่ำได้!

“พี่สาว พี่สาวบังเกิดเกล้า ข้าผิดไปแล้ว!”

มันร้องไห้ขอความเมตตาจากลั่วสุ่ย

“แต่เดิมข้าคร้านจะสนใจเจ้า คิดไม่ถึงว่าเจ้าบังอาจหมายหัวลั่วสุ่ย! ผู้ใดถือหางเจ้าถึงขั้นนั้นกัน!” มีดอีโต้สบถ

“เหล่าพี่ชายน้องชาย พวกเราลงมือสั่งสอนหมอนี่พร้อมกันเถิด!”

มันตะโกน

ยอดศาสตราทั้งหมดลงมือ เข้าจัดการกับปลามังกร

“เหล่าพี่ชายน้องชายรึ? เจ้าอีโต้เส็งเคร็งกีดกันไม่ยอมนับรวมข้ารึ เหอะ!”

ฉินอี๋อินแค่นเสียง ส่งเสียงสตรีไพเราะเสนาะหูออกมา

“พี่ฉิน ข้าผิดไปแล้ว ข้าไฉนเลยจะกล้ากีดกันไม่ยอมนับรวมท่าน!” มีดอีโต้ยิ้มร่าเอาใจ

“ช่างเถิด พวกเจ้าลงมือกันตามสบาย ไม่ต้องกังวลว่าจะทำมันตาย มีข้าอยู่ มันตายมิได้!” ฉินอี๋อินกล่าว

“มีประโยคนี้จากพี่ฉินพวกเราก็สบายใจ! มิฉะนั้นพวกเราต้องคอยระวังมิให้พลั้งมือฆ่ามันอีก!”

“พี่น้องเอ๋ย วางใจลงมือได้เลย มีวิชาใดกระหน่ำใส่ปลาตัวนี้ให้หมด!”

บรรดายอดศาสตราอย่างมีดอีโต้พากันกล่าว ไม่เหลือความกังวลใดในใจอีกต่อไป

ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นปลาที่คุณชายพากลับมา พวกมันมิกล้าสุ่มสี่สุ่มห้าฆ่าปลาตัวนี้

“สุดยอด สุดยอด! ยิ่งใหญ่สมกับเกียรติของพี่ลั่วสุ่ยของข้า!” มัจฉาสัตมายาหัวเราะร่วน

ยอดศาสตราทั้งหมดในลานคุณชายออกโรงปกป้องลั่วสุ่ยพร้อมกัน เป็นขบวนการที่ยิ่งใหญ่เพียงใด!

ปลามังกรไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอาเสียเลย!

บุ๋ง บุ๋ง!

พี่ลั่วสุ่ยคือพี่ใหญ่ตลอดกาล!

เจ๋งสุด ๆ!

ปลาทุกตัวในโอ่งล้วนฮือฮาระเบิดระเบ้อ พวกมันเคยประสบพบเห็นความยิ่งใหญ่ขนาดนี้ที่ไหน ลั่วสุ่ยสุดยอดจริง ๆ!

มอ มอ มอ!

อสูรฟ้าชิงหนิวทั้งสี่ตัวก็ตาค้างเบิกกว้างด้วยความคิดไม่ถึงเช่นกัน

ยอดศาสตราออกโรงพร้อมกันเพื่อปกป้องลั่วสุ่ย ไม่แน่ว่าอนาคตลั่วสุ่ยอาจได้เป็นนายหญิงของลานเล็กแห่งนี้

พวกมันคิดอย่างอดไม่ได้ รู้สึกจากใจจริงว่าลั่วสุ่ยมีโอกาสกลายเป็นนายหญิงของลานเล็กแห่งนี้!

“บอกเจ้าแล้วว่าอย่ายุ่งกับข้า…”

ลั่วสุ่ยหัวเราะเบา ๆ รู้อยู่แล้วว่าภาพนี้ต้องเกิดขึ้น

นางพำนักในลานเล็กท่านเซียนมานาน ช่วงเวลานี้ ก็ผูกมิตรภาพไว้มาก

เหล่ายอดศาสตราที่คุณชายใช้ แต่เดิมไม่มีญาณศัสตราอยู่ภายใน ต่อให้คุณชายประทานญาณศัสตราลงไป ยามนางอยู่ในลานเล็ก มักสนทนากับบรรดาญาณศัสตราเสมอ สนิทสนมกันดี!

พรวด พรวด พรวด!

ตะหลิวลงมือคนแรก มันตักปลามังกรไปไว้บนเขียง จากนั้นมีดอีโต้ลงมือ สับช้งเช้งไม่หยุด

ระหว่างนี้ อย่าให้พูดเลยว่าปลามังกรเจ็บปวดเพียงใด ร่างเซียนของมันไร้น้ำยาเมื่อเผชิญกับมีดอีโต้ มีดอีโต้สามารถทลายเกราะป้องกันร่างเซียนของมันได้ง่ายดาย

เพียงไม่นานมันก็ถูกสับเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!

