บทที่ 106 จดทะเบียน
ทันใดนั้นโม่เสี่ยวฮุ่ย ก็เตะกล่องกระดาษ ส่งสายตาขุ่นมัวจ้องมองไปยังเจียงหยุนเอ๋อ ที่อยู่ชั้นล่างและดึง ส้งหวั่นหวั่นกลับไปที่ห้องด้วยความกระหืดกระหอบ ส้งหวั่นหวั่นปล่อยเสียงอู้อี้ออกมาเพราะถูกบีบแขนจนแดง
เมื่อเห็นใบหน้าดำคล้ำของโม่เสี่ยวฮุ่ย ส้งหวั่นหวั่นก็เบะปากเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว นั่งอยู่ตรงหน้าคุณแม่ลี่และถามอย่างไม่รู้เรื่อง “ที่คุณป้าโกรธมากเมื่อสักครู่นี้เป็นเพราะคุณเจียงเหรอคะ”
คุณแม่ลี่หัวเราะเยาะ “เธอไม่คิดว่านังจิ้งจอกนั่นขวางหูขวางตาเหรอ”
ส้งหวั่นหวั่นชะงัก กัดริมฝีปากด้วยความสับสน “เธอกับจุนถิงมีความสัมพันธ์อะไรกัน พวกเขา …”
ท่าทางของเธออยากจะพูดแต่ก็หยุด ทำให้คุณแม่ลี่โบกมืออย่างหงุดหงิด
“มันไม่มีอะไรมากไปกว่านังจิ้งจอกที่หวังจะแต่งงานกับครอบครัวที่ร่ำรวยและมีความสุข พยายามจะใช้เต้าไต่เข้ามาในตระกูลลี่ของฉัน ฮึ่ม ทำได้แค่ฝันเท่านั้นแหละ”
คำพูดของคุณแม่ลี่เป็นเหมือนยาเสริมความมั่นใจ ส้งหวั่นหวั่นถอนหายใจด้วยความโล่งอกเบาๆ และรอยยิ้มจางๆ กระจายอยู่ในดวงตาของเธอ
……
ห้องโถงชั้นล่าง
“คำพูดของแม่ของผมทำให้คุณไม่สบายใจหรือเปล่า คุณอย่าเอาไปใส่ใจเลย”
เจียงหยุนเอ๋อ ยิ้มอย่างขมขื่น “ไม่เป็นไรอารมณ์ของคุณป้าของฉัน …ที่จริงฉันคาดไว้นานแล้ว“
ลี่จุนถิงเหยียดแขนออกจับไหล่ของเจียงหยุนเอ๋อ และลูบผมที่ปรกที่หน้าผากของเธออย่างสบายๆ “หรือว่าเราจะย้ายออกไปข้างนอกดีไหมครับ”
เจียงหยุนเอ๋อส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “ถ้าทำแบบนั้นเกรงว่าคุณป้าจะโกรธมากกว่านี้ อย่างไรก็ตามเรายังมีเวลาเมื่อเวลาผ่านไปฉันเชื่อว่าเธอจะยอมรับในตัวฉัน”
ดวงตาตี่ของ ลี่จุนถิงหรี่ลงเล็กน้อย นิ้วของเขาถูเข้าหากันโดยไม่รู้ตัวและเขาก็ขมวดคิ้วด้วยความคิด
เขารู้สึกเสียใจที่เจียงหยุนเอ๋อต้องมาเจเรื่องน่าอัปยศมาโดยตลอด แต่ความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างแม่สามีและลูกสะใภ้นั้นจะต้องเจอความลำบากและความสิ้นหวังเขาทำได้เพียงฟังคำของเจียงหยุนเอ๋อเท่านั้นที่หวังเพียงว่าหลังจากอยู่ด้วยกันแม่ของเขาจะชื่นชมเจียงหยุนเอ๋อ
หลังจากที่ทั้งสองคุยกันสักพักลี่จุนถิงก็ขอให้ผู้ดูแลบ้านขึ้นไปชั้นบนเพื่อจัดของให้เข้าที่ ในขณะเดียวกันส้งหวั่นหวั่นโน้มน้าวคุณแม่ลี่อย่างนุ่มนวลอยู่นานกว่าที่จิตใจมัวหมองของเธอจะสงบลงและก็นึกถึงเรื่องเสื้อผ้าขึ้นมาได้ รีบดึงกระโปรงยาวสีขาวพร้อมแขนเสื้อออกจากกระเป๋ากางเกง
