บทที่ 80 ทำการค้าในเมืองชิงถงงั้นหรือ

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม

บทที่ 80 ทำการค้าในเมืองชิงถงงั้นหรือ?

สิ่งของพวกนี้แรก ๆ ยังคงปกติ ทว่าหินและเปลือกหอยเหล่านี้จะเอาไปทำอะไรกัน?

ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้าเหยาซูอย่างตั้งใจและกล่าวว่า “หินทั้งห้าก้อนนี้หน้าตาเหมือนกัน เมื่อเช้าเอ้อเป่าบอกว่าต้องการให้ข้าหาของสวย ๆ ให้นางและต้องเป็นสีขาว เปลือกหอยที่ซื้อมาจากพ่อค้าที่ขายของทะเล เขาบอกว่าเก็บมาจากชายทะเล…”

น้ำเสียงของเขาจริงจังราวกับว่าการเขาซื้อของเล่นสำหรับเด็กเป็นเรื่องสลักสำคัญ

“อาซู เจ้ารู้จักทะเลหรือไม่? จากเมืองชิงถงไปยังทิศตะวันออก เมื่อเดินทางไปถึงสุดทางจะเต็มไปด้วยมหาสมุทรอันไร้สิ้นสุด แต่น้ำทะเลกับแม่น้ำนั้นไม่เหมือนกัน น้ำทะเลจะมีรสชาติเค็ม”

เหยาซูพยักหน้า

คนสมัยใหม่รู้อยู่แล้วว่าทะเลเป็นอย่างไร แต่หลินเหราเป็นเพียงคนโบราณ ทว่าเขากลับรู้จักทะเล? นางคิดว่าคงเป็นเพราะฟังมาจากพ่อค้าแม่ค้าพูดกัน

นางเข้าใจความหมายของชายคนนี้ในการซื้อเปลือกหอยทันที “เมื่อกลับไปบ้าน ท่านสามารถเอาเปลือกหอยไปอวดเด็ก ๆ แล้วบอกพวกเขาว่าทะเลคืออะไร โลกนี้กว้างใหญ่นัก เมื่อพวกเขาโตขึ้นพวกเขาก็จะสามารถออกไปดูด้วยตาของตัวเองได้”

เหยาซูก็คิดเช่นนั้น

นางเดินไปพลางบ่นอุบ “ท่านซื้อของเล่นของเด็ก ๆ มาไม่น้อย พวกเราควรไปร้านขายเสื้อผ้าเป็นอันดับแรกก่อน อีกอย่างอากาศเริ่มอุ่นขึ้นแล้ว เสื้อผ้าในฤดูใบไม้ผลิก็ควรเตรียมให้พร้อม…”

ทั้งสองคนค่อย ๆ เดินห่างไปและหายไปอย่างรวดเร็วที่ปลายทางของฝั่งตะวันออก

เหยาซูพาหลินเหรามายังทางทิศเหนือที่นางชื่นชอบ

ทางทิศเหนือมีผู้คนมากที่สุด ทุกวันนี้เมื่อมาถึงตลาดใหญ่ในเมืองชิงถง พ่อค้าแม่ค้าจากเหนือจรดใต้จะมารวมตัวกันในที่แห่งนี้ พ่อค้าจากดินแดนทางเหนือจะขายขนสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนม พ่อค้าที่อยู่ทางใต้จะนำผ้าไหมและใบชาไปยังดินแดนทางตอนเหนือ ส่วนสินค้าจากทะเลเหนือของทะเลเทียนหนานสามารถหาซื้อได้ที่ตลาดเล็ก ๆ แห่งนี้

เมื่อมาถึงที่หมาย เหยาซูก็เดินมายังแผงลอยอย่างคุ้นเคยก่อนจะเดินไปหาเถ้าแก่เนี้ยที่ขายเสื้อผ้าด้วยรอยยิ้ม “เถ้าแก่เนี้ยเซวีย ช่วงนี้กิจการเป็นอย่างไรบ้าง?”

เถ้าแก่เนี้ยเซวียอายุราวสามสิบต้น ๆ ผิวของนางที่เดินทางขึ้นเหนือจรดใต้เผยให้เห็นเป็นสีข้าวสาลีที่แข็งแรง ประกอบกับรอยยิ้มที่ร่าเริงทำให้ทุกคนรู้สึกประทับใจ

เมื่อนางเห็นเหยาซูก็กล่าวด้วยความประหลาดใจ “คุณหนูเหยา! ข้านึกว่าวันนี้ท่านจะไม่มาเสียแล้ว….”

