บทที่113 อร่อยมากๆ

มีสิ!

แน่นอนว่ามีอยู่แล้ว!

เมื่อท่าทางว่าเขาน่าจะกินไม่พอนั่นก็หมายความได้ว่าการทำอาหารของเขานั้นยอดเยี่ยมมากเมื่อมีคนยกยออย่างนี้แน่นอนว่าพ่อครัวหมายเลข1ต้องดีใจมาก

ดังนั้นเขาจึงรีบพูดว่า: “มีมีมี ยังมีอีกเยอะเลย!”

เมื่อคุณอาวัยกลางคนเห็นดังนั้นก็รีบหยิบหม้อใหญ่เดินมา จากนั้นก็ใช้ทัพพีตักมาเล็กน้อยวางใส่จานนาง

นักชิมที่ชิมไปก็คือรสชาติ เขาไม่รู้ถึงความคิดในใจของหลานเยาเยา

ใครจะรู้……

ในขณะที่เขาจะหันกลับไปหลานเยาเยาก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากชมออกมา ชมไปสองสามประโยคก็เรียกให้เขาหยุด

“เดี๋ยวๆๆๆ เจ้าอย่าเพิ่งรีบไป”ประเด็นหลักก็คือเจ้าวางหม้อลงก่อนสิ

“ยังมีเรื่องอะไรอีกหรือคุณชาย?” คุณอาวัยกลางคนหันกลับมา

“ที่จริงมันอร่อยมาก!” นางพูดอีกครั้ง

“ใช่สิ!” พ่อครัวระดับสูงทำจะให้ไม่อร่อยได้หรือ?

“งั้นก็ตักทั้งหมดใส่ชามข้าเถอะ!”

จากที่นางดู ของที่เหลืออยู่พวกนั้นพวกเขาคงไม่แบ่งไปกินแน่ สิ้นเปลืองอาหารอร่อยขนาดนั้นสวรรค์ต้องไม่ให้อภัยแน่ มากไปกว่านั้นนางเองก็ยังจ่ายเหรียญเงินไปตั้งเยอะ

ถ้าไม่กินสักหน่อยนางก็ไม่เชื่อในหลาน

“ได้ ได้”

ในไม่ช้าถ้วยของหลานเยาเยาก็มีอาหารแสนอร่อยอยู่

เพราะก่อนที่จะลงคะแนนต้องรอให้ผู้ชิมทุกคนกินหมดก่อน ดังนั้นทุกคนที่อยู่ในสนามก็มองหลานเยาเยากิน

อีกทั้งหลานเยาเยากินอย่างไม่สนใจใคร

กินไปเอ่ยปากชื่นชมไปไม่หยุด พูดว่าได้กินอาหารที่เลิศรสที่สุดในโลกทั้งพูดว่ากินร้อยครั้งก็ไม่เบื่อ

ชมอาหารนี้ขนาดว่าควรมีแต่บนสวรรค์เท่านั้น

ทุกคนตกตะลึง!

คุณอาวัยกลางคนมองไปที่พ่อครัวหมายเลข1: แน่นะว่านี่ไม่ใช่หน้าม้า?

พ่อครัวหมายเลข2ใช้สายตาสงสัยมองไปยังหลานเยาเยากับพ่อครัวหมายเลข1สลับไปมา: “หน้าม้านี่ดูปลอมไปรึเปล่า?

พ่อครัวหมายเลข1เองก็งง: หรือจะไม่ใช่หน้าม้าที่ตนเองเชิญมาจริงๆ?

ท่ามกลางสายตาที่สับสนวุ่นวายของทุกคนหลานเยาเยาก็ได้จัดการอาหารชั้นเลิศในจานหมดอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ยิ้มหวานให้ทุกคน: “อร่อยมากๆเลย!”

ทุกคนล้มลง

รูปลักษณ์หล่อเหลาของเจ้ารับไม่ไหวแล้ว……

หรือนี่จะเป็นนักกินขั้นสูงสุด?

ในไม่ช้าก็ถึงตาของพ่อครัวหมายเลข2แสดงฝีมือการทำอาหาร การหั่นอาหารเรียกได้ว่ามีท่าทางสง่างาม การกระดกกระทะก็ยิ่งทำให้ผู้ชมหลงใหล

หลังจากที่อาหารชั้นเลิศทำเสร็จก็แบ่งให้ชิมคนละเล็กๆน้อยๆ!

