“ครื้ดดดด….”

ประตูของห้องลับในบ้านของเย่เทียนนั้นทำจากหิน. มันเลยทำเสียงครื้ดคร้าดตอนที่เย่เทียนเปิดมัน.

“กรรรร!!”

วูฟเกิร์ลที่ตอนแรกดูสงบๆอยู่นั้น ก็ลุกขึ้นมาทำเสียงคำรามเบาๆใส่เย่เทียนตอนที่เขาเข้ามาทันที. เสียงคำรามนั้นไม่ใช่มาจากความโกรธแต่เป็นเสียงคำรามเตือนเพราะความกลัว.

เธอรู้สึกได้ถึงอันตรายและการคุกคามจากเย่เทียน.

“ฟุ่บ!”

เย่เทียนจุดตะเกียงน้ำมันในห้อง, แล้วแสงสว่างก็เจิดจ้าไปทั่วห้อง.

ในกรงนั้น, วูฟเกิร์ลกำลังตั้งท่าด้วยขาทั้งสี่เหมือนกับหมาป่าเพราะเธอสัมผัสได้ถึงแรงคุกคามจำนวนมาก. เธอจ้องไปหาเย่เทียนด้วยความระแวงด้วยดวงตาสีแดง, และแยกเขี้ยวส่งเสียงในลำคอเบาๆ เพื่อเป็นการเตือนเขา.

“แกร๊ง!”

เย่เทียนเข้าไปเปิดประตูกรงทันที. รอบนี้เขาก็ไม่ได้รู้สึกกลัวเลยเพราะค่าแสตทของเขาในตอนนี้สูงกว่าวูฟเกิร์ลแล้ว.

“กรรรร!!”

ประตูได้เปิดออก, วูฟเกิร์ลไม่ผลีผลามโจมตีแต่ถอยหลังไปหนึ่งก้าวแทน. เธอจ้องไปที่เย่เทียนตาไม่กระพริบและส่งเสียงเตือนออกมาดังขึ้น.

“อย่ากังวลสิ. ข้าไม่ได้จะมาทำร้ายเจ้า….”

เย่เทียนยิ้มแล้วยื่นไก่ย่างให้เธอไป.

โครกกก!!

กลิ่นหอมของไก่ย่างทำให้วูฟเกิร์ลท้องร้อง. ดูเหมือนว่านางจะหิวมากๆ.

แต่ทว่า เธอก็ไม่ยอมกินมันแต่จ้องไปที่เย่เทียนอย่างระแวงมากขึ้น.

“เอาล่ะ! ข้าวางไว้นี่ก็ได้…”

เย่เทียนทำอะไรไม่ได้เลย. วูฟเกิร์ลชนะใจได้ไม่ง่ายเลยจริงๆ.

“ซู้ม!!”

แค่เย่เทียนก้มลงเท่านั้น วูฟเกิร์ลก็ขยับตัวมาโจมตีเขาอย่างกับหมาป่า. ความเร็วของเธอมันเร็วอย่างไม่น่าเชื่อเลย.

เธออ้าปากออกแล้วเขี้ยวคมๆก็สะท้อนแสงอย่างกับเขี้ยวของสัตว์ เธอเล็งไปที่คอของเย่เทียน.

“เร็วมาก!!”

เย่เทียนช้อคแต่การตอบสนองของเขาก็ไม่ได้แย่. เพราะค่าแสตทความเร็วของเขานั้นเท่ากับวูฟเกิร์ลเลยทีเดียว. เขาก้มลงเล็กน้อยเลยหลบคมเขี้ยวของวูฟเกิร์ลได้. เขาจับกรงเล็บเธอไว้แล้ว คุมทั้งร่างเธอไว้ขณะกลิ้งไปกับพื้น แล้วก็โยนเธอออกไป.

“แฮ่!!”

พอวูฟเกิร์ลถูกโยนออกมา เธอก็กลิ้งกลางอากาศแล้วลงพื้นนิ่งๆด้วยขาทั้งสี่. ตาของนางจ้องมาทางเย่เทียนด้วยความระแวง แล้วเธอก็ย่อตัวลงเกือบติดพื้น ตั้งท่าเตรียมโจมตีและรับมือ.