แผงขายของของเถ้าแก่เนี้ยเซวียเต็มไปด้วยเสื้อผ้าสำเร็จรูป มีทั้งของชายและหญิง ทว่ารูปแบบก็คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างทางใต้และทางเหนือ

แผงลอยเล็ก ๆ แค่นี้ก็มีเสื้อผ้าของผู้ชายคนเดียวถึงสิบแบบ อีกทั้งยังงามกว่าเสื้อผ้าปกติอยู่มาก

เหยาซูชี้ไปที่หลินเหราด้านข้างแล้วแนะนำเถ้าแก่เนี้ยเซวีย ว่า “นี่คือสามีของข้า หลินเหรา วันนี้มาในเมืองเพื่อเลือกซื้อเสื้อผ้าให้เขาสักสองชุด”

เมื่อครู่เถ้าแก่เนี้ยเซวียยุ่งอยู่ตลอด หากไม่ใช่เพราะเหยาซูเอ่ยเรียกนาง นางคงไม่เงยหน้าขึ้น แล้วเมื่อตอนนี้เหยาซูได้แนะนำคนที่อยู่ด้านข้าง นางจึงได้สังเกตเห็นชายหนุ่มสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างกายคุณหนูใหญ่

เมื่อเห็นหลินเหราแวบแรก นางตกใจพลางคิดว่าเหตุใดบุรุษผู้นี้ดูคุ้นตายิ่งนัก

ตามหลักแล้วหลินเหราเป็นคนที่ให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่งและหล่อเหลามาก ตราบใดที่นางเคยเจอมาก่อนนางย่อมจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน

ทว่านางมั่นใจว่านางไม่เคยพบเห็นเขามาก่อนแต่กลับเกิดความคุ้นเคยที่ไม่อาจลบเลือนไปยังวนเวียนอยู่ในหัวใจ ทำให้นางใส่ใจชายหนุ่มคนนี้มาก

หลินเหราพยักหน้าให้กับเถ้าแก่เนี้ยเซวีย

เหยาซูรู้ว่าหลินเหรามีนิสัยเย็นชา พยักหน้าให้กับคนแปลกหน้าก็ถือว่าสุภาพแล้ว นางจึงไม่ได้พูดสิ่งใด

“ข้าก็กำลังคิดอยู่ว่าบุรุษประเภทใดคู่ควรกับคุณหนูเหยา” เถ้าแก่เนี้ยเซวียระงับความสงสัยในใจแล้วยิ้มขึ้น “ตอนนี้ข้าได้พบกับคุณชายหลินแล้ว ถึงได้รู้ว่าคู่ของคุณหนูเหยาช่างเป็นคู่ที่สวรรค์สร้างขึ้นมาจริงเชียว! ดูจากรูปลักษณ์และอารมณ์แล้วไม่แปลกเลยว่าเหตุใดลูกทั้งสามคนของท่านจึงเกิดมาหน้าตาราวกับเทพบุตรเทพธิดา!”

คนที่ทำการค้ายอมเป็นคนพูดเก่ง ตอนที่เถ้าแก่เนี้ยเซวียชื่นชมคนอื่นมักจะทำให้คนรู้สึกว่านางพูดออกมาจากใจจริง

เหยาซูเป็นหญิงงามในสายตาของทุกคนในยุคปัจจุบันและถูกชมเชยมาตั้งแต่เด็ก ร่างกายนี้คล้ายคลึงกับรูปร่างหน้าตาของนางก่อนหน้านี้ทำให้นางย่อมรู้ตัวดี

การชมนางนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนัก ทว่าเมื่อคนรอบข้างพูดถึงลูกทั้งสามคนของนางเหยาซูก็ดีใจขึ้นมาทันที

“เถ้าแก่เนี้ยเซวีย พูดได้ดีจริง ๆ” นางยิ้มและกล่าวว่า “ท่านปฏิบัติต่อผู้คนด้วยความจริงใจ เสื้อผ้าที่ขายก็ดูดีและทนทาน ไม่แปลกใจที่กิจการของท่านจะดีเช่นนี้!”

เถ้าแก่เนี้ยเซวียโบกมือ “ที่ไหนกัน ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะลูกค้าเก่าอย่างพวกท่านที่คอยดูแลข้าหรอกหรือ หลายปีมานี้พวกเราทำการค้าและเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความซื่อสัตย์ สุจริต ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความจริงใจ สหายย่อมช่วยเหลือกัน!”