พอหลานเยาเยาได้กินก็รู้สึกอร่อยไปหมดทั้งรูปรสกลิ่นสีเป็นอาหารอร่อยชั้นยอด จากนั้นหลานเยาเยาก็เริ่มการชื่นชม:

“พอเข้าปากก็สุดยอดมากมีคำพูดมากมายหลายคำ ‘เพลงนี้ควรมีเพียงบนสวรรค์ คนจะได้ยินสักกี่ครั้ง?’……” จากนั้นก็มีเสียงชมดังขึ้นมาต่อๆกัน

สุดท้ายอาหารเลิศรสทั้งหมดที่แบ่งไม่หมดก็ตกอยู่ในจานของนาง

ทุกคนสงสัย: “นี่แน่ใจนะว่าไม่ได้มากินฟรีดื่มฟรี?

หึ่ย!

กินฟรีดื่มฟรีอะไร!

คนเขาก็จ่ายเงินห้าร้อยตำลึงเหมือนกัน

กลับไปที่สนามแข่ง

ทั้งสามคนที่อยู่ตรงกลางมึนงง แต่ละคนต่างเจ้ามองข้า ข้าก็มองเจ้า

คุณอาวัยกลางคน: พ่อครัวสองท่านทำไมเชิญหน้าม้ามาคนเดียวกัน?

พ่อครัวหมายเลข1คิดอย่างสับสน: สรุปเป็นหน้าม้าของใคร?

พ่อครัวหมายเลข2ก็ทำตะลึง:นี่ต้องไม่ใช่หน้าม้าที่ข้าเชิญมาแน่

ตอนนี้ทุกคนแค่อยากรู้ว่าหนุ่มหล่อที่ตั้งอกตั้งใจกินอยู่ตรงหน้านี้เป็นใคร? ทำไมถึงกินได้มากกว่าพวกเขาที่เป็นนักกิน?

อีกอย่าง!

ที่นี่เป็นที่ที่มีกาลเทศะสูงส่ง การถกแขนเสื้อกินเช่นนี้เหมาะสมหรือ?

แต่อย่างไรก็ตาม หลานเยาเยาสนใจแต่กินไม่ได้สนใจภาพลักษณ์

เมื่อถึงช่วงการลงคะแนน คะแนนของพ่อครัวหมายเลข1มากกว่าสองสามคะแนนดังนั้นรอบแรกพ่อครัวหมายเลข1เป็นฝ่ายชนะ

เมื่อมาถึงตอนแข่งขันรอบที่สอง คุณอาวัยกลางคนไม่ต้องรอให้หลานเยาเยาพูดเขาก็แบ่งให้คนอื่นก่อนแล้วสุดท้ายพอถึงตอนจะให้นางอาหารเลิศรสทั้งหมดก็อยู่ในจานของนาง

หลานเยาเยามองคุณอาวัยกลางคนอย่างชื่นชม

เด็กคนนี้โตพอจะสอนได้เหมือนกันนี่!

โชคดีที่คุณอาวัยกลางคนไม่รู้ความคิดของหลานเยาเยาไม่งั้นได้กระอักเลือดตาย

นักชิมเห็นหลานเยาเยากินอย่างเอร็ดอร่อย

พวกเขาก็อยากกินบ้าง!

แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อพวกเขาเป็นคนมีหน้ามีตาต้องสนใจภาพลักษณ์

โชคดีในการลงคะแนนรอบที่2 พ่อครัวหมายเลข2เอาคืนกลับมาได้

หลานเยาเยาก็แอบดีใจอยู่ในใจ!

ยังสามารถกินได้อีกตา

เมื่อถึงรอบที่3 พ่อครัวทั้งสองก็เอาวิธีการทำบ้านให้สะอาดของตนเองออกมา ไม่ว่าจะเป็นทักษะในการหั่นหรือระดับในการใช้ไฟล้วนทำอย่างละเมียดละไม

ครั้งนี้ไม่ใช่พ่อครัวทำทีละคนๆแต่ทั้งสองคนทำพร้อมกันแล้วยังกำหนดเวลา

เมื่อถึงตอนที่แบ่งอาหารให้พวกเขานักชิม คุณอาวัยกลางคนก็เดินมาตรงหน้านางแล้วถามอย่างลังเลว่า:

“ท้องยังใส่ลงไปอีกได้ไหม?”

ดูเขาสิแม้จะหน้าตาหล่อเหลางดงามแต่ก็ยังดูผอมแห้ง เมื่อครู่กินเข้าไปเยอะขนาดนั้นตอนนี้ยังกินไหวอีกหรือ?

แต่ทว่าหลานเยาเยากลับพูดมาประโยคหนึ่งที่ดูเหมือนผีที่หิวโหยว่า: “อย่าลืมขัดหม้อให้สะอาดหน่อยหล่ะ!”

