ตอนที่ 14 การทดสอบของสำนัก 2

ทันใดนั้น ผู้อาวุโสเชียนปรากฏขึ้นข้างหยางเย่พร้อมสะบัดแขนเสื้อ ทำให้เกิดปราณลมขึ้นและระเบิดปราณดาบของหลิวชิงอวี่กลางอากาศ

“หลิวชิงอวี่ ด้วยกฎของสำนัก มีเพียงลานประลองเป็นตายที่สามารถโจมตีสมาชิกในสำนักได้ เจ้าลืมแล้วงั้นหรือ?” ผู้อาวุโชเชียนมองไปยังหลิวชิงอวี่ขณะกล่าวด้วยโทสะ หยางเย่ครอบครองพลังปราณล้ำลึกห้าธาตุ และไม่ควรมาจบชีวิต ณ สถานที่เช่นนี้

เมื่อเขาเห็นผู้อาวุโสเชียน หลิวชิงอวี่มองกลับไปพร้อมสยบจิตสังหารไว้ในใจ เขาประกบมือคารวะผู้อาวุโสเชียน “ผู้อาวุโสเชียน หยางเย่ลบหลู่ตระกูลข้า ดังนั้นข้าแค่ต้องการสั่งสอนเขาเพียงเล็กน้อยไม่ได้มีประสงค์อื่น!” ถึงแม้เขาค่อนข้างโกรธชายชราผู้นี้ แต่ยังไม่แสดงออกไป เพราะเขายังเป็นศิษย์นอกสำนักและอยู่ในโอวาทของผู้อาวุโสนอกสำนักอยู่

ผู้อาวุโสเชียนตะคอกอย่างเย็นชา แต่เขาไม่อาจลงโทษหลิวชิงอวี่ แม้หลิวชิงอวี่จะเป็นเพียงศิษย์นอก แต่พรสวรรค์ของเขาอยู่อันดับต้นของสำนัก ยิ่งกว่านั้นผู้อาวุโสในยังจับตามองเขาอยู่ ดังนั้นผู้อาวุโสเชียนไม่อาจลงโทษหลิวชิงอวี่ด้วยเรื่องเล็กน้อย

“เมื่อเขาไม่เป็นอะไรแล้ว ชิงอวี่คงต้องขอลา!” หลิวชิงอวี่ประกบหมัดลาผู้อาวุโสเชียน ก่อนจะหันหลังเดินจากไป

แต่หยางเย่เอ่ยคำขึ้นมา “รอประเดี๋ยว…”

หลิวชิงอวี่หันไปมองหยางเย่ มุมปากเต็มไปด้วยความเกลียดชังขณะกล่าว “อะไร?”

ผู้อาวุโสเชียนขมวดคิ้วดูเหมือนจะพูดบางอย่างก่อนเห็นหยางเย่เดินออกไป หยางเย่ชี้ไปยังหลิวชิงอวี่ “หลิวชิงอวี่ ข้าทราบดีว่าเจ้าต้องการสังหารข้า และข้าจะให้โอกาสเจ้า เราจะสู้กันในลานประลองเป็นตายจากนี้ไปอีกสามเดือน เจ้ากล้าหรือไม่?” เมื่อก้าวเข้าสู่วิถียุทธ์แห่งเต๋าแห่งการต่อสู้ มีเพียงทางเดียวคือฝ่าฟันอุปสรรคและแข็งแกร่งขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เขาที่ไม่ต้องการยอมแพ้อีกต่อไปจึงต้องบังคับตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น!

เมื่อพวกเขาได้ยินหยางเย่กล่าว บรรดาศิษย์รอบข้างอ้าปากค้างจนสามารถกลืนไข่เข้าไปในลำคอได้ แค่ศิษย์ใช้แรงงานท้าศิษย์นอกสู้ก็เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่งแล้ว ตอนนี้ศิษย์แรงงานยังตั้งใจท้าหลิวชิงอวี่ผู้ที่อยู่อันดับยี่สิบเก้า และบรรลุพลังปราณสวรรค์ จากนี้ศิษย์แรงงานผู้นี้จะท้าทายสวรรค์ต่องั้นหรือ?

