ตอนที่ 187 ศัตรูอยู่ในที่แจ้ง เราอยู่ในที่ลับ (1)
คืนนั้นหลังจากที่ทุกคนรับประทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว มั่วเฉี่ยนยวนและไป๋อวิ๋นเซียนก็พาฉินอวี่เยียนและเจียงเฉินชิงไปที่ตำหนักที่มั่วเซวี่ยนเฝ่ยพักอยู่
ก่อนเข้าประตู ฉินอวี่เยียนก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าทันที แม้ว่าในอากาศจะมีกลิ่นหอมของยาสมุนไพรผสมอยู่เป็นจำนวนมาก แต่กลิ่นของยาสมุนไพรเหล่านั้นไม่สามารถกลบกลิ่นเหม็นนั้นได้เลย
ผลักประตูเข้าไป ในตำหนักบุรุษผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่บนรถเข็น
ไม่ใช่!
พูดให้ถูกคือศพที่เริ่มเน่าเปื่อย เนื้อที่เน่าเปื่อยติดอยู่บนกระดูกสีขาว แม้จะถูกเสื้อผ้าคลุมไว้ แต่ผิวหนังที่เปิดเผยออกมานอกเสื้อผ้าไม่มีชิ้นส่วนไหนเลยที่ยังสมบูรณ์อยู่ น้ำหนองค่อยๆ ไหลลงมาจากใบหน้า ลำคอ และมือของบุคคลนั้น หากมิใช่เพราะหน้าอกนั้นยังกระเพื่อมขึ้นลงอย่างแผ่วเบา เกรงว่าไม่มีใครสามารถมองคนตรงหน้าว่าเป็นคนที่มีชีวิตจริงๆ
แม้แต่เจียงเฉินชิงที่อายุมากและผ่านอะไรมาเยอะก็ยังตกใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นมั่วเซวี่ยนเฝ่ย
การตกใจในครั้งนี้ทำให้กลิ่นเหม็นเน่าในอากาศไหลเข้าจมูกของเขาจนทำให้เจียงเฉินชิงเวียนหัว
นี่ใช่คนที่ยังมีชีวิตอยู่แน่หรือ นี่มันศพที่กำลังเน่าเปื่อยอยู่ชัดๆ
การเน่าเปื่อยอย่างต่อเนื่องทำให้ผมสีดำของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยร่วงจนไม่เหลือแม้แต่เส้นเดียว หนังศีรษะบางๆ ของเขาก็เน่าจนดูไม่ได้ จนสามารถมองเห็นกะโหลกศีรษะของเขาได้อย่างชัดเจน
รอยยิ้มที่มุมปากของฉินอวี่เยียนเริ่มแข็งทื่อ และมือที่วางอยู่ข้างๆ ก็เริ่มสั่นเล็กน้อย
มั่วเฉี่ยนยวนแอบดูปฏิกิริยาของทั้งสองคน และเขาอดไม่ได้ที่จะระบายความเกลียดชังในใจของเขา เขาเหลือบมองไปที่ร่างที่ยืนอยู่ตรงมุมห้อง จวินอู๋เสียตัวเล็กอยู่แล้วและเมื่อนางสวมเสื้อผ้าของขันทีก็ยิ่งปกปิดรูปร่างและใบหน้าเล็กๆ ของนางจนไม่เป็นที่สังเกตเห็นเมื่อซ่อนอยู่ในกลุ่มคนในวัง
