บทที่ 486 ปีศาจผู้น่าหลงใหล ทั้งบริสุทธิ์ทั้งยั่วยวน!

รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人

บทที่ 486 ปีศาจผู้น่าหลงใหล ทั้งบริสุทธิ์ทั้งยั่วยวน!

ตึง ตึง ตึง!

ผู้เฒ่าอมตะโขกศีรษะด้วยความอัปยศเหลือคณา กัดฟันแน่นจนฟันแทบแตก

เขายิ่งใหญ่แข็งกร้าวมาเนิ่นนาน ไม่เคยอดสูเช่นนี้มาก่อน ไม่เพียงแต่เรียกพ่อทูนหัว ซ้ำยังคุกเข่าโขกศีรษะ…

ที่น่าทุกข์ระทมที่สุดคือ พลังของเขาในยามนี้อยู่เหนือเทียนตี้ขึ้นไปอีก!

พลังเหนือเทียนตี้ ต้องเป็นกำลังรบกล้าแกร่งเพียงใดเชียว มีชื่อติดอันดับในอาณาจักรทั้งปวงนี้!

ในอดีต พลังของเขาอ่อนด้อยเพียงนั้นยังมิเคยอัปยศเท่านี้มาก่อน บัดนี้เขาแข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้ จนอยู่เหนือเทียนตี้แล้ว กลับต้องอเนจอนาถเช่นนี้ ชวนให้ทุกข์ระทมใจยิ่งนัก อย่าให้พูดเลยว่าทรมานใจปานใด!

ทว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้

เขาไม่คุกเข่าคงมิได้

จอบเซียนแข็งแกร่งกว่าเขามาก ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย หากเขาไม่ยอม ไม่คุกเข่า สิ่งที่รอเขาอยู่มีเพียงความตาย

พรวด!

โลหิตสาดกระจาย สิ่งที่ผู้เฒ่าอมตะคิดไม่ถึงคือ จอบเซียนทำการหวดอีกครั้ง!

เขาถูกเหวี่ยงกระเด็นไปอีกด้านทันที เลือดพุ่งราวกับไม่มีค่าใด!

“เจ้า!”

เขาเดือดดาล โมโหจนอวัยวะภายในแทบระเบิด

เรียกพ่อทูนหัวก็แล้ว โขกศีรษะก็แล้ว เหตุไฉนถึงยังหวดเขาอยู่อีก?

มีสัจจะบ้างได้หรือไม่!

“ไม่ได้เรียกพ่อทูนหัว”

จอบเซียนเอ่ยเสียงเรียบ

“!!!”

หลังได้ฟังวาจาของจอบเซียน ผู้เฒ่าอมตะกลั้นไม่ไหว กระอักเลือดออกมา!

ไปตายซะไอ้เวรตะไล!

ต้องเรียกพ่อทูนหัวพร้อมกับโขกศีรษะด้วยหรือ!?

ไอ้ระยำ ก่อนนี้เขาเรียกพ่อทูนหัวไปแล้ว นึกว่าแค่โขกศีรษะเสริมเป็นพอ ไม่คิดเลยว่าต้องทำพร้อมกันด้วย!

“พ่อทูนหัว!”

เขาคุกเข่าโขกศีรษะอีกครั้ง ทั้งยังเรียกพ่อทูนหัว คิดในใจว่าครั้งนี้คงหมดปัญหาแล้วกระมัง

ตึง!

หารู้ไม่ จอบเซียนหวดลงมาอีกครั้ง!

ใบหน้าชราของเขาโดนกระแทกจนเนื้อหนังถลอกปอกเปิก เลือดเนื้อละเลงรวมกัน ชีวิตเกือบหาไม่!

จอบเล่มนี้ปั่นหัวเขาเล่นหรือ!?

เรียกพ่อทูนหัวและโขกศีรษะพร้อมกันก็แล้ว ยังไม่พออีกหรือ

เขาร่ำไห้ ร่ำไห้ด้วยความปวดร้าว เขาอยากฆ่าตัวเองนัก ว่างนักหรือถึงต้องเรียกไอ้นี่มา!!!

“เสียงเรียกไม่สนิทสนมพอ”

เวลานั้น จอบเซียนเอ่ยขึ้น

“!!!”

หลังจอบเซียนพูดจบ ผู้เฒ่าอมตะทรมานใจเหลือแสน

เสียงเรียกไม่สนิทสนมพออย่างนั้นหรือ!!!

บัดซบ!

ตั้งใจจะให้เขาเรียกด้วยเสียงเหมือนเรียกพ่อทูนหัวจริง ๆ หรือ!?

เชือดคนเฉือนใจ เชือดคนเฉือนใจ!

จอบเล่มนี้ไร้มนุษยธรรมยิ่งนัก!

ถุย จอบเล่มนี้มิใช่มนุษย์อยู่แล้ว!

“พ่อทูนหัว พ่อทูนหัว!”