ที่สำคัญคือ มันไม่อาจแม้แต่จะสลบหรือตายให้จบ ๆ ฉินอี๋อินบรรเลงบทเพลง ทำให้มันไม่สามารถหมดสติหรือตาย!

มิหนำซ้ำ พลังเพลงฉินยังเพิ่มทวีประสาทสัมผัสของมัน ความเจ็บปวดของมันรุนแรงขึ้นเป็นเท่าตัว!

มันเจ็บปวดทรมานเหลือแสน!

ตอนนี้ มันมีเพียงความคิดเดียว นั่นคือปล่อยให้มันตายเถิด แบบนี้ทุกข์ระทมเกินไปแล้ว!

“ตั้งกระทะ ทอดน้ำมัน เตรียมทอดปลามังกร!”

กระทะออกโรง มีน้ำมันเมล็ดพันธุ์ผักอยู่เต็มข้างใน ซ้ำร้ายน้ำมันยังอยู่ในความร้อนสูง สยดสยองยิ่งกว่าลาวา ควันดำลอยโขมงด้วยการเผาไหม้

“แม่เจ้า พี่ใหญ่ทั้งหลาย ปล่อยข้าไปเถิด!”

ปลามังกรร้องไห้คร่ำครวญคลุ้มคลั่ง ทันทีที่มีดอีโต้หยุดชะงัก ร่างปลาที่ถูกสับเป็นชิ้น ๆ ของมันก็สมานกลับมาได้ในบัดดล มันต้องลงกระทะน้ำมันและถูกทอดหรือ

มันไม่เอานะ!

ทว่ามันไม่อาจทำอะไรได้ ตะหลิวตักมันลงไปในกระทะน้ำมัน มันถูกทอดจนสุกไปถึงข้างในในชั่วพริบตา อย่าให้พูดเลยว่าสยิวกิ้วเพียงใด!

เท่านี้ยังไม่พอ ปลามังกรผู้เพิ่งถูกจับทอดคืนสภาพดังเดิมอีกครั้งด้วยเสียงฉินหลิงอิน

จากนั้น พวกสากตอกยาลงมือ สลับกันทรมานปลามังกรจนครบ

“ปล่อยข้ากลับบ้านเถิด! ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว!”

ปลามังกรถูกทรมานจนเสียสติ ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด มันถูกทำร้ายจนพินาศ!

นาทีนี้ มันคิดถึงแม่ มันอยากกลับบ้าน!

ที่นี่…ที่นี่น่ากลัวกว่าอเวจีเสียอีก!

สุดท้าย ปลามังกรถูกโยนกลับเข้าไปในโอ่ง ภายนอกดูไร้รอยขีดข่วน แต่แท้จริงแล้วถูกทำร้ายจนช้ำชอก ทรมานเหลือคณา!

“ข้ายังมีท่านบรรพจารย์เซียนอยู่! ท่านบรรพจารย์เซียนโปรดปรานข้า! รอให้ข้าแข็งแกร่งขึ้นเมื่อใด ข้าจะแยกร่างพวกเจ้าให้หมด!”

อย่าให้พูดเลยว่ามันเจ็บแค้นเพียงใด มันคิดไปในใจอย่างเคียดแค้น มันเชื่อว่าท่านบรรพจารย์เซียนโปรดมัน ในภายหน้า มันจักแข็งแกร่งยิ่งกว่าลั่วสุ่ยเสียอีก!

เมืองชิงซาน

ภายในลานเล็กของตงฟางเวิ่น

หลี่จิ่วเต้ากำลังเดินหมากกับตงฟางเวิ่น

หลังจากจบไปหนึ่งกระดาน เขาก็นึกถึงลั่วสุ่ยขึ้นมา

‘ปลาใหญ่ตัวนั้นไม่เลวทีเดียว รอให้ลั่วสุ่ยกลับมาเมื่อใด ค่อยตุ๋นให้นางกิน!’

เขาคิดในใจ

เขาค่อนข้างชอบปลาใหญ่ตัวนั้น เดิมคิดจะเก็บไว้ดูเล่น ทว่า เขาชอบลั่วสุ่ยมากกว่า

ลั่วสุ่ยคงยังมิเคยกินปลาตัวใหญ่เท่านี้มาก่อนกระมัง

‘ไม่รู้ว่าลั่วสุ่ยก้าวสู่เส้นทางฝึกตนหรือยัง!’

เขาคิดในใจอีกครั้ง

“ไอ้เวรตะไล รอให้ข้าไปถึงก่อน อย่าเพิ่งหนีเชียว!”

ขณะเดียวกัน จอบเซียนกำลังรุดหน้าไปหาผู้ที่เรียกหามันด้วยความเร็วสูง