ตอนที่ 125 กู้หมิงฉือ คนขี้สงสัย
ตอนที่ 125 กู้หมิงฉือ คนขี้สงสัย
“อ๊ะ ขอโทษด้วยนะเถ้าแก่ ผมเป็นคนปากไว อย่าถือสาผมเลย”
ซูเถาไม่ได้คิดอะไรมาก เธอไม่ได้จริงจังกับมันเลย และพูดออกมาว่า “เอาเถอะ คอยดูความเคลื่อนไหวของจุดแวะพักเก่าไว้ อีกไม่นานถานหย่งจะต้องส่งคนมาหาคุณแน่”
หม่าต้าเพ่าตกใจ “จะมาหาผมทำไม”
ซูเถายักไหล่ “มันคงไม่ใช่เรื่องดีนัก”
การแย่งชิงกิจการของคนอื่น แล้วเขาบุกมาหาถึงบ้าน ไม่น่าจะเป็นเรื่องดี เช่นเดียวกับตอนที่เธอปล้นกิจการของกู้หมิงฉือ ผู้ชายคนนี้พยายามที่จะครอบงำเธอด้วยคำพูดต่าง ๆ
ขึ้นอยู่กับว่าถานหย่งจะสื่อสารได้ดีหรือเปล่า
……
“พี่หย่ง! ไปสืบมาแล้ว ได้ยินมาจากสยงไท่ว่ามีจุดแวะพักที่ภูเขาผานหลิวจริง ๆ และดูแลโดยผู้หญิงคนหนึ่ง!”
ถานหย่งที่กำลังเปลือยกายสวมกอดหญิงงามคนหนึ่ง เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ผลักหญิงสาวคนนั้นออกไปแล้วพูดด้วยความประหลาดใจว่า
“ผู้หญิงเป็นคนเปิดเหรอ พูดจริงพูดเล่น อย่ามาหลอกฉันเลยน่า”
ลูกน้องที่เป็นคนไปสืบข่าวรีบบอกอย่างรวดเร็ว “เป็นความจริงครับ ผมให้คนไปตามสยงไท่มาแล้ว เขาเคยไปที่ภูเขาผานหลิว และเขายังตามเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์จากโรงแรมของเราที่ชื่อหม่าต้าเพ่าไปยังโรงรถใต้ดินของภูเขาผานหลิวเพื่อกำจัดศพ เขาเห็นผู้หญิงคนนั้นด้วยตาของเขาเอง แถมยังบอกอีกว่า เธอยังเด็กมาก ดูเหมือนจะอายุไม่ถึงยี่สิบปี”
ถานหย่งแทบจะกระโดดขึ้นจากเตียง
ไปที่โรงรถใต้ดินเพื่อกำจัดศพ?
นี่ไม่ใช่สิ่งที่กู้หมิงฉือทำเหรอ?
หรือว่าภูเขาผานหลิวเป็นสิ่งที่กู้หมิงฉือเป็นคนสร้าง
ความร่วมมือและความไว้วางใจที่สั่งสมมาหลายปีเกือบจะพังทลาย ใบหน้าของถานหย่งดำเป็นก้นหม้อ
“รีบเรียกตัวสยงไท่มาก่อน!”
ในเวลาไม่ถึงสิบนาที สยงไท่ผู้เมามายก็ถูกอุ้มเข้ามา
ไม่มีใครชอบเขา เพราะเขาเป็นคนขี้โวยวายและติดเหล้า ถ้าไม่ใช่เพราะความสามารถอันทรงพลังที่สวรรค์มอบให้ ก็คงไม่มีใครอยากคุยกับเขา
การที่ต้องเอาคนมาเปรียบเทียบกัน มันน่ารำคาญจริง ๆ คนที่ไม่ได้เรื่องดันมีพลังเหนือธรรมชาติ
ถานหย่งโกรธจัดเมื่อเห็นเขาแบบนี้ “ปลุกเขาขึ้นมา”
ลูกน้องหลายคนทั้งเตะทั้งต่อยสยงไท่
สยงไท่สะลึมสะลือลุกขึ้นนั่งด้วยความเจ็บปวด เขาตื่นขึ้นและตะโกนด่าอย่างไม่เลือกหน้า “ผมเอาของขวัญมามอบให้คุณ!”
ถานหย่งตบหัวเขา “ฉันคิดว่าแกยังไม่ตื่นดี! บอกฉันมาสิ ว่าแกไปที่ภูเขาผานหลิว แกเห็นอะไรบ้าง ผู้หญิงคนนั้นคือใคร แกเห็นผู้ชายสวมแว่นตา สวมชุดสูทและรองเท้าหนังหรือเปล่า?”