“……”

แน่นอนว่าขอบเขตของนักกินไม่ใช่สิ่งที่เขาจะเข้าใจ

การชิมรอบที่3จะสิ้นสุดลงในไม่ช้า……

ไม่นะ!

นักชิมทุกคนนอกจากหลานเยาเยาได้ชิมอาหารที่ปรุงโดยพ่อครัวทั้งสองคนแล้ว

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาแก่ทุกคน

แล้วก็เพื่อการลงโทษช่วงสุดท้ายที่ทุกคนชอบดู

คุณอาวัยกลางคนเลยตัดสินใจว่าจะให้นักชิมที่เหลือลงคะแนนก่อนยังไงจะมีหรือไม่มีหลานเยาเยาก็คงไม่เป็นไร

ไม่แน่หลานเยาเยายังไม่ทันกินเสร็จพวกเขาก็จะได้เห็นผลสรุปของบทลงโทษแล้ว

ใครจะรู้……

ผลการลงคะแนนกลับมีคะแนนเท่ากัน ทันใดนั้นทุกคนในสนามก็หันไปมองหลานเยาเยาทันที

เมื่อถูกสายตาทุกคนจับจ้องมาอีกทั้งยังเป็นสายตาลุกวาว หลานเยาเยาก็ไม่มีทางที่จะลิ้มรสอาหารเลิศรสได้อีก!

พอนางเงยหน้าขึ้นก็อดไม่ได้ที่ต้องตกใจ

มีดวงตาสามคู่จ้องนางอย่างดุร้าย อีกทั้งยังยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะนาง คุณอาวัยกลางคนยืนอยู่ตรงกลาง พ่อครัวระดับสูงสองคนยืนคนละข้าง

“พวกท่านทำอะไรหน่ะ?”

หลานเยาเยารีบปกป้องอาหารเลิศรสสองจานบนโต๊ะ หลังจากนั้นก็มองพวกเขาอย่างระแวง

ราวชนิดที่ว่าถ้าพวกเขากล้าแตะต้องอาหารเลิศรสของนางแม้แต่นิดเดียว นางจะสู้กับพวกเขาสุดชีวิตอย่างนั้นเลย

นี่เป็นเรื่องที่ดี!

เพราะนี่สามารถดูได้ว่าเขาจะชอบอาหารจานไหนมากกว่ากันจากการปกป้องอาหารของนาง?

แต่คิดไม่ถึงว่าการตอบสนองของเขาจะเป็นการปกป้องอาหารเลิศรสทั้งสองจาน

สองพ่อครัวระดับสูงก็เริ่มกระวนกระวายใจ!

นี่เป็นช่วงเวลาความเป็นความตายเลยนะส่วนวัยรุ่นรูปหล่อที่ตรงหน้านี้ก็ดูเหมือนจะชอบอาหารของพวกเขามาก ตอนนี้ความเป็นความตายของพวกเขาคนใดคนหนึ่งขึ้นอยู่กับการความคิดของเขาแล้ว

ต้องยิ้มกว้างๆถึงจะดีเพื่อไม่ให้คนเขาตกใจ

แต่ทว่า……

ความคิดของพวกเขาสามคนไปในทางเดียวกันก็คือบีบยิ้มกว้างๆให้หลานเยาเยาแทบจะพร้อมๆกัน

หลานเยาเยา: “……”

พวกเขายิ้มร้ายๆแบบนี้คิดจะทำอะไรเนี่ย?

“คุณชายคิดว่าอาหารของข้าเป็นอย่างไร?

พ่อครัวหมายเลข1ที่คิดว่าตัวเองควรจะเย็นชาก็จำเป็นต้องลดน้ำเสียงถามออกมาอย่างสุภาพ

“อร่อยอร่อย อร่อยมากๆ ข้าชอบอาหารเลิศรสนี้ที่สุด!”

เมื่อหลานเยาเยาพูดเช่นนี้พ่อครัวหมายเลข1ก็โล่งใจ!

“คุณชายพอใจกับอาหารอร่อยที่ข้าทำทั้งหมดหรือไม่?”

พ่อครัวหมายเลข2ก็ไม่ยอมน้อยหน้าเอาสิ่งที่ตั้งแต่ที่เป็นพ่อครัวมามอบรอยยิ้มอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยให้ใครมาก่อนทั้งหมดมาให้เขา

“พอใจพอใจ พอใจมากๆ อาหารแสนอร่อยนี้เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก”