ตอนที่ 183 การประชันกันอย่างลับๆ (1)
คนของสำนักชิงอวิ๋นเข้าไปในวังหลวง และมั่วเฉี่ยนยวนก็ตามเข้าไป หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เชิญคนจำนวนยี่สิบกว่าคนให้นั่งที่ห้องโถงใหญ่
ในห้องโถง นอกเหนือจากคนในวังที่มีท่าทีเชื่อฟังแล้ว ก็มีเพียงมั่วเฉี่ยนยวนเท่านั้นที่มาเผชิญกับ ‘แขก’ ที่มาจากสำนักชิงอวิ๋น มั่วเฉี่ยนยวนร่างกายไม่ค่อยดีจากถูกวางยาพิษในช่วงหลายปีก่อน พลังวิญญาณของเขาจึงไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก พลังวิญญาณที่ต้อยต่ำของเขามันเปราะบางมากเมื่ออยู่ในสายตาของคนกลุ่มนี้
“อวิ๋นเซียนอยู่ที่ใด” เจียงเฉินชิงแสดงสีหน้าเคร่งขรึมทันทีที่นั่งลง และเขาไม่แม้แต่ชายตามองน้ำชาที่คนในวังยกมาให้
ฉินอวี่เยียนก้มศีรษะดื่มชาด้วยรอยยิ้มมุมปากที่อ่อนโยนของนาง แต่นางก็ไม่คิดจะเอ่ยอะไร
มั่วเฉี่ยนยวนแอบมองปฏิกิริยาของพวกเขาและเยาะเย้ยในใจ แต่ใบหน้าก็ยังคงแสดงรอยยิ้มออกมา
“ข้าส่งคนไปเชิญนางแล้ว กรุณานั่งรอสักครู่”
ตอนที่ไป๋อวิ๋นเซียนมาถึงรัฐชีนางได้รับการต้อนรับที่ดีที่สุด มั่วเซวี่ยนเฝ่ยทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้นางมีความสุข แม้ว่าไป๋อวิ๋นเซียนจะเย็นชาและหยิ่งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นนี้
เจียงเฉินชิงคนนี้ไม่ใส่ใจฮ่องเต้จริงๆ
ผู้อาวุโสของสำนักชิงอวิ๋นสุดยอดจริงๆ
เจียงเฉินชิงเหลือบมองฉินอวี่เยียนและเมื่อเห็นว่านางไม่กล่าวอะไร เขาจึงระงับความไม่พอใจของเขาไว้ในใจ
รัฐชีเล็กๆ นี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาจริงๆ ภายใต้อำนาจของสำนักชิงอวิ๋น พลังของรัฐนั้นดูอ่อนแอกว่ามาก ถ้าไม่ใช่เพราะข่าวจากไป๋อวิ๋นเซียน พวกเขาจะไม่มาเหยียบที่นี่อย่างแน่นอน
หลังจากนั้นไม่นาน หญิงสาวใสชุดขาวก็เดินเข้ามาอย่างช้าๆ
ไป๋อวิ๋นเซียนสวมชุดกระโปรงยาวสีขาว บนศีรษะปักด้วยปิ่นไข่มุก ใบหน้าเล็กๆ ที่บอบบางของนางดูงดงามมาก นางเดินเข้ามาอย่างสง่างาม หลังจากเห็นผู้คนในห้องโถง ดวงตาของนางก็ตกตะลึงเล็กน้อย ไม่นานนางก็เก็บสีหน้าแล้วเดินต่อไปทันที
“อวิ๋นเซียนคารวะศิษย์พี่หญิงและท่านผู้อาวุโส” ไป๋อวิ๋นเซียนกล่าวด้วยความเคารพ
หลังจากที่ไป๋อวิ๋นเซียนปรากฏตัว ดวงตาของเจียงเฉินชิงก็จับจ้องอยู่ที่ร่างของนาง ดวงตาที่แหลมคมคู่นั้นมองสำรวจไป๋อวิ๋นเซียนซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเขามั่นใจว่าไป๋อวิ๋นเซียนไม่ได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดี ความไม่พอใจบนใบหน้าของเขาจึงจางหายไป…
“อวิ๋นเซียน เจ้าอยู่ที่นี่สบายดีหรือไม่ ท่านพ่อกังวลมากเมื่อเขาได้รับข่าวจากเจ้า แต่ตอนนี้ท่านปิดด่านบ่มเพาะอยู่ไม่สามารถออกจากสำนักได้ จึงให้ลุงเจียงออกมากับข้าเพื่อดูว่าเจ้าถูกรังแกหรือไม่” ฉินอวี่เยียนยิ้มและยืนขึ้น จับมือพยุงตัวไป๋อวิ๋นเซียนขึ้นมา รอยยิ้มบนใบหน้าของนางอ่อนโยนราวกับน้ำ แต่ใบหน้าของไป๋อวิ๋นเซียนกลับแข็งทื่อเล็กน้อย
ขณะที่ฉินอวี่เยียนลุกขึ้นพยุงนางนั้น มือของฉินอวี่เยียนก็จับชีพจรของนางไว้
“ลำบากท่านอาจารย์ที่ต้องมากังวลเรื่องข้า เรื่องนี้ข้าผิดเองที่ใจร้อนจนไม่คิดให้รอบคอบ ข้าต้องขอให้ศิษย์พี่หญิงและท่านผู้อาวุโสอภัยให้ข้าด้วย” ไป๋อวิ๋นเซียนก้มศีรษะและไม่กล้าขยับ