เหยาซูชอบคุยกับคนตรงไปตรงมาอย่างเถ้าแก่เนี้ยเซวียมาก มองปราดเดียวก็รู้ว่านางเป็นคนใจกว้างและเข้มแข็ง เป็นประเภทที่เหยาซูชื่นชม

สตรีทั้งสองพูดคุยกันไม่หยุดหย่อน ราวกับมีคําพูดนับไม่ถ้วนที่สามารถเอื้อนเอ่ยออกมา หลินเหรายังคงยืนอยู่ข้าง ๆ เพราะเถ้าแก่เนี้ยเซวียเป็นสตรีเขาจึงไม่สามารถจับจ้องได้ตลอดเวลา จึงได้แต่มุ่งความสนใจไปที่เสื้อผ้าที่อยู่บนแผง

“ไขทามือที่คุณหนูเหยามอบให้ข้าครั้งก่อนใช้ดีจริง ๆ! ต้องขอบคุณไขทามือกล่องเล็ก ๆ นั้นทำให้มือข้าไม่แตกในฤดูหนาว อีกทั้งยังนุ่มเนียนมากยิ่งขึ้น”

เถ้าแก่เนี้ยเซวียยื่นมือทั้งสองข้างไปตรงหน้าเหยาซูเพื่อให้นางมองดู เหยาซูยิ้มและกล่าวว่า “ท่านเดินทางจากเหนือจรดใต้ สมควรดูแลตัวเองให้ดี!”

ตอนแรกเถ้าแก่เนี้ยเซวียก็แค่ทำการค้าเท่านั้น นางเองก็เคยชินกับการพูดคุยกับลูกค้าสองสามประโยค ทว่าหลายครั้งที่นางมายังเมืองชิงถง นางก็ได้พบกับเหยาซู นางชื่นชอบคุณหนูเหยาผู้นี้มาก ทั้งงดงามและอ่อนโยน ทุกครั้งที่ทั้งสองคนพบกันพวกนางมักจะสนทนาไม่รู้จบ

นางมองไปที่มืออันประณีตของเหยาซู นิ้วมือของนางเรียวยาวและขาวเนียน หลังมือของนางเรียบเนียนและนุ่มละมุน นางอดที่จะกล่าวด้วยความอิจฉาไม่ได้ว่า “สุดท้ายแล้วมือของท่านก็ได้รับการดูแลอย่างดี ไม่ว่าสตรีผู้ใดมองมือเรียวยาวคู่นี้ก็ต้องตกตะลึงเช่นกัน!”

แม้ว่าหลินเหรากำลังดูเสื้อผ้าอยู่แต่จิตใจของเขายังคงจดจ่ออยู่กับเหยาซู เมื่อได้ยินเถ้าแก่เนี้ยเซวียชื่นชมมือของนาง เขาก็เงยหน้ามองเหยาซูอย่างรวดเร็ว ก่อนจะก้มหน้ามองเสื้อผ้าดังเดิม

ในใจพลางคิดว่า ‘มือของอาซู วันหน้าข้าจะไม่ให้มือของนางสัมผัสน้ำอีก’

เหยาซูเอ่ยหยอกล้อเถ้าแก่เนี้ยเซวีย “ข้ายังอิจฉาท่านเช่นกัน! ในแต่ละเดือนได้เดินทางไปยังเมืองใหญ่ ๆ เจ็ดแปดเมือง ได้เห็นสิ่งที่แปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา”

แม้ว่าราชวงศ์เหยียนจะมีข้อจำกัดเกี่ยวกับสตรีไม่มาก ทว่าสตรีที่ออกเรือนแล้วส่วนใหญ่จะถูกจำกัดให้อยู่เพียงแต่ในบ้าน น้อยคนนักที่จะออกไปทำงานนอกบ้าน

เถ้าแก่เนี้ยเซวียเป็นสตรีแต่กลับออกไปท่องข้างนอกเพียงลำพัง แน่นอนว่าต้องมีเรื่องราวถูกกล่าวถึงมากมาย ตลอดทางก็ดึงดูดสายตาที่แปลกประหลาดไปไม่น้อย

เมื่อนางเห็นว่าเหยาซูกล่าวเช่นนั้นนางก็อดที่จะทอดถอนใจไม่ได้ “ข้าขอพูดตามตรง ในขณะที่ท่านอิจฉาข้าที่เป็นอิสรเสรี แล้วข้าจะไม่อิจฉาชีวิตอันสงบสุขของท่านได้อย่างไรเล่า”

เหยาซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ยขึ้น “พี่เซวีย ข้ามีความสัมพันธ์อันดีกับท่านและเชื่อมั่นในนิสัยของท่านด้วย ถึงอย่างไรเราก็คบหากันมาได้ไม่นาน ข้าจึงไม่สะดวกที่จะไต่ถามเรื่องราวชีวิตของท่าน เพียงแต่จากที่ได้ฟังดูเหมือนว่าท่านต้องการหาที่ปักหลัก ไม่ทราบว่าท่านสนใจมาทำการค้ากับข้าที่เมืองชิงถงหรือไม่?”

เถ้าแก่เนี้ยเซวียได้ยินดังนั้นก็อึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นพึมพำเบา ๆ “ปักหลักทำการค้าในเมืองชิงถงงั้นหรือ?”

…………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

กะจะให้เถ้าแก่เนี้ยเซวียเป็นตัวแทนขายครีมทามือหรือเปล่าคะ ก็ดีนะคะจะได้ขยายกิจการไปในตัว

ไหหม่า(海馬)