บทที่ 114 เฮ่ยเหลียนเวยเวยปลอมตัว

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

วันรุ่งขึ้น มีลมพัดมาอย่างแผ่วเบาในตอนเช้าตรู่

เมืองอู่ซิว เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกตั้งอยู่บนยอดเขาชางซาน และเป็นเจ้าภาพจัดงานประลองเจ้ายุทธ์ที่ใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน

มีรายงานว่าเจ้ายุทธ์ที่เก่งที่สุดของโลกต่างก็มารวมตัวอยู่ที่นี่

แล้วยังร่ำลือกันว่าในเมืองแห่งนี้ คุณจะไม่รู้เลยว่าตัวเองจะพบเจอกับใคร บางที แม้แต่หญิงชราที่ไม่โดดเด่นอะไร ก็ยังสามารถบอกได้ว่าอาวุธชิ้นนั้นดีหรือไม่ดีอย่างไร

สำหรับเจ้ายุทธ์ สถานที่แห่งนี้คือสวรรค์ที่อยู่ท่ามกลางสรวงสวรรค์อย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม แม้แต่ในสรวงสวรรค์แห่งนี้ ก็ยังมีบ่อนพนันแห่งหนึ่งด้วย

“วางเดิมพันของเจ้าไว้ แล้วเอามือออกไป วางเดิมพันของเจ้าไว้ แล้วเอามือออก”

บ่อนพนันแห่งนี้พลุกพล่านไปด้วยเสียงอึกทึกครึกโครมและดูเร่งรีบ หมอกจางๆ สีขาวและฝุ่นที่ไม่ได้เห็นแสงสว่างมาเป็นเวลานานนั้นล่องลอยอยู่ทุกหนแห่ง

ผู้คนมากหน้าหลายตาจากภูมิหลังและชนชั้นที่แตกต่างกัน บางคนก็ยืน บางคนก็นั่ง ดวงตาของพวกเขาจับจ้องไปทางถ้วยที่คว่ำอยู่บนโต๊ะ พร้อมกับตะโกนร้อง “ต่ำ ต่ำ ต่ำ [1]”

มุมปากของชายคนที่จับถ้วยใบนั้นยกขึ้น พร้อมกับเอื้อมมือไปยกฝาครอบของมันออก

“บัดซบ ทำไมถึงออกแต้มสูงอีกแล้วเล่า” ชายที่สวมชุดผ้าไหมสีขาวคนหนึ่งปาดเหงื่อบนหน้าผากของตนเอง ไม่ว่าใครต่างก็ดูออกว่าเขากำลังอารมณ์เสียเพราะแพ้พนัน ขณะที่เขากำเงินในมือพร้อมกับตะโกน “ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าจะโชคร้ายเช่นนี้ เดิมพันลงแต้มต่ำอีกรอบ”

คนที่กำลังโกรธเคืองจากการแพ้พนันนั้นไม่ใช่ใครอื่น นอกจากอันธพาลตัวน้อยที่มีชื่อเสียงของเมืองอู่ซิว เขาอายุเพียง 16 หรือ 17 ปีเท่านั้น ตรงแก้มของเขามีรอยบุ๋มเล็กๆ ของลักยิ้มสองด้าน หากเป็นโลกสมัยใหม่ เขาก็คงจะถูกมองว่าเป็นเพียงเด็กมัธยมปลายเท่านั้น

เมื่อเขาพูดจบ ก็เกิดเสียงดังปังขึ้น ในขณะที่เขากำลังเอื้อมมือไปวางเงินลงบนโต๊ะพนันที่เขียนคำว่า ‘ต่ำ’

จู่ๆ ก็มีพัดกระดาษอันหนึ่งเข้ามาขวางมือของเขาไว้

“พี่ชาย ท่านแน่ใจหรือว่าท่านอยากจะวางเดิมพันไว้ที่ ‘แต้มต่ำ’ เช่นนี้”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น อันธพาลตัวน้อยก็หันหน้ามามอง และเห็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นต่อหน้า ซึ่งเขาอาจจะมาจากภาพวาดก็เป็นได้ หน้าตาของเขางดงามและสดใส ใบหน้าที่หล่อเหลาและดวงตาที่เฉียบแหลมมองขึ้นเล็กน้อย แสดงออกถึงความร้ายกาจ

“ทำไมเจ้าต้องสนใจด้วยเล่าว่าข้าจะลงพนันอะไร” คนที่กำลังอารมณ์เสียจากการแพ้พนันรู้สึกหงุดหงิด และเขาก็ยิ่งไม่ชอบใจ เมื่อเห็นใบหน้าอันหล่อเหลา ใจดี และอ่อนโยนของอีกฝ่ายเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงพูดจาก้าวร้าวออกไปในทันที

แต่เขาคาดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายคนนั้นเพียงมองดูเขาด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับเอื้อมมือออกไปหยิบพัดของตนเองขึ้นมา หลังจากนั้น เขาก็หมุนข้อมือก่อนจะวางเงินในมือไว้บนสัญลักษณ์ ‘สูง’ ต่อหน้าของคนๆ นั้น

อันธพาลตัวน้อยที่หัวเสียจากการแพ้พนันขมวดคิ้ว ขณะหันหน้าไปมองอีกฝ่าย

“วางเดิมพันแล้วเอามือออก วางเดิมพันแล้วเอามือออก” เสียงของเจ้ามือเขย่าถ้วยลูกเต๋านั้นน่าฟังเป็นพิเศษ แขนเสื้อยาวของเขาโบกไปมา ถ้วยลูกเต๋าก็ถูกเขย่าจนตาพร่า

ในที่สุด ก็เกิดเสียงดังขึ้น

แล้วมือนั้นก็เปิดฝาครอบถ้วยออก

“ต่ำ ต่ำ ต่ำ ช่วยป๊ะป๋าคนนี้หน่อยสิ ออกต่ำเถอะ” เมื่อใบหน้าอันหล่อเหลาของอันธพาลตัวน้อยพูดคำว่า ‘ป๊ะป๋าคนนี้’ ก็ทำให้คนอื่นรู้สึกเอ็นดูอย่างประหลาด

“ห้า ห้า สี่ แต้มสูง” เจ้ามือรีบประกาศแต้มอย่างรวดเร็ว แล้วเก็บเงินของเขาไป ก่อนจะแบ่งครึ่งและผลักเงินส่วนหนึ่งให้กับชายหนุ่มที่งดงามราวกับหินหยก

ในขณะที่ชายหนุ่มคนนั้นหยิบเงินขึ้นมา รอยยิ้มตรงมุมปากของเขาก็เผยให้เห็นอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น

หลังจากนั้น เมื่อใดก็ตามที่อันธพาลตัวน้อยวางพนันที่ ‘ต่ำ’ อีกฝ่ายก็จะลงเดิมพันที่ ‘สูง’ และเมื่อใดที่เขาลง ‘สูง’ อีกคนก็จะลง ‘ต่ำ’

ไม่ว่าอย่างไร เขาก็จะวางเดิมพันตรงกันข้ามกับอันธพาลตัวน้อยที่อารมณ์เสียจากการแพ้พนันเสมอ

หลังจากผ่านไปราวสิบสองตา ชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์ก็มีเงินเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เงินของอันธพาลตัวน้อยนั้นร่อยหรอลงเรื่อยๆ

ในขณะนั้นเอง อันธพาลตัวน้อยก็เริ่มตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง และในที่สุด เขาก็ไม่ได้วางเดิมพันอีกต่อไป ก่อนจะรอคอยให้ชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์คนนั้นลงเงินเดิมพันก่อน

และทุกตาหลังจากนั้น เขาก็ชนะได้เพราะ ‘เขา’

ใบหน้าอันหล่อเหลาของอันธพาลตัวน้อยคนนั้นก็ค่อยๆ เปลี่ยนจากความหงุดหงิดเป็นชื่นชม และในที่สุด ความรู้สึกของเขาก็เอ่อล้น จนต้องอ้าปากอุทานออกมา

ชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์ราวกับว่าจะบรรลุเป้าหมายของตนเองแล้ว เขาเก็บเงินบนโต๊ะ แล้วคลี่พัดกระดาษออก เพื่อเตรียมตัวจะจากไป

และอันธพาลตัวน้อยคนนั้นก็รีบเดินตามไปทันที

นอกจากเขาแล้ว เหล่าองครักษ์ที่ยืนอยู่ด้านหลัง ก็เหลือบมองด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะรีบวิ่งตามไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน

ชายหนุ่มคนนั้นทิ้งพัดลงข้างขาของตน และหาวอย่างเกียจคร้าน ราวกับเขาสังเกตเห็นว่ามีคนกำลังตามอยู่ด้านหลัง แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา เขาเพียงแค่เผยรอยยิ้มที่ดูมีไหวพริบเล็กน้อย

พออันธพาลตัวน้อยคนนั้นเห็นว่าอีกฝ่ายเกือบจะหายไปแล้ว เขาก็ตะโกนออกไปเสียงดัง “นี่”

ริมฝีปากบางของชายหนุ่มคนนั้นก็โค้งขึ้น ก่อนจะหันกลับมา “อะไรหรือ”

“แค่ก” อันธพาลตัวน้อยวางมือไว้ข้างริมฝีปาก และแสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะลดเสียงลงต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าตอนไหนควรลง ‘สูง’ และตอนไหนควรลง ‘ต่ำ’ หรือ”

คุณชายคนนั้นยิ้ม ท่าทีของเขาช่างดูงดงาม “จากนักพนันสิบคน มีเก้าคนที่เป็นคนโกง เจ้าเคยได้ยินคำนี้หรือไม่”

“แน่นอนว่าข้าเคยได้ยิน” เด็กชายที่หล่อเหลาส่งเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา จากนั้นก็เหลือบมองคุณชายคนนั้นอีกครั้ง และพูดอย่างเย่อหยิ่งว่า “เพียงแต่ข้าไม่รู้ว่าจะต้องใช้คำนี้อย่างไรก็เท่านั้น เพราะฉะนั้น ช่างมันเถอะ”

เขาพูดสิ่งที่ตนเองไม่รู้ออกมาอย่างมั่นใจเช่นนั้น มันจะเกินไปแล้ว

คุณชายผู้สูงศักดิ์คนนั้นแทบจะลื่นล้มขณะที่ริมฝีปากของเขากระตุก

“นี่” เมื่อเด็กชายรูปงามคนนั้นพูดขึ้นอีกครั้ง ท่าทีของเขาก็ดูงดงามและละเอียดอ่อน “หากเจ้าบอกทุกอย่างที่เจ้ารู้ให้กับข้า นายน้อยผู้นี้ก็จะมอบเงินจำนวนมากให้กับเจ้าเอง เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า”

เขาต้องเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ให้ได้ หากเป็นเช่นนั้น ตอนที่เขาพบกับ ‘คนๆ นั้น’ อีกครั้ง เขาจะได้ไม่พ่ายแพ้ให้อีกฝ่ายทุกตาอีก

ไม่มีใครรู้ว่าขณะที่ชายหนุ่มหน้าตาดีคนนั้นก้มหน้าลง ดวงตาของเขาก็ฉายแววตาอาฆาตออกมา ซึ่งคนในวัยเดียวกับเขาไม่ควรจะมีสายตาเช่นนั้น

“ข้าไม่ต้องการเงิน” ชายหนุ่มสูงศักดิ์คนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา “แต่ข้าจะช่วยสอนเจ้าโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเองว่า ‘จากนักพนันสิบคน มีเก้าคนที่เป็นคนโกง’ นั้นมีความหมายว่าอย่างไร”

“โอ๊ะ” คิ้วของเด็กชายหน้าตาดีคนนั้นเลิกขึ้น ในขณะที่หัวเราะออกมา “น่าสนใจจริงๆ แล้วเจ้าวางแผนว่าจะสอนข้าอย่างไรหรือ”

ชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์ก้าวเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ในขณะที่ริมฝีปากบางของเขาเผยให้เห็นอะไรบางอย่าง “หลังจากนี้สองวัน คุณชายอู๋ซวงกำลังจะจัดการแข่งขันเล็กๆ ขึ้นที่นี่ เพื่อตามหาเจ้าของผู้เหมาะสมที่จะครอบครองอาวุธของเขา และตอนนี้ ผู้คนมากมายต่างก็มั่นใจว่าเฮ่อเหลียนเจียวเอ๋อร์จะต้องชนะอย่างแน่นอน”

“เฮ่อเหลียนเจียวเอ๋อร์เช่นนั้นหรือ” รูม่านตาของเด็กชายรูปงามหดลงอย่างลืมตัว “นางคือหญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงที่ถูกกำหนดไว้ให้เป็นพระชายาขององค์ชายสามเช่นนั้นหรือ”

ชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์เลิกคิ้ว และตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ใช่ นางนั่นแหละ”

“หลังจากนั้นแล้วอย่างไรหรือ” เด็กชายรูปงามค่อยๆ อ้าปาก “หรือว่ามีคนอื่นที่เก่งกาจยิ่งกว่านางอีกเช่นนั้นหรือ”

ริมฝีปากบางของชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์เปิดออก “แน่นอนว่ามีอยู่แล้ว”

“ใครหรือ” เด็กน้อยผู้หล่อเหลาหรี่ตาลง

ชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์ยิ้มขณะที่พูดขึ้น “เฮ่อเหลียนเวยเวย”

“คนไร้ค่าคนนั้นน่ะหรือ” เด็กชายรูปงามขมวดคิ้วอย่างชั่งใจ

ชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์ลูบสันจมูกของตนเอง เฮ้อ ไม่คิดเลยว่าชื่อเสียงของนางจะแพร่สะพัดมาไกลขนาดนี้ แม้แต่ลูกชายของเจ้าเมืองที่อยู่ห่างไกลอย่างเมืองอู่ซิวยังรู้จักนางเลยทีเดียว

แน่นอนว่าชายหนุ่มสูงศักดิ์ผู้สง่างามคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากคนที่ใช้เงินทั้งหมดที่ตนเองมี เพื่อเดินทางไปยังเมืองอู่ซิวอย่างรวดเร็ว เขาคือเฮ่อเหลียนเวยเวยนั่นเอง

หญิงสาวยืนอยู่ตรงนั้นอย่างงดงามและโดดเด่น

แม้ว่าการแต่งกายของนางจะไม่ใช่ผู้หญิง แต่มันก็ทำให้ผู้คนตกตะลึงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ รูปลักษณ์ของนางนั้นช่างดูสูงส่งราวกับหยก เมื่อนางเดินผ่านฝูงชน นางก็สามารถดึงดูดความสนใจของหญิงสาวได้ไม่น้อยเลย

“ทำไมเจ้าถึงเงียบไปเล่า” เด็กชายรูปงามเลิกคิ้วขึ้นด้วยความงุนงง

เฮ่อเหลียนเวยเวยกระแอมไอเบาๆ หนึ่งครั้งก่อนเอ่ยตอบ “เพราะว่าทุกคนต่างก็เข้าใจผิดว่าเฮ่อเหลียนเวยเวยนั้นเป็นคนไร้ค่าอย่างไรเล่า และเมื่อถึงเวลานั้น พวกเราจะทำเงินได้มากโขเลยทีเดียว…”

………………………………………………………………………..

[1] ผู้เล่นกำลังเล่นการพนันจีนที่เป็นที่นิยม เรียกว่า ‘ไฮโล’ และผู้เล่นต้องคาดเดาว่าผลรวมของลูกเต๋าทั้งสามลูกนั้นเป็นแต้มต่ำ ได้แก่ 4-10 หรือ แต้มรวมสูง ได้แก่ 11-17 หากเป็นสามเท่าจะไม่นับ