คำพูดที่อันหรันพูด เมื่อฮัวเส้าซู่ฟังแล้วก็รู้สึกสบายใจ พี่สะใภ้คนนี้เป็นคนของครอบครัวฮัว ตายไปก็เป็นผีของครอบครัวฮัว เขามีจิตวิญญาณของครอบครัวฮัวอยู่เต็มเปี่ยม
สิ่งที่ครอบครัวฮัวทำให้ครอบครัวอันใครๆก็รู้กัน ครอบครัวอันจริงๆแล้วไม่ได้มีอะไรเลย ถ้าหากพ่อแม่ไม่ยืนกรานที่จะช่วยเขา ผมและพี่รอง ให้ตายก็ไม่มีทางเห็นด้วย
“ได้ ถ้างั้นผมจะช่วยคุณตรวจสอบ รอสักครู่” หลังจากที่ฮัวเส้าซู่ตอบกลับ เขาก็สั่งให้เลขาฯส่วนตัวของเขาไปตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องการหมุนเวียนของการเงินในบริษัท
เมื่อมองไปที่เลขาฯที่กำลังจะจากไป ฮัวเส้าซู่ก็ถอนหายใจออกมายาวๆ
เพื่อไม่ใช้เกิดความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างชายหญิงในบริษัท และสิ่งที่เป็นอยู่มันก็ดีอยู่แล้ว
ไม่ช้าข้อมูลที่อันหรันต้องการที่จะรู้ ก็มากองอยู่ตรงหน้าของฮัวเส้าซู่
ฮัวเส้าซู่ค่อยๆตรวจสอบทีละแผ่น ช่วงนี้ดูเหมือนว่าไม่มีเงินทุนไหลเวียนไปยังกลุ่มของครอบครัวอันเลยแม้แต่น้อย
ไม่เลว พี่รอง พี่ทำได้ดีจริงๆ รักษารากฐานของครอบครัวฮัวไว้ได้ดี
เมื่อฮัวเส้าซู่ดูเสร็จ ก็ส่งข้อมูลเหล่านี้ไปให้กับพี่สะใภ้สอง
เมื่ออันหรันได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอก็รีบเปิดดูทันที
ในความเป็นจริงเธอต้องการดูแค่การหมุนเวียนเงินของเมื่อคืนเท่านั้น แต่เพื่อที่จะไม่ให้ฮัวเส้าซู่สงสัย ดังนั้นเธอจึงต้องตรวจเอกสารมากมายขนาดนี้
อันหรันตรวจดูแล้ว ปรากฏว่าในข้อมูลเหล่านี้ ไม่มีร่องรอยของเงินสองพันล้านอยู่เลย
และเมื่อสักครู่เธอก็ได้เข้าไปตรวจสอบในเว็บไซต์ของธนาคาร ว่าเงินจำนวนนี้ใครเป็นคนโอนมาให้เธอ แต่ว่าชื่อของผู้โอนยังคงถูกเก็บเป็นความลับ ไม่สามารถตรวจสอบได้
พอแล้ว อันหรันคิดที่จะยอมแพ้ เนื่องจากหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ
เธอจะทำอย่างไรกับโชคครั้งนี้ของเธอ และทันใดนั้นเขาก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
โจวหยวน ถูกเรียกเข้าไปพบที่ห้องทำงานของประธานบริษัท Fahrenheit Group
ฮั่วเทียนหลันกำลังดูแผนธุรกิจล่าสุดของบริษัท มองด้วยความรวดเร็ว เมื่อเห็นโจวหยวนเข้ามา ก็เอากระดาษเหล่านั้นวางลง จากนั้นหันมองมาทางโจวหยวนพร้อมกับพูดว่า “เรื่องเงินที่ให้จัดการเมื่อวาน เรียบร้อยหรือยัง?”
โจวหยวนพยักหน้าแล้วพูดว่า “เมื่อคืนหลังจากที่ท่านประธานบอกผม ผมก็รีบจัดการให้เรียบร้อยโดยทันที!”
ฮั่วเทียนหลันส่งเสียงออกมาว่า อืมมมม พร้อมกับโบกมือ เพื่อบ่งบอกว่าตอนนี้หมดธุระกับโจวหยวนแล้ว
โจวหยวนตกใจ ท่านประธานฮัวเรียกตัวเองเข้ามาพบ เพียงเพราะเรื่องแค่นี้?
