บทที่ 109 ล่อลวงสาวใช้ (ต้น)
“ผิงผิงน้อย จงจำเอาไว้ว่าอย่าพูดถึงเรื่องที่ข้าถามราคาบ้านกับเจ้าให้ใครในตระกูลฉู่รู้เป็นอันขาด” ซูอัน เตือนขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
เฉิงโซวผิงทุบหน้าอกของตัวเองและยืนยันด้วยสีหน้าเบิกบานว่า “นายน้อย ท่านลืมไปแล้วงั้นเหรอว่าชื่อของข้าหมายความว่าอะไร? ข้าเป็นคนเก็บความลับได้เหมือนจุกปิดฝาขวด เฉิงโซวผิง!”
อย่างไรก็ตาม คำพูดที่มั่นใจนี้ของเฉิงโซวผิงยิ่งทำให้ ซูอัน รู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นกว่าเดิม เขารู้สึกเหมือนว่าความลับของเขาจะต้องถูกเปิดเผยเร็ว ๆ นี้แน่นอน
“ข้าจะยอมเชื่อเจ้าสักครั้งก็แล้วกัน เอาล่ะตอนนี้ข้ารู้สึกเหนื่อยแล้ว ข้าอยากจะพักสักหน่อย อ้อ ก่อนเจ้าไปช่วยเอาถังน้ำมาให้ข้าล้างหน้าด้วย” ซูอัน พูดขึ้นพร้อมกับโบกมือให้ เฉิงโซวผิง
เขาหวังที่จะล้างมือและหน้าก่อนที่จะสุ่มรางวัลอีกรอบกับคะแนนความโกรธที่เขาเพิ่งได้รับจากดอกบ๊วยสิบสามเมื่อก่อนหน้านี้
“ดูเหมือนว่าวันนี้เจ้าจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษสินะ” จู่ ๆ เสียงแหบแห้งก็ดังขึ้นใกล้ ๆ หูของเขา
ซูอัน กระโดดด้วยความตกใจ และเมื่อเขาหันกลับไปดู เขาก็เห็นว่ามี่เหลียนอิ๋นปรากฏตัวขึ้นอย่างไร้สุ้มเสียงในห้องของเขา เขาถามกลับทันทีด้วยสีหน้าซีดเซียว “ผู้อาวุโส! ทำไมท่านถึงไปมาได้ไร้สุ้มเสียงขนาดนี้! ท่านรู้ไหมว่าท่านจะทำให้ข้าตกใจตายเข้าสักวันหนึ่ง!”
มี่เหลียนอิ๋น ไม่ใส่ใจอาการขวัญผวาของซูอัน เขายิงคำถามต่อว่า “วันนี้เจ้าคงไม่ได้โดดเรียนใช่ไหม?”
“ก็ท่านได้เตือนข้าไปแล้วข้าจะกล้าโดดเรียนอีกรอบได้อย่างไรกัน?” เมื่อมองเห็นแววตาอันลึกล้ำที่มีความโหดเหี้ยมซ่อนอยู่ของมี่เหลียนอิ๋น ซูอัน ก็รู้สึกว่าเขาคงจะต้องประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับดอกบ๊วยสิบสามแน่นอนหากเขาทำให้ชายชราผู้นี้ไม่พอใจ
“ดีแล้ว ๆ ” มี่เหลียนอิ๋น หัวเราะอย่างน่าขนลุก “แล้วเจ้าพบกับ เว่ยหงเต๋อ หรือยัง?”
รอยยิ้มของ มี่เหลียนอิ๋น ทำให้ ซูอัน ขนลุกไปทั่วร่าง
“วันนี้ข้ายังไม่เจอกับเขา”
มี่เหลียนอิ๋นขมวดคิ้วแน่นทันทีเมื่อได้ยินคำตอบนี้ ซึ่งทำให้ ซูอัน พูดเสริมขึ้นอย่างรวดเร็ว “แต่ถึงแม้ว่าข้าจะไม่เจอ เว่ยหงเต๋อ แต่ข้าก็ผูกมิตรกับน้องชายของเขาได้เรียบร้อยแล้ว”
“เขามีน้องชาย?” มี่เหลียนอิ๋น แสดงสีหน้าสับสน
“ใช่ ชื่อของเขาคือ เว่ยสั่ว… ” จากนั้น ซูอัน อธิบายสั้น ๆ เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้
“ข้าไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าเขาจะมีลูกชายอีกคน ดูเหมือนเขาจะมีชีวิตที่ดีทีเดียว..” มี่เหลียนอิ๋นพึมพำเบากับตัวเอง
ซูอัน อึ้งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามว่า “ผู้อาวุโสท่านพูดอะไรนะ?”
