ตอนที่ 9-2 พี่น้อง
เมื่อคิดว่าเว่ยหยางสนใจฟังในสิ่งที่กำลังกล่าวฮัวเหม่ยจึงกล่าวต่อไปว่า
“คุณหนูใหญ่เป็นเหมือนนางฟ้าจากสวรรค์ นางมิเพียงเป็นผู้ที่มีจิตใจดีและมีเมตตาเท่านั้น
แต่ทักษะยังยอดเยี่ยมอีกด้วย นางเก่งทุกอย่างเลย
ก่อนหน้านี้ คุณหนูอื่น ๆ มิได้อ่านหนังสือและบทกวี
แต่คุณหนูใหญ่ได้ไปหาท่านย่าใหญ่ และบอกกล่าวว่า ถึงแม้จะเป็นผู้หญิงก็ควรส่งเสริมให้มีการศึกษาเล่าเรียน
ด้วยเหตุนี้ ท่านย่าใหญ่จึงเดินทางไปภูเขาหยวน และเชิญอาจารย์หญิงที่มีชื่อเสียงที่สุดกลับมาที่บ้านตระกูลหลี่เป็นการส่วนตัว
การต้อนรับแบบพิเศษเช่นนี้ คงมีเพียงแห่งเดียวในแคว้นต้าหลี่!”
หลี่เว่ยหยางวางมือของนางบนราวบันได ขณะที่จับมันอย่างแน่นหนา รอยยิ้มที่สดใสได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้านั้น
“เป็นความจริงหรือ? พี่ใหญ่มีความสามารถจริงหรือ?”
ทันใดนั้นเสียงหัวเราะคิกคักของเด็กสาวก็ดังมาแต่ไกล
หลี่เว่ยหยางจัองมองไปยังฝั่งตรงข้าม และได้เห็นเด็กสาวที่แต่งกายงดงามสองคนเดินออกมาจากห้องหนังสือ
หนึ่งในนั้นชี้มาที่นาง และเอ่ยถามคำถาม
“เจ้าคือผู้ใด? เหตุใดข้ามิเคยเห็นเจ้ามาก่อนเลย”
เว่ยหยางมิต้องการที่จะพบเจอผู้คนพวกนี้เลย
แต่ดูเหมือนว่า เป็นพวกนางต่างหาก ที่ต้องการจะเดินมาหาเว่ยหยาง
นางยิ้มอย่างเบื่อหน่าย และในใจคิดว่า บางทีประวัติศาสตร์อาจจะซ้ำรอย
“ผู้ที่เอ่ยถามคือคุณหนูห้า ส่วนผู้ที่ยืนอยู่ข้างนางคือ คุณหนูสี่” ฮัวเหม่ยกระซิบเตือน
ภายในพริบตาคุณหนูห้า ผู้ที่มีชื่อว่าหลี่ฉางซีได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้านางแล้ว
ฉางซีสวมชุดแขนสั้นสีฟ้าอ่อน บนเส้นผมนั้น มีปิ่นปักผมอันเล็กที่งดงามปักอยู่
และบริเวณรอบคอมีสร้อยคอทองคำสีเหลืองอร่ามที่ประดับด้วยอัญมณีหลากสี
นางมีใบหน้ารูปไข่ ดวงตาเอียงขึ้นเล็กน้อย และระหว่างคิ้วของนางมีจุดเล็ก ๆ
แก้มอิ่มเป็นสีชมพูระเรื่อ และในเวลาหัวเราะปากนั้นจะแยกออกจากกันเพียงเล็กน้อย
เผยให้เห็นฟันขาวเกลี้ยง แค่มองเพียงแวบแรก ยังมีความรู้สึกชื่นชอบนาง
ด้านข้างคุณหนูหัามีเด็กสาวหน้าตาคล้ายกันอีกผู้หนึ่ง
แม้ว่านางจะสวมชุดสีชมพูอมแดง และมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับหลี่ฉางซี แต่ดูเหมือนว่า จะมีความอ่อนโยนกว่ามาก
นางมิใช่ผู้อื่น นอกจากคุณหนูสี่,ชื่อว่า หลี่ฉางเซี่ยว
“น้องสี่ น้องห้า” เว่ยหยางทักทาย
หลี่เว่ยหยางยิ้มดูไร้เดียงสา แต่ยังมีสีหน้าแสดงถึงความขี้อายอยู่
แสงแดดยามบ่ายสาดส่องกระทบมายังใบหน้าที่เล็กเรียว ทำให้ความงามของนางเปล่งประกายสดใส
คุณหนูสี่, หลี่ฉางเซี่ยวพยักหน้าและยิ้มให้เว่ยหยางอย่างเป็นมิตร
ในทางกลับกัน หลี่ฉางซีหัวเราะเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่แสดงอารมณ์เยาะเย้ย และดูมีท่าทีหยิ่งยโสมิเบา
“เจ้ากลับมาได้มินานเท่าใด เหตุใดจึงเรียกพวกเราเช่นนั้น”
หลี่เว่ยหยางกระพริบตา และกล่าวว่า
“ข้าเรียกเจ้าว่า น้องสาวมิได้หรือ เช่นนั้นจะให้ข้าเรียกเจ้าว่า พี่สาวหรืออย่างไร?”
