ตอนที่ 149 ฟ้อง
ปกติคนในหมู่บ้านจะสวมกางเกงขาสั้นสะอาดๆ เวลาทํางาน แม้แต่ผู้หญิงก็สวมกางเกงขายาวการสวมกระโปรงช่างเป็นอุปสรรคใหญ่หลวง!
แต่เพื่อให้ผู้อื่นเห็นความงามของนาง ครั้งนี้เฉินเจียวเจียวจึงสวมกระโปรงยาวออกมาข้างนอกกระโปรงยาวพลิ้วไปตามสายลมดูสวยมากจริงๆ!
แต่แค่เฉพาะตอนที่ไม่ได้ทํางานเท่านั้น เมื่อต้องมารดน้ําเฉินเจียวเจียวก็ลําบากไม่น้อยทําได้เพียงจับชายกระโปรงขึ้นมาเพื่อทํางานต่อไป!
เนื่องจากไม่เคยยกของหนักมาก่อน ท่าทางจึงทุลักทุเลไม่น้อยยิ่งต้องใช้มืออีกข้างคอยจับกระโปรงไว้!แค่ยกถังเปล่าคู่หนึ่งขึ้นมาก็ทําให้นางเดินเซ!
หยุนเถียนเถียนมองดูอย่างเย็นชา จินตนาการได้อย่างชัดเจนว่าเฉินเจียวเจียวจะอยู่ในสภาพใดเมื่อถังไม้เต็มไปด้วยน้ํา!
เฉินเจียวเจียวกําลังดิ้นรนเติมน้ําใส่ถังจากข้างลําธารที่อยู่ไม่ไกลจากนั้นก็กัดฟันใช้แรงทั้งหมดที่มีหาบน้ําขึ้นมาอย่างฝืนใจ!
ไหล่เล็กๆ ที่ไม่เคยผ่านการออกกําลังกาย เมื่อถูกกดลงไปจึงทําให้นางเจ็บปวดมาก! แต่เพื่อให้มีภาพลักษณ์ที่ดีต่อหน้าชายในดวงใจเฉินเจียวเจียวก็อดทนอย่างดื้อรั้นและวางมือขวารองไว้ใต้ไม้บนไหล่
แน่นอนว่ามันทําให้สบายมากขึ้น แต่ก็ทําให้นางไม่มีมือว่างไปจับกระโปรง!
กระโปรงของนางนั้นยาวในระดับพอดีพื้น เนื่องจากหลังที่งออุ้มชายกระโปรงด้านหน้าจึงลากไปกับพื้น
เฉินเจียวเจียวเอาแต่จับจ้องไปที่ใบหน้าของหยุนเคอจึงไม่ได้คอยมองที่รองเท้าปักของตน เมื่อเหยียบเข้าที่ชายกระโปรงด้านหน้าจากนั้นโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น!
เสียงกรีดร้องดังขึ้น พร้อมกับถังไม้คู่หนึ่งที่ เต็มไปด้วยน้ําและไม้หาบคานกดทับเฉินเจียวเจียวที่ล้มคว่ําลงไปกับพื้นอย่างหนักหน่วง!
ใบหน้าที่แดงก่ํานั้นกระแทกกับพื้นอย่างแรงทั้งยังเปื้อนฝุ่นมอมแมมแม้แต่ก้อนหินบนพื้นก็ถูก อาบย้อมไปด้วยรอยเลือด!
น้ําในถังไม้กระเซ็นลงพื้นกลายเป็นบ่อโคลน! ผู้ที่นอนอยู่ในบ่อโคลนก็คือเฉินเจียวเจียวซึ่งเดิมที่แต่งกายด้วยชุดสวยงาม
ตอนนี้อย่าพูดถึงภาพลักษณ์ที่มีเสน่ห์เลยแม้แต่ใบหน้าก็เกือบเสียโฉม! เฉินเจียวเจียวร้องไห้ออกมาทันที
เมื่อเห็นฉากนี้หยุนเถียนเถียนก็กลั้นยิ้มไม่ได้อีกต่อไปจึงกุมท้องของนางแล้วหัวร่องอหงายออกมาเสียงดัง นางถึงกับ หัวเราะทั้งน้ําตา!
หยุนเคอที่อยู่ข้างๆ เมื่อเห็นหญิงสาวมีความสุข หัวใจของเขาก็มีความสุข เขาใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ําตาออกจากหางตาของหยุนเถียนเถียน!
เฉินเจียวเจียวยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม นางจงใจเสแสร้งต่อหน้าหยุนเคอจนตอนนี้นางล้มลงอย่างรุนแรง หยุ นเคอก็ยังไม่สนใจ!
ผู้หญิงคนที่เอาแต่หัวเราะเยาะอยู่ในห้องยังคงได้รับการเอาใจใส่จากหยุนเคอมากที่สุด!
เฉินเจียวเจียวรู้สึกคิดผิดถนัด ในที่สุดนางก็ยอมแพ้ก่อนจะลุกขึ้นจ้องมองหยุนเถียนเถียน จากนั้นก็รีบหันหลังกลับบ้านของไป!
“ฮ่า ๆ! ข้าหัวเราะจนจะตายอยู่แล้ว! หยุนเคอ ตอนนี้นางคงเศร้ามากท่านทําให้ผู้หญิงที่มีชื่อเสียงในหมู่บ้านของเราต้องร้องไห้มาดูกันว่าพ่อแม่ของนางจะปล่อยท่านไปไหม!”