สยงไท่ตื่นขึ้นจริง ๆ เขากุมศีรษะและบ่นว่า
“พี่หย่ง ทำอะไร ผมทำอะไรผิด ผมแค่หางานที่ไม่ต้องทำงาน แต่มีอาหารและที่พัก ใครจะไปคิดว่าหม่าต้าเพ่าที่ได้รับโอกาสดี ๆ จะขัดขวางคนอื่น ตอนที่ผมจะเอาของขวัญไปมอบให้เถ้าแก่ซู เขาไม่ให้โอกาสผมได้พบกับเธอด้วยซ้ำ”
ถานหย่งตบหน้าเขาอีกครั้ง “พูดให้ชัดเจน งานอะไร ใครคือหม่าต้าเพ่า และใครคือเถ้าแก่ซู”
“หม่าต้าเพ่าเคยเป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของโรงแรมเรา เขามีรูปร่างผอมแห้ง และท่าทางกะล่อนปลิ้นปล้อน เมื่อไม่นานมานี้ เขาบอกว่าเขามีโอกาสในการทำงานที่ดีมาก เขาต้องการหาคนที่ใช่ พอผมถาม เขาก็บอกว่าภูเขาผานหลิวกำลังจะเปิดให้บริการจุดแวะพัก รับสมัครพนักงานรักษาความปลอดภัย แผนกต้อนรับ คนทำความสะอาด และอื่น ๆ พี่หย่ง… ผมบอกแล้ว อย่าตีผมนะ”
ถานหย่งพูดด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “พูดมา”
“สวัสดิการดีมาก สวรรค์ มันเป็นงานในอุดมคติของผม มันรวมอาหารและที่พักด้วย! เป็นห้องพักที่วิเศษ สภาพก็ดีกว่าห้องของคุณอีก อ๊า—”
ถานหย่งไม่พูดพล่าม เขาออกหมัดหนักตรงจุดนั้น
เขาถามต่อว่า “เถ้าแก่ซูคือใคร เป็นผู้หญิงเหรอ”
แววตาที่เจ็บปวดของสยงไท่เต็มไปด้วยน้ำตา “…ผู้หญิงคนนี้ หม่าต้าเพ่าเรียกเธอว่า เถ้าแก่ซู”
“ภายในภูเขาผานหลิวเป็นยังไงบ้าง”
สยงไท่มีใบหน้าที่ขมขื่น “ผมจะบอกความจริงกับคุณ ผมเคยเข้าไปที่นั่นตอนที่ผมไปเคลื่อนย้ายศพ ตอนนั้นไม่มีอะไรเลย แต่ครั้งล่าสุดที่ผมไปภูเขาผานหลิว หม่าต้าเพ่าไม่ให้ผมเข้าไป ผมเลยดูอยู่ข้างนอก ได้แต่มองไปรอบ ๆ ผมเห็นว่ามีเครื่องจ่ายน้ำมันสี่เครื่อง”
ถานหย่งสบตากับคนอื่น ๆ ด้วยความตกตะลึง
จุดแวะพักเก่าของพวกเขาไม่มีเครื่องจ่ายน้ำมัน พวกเขาต้องซื้อเชื้อเพลิงมาจากฐานอื่น
ผู้หญิงแซ่ซูมาจากไหน? กู้หมิงฉือเป็นผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่?
ถานหย่งลุกขึ้นอย่างเคร่งขรึม
“ที่ฉันถามแกก่อนหน้านี้ ว่าแกเคยเห็นผู้ชายใส่แว่นไหม”
สยงไท่ชูนิ้วทั้งสี่เข้าด้วยกันแล้วสาบาน “ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลยจริง ๆ”
ถานหย่งโบกมือ “ไปให้พ้น”
สยงไท่ได้รับการอภัย จากนั้นเขาก็ถามว่า
“พี่หย่ง เรามีงานแบบนี้ที่นี่ไหม มีค่าจ้างพร้อมอาหารและที่พัก ทั้งยังเป็นที่พักอาศัยอย่างดี…”
ถานหย่งยกขาขึ้นเตะเขาพลางตะโกนว่า “ไปให้พ้นหน้า”
ลูกน้องของเขาลากสยงไท่ออกไป
ถานหย่งนำเสื้อโค้ตมาสวมอย่างหงุดหงิด เขาเดินไปมาเพื่อสูบบุหรี่ และในที่สุดก็โทรหากู้หมิงฉือ
เมื่ออีกฝ่ายรับสาย เขาก็พูดเข้าประเด็น
“พี่กู้ เราทำงานด้วยกันมาหลายปีแล้ว ดังนั้นผมจะไม่โยกโย้กับพี่ ผมแค่จะถามพี่ว่า พี่มีความเกี่ยวข้องกับภูเขาผานหลิวหรือเปล่า”
กู้หมิงฉือขมวดคิ้ว และรู้สึกสับสนเล็กน้อย “ภูเขาผานหลิวเหรอ ครั้งสุดท้ายที่ฉันขอให้นายช่วยหาคนไปกำจัดศพน่ะเหรอ? เกิดอะไรขึ้น?”