“นี่คือน้องชายของข้า เขาถูกวางยาพิษมาเป็นเวลานาน หากมิใช่เพราะคุณหนูไป๋ช่วยเขาไว้ เขาก็คงไม่รอดมาจนถึงตอนนี้ รบกวนคุณหนูฉินช่วยตรวจดูอาการให้เขาด้วย”
รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินอวี่เยียนแข็งทื่อเล็กน้อย เมื่อได้ยินว่ามั่วเซวี่ยนเฝ่ยถูกวางยาพิษ นางก็ได้เตรียมใจไว้แล้ว แต่นางไม่เคยคาดคิดว่ามั่วเซวี่ยนเฝ่ยจะกลายเป็นแบบนี้หลังจากถูกวางยาพิษ…
นี่ยังเรียกว่าคนอีกหรือ
นี่มันเนื้อเน่าเสียกองหนึ่งชัดๆ
“ลุงเจียงเป็นผู้อาวุโสของสำนักชิงอวิ๋นเรา มีฝีมือการรักษาที่ดีมาก ดังนั้นให้ลุงเจียงดูเถิด” รอยยิ้มที่อ่อนโยนและสง่างามกลับมาฉายบนใบหน้าของฉินอวี่เยียนอีกครั้ง แต่นางก็ไม่ยอมขยับไปทางมั่วเซวี่ยนเฝ่ยแม้แต่ก้าวเดียว
องค์ชายรองที่เคยทำให้หญิงสาวทั่วทั้งรัฐชีตกหลุมรัก ตอนนี้กลับกลายเป็นคนอัปลักษณ์ที่ทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัว
เจียงเฉินชิงก็ตกตะลึงกับรูปร่างของมั่วเซวี่ยนเฝ่ย แต่เนื่องจากพวกเขาตกลงที่จะรักษาแล้วจึงทำได้เพียงกัดฟันรักษาต่อไป
เมื่อเห็นใบหน้าของเจียงเฉินชิงขณะที่เดินเข้าไปหามั่วเซวี่ยนเฝ่ย ฉินอวี่เยียนก็เหลือบมองไปที่ร่างกายของไป๋อวิ๋นเซียน แต่สายตาของไป๋อวิ๋นเซียนที่จดจ่ออยู่ที่มั่วเซวี่ยนเฝ่ยเต็มไปด้วยความกลัวและความหวัง
“อวิ๋นเซียน ความรักที่เจ้ามีต่อชินอ๋องนั้นลึกซึ้งจริงๆ” ฉินอวี่เยียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ไป๋อวิ๋นเซียนรอผลตรวจชีพจรของเจียงเฉินชิงอย่างใจจดใจจ่อ ดังนั้นนางจึงไม่ได้ใส่ใจคำพูดของฉินอวี่เยียนมากนัก นางจึงพยักหน้าตอบไปเท่านั้น
ที่มุมห้อง จวินอู๋เสียที่สวมชุดขันทีเฝ้าดูปฏิกิริยาของทั้งสามคนนี้อย่างเงียบๆ แม้ว่าเจียงเฉินชิงจะเป็นผู้อาวุโสของสำนักชิงอวิ๋น แต่ก็เห็นได้ชัดจากการสนทนาของเขากับฉินอวี่เยียนว่าฉินอวี่เยียนมีอำนาจสั่งเขาได้ ฉินอวี่เยียนมีตำแหน่งผู้นำในกลุ่มนี้อย่างเห็นได้ชัด
ดูเหมือนว่าฉินอวี่เยียนจะกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไป๋อวิ๋นเซียนและมั่วเซวี่ยนเฝ่ย แต่ในความเป็นจริงนางกำลังทดสอบว่าไป๋อวิ๋นเซียนต้องการช่วยมั่วเซวี่ยนเฝ่ยจริงหรือไม่ต่างหาก
………..