ฝีมือการรักษาของฉินอวี่เยียนนั้นเหนือกว่านางมาก แม้ว่านางจะเป็นศิษย์เอกของเจ้าสำนักชิงอวิ๋น แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับบุตรีในสายเลือดของเจ้าสำนักชิงอวิ๋นได้ ฉินอวี่เยียนแอบตรวจชีพจรของนาง นางทำได้เพียงแสร้งทำเป็นไม่รู้ แต่ในใจของนางนั้นตื่นเต้นจนใจสั่นไม่หยุด
หลังจากที่จวินอู๋เสียป้อนยาพิษให้กับนาง นางก็เคยตรวจชีพจรให้ตัวเองเช่นกัน แต่ชีพจรนั้นคงที่มาก ไม่เหมือนว่าได้รับพิษมาก่อน
ศิษย์พี่หญิงจะตรวจพบว่านางถูกวางยาพิษในร่างกายหรือไม่ ถ้าศิษย์พี่หญิงสามารถตรวจพบได้นั่นแสดงว่าศิษย์พี่หญิงสามารถช่วยชีวิตนางได้ใช่หรือไม่
ไป๋อวิ๋นเซียนไม่เพียงแต่เงยหน้าขึ้นเท่านั้น แต่ยังมองฉินอวี่เยียนด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง
แต่สุดท้าย ฉินอวี่เยียนก็ดึงมือของตัวเองกลับไปไม่นานหลังจากจับชีพจรของนางโดยที่ใบหน้าก็ยังคงมีรอยยิ้มเช่นเดิม
ดวงตาของไป๋อวิ๋นเซียนหรี่ลงเล็กน้อย
ฉินอวี่เยียนตรวจไม่พบจริงๆ ด้วย
ตอนที่ 184 การประชันกันอย่างลับๆ (2)
“เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าหรือ ข่าวที่เจ้าให้ผีเสื้อครวญจิตส่งมามันน่าตกใจมาก ถ้ามีคนรังแกเจ้าจริงๆ ศิษย์พี่หญิงคนนี้จะเรียกร้องความยุติธรรมให้เจ้าอย่างแน่นอน” ฉินอวี่เยียนยิ้มและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ใช้พูดกับเด็กน้อย
ชีพจรของไป๋อวิ๋นเซียนเป็นปกติดี ไม่เหมือนว่านางได้รับบาดเจ็บอะไรมาก่อน
แต่สถานการณ์ในตอนนี้ต่างจากที่ไป๋อวิ๋นเซียนแจ้งกลับไปที่สำนักชิงอวิ๋นโดยสิ้นเชิง ฉินอวี่เยียนจึงทำได้เพียงเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น
ไป๋อวิ๋นเซียนยิ้มอย่างขมขื่นในใจและพูดด้วยความรู้สึกผิดว่า “ข้าไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรจริงๆ เซวี่ยนเฝ่ยถูกวางยาพิษ ข้าทำทุกวิถีทางแล้วแต่ก็ไม่สามารถช่วยเขาได้ ตอนนี้เขากำลังจะตาย ข้าจึงคิดว่ามีเพียงท่านอาจารย์เท่านั้นที่สามารถช่วยชีวิตเขาได้ ดังนั้น…ดังนั้นข้าจึงแต่งเรื่องราวทั้งหมดขึ้นมาเอง”
คำพูดของไป๋อวิ๋นเซียนทำให้ทุกคนในห้องโถงตกตะลึง
คำพูดเหล่านี้ช่างแตกต่างจากสิ่งที่พวกเขาได้ยินก่อนที่พวกเขาจะมาถึงอย่างสิ้นเชิง
ก่อนที่จะมา พวกเขาทั้งหมดรู้ว่ารัฐชีมีคนทำเรื่องชั่วร้ายโดยไม่สนใจสิ่งใด และคิดวางแผนทำร้ายไป๋อวิ๋นเซียน แต่สิ่งที่พวกเขาได้ยินจากปากของไป๋อวิ๋นเซียนในวันนี้นั้นมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“เซวี่ยนเฝ่ยคือผู้ใด” ฉินอวี่เยียนรู้สึกงงเล็กน้อย
ใบหน้าที่ขาวเนียนของไป๋อวิ๋นเซียนขึ้นสีแดงเล็กน้อย นางกล่าวด้วยท่าทางเขินอายว่า “เขาเป็นองค์ชายรองของรัฐชี ตอนนี้เขาได้รับแต่งตั้งให้ขึ้นเป็นชินอ๋องโดยฮ่องเต้พระองค์ใหม่ ชินอ๋องดูแลข้าอย่างดี ข้ากับเขาได้…ได้…ตกลงแต่งงานกันแล้ว”
คนที่มีชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายคือชินอ๋องหรือ
ในเวลานี้ ทุกคนต่างตกตะลึงเล็กน้อย
หากมิใช่เพราะไป๋อวิ๋นเซียนพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าพวกเขา พวกเขาจะไม่เชื่ออย่างแน่นอน!
ลูกศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นส่งข่าวเท็จกลับไปเพื่อช่วยคนรักของตัวเอง ลำบากผู้อาวุโสและทุกคนถ่อมาถึงที่นี่เพื่อช่วยชีวิตบุรุษคนหนึ่ง!
สายตาของทุกคนทำให้สีหน้าของไป๋อวิ๋นเซียนแดงขึ้นมาทันที และแม้แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินอวี่เยียนก็หายไปทันใด
“เฮ้อ ที่คุณหนูไป๋ทำแบบนี้ก็เพื่อน้องชายของข้า ข้าก็ผิด หากคนของสำนักชิงอวิ๋นยอมรักษาชินอ๋อง ข้าและรัฐชีจะขอขอบพระคุณเป็นอย่างมาก” แสดงก็ต้องแสดงให้ถึงที่สุด มั่วเฉี่ยนยวนรีบกล่าวอย่างเห็นด้วยทันที
เดิมที่คิดว่าเป็นเรื่องกดขี่ข่มเหง แต่กลับเป็นเรื่องของความรักแทน เรื่องนี้ทำให้คนของสำนักชิงอวิ๋นขายหน้าเป็นอย่างมาก เพราะข่าวของไป๋อวิ๋นเซียนพวกเขาไม่เพียงแต่เชิญคุณหนูใหญ่และผู้อาวุโสมาเท่านั้น แต่ยังเชิญผู้เชี่ยวชาญหลายคนมากับพวกเขาด้วย แต่กลับสร้างเรื่องตลกแบบนี้ขึ้นมา
ใบหน้าของเจียงเฉินชิงเย็นชาขึ้นมาทันที มุมปากของเขากระตุก เขาอยากจะเอ่ยอะไรออกมาแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร
“เวลาไม่เช้าแล้ว ข้าได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับทุกท่านจึงขอเชิญทุกท่านลุกขึ้นเถิด ส่วนเรื่องรักษาชินอ๋องนั้นข้าไม่ได้บังคับ” มั่วเฉี่ยนยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ฉินอวี่เยียนมองไป๋อวิ๋นเซียนเป็นเวลานาน ก่อนที่นางจะกล่าวว่า “ในเมื่อรัฐชีและกับสำนักชิงอวิ๋นเป็นมิตรกัน เมื่อพวกข้ามาถึงแล้วย่อมไม่มีเหตุผลที่จะไม่ช่วยชีวิต หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ข้ากับลุงเจียงจะไปดูอาการชินอ๋องให้”
มั่วเฉี่ยนยวนมองดูฉินอวี่เยียนด้วยสีหน้าดีใจอย่างเสแสร้ง พยักหน้าอย่างรัวเร็ว ก่อนจะสั่งให้คนพาคนของสำนักชิงอวิ๋นไปรับประทานอาหาร และเขาใช้เวลาว่างจากเวลานี้เดินตรงไปที่ตำหนักหลินยวนทันที
มั่วเฉี่ยนยวนขึ้นครองราชย์แล้ว และเขาต้องย้ายออกจากตำหนักหลินยวนขององค์รัชทายาทอย่างแน่นอน แต่ตำหนักหลินยวนนี้ยังคงอยู่ในสภาพเดิม นอกเหนือจากความทรงจำที่หวงแหนแล้ว ก็เก็บไว้ให้จวินอู๋เสียพักผ่อนยามเมื่อเข้ามาในวังหลวงด้วย
ในขณะนี้ จวินอู๋เสียก็มาถึงวังหลวงแล้ว คนของสำนักชิงอวิ๋นมาที่นี่ นางต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา และเพื่อเป็นการสังเกตพลังของสำนักชิงอวิ๋นได้สะดวกขึ้น นางจึงพักอยู่ที่ตำหนักหลินยวนชั่วคราว