ผู้เฒ่าอมตะส่งเสียงเรียกต่อ ซ้ำยังโขกศีรษะไม่หยุด รุนแรงกว่าทุกครั้งก่อนหน้า และสนิทสนมขึ้นมากตามที่จอบเซียนสั่ง

‘ลูก’ กลายเป็นพ่อทูนหัว!

ผู้เฒ่าอมตะทรมานใจอย่างที่สุด!

ตึง!

หารู้ไม่ จอบหวดเข้ามาอีกครั้ง ผู้เฒ่าอมตะล้มตึงกับพื้นในบัดดล

เวรเอ๊ย!

ครั้งนี้เพราะสาเหตุอะไรอีก???

“เสียงเรียกสนิทสนมเกินไป จนข้าสับสนไปแวบหนึ่งว่ามีลูกหลานอย่างเจ้าจริง ๆ ข้าไม่มีลูกหลานน่าขายหน้าเช่นเจ้า!” จอบเซียนกล่าว

มีเหตุผลบ้างหรือไม่!

ไม่มีเหตุผลสักนิดเลยหรือ!

เรียกสนิทสนมไม่พอก็ไม่ได้ เรียกสนิทสนมเกินไปก็ไม่ได้!

“เจ้าฆ่าข้าเถิด!”

ผู้เฒ่าอมตะหมดแรงอยู่กับพื้น ไม่โขกศีรษะเรียกพ่อทูนหัวอีกแล้ว

เขาดูออกแล้วว่าจอบเซียนเล่มนี้ปั่นหัวเขาเล่นเท่านั้น!

“บัดนี้เจ้าคงเข้าใจแล้วใช่หรือไม่ ข้าไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองในอดีต อย่าได้มายุ่งกับข้าอีก รู้หรือไม่”

จอบเซียนเอ่ยเสียงเย็น มันปั่นหัวผู้เฒ่าอมตะเล่นจริง ๆ

มันจำผู้เฒ่าอมตะได้ตั้งแต่แรก รู้ว่าผู้เฒ่าอมตะคือผู้ใด

จากนั้น มันแหวกทะลุมิติไปจากที่นี่

“รู้อย่างนี้ข้าไม่น่าทำให้ดาบมารมีญาณศัสตราอุบัติขึ้นเลย!”

ผู้เฒ่าอมตะเอ่ยเสียงร่ำไห้

เขาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าวันหนึ่งเขาจะถูกศัสตราที่สลักเสลาด้วยตนเองข่มเหงย่ำยีเช่นนี้!

ผ่านไปไม่นาน จอบเซียนเหินกลับมาที่ลานเล็ก

“พี่จอบ ในที่สุดท่านก็กลับมา ท่านไม่รู้ว่าหลังจากท่านไปแล้ว ปลามังกรตัวนั้นจองหองพองขนอย่างยิ่ง…”

เมื่อลูกวัวน้อยเห็นจอบเซียนกลับมา ก็รีบเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดหลังจอบเซียนไปแล้วให้ฟัง

“หืม!?”

จอบเซียนโมโหแทบแย่ ปลามังกรตัวนั้นไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงถึงเพียงนั้นเชียวรึ?

มันปรี่เข้าไปที่โอ่ง จับตัวปลามังกรขึ้นมา หวดไปอีกยกใหญ่!

‘เจ้าพวกไร้มนุษยธรรม! ถุย พวกเจ้าไม่มีผู้ใดเป็นมนุษย์จริง ๆ!’

ปลามังกรร้องไห้ครวญครางในใจ

ก่อนหน้านี้มันถูกพวกยอดศาสตราอย่างมีดอีโต้เล่นงานยกใหญ่ สภาพจิตใจอุตส่าห์ฟื้นฟูแล้ว สุดท้ายกลับถูกอัดอีกครั้งหลังจากเพิ่งฟื้นสภาพจิตใจได้!

‘รอให้ถึงวันหน้า รอให้ถึงวันหน้าก่อน!’

มันเอ่ยในใจด้วยความแค้นเคือง

มันเชื่อว่าในภายหน้า มันต้องทรงพลังกว่าทุกสิ่งในลานเล็กแห่งนี้ และมีสถานะสูงกว่าด้วย!

หลังจากมันแข็งแกร่งขึ้นแล้ว มันจักเอาคืนเป็นเท่าตัว!

ณ เมืองชิงซาน

ภายในลานเล็กของตงฟางเวิ่น

“สายแล้ว ข้าขอตัวกลับก่อน”

หลี่จิ่วเต้าบอกลาตงฟางเวิ่น ออกจากลานเล็กของตงฟางเวิ่น

เห็นอย่างนี้ ตงฟางเวิ่นก้าวหน้าได้เร็วยิ่ง การเล่นหมากกับตงฟางเวิ่นก็สร้างความสนุกให้เขามากขึ้นเรื่อย ๆ

“สวัสดีคุณชายหลี่!”

“สวัสดีคุณชาย!”

ยามเดินอยู่ตามถนนหนทาง มีคนคอยกล่าวทักทายหลี่จิ่วเต้าเป็นระยะ หลี่จิ่วเต้าพยักหน้าตอบรับทุกคนด้วยรอยยิ้ม จนกระทั่งกลับถึงลานเล็กของเขา

“คุณชาย!”