“ไม่มีทางเ”
หยุนเถียนเถียนหันมาด้วยความประหลาดใจและไม่เข้าใจว่าคําพูดของหยุนเคอหมายถึงอะไร
“หมายความว่าพวกเขาจะไม่มารบกวนท่านใช่หรือไม่? ใช่แล้วครั้งสุดท้ายที่ท่านแขวนพ่อของนางไว้บนต้นไม้เขากลัวมากถ้าฉลาดอยู่บ้างคงจะไม่มาสร้างปัญหาให้ท่าน!ข้าอนาถใจนักแม่นางเจียวผู้นี้ดูเหมือนจะเกลียดข้า!”
เหตุใดถึงเกลียดเจ้า? นางจะกล้าทําอะไรเจ้าหรือไม่? แต่ถึงอย่างไรอยู่กับข้าก็ไม่มีผู้ใดแตะต้องเจ้าได้
หยุนเคอไม่ได้พูดสิ่งที่อยู่ในใจ เพียงแค่มองใบหน้าที่ยิ้มแย้มของหยุนเถียนเถียนอย่างอ่อนโยน
เขาเหม่อมองจนลืมกระพริบตา ในที่สุดหยุนเถียนเถียนก็รู้สึกถึงความผิดปกติ!
หยุนเถียนเถียนหุบยิ้มกระทันหัน และใช้มือสัมผัสที่ใบหน้าดูเหมือนว่าไม่มีอะไรบนใบหน้า เหตุใดหยุนเคอถึงจ้อง มาที่นางด้วยสายตาเช่นนั้น?
“พี่ใหญ่หยุน? เป็นอะไรไป?”
หยุนเถียนเถียนยื่นมือออกไปโบกตรงหน้าหยุนเคอสิ่งนี้ทําให้หยุนเคอหวนสติกลับคืนมา!
หยุนเคอหันหน้าหนีด้วยความตื่นตระหนก หยุนเถียนเถียนจึงเห็นเพียงหูที่แดงขึ้นเล็กน้อยของเขาเท่านั้น
อีกด้านหนึ่ง เฉินเจียวเจียวที่ถูกทําร้ายก็ร้องไห้วิ่งกลับบ้า
ซูเกินฮูหยินเคยเป็นคนที่แข็งกร้าว แต่นางก็อดทนกับลูกสาวมาก!
เมื่อเห็นลูกที่รักดังดวงใจ วิ่งร้องไห้กลับเข้าบ้านมา ก็รีบเข้าไปถาม“เจียวเจียวของแม่… ผู้ใดรังแกเจ้า? บอกข้ามา!”
เฉินเจียวเจียวหวนนึกถึงความอับอายต่อหน้าหยุนเคอใบหน้าของนางแดง… เอาแต่ก้มหน้าร้องไห้และพูดออกมา ไม่ได้!
อะไรล่ะ? หรือว่านางทําตัวน่าอับอายต่อหน้าผู้ชาย?
ซูเกินฮูหยินร้อนใจ ในวันที่แดดร้อนเช่นนี้ ลูกสาวของนางจะไปนอนในแอ่งโคลนได้อย่างไร นี่มันไม่ถูกต้อง!
“เจียวเจียว…สุดที่รักของแม่! ผู้ใดรังแกเจ้า? บอกความจริงมาสิ!ถ้ากล้ารังแกเจ้า แม่จะไม่ปล่อยไว้แน่!”
เฉินเจียวเจียวคิดว่าการต่อสู้ของแม่นาง จะทําให้หยุนเถียนเถียนได้เห็นดี!ตอนนี้เหมือนนางจะลืมความกลัวตอนก่อนที่จะวิ่งเข้าประตูกลับมาหาแม่ไปแล้ว!
“ท่านแม่.. ฮือ ๆ เป็นนังหยุนเถียนเถียนชั้นต่ํานั่น…”
ซูเกินฮูหยินไม่ใช่คนโง่ เมื่อได้ยินชื่อหยุนเถียนเถียนก็นึกถึงหยุนเคอผู้น่ากลัวขึ้นมา นางรู้สึกกังวลใจเล็กน้อย
“เหตุใดหญิงผู้นั้นถึงรังแกเจ้า? เจ้าบอกมา!”
เฉินเจียวเจียวพูดพลางสะอื้นไห้ “ข้าหกล้มตอนที่ทํางานให้นางและนางก็หัวเราะเยาะข้า!”
ซูเกินฮูหยินยิ่งแปลกใจมากขึ้น ตอนนี้เจียวเจียวนั่งได้แต่ยืนไม่ได้!แล้วไปทํางานให้หยุนเถียนเถียนเมื่อใด?
มารดามีสีหน้างุนงง เฉินเจียวที่มีควา มผิดและดื้อรั้นพูดออกมาเสียงดัง “แม่!ท่านไม่เชื่อข้าหรือ? มีเหตุผลอะไรที่ต้องทําให้ตัวเองเป็นเช่นนี้? ข้าไม่สน ท่านต้องไปสั่งสอนนังผู้หญิงสารเลวคนนั้นให้ได้รับบทเรียน!”
“ได้ ๆ! เด็กดี อย่าเพิ่งโกรธ บอกข้ามาก่อนว่าหยุ นเคอรังแกเจ้าหรือไม่!”
หยุนเคอ? เฉินเจียวเจียวส่ายหัวโดยไม่รู้ตัว
ในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าต้องได้ผู้ชายคนนี้ ตอนนี้นางจึงไม่สามารถล้มเลิกได้! ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยรูปลักษณ์ที่แสนเย็นชาของหยุนเคอไม่เพียงแต่ตัวนางเองที่กลัว แต่ยังกลัวว่าแม่ของนางจะดูไม่ดีต่อหน้าเขาอีกด้วย!
หญิงสาวพยักหน้า ซูเกินฮูหยินจึงมั่นใจตราบใดที่วิญญาณชั่วร้ายตนนั้นไม่เกี่ยวข้องด้วยนี่ก็เป็นเรื่องง่าย!