ส้งหวั่นหวั่นลองชุด เหมาะกับเธอมาก แม่ลี่พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
ในขณะเดียวกันก็มีเสียงดังอยู่ด้านนอกประตูและโม่เสี่ยวฮุ่ย ก็แตะที่หน้าผากของเธออย่างหงุดหงิดและดึงแขนของส้งหวั่นหวั่นไว้และถามว่า “ข้างนอกกำลังทำอะไรอยู่ เสียงดังเชียว”
ส้งหวั่นหวั่นกลอกตาไปมาแสร้งทำเป็นลังเล “หรือว่า … กำลังเก็บกระเป๋าเดินทางที่ตรงทางเดินเมื่อสักครู่รึเปล่าคะ”
แน่นอนว่าคุณแม่ลี่หยุดชะงักและจากนั้นเธอก็หรี่ตาอย่างเยาะเย้ย “ฉันจะคอยดูว่าหน้าของเธอจะหนาขนาดไหน”
“คุณนาย“
การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของคุณนายลี่ ทำให้แม่บ้านตกใจอย่างยิ่ง เมื่อเห็นว่าใบหน้าของเธอถมึงทึงและหมองคล้ำแม่บ้านก็บ่นในใจและพึมพำเบาๆ ว่า: ทำไมต้องเป็นฉันที่มาเผชิญหน้ากับคุณนายที่โกรธอยู่เสมอด้วยเนี่ย
คุณนายลี่ลงไปชั้นล่างเสียงของเธอเต็มไปด้วยความโกรธและความไม่พอใจ “เกิดอะไรขึ้น เศษขยะพวกนี้ฉันบอกให้ทิ้งไปแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเอามาอีก รู้ไหมว่าฉันไม่พอใจ” เสียงที่ดังก้องอยู่ในห้องที่ว่างเปล่ากว้างใหญ่คนงานทุกคนในห้องนี้ต่างก็ตัวสั่นโดยไม่รู้ตัวด้วยความกลัว
ชั้นล่างใบหน้าของ เจียงหยุนเอ๋อ ดูแทบไม่ได้และร่างกายของเธอก็แข็งเช่นกัน
ลี่จุนถิง เม้มริมฝีปากของเขาและกำลังจะลุกขึ้นเพื่อปกป้อง เจียงหยุนเอ๋อ แต่เธอคว้าข้อมือไว้เธอส่ายหัวจนลี่จุนถิง ก็ต้องยอมและนั่งลง
พ่อบ้านเหงื่อแตกและอธิบายว่า “คุณ…คุณนาย … ของพวกนี้เป็นของคุณเจียง … “
“พอแล้ว” คุณนายลี่กล่าวอย่างเย็นชาพลางหันไปอีกทิศทางหนึ่ง “ฉันเคยบอกเธอไปแล้วว่าควรทิ้งของบางอย่างที่ไม่ใช้แล้วทิ้งไปเพื่อจะได้ประหยัดพื้นที่จะได้ไม่รกหูรกตา”
ลี่จุนถิงถอนหายใจทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นและพาเจียงหยุนเอ๋อ ซึ่งท่าทางเคร่งขรึมและกระสับกระส่ายเดินออกไป เมื่อเห็นเช่นนี้คุณนายลี่ ก็ตัวสั่นและตะโกนว่า“ จุนถิง จะไปไหน”
เจียงหยุนเอ๋อกลัวว่าคุณนายลี่จะทะเลาะกับเขา ยึดแขนของเขาลดเสียงทุ้มต่ำลงและพูดว่า “คุณกำลังจะทำอะไรฉันสบายดี”
“ผมรู้ดีว่าผมกำลังทำอะไร ผมจะพาคุณไปเที่ยวพักผ่อนที่หนึ่งคืนนี้ไม่ต้องกังวล เรื่องที่แม่ของผมบอกถือเสียว่าเป็นแค่ลมปากก็พอ”
หลังจากออกจากบ้านตระกูลลี่ เจียงหยุนเอ๋อถึงมีปฏิกิริยาขึ้นมาและถอนหายใจด้วยความทุกข์ใจ “มันจบแล้วแม่ของคุณต้องคิดว่าฉันล่อลวงตัวลูกชายของเธอไป นี่จะต้องทำให้เธอโกรธจนแทบอกแตกตายแน่นอน”
ลี่จุนถิงรู้สึกขบขันและจูบเธอที่หน้าผากด้วยความนุ่มนวล “อย่าคิดมากเลย ผมอยากจะพาคุณไปทำสิ่งที่สำคัญในวันพรุ่งนี้”
