*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*

———————————————————————————————–

หลังจากสนทนาอย่างยาวนานกับออเรเลีย, หลายๆอย่างก็เห็นด้วย กันหมดแล้ว. พอถึงตอนบ่าย ออเรเลียกับซีซาร์จึงกล่าวลาเย่เทียน. หลังจากส่งแขกเสร็จแล้ว เย่เทียนก็รีบย่างไก่2ตัวให้สาวหมาป่าอย่างรวดเร็ว.

ยิ่งคนรู้เกี่ยวกับสาวหมาป่าน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดี.

เธอจะต้องเป็นอาวุธลับที่แข็งแกร่งที่สุดของเย่เทียน.

“ครืดดดด…”

เย่เทียนผลักประตูหินเข้าไปอีกครั้ง.

“โฮ่ง!”

เสียงเห่าระแวงเบาๆดังขึ้นมา แต่พอเธอจำลมหายใจของเย่เทียนได้ สาวหมาป่าจึงสงบลง.

“หนูน้อย, เจ้าคงหิวมากสินะ!”

เย่เทียนยิ้ม แล้วนั่งยองลงแล้วยื่นไก่ย่างหอมๆให้เธอ.

“หงิง….”

เมื่อเธอได้กลิ่นหอมของไก่ย่าง ความระแวงในสายตาก็หายไปทันทีเป็นความรู้สึกตื่นเต้นแทน. เธอจึงร้องหงิงแล้วโดดไปข้างๆเย่เทียนแล้วก็อ้าปากออก.

แต่ไม่นานเธอก็ดูลังเลแล้วโยกหัวกลับ แล้วเธอก็ยื่นแขนออกไปแล้วค่อยๆจับไก่ย่างขึ้นมา. เธอนั่งคิดอยู่ซักพักหนึ่งแล้วก็ฉีกน่องไก่ออกมาแล้วยื่นให้เย่เทียน.

การกระทำนี้ทำให้เย่เทียนอึ้งไปเลย. แต่เขาก็รู้สึกดีใจมากๆ เขาไม่นึกเลยว่าสาวหมาป่าจะเรียนรู้ได้เร็วขนาดนี้.

เขาทำให้เธอดูเมื่อคืนนี้แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเธอจะเข้าใจเร็วขนาดนี้. และมันก็ดูออกได้ว่าเธอคิดยังไงกับมัน.

“กินสิ!”

เย่เทียนยิ้มแล้วรับน่องไก่มาแล้วเริ่มกิน. ขณะเดียวกันเย่เทียนก็ยื่นมือไปแตะบนหัวเธอ. เธอมองเย่เทียนอย่างระแวงแต่ก็ไม่ปฏิเสธรอบนี้

ค่าความภักดีเพิ่มขึ้นเป็น 50 !

เย่เทียนไม่คิดเลยว่าค่าความภักดีของเธอจะเพิ่มเร็วขนาดนี้.

สาวหมาป่านี้แม้ว่าเธอจะถูกแม่หมาป่าชุบเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก แต่เธอก็ยังเป็นมนุษย์อยู่. ดูเหมือนว่าความฉลาดของเธอนั้นด้อยกว่าคนอื่นๆ แต่อย่างน้อยก็ยังเยอะกว่าสัตว์ทั่วๆไป.

แน่นอนว่าเธอก็สามารถสนิทกับเย่เทียนและไว้ใจเขาได้เร็ว เพราะเย่เทียนเอาชนะเธอในเรื่องความแข็งแกร่งได้เมื่อคืนนี้ และเขาก็ไม่แสดงความเป็นอันตรายต่อเธอด้วย.

ความจริงแล้ว, ถ้าคิดตามพฤติกรรมในฝูงหมาป่าล่ะก็ เธออาจจะคิดว่าเย่เทียนเป็นราชาหมาป่าที่แข็งแกร่งไปแล้วก็ได้.

สาวหมาป่าก็ยังคงกินเหมือนหมาป่าอยู่ดี ไม่ช้าเธอก็กินไก่ย่าง2ตัวหมดไป แถมยังดูไม่อิ่มอีกด้วย.

ด้วยความสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งของเธอ เธอเองก็มีความอยากอาหารเยอะ เหมือนเย่เทียน.

ค่าความภักดีถึง70แล้ว!

หลังจากกินไก่ย่างเสร็จ เย่เทียนเห็นว่าค่าความภักดีของสาวหมาป่าเพิ่มขึ้นมาถึง70เลยทีเดียว, นั่นทำให้เขาแฮปปี้มากๆ.

เย่เทียนค่อยๆลูบหัวเธอ ท่าทางดูสนิทกันมากๆเลย.

แน่นอนว่าสาวหมาป่าเองก็ชอบที่เย่เทียนลูบหัว. เธอค่อยๆเอาหัวเธอไปคลีกับหัวของเย่เทียน และแลบลิ้นออกมาอย่างกับสุนัขแล้วเลียไปที่มือของเขา.

มันทำให้เย่เทียนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี แต่เขาก็ไม่ได้ชักมือกลับไป. จริงๆเขาก็ไม่อยากเก็บสาวหมาป่าไว้เป็นสัตว์เลี้ยงหรอก แต่มันคือกุญแจที่จะพัฒนาความรู้สึกของเธอและเพิ่มความภักดีของเธอให้สูงขึ้น. มันอาจจะทำให้เธอไม่มีความสุขถ้าเขาปล่อยเธอไป.