“ฮ่าฮ่า…” หลังจากหายจากอาการตกใจ หลิวชิงอวี่หัวเราะดังลั่น เมื่อเห็นผู้อาวุโสเชียนตั้งใจจะกล่าวคำ เขาเร่งรีบกล่าวตัดหน้า “ได้สิ ข้าเห็นด้วย พวกเราจะสู้กันในอีกสามเดือนนับจากนี้ ณ ลานประลองเป็นตาย ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวังเมื่อเวลานั้นมาถึง!” เมื่อกล่าวจบเขาหัวเราะดังกึกก้อง จากนั้นรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็วเพราะเกรงว่าผู้อาวุโสเชียนจะห้ามปราม

เมื่อเห็นหลิวชิงอวี่จากไป ผู้อาวุโสเชียนถอนหายใจ “หยางเย่เจ้าเลือดร้อนเกินไปแล้ว เจ้ายังอยู่เพียงระดับหกขั้นปราณมนุษย์ ช่องว่างระหว่างเจ้ากับขั้นปราณสวรรค์นั้นช่างกว้างใหญ่นัก!”

หยางเย่กล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำ “ผู้อาวุโสเชียน ข้าทราบดีว่าตนเองอยู่ในสถานการณ์ลำบากเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ เขาคิดสังหารข้า ผู้อาวุโสเชียนท่านอยู่นี่ยามนี้ แต่ครั้งหน้าท่านจะยังอยู่ไหม? หากผู้อาวุโสไม่อยู่ในภายภาคหน้า และเขาสังหารข้า สำนักจะลงโทษเขาหรือไม่? ไม่ ยามนี้ข้าทำสัญญาประลองกันในอีกสามเดือน เขาจะไม่เข้ามายุ่งกับข้าเป็นเวลาสามเดือน ซึ่งหมายความว่าข้ายังมีโอกาส!”

ผู้อาวุโสเชียนขยับมุมปาก แต่ไม่กล่าวสิ่งใด เหตุใดเขาจะไม่ทราบเรื่องนี้? แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะขั้นปราณสวรรค์ทั้งที่ยังอยู่ระดับหกขั้นปราณมนุษย์ในอีกสามเดือน แม้หยางเย่จะมีพลังปราณห้าธาตุ มันยังเป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุในสามเดือน เพราะเวลาแค่นี้มันช่างน้อยนิด!

หลังจากเงียบกันชั่วขณะ ผู้อาวุโสเชียนตบไหล่หยางเย่ “เสี่ยวหยาง เดิมทีข้าตั้งใจประกาศให้ผู้คนทราบว่าเจ้ามีพลังปราณห้าธาตุ แต่ยามนี้เหมือนไม่จำเป็นแล้ว หากข้าประกาศไป หลิวชิงอวี่คงไม่ปล่อยให้เจ้ามีโอกาส ตอนนี้เจ้าทำได้เพียงฝึกฝนให้หนักเพื่อให้แข็งแกร่งพอประลองกับเขา เข้าใจหรือไม่?”

หยางเย่พยักหน้า หากเป็นในอดีตเขาคงไม่มีโอกาส แต่ยามนี้เขามีตันเถียนน้ำวน หินพลังปราณจากเปาเอ๋อ และยาเม็ดเกราะพลังปราณของบรรดาผู้อาวุโส เขามีความสามารถเพียงพอจะท้าทาย มันไม่ใช่เพียงเพื่ออมารดาและน้องสาว แต่ยังเพื่อตัวเขาเองด้วย

เขาจะมีโอกาสหากกล้าที่จะสู้กับมัน แต่หากไม่ เขาจะไม่มีโอกาสใดทั้งสิ้น!

ดังนั้นเขาพร้อมที่จะยอมรับการประลองที่ลานประลองเป็นตาย และไม่ยอมปล่อยสิ่งนี้หลุดมือไปเป็นแน่!

“เจ้าสามารถบ่มเพาะพลังอย่างสบายใจ ข้าได้ไปยังเมืองทักษิณภิรมณ์เรียบร้อย ทั้งยังตักเตือนพวกตระกูลหลิว พวกมันจะยังไม่สร้างปัญหาให้ครอบครัวเจ้า ยิ่งกว่านั้น น้องเล็กและมารดาเจ้ายังสุขสบายดี พวกเขาคิดถึงเจ้าอย่างยิ่ง!” ผู้อาวุโสเชียนกล่าว

น้องเล็ก ท่านแม่!

เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น สีหน้าอันมั่นคงของหยางเย่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่นุ่มนวล พวกเขาทั้งสองเป็นทั้งความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ เขาสามารถมองข้ามความลำบากและอ่อนล้าได้เพื่อครอบครัว

หลังจากกล่าวลาผู้อาวุโสเชียน หยางเย่รีบเดินไปยังหุบเขาวายุเหมันต์

ยามนี้เขาต้องจำเป็นต้องมีพลังแข็งแกร่งขึ้นโดยด่วน