เจียงหยุนเอ๋อ กะพริบตา “ทำอะไรเหรอคะ”
ลี่จุนถิง ยิ้มอย่างมีเลศนัยโดยไม่พูดไม่จา
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากส่งถวนจื่อ ไปโรงเรียนลี่จุนถิง ก็จับเจียงหยุนเอ๋อ ขึ้นรถ เธอยังคงงุนงงเอียงศีรษะเล็กน้อยและกะพริบตาปริบๆ ลี่จุนถิง รู้สึกอึดอัดและตลกนิดหน่อยเมื่อถูกเธอมอง
“คุณจะพาฉันไปไหน”
“นี่! ดูสิ”
สำนักงานเขตสี่คำนี้เข้าไปสู่สมองเธอทำให้เจียงหยุนเอ๋อตกใจแทบสิ้นสติ เขา เขา เขา ทำไมเขาถึงมาที่นี่ มีคำตอบที่ลึกๆ ในใจของเธอ แต่เธอไม่อยากจะเชื่อและรู้สึกกลัวเล็กน้อย
เจียงหยุนเอ๋อ กังวลใจแทบหายใจไม่ออกหน้าแดงและสูญเสียความมั่นใจ
“คุณจะตกตะลึงอะไรกัน ไปกันเถอะ” ลี่จุนถิงมองไปที่เจียงหยุนเอ๋ออย่างขบขัน ดวงตาอ่อนไหวของเขาแสดงถึงความวิตกอย่างเปิดเผยและหลังจากพูดจบเขาก็จับมือเจียงหยุนเอ๋อและเดินเข้าไปในสำนักงานเขต
ในตอนนี้หัวของเจียงหยุนเอ๋อยังคงมึนงงเล็กน้อยเธอไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ ถึงได้เป็นเช่นนี้? อะไร? ลี่จุนถิง … พาเธอมาที่สำนักเขต…
เจียงหยุนเอ๋อไม่ได้โง่และรู้ดีว่าจุดประสงค์ของลี่จุนถิงในการพาตัวเธอมาที่นี่คืออะไร แต่เธอไม่เคยคิดเลยว่าในที่สุดลี่จุนถิงจะเต็มใจแต่งงานกับตัวเองจริงๆ
“ลี่จุนถิง คุณ …” ดวงตาของเจียงหยุนเอ๋อ ไม่สามารถซ่อนความตกตะลึงได้ แต่ยังคงยอมเชื่อฟังให้ลี่จุนถิง จูงเข้าไปข้างใน
เมื่อเขาเดินไปหาพนักงาน ลี่จุนถิง กล่าวว่า “สวัสดีครับ พวกเราจะมาจดทะเบียนสมรสครับ”
พนักงานเงยหน้าขึ้นเมื่อเห็นหนุ่มสาวที่ยืนตรงหน้าเขาทั้งหล่อและสวย ตาก็เป็นประกายอย่างอดไม่ได้ท่าทางของพวกเขาก็ดีมาก “โปรดแสดงเอกสารข้อมูลรับรองของคุณด้วยครับ”
ลี่จุนถิงหยิบเอกสารรับรองของเขาออกมาและวางไว้บนโต๊ะ เจียงหยุนเอ๋อ ดึงแขนเสื้อของเขาด้วยความประหลาดใจและพูดว่า “นี่มันเรื่องอะไรกัน คุณมาทำเรื่องไว้ตั้งแต่เมื่อไร”
ลี่จุนถิง ยิ้มให้เธออย่างมีเลศนัยและแววตาตาเจ้าเล่ห์ “แน่นอนว่าคุณป้าส่งมันมาให้ผมกับมือ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ใบหน้าของเจียงหยุนเอ๋อ ก็แดงขึ้นเรื่อยๆ เธอรู้ดีว่าที่ผ่านมาซูม่านลีพึงพอใจ “ลูกเขย” อย่างลี่จุนถิง มาก แต่ … ไม่คิดว่าจะถึงขนาดนี้!
“นั่นมันสิ่งที่แม่ของฉันต้องการ ไม่ใช่ฉัน…” เจียงหยุนเอ๋อ บ่นพึมพำ
ลี่จุนถิงเลิกคิ้วเบาๆ และกล่าวด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “ทำไม หรือว่าเธอไม่เต็มใจ”
ในขณะนี้เจียงหยุนเอ๋อเงียบลงก้มหน้าลงและไม่พูดอะไร แต่แก้มที่แดงก่ำของเธอได้อธิบายคำตอบแล้ว