แต่ว่าเงินสองพันล้านนี้เป็นเงินที่เอาไว้ใช้สำรอง เงินจำนวนนี้ต้องรายงานให้ท่านประธานคนก่อนได้รับรู้
ถ้าหากถึงเวลาที่ท่านประธานคนก่อนรับรู้ขึ้นมา เขาควรจะตอบกลับไปว่าอย่างไร?
โจวหยวนกำลังคิดถึงเรื่องนี้ เขาลังเลที่จะเดินออกไป
แต่ทว่าฮั่วเทียนหลันสังเกตเห็นโจวหยวนทำท่าทางเก้ๆกังๆ เขาจึงตะโกนถามออกไปว่า “คุณกำลังกังวลอะไร?”
โจวหยวนถอนหายใจ ส่ายหัวพร้อมกับพูดว่า “ไม่มีอะไรครับ”
“มีอะไรก็พูดออกมา” ฮั่วเทียนหลันถาม
โจวหยวนลังเลที่จะพูด แต่ในที่สุดก็พูดออกมาว่า “ท่านประธานฮัว เงินจำนวนนั้นเป็นเงินสำรองของบริษัท ถ้าหากท่านประธานคนเก่าถามขึ้นมา….”
“งั้นก็บอกว่าฉันเป็นคนเอาไปสิ” ฮั่วเทียนหลันพูด
โจวหยวนชะงัก คำพูดที่ท่านประธานพูดมานั้นไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากท่านประธานก่อนถามว่าเอาเงินมากมายขนาดนี้ไปทำอะไร ผมควรจะตอบไปว่าอย่างไร!
“ท่านประธานฮั่ว ถ้าหากท่านประธานท่านก่อนถามว่าท่านเอาเงินจำนวนนี้ไปทำอะไร? ฉันควรจะตอบเขายังไง?”โจวหยวนกลับมาพูดถึงพูดถึงปัญหานี้
ฮั่วเทียนหลันเพ่งตามองไปที่เขา ทำไมวันนี้โจวหยวนกลายเป็นคนจู้จี้จุกจิก และเขาก็พูดขึ้นมาว่า “ถ้าหากพ่อของฉันถามถึงเรื่องนี้ คุณก็ให้เขามาถามฉันเอง”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้โจวหยวนก็พยักหน้า และเดินออกไปจากห้องทำงานของฮั่วเทียนหลัน
ฮั่วเทียนหลันหยิบปากกาขึ้นมาหมุนพร้อมกับกำลังคิดว่าตอนนี้อันหรันตื่นแล้วหรือยัง?
ถ้าเกิดอันหรันตื่นขึ้นมาแล้ว พบว่ามีเขินเข้ามาในบัญชีของเธอถึงสองพันล้าน เขาจะสงสัยฉันไหม?
และตอนนี้เขากำลังนึกถึงอากัปกิริยาของอันหรันเมื่อได้เห็นเงินจำนวนนี้
ตอนนี้อันหรันรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก เธอไม่รู้จะทำอย่างไรกับเงินสองพันล้านนี้ ควรเอาไปให้ครอบครัวอันไหม?
แต่ว่าเงินจำนวนนี้มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ
ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายอาจจะโอนผิดมาก็ได้ แต่คนที่ทำเรื่องนี้อาจจะไม่ยอมรับ ไม่ช้าก็เร็วเจ้าของก็ต้องมาเอาคืนไป
ตอนนี้อันหรันไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป
เขาจึงขับรถไปที่ที่หนึ่งที่สามารถทำให้จิตใจของเขาสงบลงได้ พอมาถึงสถานที่แห่งนั้น
เธอลงจากรถ และพยายามที่จะเข้าไปในที่แห่งนั้น แต่กลับถูกชายหนุ่มสองคนที่ใส่สูทสีดำห้ามมิให้เธอเข้าไป ดูเหมือนว่าเขาสองคนนี้จะเป็นบอดี้การ์ดที่คอยเฝ้าประตู
“นี่คือสุสานส่วนตัว พวกผมไม่สามารถปล่อยให้คุณเข้าไปได้ครับ” บอดี้การ์ดพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
อันหรันถึงกับตกใจ สุสานที่เห็นอยู่ด้านหน้า ไม่ใช่สุสานของคุณปู่คุณย่าของตนเองหรือ?
พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นบรรพบุรุษของครอบครัวอัน หรือว่าตอนนี้ไม่มีแล้ว?
“ลุงจางหละ? ลุงจางไม่ได้อยู่ที่นี้แล้วหรอ? ฉันก็เป็นคนของครอบครัวอัน” อันหรันอธิบายให้บอดี้การ์ดฟัง
เหล่าบอดี้การ์ดชำเลืองมองกัน และหนึ่งในนั้นก็พูดออกว่า “หรือว่าคุณคือ อันหรัน?”