“ไม่มีอะไร ๆ ” มี่เหลียนอิ๋นส่ายหัว จากนั้นเขาโยนถุงเงินถุงหนึ่งให้กับ ซูอัน และพูดว่า “รับเงินนี้ไปและเอาไปใช้เลี้ยงอาหารพี่น้องสองคนนั้น จงพยายามผูกมิตรกับพวกเขาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
“ข้าขอทราบเหตุผลได้ไหมว่าเพราะอะไร เพื่อที่ข้าจะได้เตรียมตัวถูกเมื่อเจอกับพวกเขา” ซูอัน พยายามถามล้วงข้อมูลเล็กน้อย
รอยยิ้มน่าขนลุกปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ มี่เหลียนอิ๋น อีกครั้งในขณะที่เขาตอบกลับ “เจ้าจะรู้เองเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม” เมื่อพูดจบ มี่เหลียนอิ๋น ก็เริ่มเดินโซเซจากไป
ซูอัน รู้สึกสับสนจริง ๆ ไม่ใช่ว่าตาแก่คนนี้ต้องการให้เขาเข้าไปขโมยของในท้องพระคลังของจักรพรรดิใช่ไหม?
จากนั้นเขานับเงินในถุงเงินที่ มี่เหลียนอิ๋น โยนมาให้เขาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเขาพบว่าภายในถุงเงินมันมีเงินอยู่ทั้งหมด 100 ตำลึงเงิน สิ่งนี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าคนสวนแก่ ๆ ผู้นี้ที่ซ่อนตัวอยู่แต่ในคฤหาสน์ตระกูลฉู่ มานานมีเงินมากขนาดนี้ได้อย่างไร
แต่แล้วหลังจากคิดไปสักพัก ซูอัน ก็ตัดสินใจไม่คิดอะไรมากในตอนนี้ เขาหันเหความสนใจไปที่คีย์บอร์ดแทน เพื่อตรวจสอบคะแนนความโกรธของเขาเป็นอันดับแรก
เขาจำได้ว่าหลังจากเขาสุ่มรางวัลเสร็จไปในตอนคาบบ่ายเขาเหลือแต้มความโกรธเพียง 54 แต่ตอนนี้มันกลับเพิ่มขึ้นมาเป็น 8,305 แต้มเรียบร้อยแล้ว
แค่เพียงการเผชิญหน้าสั้น ๆ กับดอกบ๊วยสิบสาม เขากลับได้รับคะแนนความโกรธมามากกว่า 8,000 แต้ม นี่มันเป็นผลงานที่น่าพึงพอใจยิ่งนัก!
จากนั้นเขาล้างหน้าอย่างประณีตราวกับว่าการล้างมือล้างหน้าของเขามันเป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์บางอย่าง
แต่แล้วหลังจากที่เขาล้างมือล้างหน้าเสร็จและกำลังจะเริ่มทำการสุ่มรางวัล จู่ ๆ คนใช้คนหนึ่งก็วิ่งเข้ามารายงาน “นายน้อย นายท่านและนายหญิงเรียกให้ท่านไปเข้าพบเดี๋ยวนี้!”
ซูอัน เลิกคิ้วขึ้นด้วยความงุนงง หรือว่าพวกเขาจะรู้เรื่องที่ข้าพา ฉู่ฮวนเจา สร้างเรื่องในวันนี้แล้วงั้นเหรอ?
ถึงแม้ว่าจะไม่สบายใจ แต่เขาก็ยังเดินตามคนใช้ออกไปอยู่ดี
จากนั้นเมื่อทั้งสองเดินไปถึงห้องโถงที่มีสาวใช้มากมายยืนตั้งแถวเรียงกันอยู่ที่ประตูทางเข้า ในที่สุดซูอันก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะด้วยผู้คนจำนวนมากขนาดนี้มันคงไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องของดอกบ๊วยสิบสามแน่นอน
ตอนนั้นเองที่ ซูอัน สังเกตว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งที่หน้าตาดูคุ้นเคยยืนอยู่เช่นกัน เขาเดินตรงดิ่งเข้าไปหาและทักทายในทันที “โอ้โห ไม่เจอกันไม่กี่วัน แต่ เสวี่ยเอ๋อร์ เอวเจ้าเล็กลงกว่าเดิมอีกแล้วนะเนี่ย ข้าวนอกบ้านไม่ถูกปากเจ้างั้นเหรอ? มา ๆ เดี๋ยวข้าช่วยนวดเอวให้เจ้าก็แล้วกัน”
เมื่อพูดจบ ซูอันก็แกล้งโผเข้าไปกอดนางทันที
ท่านยั่วยุ เฉียวเสวี่ยอิง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +256!
ซูอัน รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเพราะชื่อที่ระบบแจ้งมันกลับเป็นอีกชื่อหนึ่ง ซึ่งทำให้เขารู้ว่าแท้จริงแล้วเสวี่ยเอ๋อร์ไม่ใช่ชื่อจริงของนาง ดูเหมือนว่าสาวใช้คนนี้จะมีภูมิหลังที่ค่อนข้างลึกลับซ่อนอยู่
ต้องรู้ว่าในตอนแรก ๆ ที่เขาเจอกับนางและทำให้นางโกรธเคือง ตอนนั้นเขายังไม่ได้ปลุกระบบคะแนนความโกรธขึ้นมา ดังนั้นนี่จึงเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นชื่อจริงของนาง
หญิงสาวหลบมือของเขาอย่างง่ายดายก่อนจะจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “ผ่านมาสองสามวันแล้ว แต่เจ้ายังน่ารังเกียจเหมือนเดิม”
ใบหน้าของ ซูอัน เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที “เดี๋ยวนี้เจ้าชักจะเอาใหญ่แล้วนะ ไม่ว่าจะยังไงพวกเราก็เคยร่วมเตียงกันแล้ว พอคุยกันแบบมีเสื้อผ้าหน่อยเจ้าก็ทำตัวเป็นคนละคนเลยงั้นเหรอ?”