หลี่ฉางซีมิรู้ว่าจะโต้ตอบกลับอย่างไรดี คิ้วของนางจึงขมวดขึ้นทันทีด้วยความโกรธ
ขณะที่มองไปยังหลี่เว่ยหยางจากหัวจรดเท้า นางสังเกตเห็นว่า เว่ยหยาง
นับได้ว่า เป็นผู้ที่ค่อนข้างงดงาม มีผิวพรรณที่ละเอียดอ่อน ผมดำขลับเหมือนหมึก และคิ้วที่ได้รูปสมบูรณ์แบบ
เมื่อเทียบกับภาพลักษณ์ที่ฉางซีเคยคิดเอาไว้ในใจ มันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ทันใดนั้น นางจึงรู้สึกว่า มีความทุกข์เกิดขึ้นในหัวใจ
“ความหมายเบื้องหลังคำกล่าวของเจ้าคืออันใด? เจ้าต้องการที่จะมีปัญหากับข้าหรือ?”
“ผู้ที่กำลังหาเรื่องคือเจ้า!” ในดวงตาสีดำมืดของเว่ยหยางมีประกายของความเย็นชาเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม มันเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา และจากนั้นได้จางหายไปอย่างรวดเร็ว จนมิสามารถสังเกตเห็นได้
ในตอนนี้ บนใบหน้านั้นยังคงมีรอยยิ้มอยู่
“น้องห้า ข้าต้องรีบไปคารวะท่านพ่อ ได้โปรดอย่าขวางทางข้า”
เว่ยหยางอยู่ในฐานะคุณหนูสาม จึงเรียกนางว่า ‘น้องห้า’
หลี่ฉางซีคิดว่า หลี่เว่ยหยางเป็นผู้ที่ขี้ขลาด นางจึงยิ่งได้ใจ
“เจ้ามันเป็นตัวซวย ที่เกิดในเดือนกุมภาพันธ์! เจ้ากล้ากล่าวกับข้าเช่นนั้นได้อย่างไร”
คุณหนูสี่,คุณหนูห้า พวกนางทุกคนล้วนแล้วเเต่้เป็นลูกเมียน้อยเหมือนกับ
หลี่เว่ยหยาง
ในชาติที่แล้ว หลี่เว่ยหยางมิเข้าใจว่า เหตุใดหลี่ฉางซีจึงพยายามที่จะหาเรื่ิองตนเองอยู่เสมอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางมิเคยทำอันใดฉางซีเลย
อย่างไรก็ตาม ในที่สุดก็เข้าใจว่า เป็นเพราะสาเหตุใด
ใบหน้าของหลี่เว่ยหยาง มิมีความรู้สึกโกรธเคืองเลยแม้แต้น้อย มีเพียงรอยยิ้มที่เย็นชาเท่านั้น
“ถูกตัอง ข้าเกิดในเดือนกุมภาพันธ์ แล้วมันเกี่ยวอันใดกับเจ้าด้วย”
เมื่อเห็นว่าหลี่เหว่ยหยางมิพอใจ
หลี่ฉางซีก็ยิ่งเกิดความหงุดหงิด
นางกำลังจะอ้าปาก เพื่อกล่าวโต้ตอบกลับไป แต่ทันใดนั้นเสียงที่อ่อนโยนได้ดังขึ้น
“ฉางซี พี่สามของเจ้าเพิ่งจะกลับมา เจ้าจะกล่าววาจาหยาบคายเช่นนี้ได้อย่างไร”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ หลี่เว่ยหยางรู้สึกได้ถึงสายลมเย็น ๆ ปะทะมาที่แผ่นหลังของนาง เสียงนี้แม้จะผ่านไปร้อยปีก็ยังคงมิสามารถลืมมันได้
หลี่จางเล่อ!
เว่ยหยางค่อย ๆ หันกลับมา ดวงตาคู่นั้น ได้พบกับความงามที่มิมีผู้ใดเสมอเหมือน ความสง่างามนั้นย่างกรายใกล้เข้ามาแล้ว…