อันหรันพยักหน้า บอดี้การ์ดพวกนั้นรู้สึกผิดที่ทำอย่างนั้นกับเธอและพูดออกมาว่า “คุณอย่าได้ถือสาพวกผมเลย ที่พวกผมทำไปเพราะเป็นหน้าที่ ครอบครัวอันกำชับให้พวกผมดูแลสุสานนี้ให้ดี ถ้าหากมีคนอยากจะเข้ามากราบไหว้สุสาน ต้องได้รับการอนุญาตก่อน ถึงจะสามารถเข้าได้!”
อันหรันหัวเราะออกมาเบาๆด้วยอารมณ์โกรธ
เธอมาสุสานของครอบครัวตัวเอง เพื่อไว้กราบไหว้บรรพบุรุษ ยังต้องไปขออนุญาตใครอีก?
ลูกหลานกตัญญูที่อยากมาไว้อาลัย ทำไมต้องไปขออนุญาตใคร?
อันหรันยิ้มด้วยใบหน้าเคร่งขรึม มองเข้าไปในสุสานสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธอวิ่งเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับตะโกนออกไปว่า “ยี่เฉียวถง คุณเป็นผู้หญิงที่ไร้ศีลธรรม ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ไร้ยางอาย ที่นี่คือสุสานของครอบครัวอัน คุณเป็นตัวอะไรกันแน่ ออกมานะ ออกมาเดี๋ยวนี้!”
บอดี้การ์ดทั้งสองรีบหยุดอันหรัน พยายามห้ามเธออย่างระมัดระวัง แต่ก็มิวายทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ
จะทำแบบนี้ ก็ต้องรู้ก่อนว่าฝั่งตรงข้ามเป็นใคร ตั้งแต่ที่อันหรันมาที่นี่ บอดี้การ์ดทั้งสองคนก็มองไปที่รถของอันหรัน รถคันนี้ราคาแพงมาก ดังนั้นพวกก็รู้อยู่แล้วว่าอันหรันเป็นคนที่มีชาติตระกูล
และหลังจากที่รู้ว่าเธอคืออันหรัน เรื่องที่อันหรันเป็นลูกสะใภ้คนที่สองของครอบครัวฮัว พวกเขาก็เคยได้ยินมาแล้ว
เมื่อรู้ถึงสถานะของอันหรัน
อันหรันถูกขัดขวางไม่ให้เข้าไป
บอดี้การ์ดสองคนนี้ก็รู้สึกลำบากใจไม่น้อย ที่ต้องปฏิบัติเช่นนี้กับเธอ แต่พวกเขาไม่มีทางเลือก พวกเขาจำเป็นต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด อนาคตจะเป็นอย่างไรก็ต้องขึ้นอยู่กับโชคชะตา
เธอพยายามที่จะเข้าไปให้ได้ แต่ว่าบอดี้การ์ดทั้งสองคนก็ยังขัดขวางเธอต่อไป
“ปล่อยนะ พวกนายปล่อยฉัน นี่เป็นสถานที่ของครอบครัวอัน ฉันมาที่นี่เพื่อมาหาคุณปู่คุณย่า มาหาพ่อแม่และญาติพี่น้องของฉัน… ”
พออันหรันพูดจบ เธอก็ร้องไห้ออกมา
แต่บอดี้การ์ดทั้งสองคนก็ไม่สามารถปล่อยให้เธอเข้าไปได้ ทำได้แค่พูดว่า ขอโทษ ขอให้คุณผู้หญิงเข้าใจพวกผมด้วย
ยี่เฉียวถงกรีดกรายเดินมาอยู่ด้านหน้าของอันหรัน รักษาระยะห่างไว้เล็กน้อย และจงใจพูดออกมาว่า “โย่ นี่ใช่สะใภ้คนที่สองของครอบครัวฮัวไหมเนี๊ย? มาทำอะไรที่สุสานของครอบครัวอัน? ที่นี่ไม่มีอะไรให้ขโมยหรอกนะ ของก็ไม่มี คนก็ไม่มี หรือว่าเธออยู่บ้านจนรู้สึกเหงาหละ? ฉันสามารถช่วยเธอหาร้านขายบริการที่มีผู้ชายๆหล่อ ให้เธอได้ไปมีความสุขที่ได้ ฉันรับรองได้ว่าเธอจะไม่ลืมรสชาติแห่งความสุขนี้ไปอีกหลายเดือน! ”