ในตอนนี้แม้ว่ารางของเธอจะเป็นมนุษย์ แต่ทุกอย่างที่เหลือของเธอนั้นราวกับสัตว์ป่าที่ดุร้ายและแข็งแกร่งเลย.

“สงสัยว่าชั้นจำเป็นต้องสู้กับเธอสินะ. ต่อให้ข้าพิชิตเจ้าวันนี้ไม่ได้, ข้าก็จะต้องทำให้เจ้าประหลาดใจให้ได้!”

เย่เทียนค่อยๆหรี่ตาลง จากนั้นเขาค่อยๆเดินเข้าไปหาวูฟเกิร์ลอย่างช้าๆ แล้วก้มตัวลงเล็กน้อย, ท่าทีแบบนี้ทำให้วูฟเกิร์ลรู้สึกถึงความอาฆาตอย่างรุนแรง.

สาวหมาป่าตัวนี้แข็งแกร่งกว่าราชาหมาป่าจริงๆ.

ด้วยสภาพร่างกายของเย่เทียนในตอนนี้ เขาสามารถสู้กับหมาป่าหลายๆตัวได้ในเวลาเดียวกันเลย. แต่สำหรับวูฟเกิร์ลตัวนี้ มันทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายจริงๆ.

ยิ่งกว่านั้นคือเธอยังเป็นแค่เด็กอยู่เลย. เย่เทียนเดาว่าถ้าเธอโตขึ้นแล้ว พลังของเธอน่าจะแข็งแกร่งเกินกว่าขีดจำกัดของมนุษย์เลยแหละ.

เธอคือสุดยอดมนุษย์จริงๆ!

การพิชิตเธอก็หมายความว่าเธอจะเป็นผู้ช่วยที่แข็งแกร่งที่สุดได้เลย.

อย่างเช่นว่า ถ้าคืนนี้เขาพาเธอไปด้วย เธอก็จะสามารถฆ่าคนของแครสซัสได้ง่ายๆเลย.

“โฮ่ง!”

ขณะเย่เทียนเดิมเข้าไปหา วูฟเกิร์ลก็โจมตีอีกครั้งและพุ่งเข้าหาเย่เทียนด้วยความเร็วสูง.

“ซู้ม!”

เย่เทียนเองก็เคลื่อนไหวเช่นกัน. ในตอนนั้น เขาเหวี่ยงหมัดออกไปเร็วราวกับสายฟ้า ขนาดอากาศเองก็ยังเคลื่อนตัวนิดหน่อยเลย.

หมัดของเย่เทียนชกโดนมือของวูฟเกิร์ลเข้าและนางก็ปลิวไป. เย่เทียนเองก็กระเด็นถอยหลังไปเพราะพละกำลังมหาศาลของเธอเช่นกัน.

แต่ทว่าถ้าวัดกันด้านพลังแล้วล่ะก็ เย่เทียนก็ยังถือไพ่เหนือกว่าอยู่ แต่หมัดของเขามีแผลเลือดไหลเต็มไปหมดแล้วตอนนี้.

มันคือแผลจากกรงเล็บของวูฟเกิร์ลนั่นเอง.

“กรรร!”

พอรับรู้ถึงพละกำลังมหาศาลของเย่เทียนและการตอบสนองอันรวดเร็วของเขาแล้ว ในตาของวูฟเกิร์ลก็เต็มไปด้วยความกลัว. เธอเลิกโจมตีอย่างหุนหันแล้วเริ่มเดินวนรอบตัวเย่เทียนราวกับว่าเธอกำลังมองหาจุดอ่อนของเขาอยู่.

ชิ้ง!

ทันใดนั้นเย่เทียนก็ชักมีดแหลมออกมา. มันส่องแสงสะท้อนกับไฟรางๆของตะเกียงน้ำมัน.

“แฮ่!”

พอเห็นมีดโผล่มาในมือของเย่เทียน ร่างกายของวูฟเกิร์ลก็สั่นทันที, ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกลัวและความลนลาน.