ทันทีที่เข้าไปถึง เขาก็ได้เห็นหญิงสาวโฉมสะคราญร่างสะโอดสะองคนหนึ่ง กำลังทักทายทำความเคารพเขาอยู่ที่หน้าประตูด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม

“เจ้าคือ?”

หลี่จิ่วเต้าถามด้วยความแปลกใจ เขาไม่รู้จักหญิงสาวผู้นี้ และไม่เคยเห็นมาก่อน หญิงสาวผู้นี้มาจากที่ใดกัน?

“ข้าคือ…เสี่ยวไป๋อย่างไร!”

ลั่วสุ่ยคลี่ยิ้ม รู้ว่านี่คือวิสัยคุณชาย ทั้งที่คุณชายรู้ทุกอย่าง กลับไม่เคยเอ่ยออกมาซึ่งหน้า

คุณชายไฉนเลยจะไม่รู้ว่านางเป็นใคร!

“เสี่ยวไป๋? ฮ่า ๆ ข้าบอกแล้วว่าเจ้าทำได้ มีโอกาสก้าวสู่เส้นทางฝึกตน!”

หลี่จิ่วเต้าตาเป็นประกาย ปีศาจน่าหลงใหลเป็นที่สุดอย่างที่เขาว่าจริง ๆ ตั้งแต่แมวน้อยสีขาวกลายร่างเป็นมนุษย์ ก็งดงามจับตายิ่งกว่าที่เขาจินตนาการไว้เสียอีก!

สิ่งเดียวที่น่าเสียดายคือเขาไม่สามารถลูบแมวเล่นอย่างก่อนได้แล้ว…

จะให้ลูบต่อได้เยี่ยงไร

ก่อนหน้านี้เสี่ยวไป๋เป็นแมว เขากอดไว้ในอ้อมอก ลูบอย่างไรก็ได้ ทว่าบัดนี้ไม่ได้อีกแล้ว เสี่ยวไป๋กลายเป็นสาวงาม…

ทว่าสิ่งที่ควรพูดยังต้องพูด หากได้กอดเสี่ยวไป๋ในตอนนี้ไว้ในอ้อมอก คงสุดยอดกว่ายามกอดแมวน้อยมากโขกระมัง!

หุ่นอันวาบหวาม นูนทั้งหน้าทั้งหลัง ผิวที่ดูอย่างไรก็ผุดผ่องนวลเนียน หากได้กอดไว้ในอ้อมอก… อย่าให้พูดเลยว่าเยี่ยมยอดปานใด ลำพังได้กอดแมวสักตัวไฉนเลยจะเทียบได้!

‘ถุย คิดเพ้อเจ้ออันใดอยู่! บาปกรรมนัก!’

หลี่จิ่วเต้าสบถในใจ เขาช่างพร่ำเพ้อเก่งจริง ๆ!

ทว่า เมื่อต้องเผชิญกับเสี่ยวไป๋ผู้งดงามน่าหลงใหลเช่นนี้ ชายใดบ้างจะไม่คิดฟุ้งซ่านเล่า!

“ไปเถิด ข้าจะเก็บห้องให้เจ้า ตอนนี้เจ้าไม่อาจอยู่ร่วมห้องเดียวกับข้าได้อีกแล้ว”

หลี่จิ่วเต้าเอ่ยยิ้ม ๆ

ก่อนหน้านี้ เสี่ยวไป๋นอนในห้องเขามาตลอด ทว่าบัดนี้ไม่เหมือนกัน เสี่ยวไป๋กลายเป็นหญิงงาม ไม่สามารถนอนในห้องเดียวกันได้อีกแล้ว

จากนั้น เขากับลั่วสุ่ยมาอยู่ในห้องข้าง ๆ

“ฮ่า ๆ จากนี้ไปที่นี่คือห้องนอนของเจ้า”

ห้องนี้มิได้สกปรก หลี่จิ่วเต้าเก็บกวาดนิดหน่อยก็ใช้ได้ เขาเอ่ยบอกลั่วสุ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“ขอบคุณคุณชาย!”

ลั่วสุ่ยกล่าวขอบคุณคุณชายด้วยท่วงท่าสง่างาม

“ไม่ได้กินปลาฝีมือคุณชายมาหลายวันแล้วใช่หรือไม่ เจ้ารอก่อน คุณชายจะไปตุ๋นปลาให้เจ้ากินเดี๋ยวนี้!”

หลี่จิ่วเต้าหัวเราะ ท่าทางปีติ

เขาเดินออกจากห้อง จนมาอยู่หน้าโอ่งในลาน

“ฮ่า ๆ ท่านบรรพจารย์เซียนโปรดข้าที่สุดจริงด้วย! เจ้าดูเอาเถิด ท่านบรรพจารย์เซียนเพิ่งกลับจากข้างนอกก็มาหาข้าเลย!”

เมื่อปลามังกรเห็นท่านบรรพจารย์เซียนก้าวเข้ามา ก็ดี๊ด๊าเหลือแสน!