คำพูดเหล่านี้ไม่เหมือนการแสร้งทำเป็นไม่รู้จริง ๆ น้ำเสียงของถานหย่งอ่อนลงเล็กน้อย
“ภูเขาผานหลิวเปิดให้บริการจุดแวะพัก พี่ไม่รู้เหรอ”
ปลายสายเงียบทันที หลังจากนั้นไม่นาน กู้หมิงฉือก็ถามขึ้นว่า “จุดแวะพัก?”
ถานหย่งพูดไม่ออก “พี่กู้ ทำไมพี่งงกว่าผมอีก ถ้าให้ผมเดา เถ้าแก่แซ่ซูน่าจะรู้จักกับพี่ใช่ไหม”
ปลายสายเงียบ ไม่มีการตอบรับ
กู้หมิงฉือ “ฉันต้องการตรวจสอบเรื่องนี้หน่อย ไว้โทรกลับ”
……
ซูเถาได้รับโทรศัพท์จากกู้หมิงฉือ เธอกำลังสอนหลินฟางจือถึงวิธีอธิบายประเภทและปริมาณของส่วนผสมให้กับพ่อครัวฉิน
ดวงตาของพ่อครัวฉินกำลังเบิกโพลงเมื่อเขาเห็นผักสดยี่สิบชนิด
“เถ้าแก่ซู นะ…นี่ ผู้จัดการหลิน รีบช่วยผมเอาของใส่ตู้เย็นเร็วเข้า! เดี๋ยวผักเฉาหมด!”
หลินฟางจือกะพริบตาและเกาหัวด้วยความลำบากใจเมื่อเขาถูกเรียกว่าผู้จัดการ เขาช่วยพ่อครัวเก็บผักอย่างรวดเร็ว และในขณะที่เก็บผักเหล่านั้น เขานึกถึงสิ่งที่ซูเถาสอนเขาว่า
“ผักกาดหอม 5 จิน ผักบุ้ง 5 จิน ถั่วงอก 8 จิน หอมแดง 2 จิน”
แม้ว่าเขาจะพูดช้า แต่ก็ชัดเจนว่าไม่มีอะไรผิดพลาด
พ่อครัวฉินไม่รู้สึกว่าเขามีอุปสรรคด้านภาษาเลย เขายังพูดชมเชย “ผู้จัดการหลินระมัดระวังในการทำสิ่งต่าง ๆ ดีมาก”
นี่เป็นครั้งแรกที่หลินฟางจือได้รับคำชมจากคนแปลกหน้า ดวงตากวางน้อยก็เต็มไปด้วยประกายราวกับดวงจันทร์ที่สว่างไสว
ซูเถาก็ยกนิ้วให้เขาอย่างเงียบ ๆ หลังจากออกจากครัวด้านหลัง ซูเถากดรับสายเครื่องสื่อสารที่ส่งเสียงดัง
“ซูเถา จุดแวะพักที่ภูเขาผานหลิว คุณเป็นคนเปิดเหรอ?”
ซูเถาดึงเก้าอี้โต๊ะอาหารออกมาและนั่งลงโดยไม่ปิดบังอะไร “บอสกู้มาตรวจสอบทรัพย์สินของฉันอีกแล้วเหรอ”
จู่ ๆ กู้หมิงฉือก็รู้สึกว่าซูเถาไม่ใช่คนที่เขาสามารถควบคุมได้ เธอมักจะหาทางหลบเลี่ยงสายตาของเขา และทำสิ่งที่น่าตกใจนับไม่ถ้วนในจุดที่เขาไม่ทันสังเกต
เขาไม่สามารถรับรู้ได้อย่างสมบูรณ์
ดังนั้นจึงถามออกไปว่า
“…ช่วงเดือนที่ผ่านมาคุณไม่ได้ออกจากเถาหยางเลย คุณจะไปกลับที่นั่นได้ยังไง”