“เจ้า!!!” เสวี่ยเอ๋อร์หน้าแดงทันทีมันเป็นแผลใจของนางมาตั้งแต่วันนั้นที่ชายสกปรกคนนี้มองเห็นร่างที่ยังบริสุทธิ์ของนาง
ท่านยั่วยุ เฉียวเสวี่ยอิง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +999!
“โกรธเหรอ? ตีข้าสิ ตีข้าสิ~” ซูอัน เยาะเย้ยนางเหมือนอันธพาลหาเรื่องกับเด็กไร้เดียงสา ย้อนกลับไปเมื่อตอนนั้นที่เขาลากนางลงไปในสระน้ำซึ่งเขายังไม่ใช่ผู้บ่มเพาะ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถระบุระดับความแข็งแกร่งของนางได้ว่าอยู่ในระดับประมาณเท่าไหร่
ตอนนี้มันจึงถึงเวลาแล้วที่เขาจะตรวจสอบนาง
ท่านยั่วยุ เฉียวเสวี่ยอิง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +1000!
เสวี่ยเอ๋อร์ รู้สึกโกรธจนแทบบ้า นางไม่เคยคิดว่าบนโลกนี้จะมีคนที่ไร้ยางอายได้ขนาดนี้ นางเริ่มคิดอย่างจริงจังว่าจะยอมทิ้งแผนการทุกอย่างเพื่อฆ่าชายตรงหน้าให้ได้
“หยุดสร้างความวุ่นวายแล้วเข้ามาได้แล้ว!” เสียงอันไพเราะและเย็นชาที่เป็นเอกลักษณ์ของ ฉู่ชูเหยียน ดังขึ้นจากด้านในห้องโถง
เสวี่ยเอ๋อร์สูดหายใจลึก พยายามบังคับตัวเองให้สงบลงก่อนที่จะพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “นายท่านและนายหญิงกำลังรอเจ้าอยู่ข้างใน เจ้าควรรีบเข้าไปได้แล้ว!”
ซูอัน ส่ายหัวด้วยสีหน้าผิดหวังก่อนจะจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยและเดินเข้าไปด้านในห้องโถงด้วยย่างก้าวที่มั่นคง
ฉู่จงเทียน, ฉินว่านหรู, ฉู่ชูเหยียน และ ฉู่ฮวนเจา ต่างนั่งอยู่รอบโต๊ะกลมที่มีอาหารเลิศรสมากมายตั้งอยู่ และในขณะเดียวกัน ฉู่ฮวนเจา ก็ส่งสายตาเตือนเขาให้ทำตัวให้ดีอย่างสร้างปัญหา
‘อ่า เด็กสาวผู้นี้ยังคงไว้ใจได้จริง ๆ ดูเหมือนว่าไม่เสียแรงเลยที่ข้าอุตส่าห์เอ็นดูนาง’ ซูอัน คิดในใจ
“ซูอัน เดี๋ยวนี้เจ้าชักจะกำเริบมากขึ้นทุกวันแล้วนะ นี่เจ้าถึงขนาดกล้าหยอกเย้าสาวใช้ของตระกูลทั้ง ๆ ที่พวกข้าก็อยู่ด้วย นี่เจ้าเห็น ชูเหยียน เป็นตัวอะไร เจ้าเห็นว่าตระกูลฉู่ ของเราเป็นตัวตลกหรือย่างไรกัน?” ฉินว่านหรู ตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าเดือดดาล
ท่านยั่วยุ ฉินว่านหรู สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +447!
นางจะไม่โกรธได้อย่างไร ในตอนแรกนางเองก็ไม่พอใจอยู่แล้วกับการที่ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของนางแต่งงานกับคนไร้ค่า ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ไอ้คนไร้ค่าผู้นั้นกลับไม่เห็นหัวใครเลย กล้าหยอกเย้าสาวใช้ของตระกูลต่อหน้าพวกเขาอีกต่างหาก นี่มันเป็นเรื่องที่รับไม่ได้!
“ข้าไม่ได้หยอกนางสักหน่อย!” ซูอัน พูดขึ้นพร้อมกับแสดงสีหน้าหดหู่ราวกับเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
“เจ้ายังจะเถียงอีกงั้นเหรอ? เจ้าคิดว่าพวกข้ามีหูเอาไว้ประดับหัวอย่างเดียวหรือไง?” ฉินว่านหรู ตวาดกลับเสียงดังลั่นทันที