“วู้ววว…”

พอเย่เทียนมาเล่นด้วย สาวหมาป่าก็ดูจะมีความสุขมากๆ. ตอนแรกเธอกลิ้งไปมากับพื้นแล้วก็โดดใส่เย่เทียน. มือของเธอขูดเบาๆกับหลังของเย่เทียน. เย่เทียนก็รู้สึกจักจี้มาก. สาวหมาป่าคิดว่าเขาเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับเธอจริงๆ ไม่งั้นแล้วเธอจะเล่นกับคนอ่อนแอด้วยแรงเยอะๆไปแบบนั้นได้ยังไง?

“เหม็นโว้ย…..”

แต่ว่าสาวหมาป่านั้นมีขนหนาทั่วทั้งตัวเธอ และเธอก็ยังไม่ได้อาบน้ำด้วย. ฉะนั้นกลิ่นก็แรงพอตัวเลย.

แต่เย่เทียนก็ต้องทน. เขาจำเป็นต้องทนและเล่นกับเธอขณะที่เธอเอาลิ้นเลียแก้มของเขา.

“ติ๊ด! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์! ค่าความภักดีของสาวหมาป่าต่อโฮสต์เพิ่มขึ้นเป็น85แล้ว ท่านได้รับค่าแสตทฟรี!”

ในที่สุดการเสียสละของเย่เทียนก็เป็นผลแล้ว. ค่าความภักดีของสาวหมาป่าได้ทะลุไปถึง85แล้ว!

เมื่อค่าความภักดีถึง80 พวกเขาก็จะไม่มีวันทรยศอีกต่อไป.

พูดอีกนัยนึง สาวหมาป่าได้สิโรราบต่อเขาแล้ว!

ด้วยค่าความภักดี85นี้ ต่อให้เธอถูกยุให้จากเขาไป เธอก็จะไม่มีวันทิ้งเขา.

“ไปกันเถอะ เจ้าหนูน้อย. ข้าจะพาเจ้าออกไป. ข้าคิดว่าเจ้าควรอาบน้ำและแปรงฟันหน่อยนะ…”

เย่เทียนลุกขึ้นแล้วอุ้มสาวหมาป่าขึ้นมา ผลักประตูหินและเดินออกไป.

“อาโววววว…”

พอเดินออกมาจากห้องมืดๆ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์และดื่มด่ำกับอิสระ สาวหมาป่าก็หอนออกมาด้วยความตื่นเต้น.

“ยัยหนูน้อย, ข้าว่าเจ้าควรจะเรียนรู้ภาษาของมนุษย์และพวกงานต่างๆนะ. เอ้าลุกขึ้นแล้วกระเถิบไปข้าง…”
เย่เทียนวางสาวหมาป่าลงแล้วเริ่มสอนเธอเดิน.

“ใช่ ดีมาก, แบบนั้นแหละ..เดินต่อๆ…”

IQ ของสาวหมาป่านั้นสูงมากและความสามารถในการเรียนรู้ของเธอก็เยี่ยมเช่นกัน. ดูเหมือนว่าเธอจะสามารถเข้าใจคำพูดของเย่เทียนได้. ด้วยการสอนของเย่เทียน ไม่นานนักเธอก็เหมือนกับเด็กทารกฝึกเดินขณะจูงมืออยู่.

แม้ว่าเธอจะยังเดินได้ไม่แข็งและล้มบ่อย แต่อย่างน้อยเธอก็เดินถูกท่าได้.
เย่เทียนพอใจมาก. เขาหยุดชมเธอไม่ได้เลย.

“พระเจ้าช่วย…..เจ้านายคะ, เธอเป็นใคร….”

เมื่อไดอาน่าเห็นเย่เทียนและสาวหมาป่าออกมา เธอก็กรีดร้องด้วยความตกใจ.

“กรรร!!”

สายตาของสาวหมาป่าเยือกเย็นขึ้น และเธอก็ส่งเสียงเตือน. แต่มือของเย่เทียนก็ลูบไปที่หลังของเธอ ท่าทีพร้อมจู่โจมของเธอก็หายไปในทันที.

“ไดอาน่า ไปเรียกแองเจล่า เดย์ซี่ ดินน่ากับซูซานมาซิ…..”

เย่เทียนพูดกับไดอาน่า, เขาควรให้สาวหมาป่ารู้จักพวกเขาไว้ ไม่งั้นอาจจะเป็นเรื่องถ้าเธอโจมตีใส่พวกหล่อน.
เขาไม่อยากจับสาวหมาป่าใส่กรงอีกแล้ว. มันจะเป็นการทำร้ายตัวเธอ.

และเมื่อเขาทำร้ายเธอ การเพิ่มค่าความภักดีของเธอให้ถึง100ก็จะเป็นเรื่องยาก.
กลับกัน เย่เทียนตั้งใจจะขีดเส้นจำกัดพื้นที่ในบ้านเขา เพื่อจะให้เป็นอาณาเขตของสาวหมาป่า.

“ค่ะ เจ้านาย…”

ไดอาน่ารีบพยักหน้า. เธอรู้สึกว่าเจ้านายของเธอนั้นดูลึกลับจริงๆ, ทำไมถึงมีสัตว์ที่น่ากลัวอยู่ข้างๆเขากันนะ.
“เจ้านายคะ…”

….

ไม่นานนักไดอาน่าก็เรียกแองเจล่ากับคนอื่นๆมา. บางทีอาจจะเพราะไดอาน่าบอกพวกเธอไว้ก่อนแล้ว เวลาพวกเธอเห็นสาวหมาป่าก็เลยไม่สติแตกไป.

“นี่คือวิคตอเรีย. ไม่ต้องกลัวไปนะทุกคน. มาทักทายเธอสิ!”

เย่เทียนแนะนำสาวหมาป่าให้พวกเธอฟัง.

วิคตอเรีย, นามของราชินีที่สูงส่ง. นั่นแหละคือชื่อที่เขาจะตั้งให้สาวหมาป่า.