ตอนแรกเย่เทียนก็แข็งแกร่งมากพออยู่แล้ว, ความเร็วและการตอบสนองของเขาแทบจะเทียบเท่าเธอเลย. แค่มือเปล่า,เย่เทียนก็สามารถจัดการเธอได้หน่อยๆแล้ว. ตอนนี้เขามีอาวุธคมๆในมือ เขาก็สามารถเฉือนร่างของเธอและสับเป็นชิ้นๆได้. ตอนนี้เขาสามารถฆ่าเธอได้ในทันทีเลย.

IQ ของวูฟเกิร์ลนั้นสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ฉะนั้นเธอจึงสามารถคิดถึงเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว.

“เจ้าหมาป่าตัวน้อยน่ารักของข้า, มีดเล่มนี้ข้าจะไม่ใช้มันฆ่าเจ้าหรอกนะ, ข้าแค่อยากบอกเจ้าว่าข้าไม่อยากทำร้ายเจ้า, ขอพระเจ้าเป็นพะยาน…”

เย่เทียนยิ้มแล้วขว้างมีดทิ้งไป.

“เป๊ง”

ด้วยพละกำลังของเย่เทียน มีดนั้นก็เสียบเข้าไปในกำแพงเลย.

“แฮ่!”

พอเห็นเย่เทียนขว้างมีดทิ้งไป, วูฟเกิร์ลก็รู้สึกโล่งอกแบบเห็นได้ชัด. เธอจ้องมาหาเย่เทียน ด้วยนัยตาที่ดูอ่อนลงแม้ว่ายังหวาดระแวงเขาอยู่.

“มาเลย, แสดงให้ชั้นเห็นหน่อยว่าเธอแข็งแกร่งแค่ไหน, เจ้าหมาน้อย!!”

เย่เทียนพูดอย่างภาคภูมิแล้วฉีกเสื้อผ้าส่วนบนออก โชวร่างกายสุดเพอร์เฟ็คของเขา.

“กรรร!”

วูฟเกิร์ลคำรามแล้วพุ่งเข้าหาเย่เทียนอีกครั้ง.

“ฟุ่บบบบ”

เย่เทียนเองก็ขยับตัวเช่นกัน การตอบสนองของเขาเร็วที่สุดเท่าที่มนุษย์จะทำได้.

“ปั่ก!”

“ฟุ่บบ!”

“ซู้มม!”

…..

การต่อสู้นั้นเป็นไปอย่างน่ากลัวมาก. เสียงปะทะ,ล้มและเสียงคำรามดังกังวาลไปทั่วทั้งห้องลับนั้น.

ทั้งสองคนนั้นกำลังสู้กันอย่างบ้าคลั่งแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีเจตนาจะฆ่ากันให้ตาย. ในตอนแรกนั้น ร่างของเย่เทียนมีบาดแผลเลือดไหลจากกรงเหล็บแหลมคมของวูฟเกิร์ลเต็มไปหมด เพราะความด้อยประสบการณ์ การต่อสู้ของเขา.

แต่พอเวลาผ่านไปเขาก็เริ่มใช้ข้อดีด้านพละกำลังและความคล่องแคล่วของเขาเพื่อให้ถือไพ่เหนือกว่าได้.

สุดท้ายแล้ววูฟเกิร์ลคือฝ่ายที่หมดแรงไปก่อน. เย่เทียนกดเธอลงข้างล่างตัวเขาและนางก็พ่ายแพ้.

“ข้าชนะ!!”

เย่เทียนแทบหายใจไม่ทันแล้ว พละกำลังของเขาถูกใช้ไปอย่างมหาศาล.

“กรรร!”

วูฟเกิร์ลร้องออกมาและพยายามดิ้นรน แต่พละกำลังของเธอนั้นอ่อนแอกว่าเย่เทียนอยู่แล้ว. ตอนนี้เธอก็เกือบจะหมดแรง เธอจึงทำได้แค่ดิ้นอยู่ใต้ตัวของเย่เทียน.

แต่เย่เทียนก็ปล่อยเธอไปในที่สุด.

“แฮ่!”

วูฟเกิร์ลคำรามแล้วหันมาอย่างช้าๆ. รอบนี้เธอไม่โจมตีใส่เย่เทียนแล้วแต่ก้มหัวของเธอลง. เธอมองมาหาเย่เทียนด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความมึนงงและประหลาดใจ และความเคารพอยู่หน่อยๆ.