ตอนที่ 188 ศัตรูอยู่ในที่แจ้ง เราอยู่ในที่ลับ (2)
อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าฉินอวี่เยียนไม่ได้รับผลลัพธ์อะไรจากการทดสอบเลย เพราะตอนนี้ไป๋อวิ๋นเซียนอยากช่วยมั่วเสวี่ยนเฝ่ยอย่าง ‘จริงใจ’ จริงๆ มิใช่หรือ
แค่มั่วเซวี่ยนเฝ่ยรอดเท่านั้น นางจึงจะหลุดพ้นจากการควบคุมของจวินอู๋เสียได้
แม้ว่าจวินอู๋เสียจะเฝ้าสังเกตอยู่ตลอดเวลา แต่นางกลับไม่มีความกังวลเลยแม้แต่น้อย
ขอให้นางได้พิสูจน์หน่อยเถอะว่าสำนักชิงอวิ๋นที่อ้างตัวว่าเก่งกาจนักหนา มีฝีมือการรักษาที่เลื่องชื่อเป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้านั้น ฝีมือของพวกเขาจะสามารถแก้พิษที่นางปรุงขึ้นมานี้ได้หรือไม่
เจียงเฉินชิงพยายามข่มกลั้นอาการคลื่นไส้ของตัวเองและตรวจชีพจรของมั่วเซวี่ยนเฝ่ย ใบหน้าของเขาแสดงความรังเกียจออกมาอย่างชัดเจน แต่เมื่อเขาตรวจชีพจรของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยแล้ว เขาก็หยุดชะงักไปทันทีด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงเป็นอย่างมาก
“นี่…เป็นไปได้อย่างไรกัน!”
เสียงอุทานของเจียงเฉินชิงดึงดูดความสนใจทั้งของฉินอวี่เยียนและไป๋อวิ๋นเซียน
“ลุงเจียง เกิดอะไรขึ้น” ฉินอวี่เยียนเอ่ยถาม
ใบหน้าของเจียงเฉินชิงเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ ตอนนี้เขาไม่รังเกียจแล้วว่าข้อมือของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยจะน่าขยะแขยงเพียงใด เขาตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง และความตกตะลึงบนใบหน้าของเขาไม่เพียงแต่ไม่ลดลงแต่ยังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
“คุณหนูใหญ่ นี่…ท่านมาดูด้วยตัวเองจะดีกว่าขอรับ” เจียงเฉินชิงไม่ต้องการพูดอะไรมากไปกว่านี้
ยิ่งเขาเป็นเช่นนี้ ไป๋อวิ๋นเซียนก็ยิ่งกังวลมากขึ้นไปอีก แต่นางก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ นางทำได้เพียงจ้องมอง
ฉินอวี่เยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งถึงจะเตรียมใจได้ พยายามรักษาสีหน้าเรียบเฉยและเดินเข้าไปตรวจชีพจรของมั่วเซวี่ยนเฝ่ย
แต่การตรวจในครั้งนี้ทำให้ดวงตาของนางต้องเบิกโพลง เกิดความตกตะลึงเช่นเดียวกับเจียงเฉินชิง
ทั้งๆ ที่บุคคลตรงหน้านางนี้เน่าเปื่อยเสียจนใกล้จะเสียชีวิตแล้ว แต่ชีพจรของเขากลับไม่ต่างจากคนทั่วไปเลย หากอาการของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยไม่ชัดเจนเยี่ยงนี้ ฉินอวี่เยียนคงคิดว่านางกำลังตรวจชีพจรของคนที่มีสุขภาพดีอยู่จริงๆ
นี่…
เป็นไปได้อย่างไรกัน!
“ศิษย์พี่หญิง เขายังมีโอกาสรักษาหายหรือไม่” ไป๋อวิ๋นเซียนอดไม่ได้ที่จะถามออกไป
ฉินอวี่เยียนเม้มริมฝีปากลงแน่น และก้าวเท้าออกจากด้านข้างของมั่วเซวี่ยนเฝ่ย
“ชีพจรของเขาเป็นปกติดี ไม่เหมือนคนที่ถูกวางยาพิษเลย”
ไป๋อวิ๋นเซียนตกตะลึง ความหวังสุดท้ายจางหายไปจากดวงตาของนาง
ใช่แล้ว หลังจากกลืนยาของจวินอู๋เสียแล้ว นางก็เคยตรวจชีพจรของตัวเอง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็เหมือนกับฉินอวี่เยียน
ไม่มีความผิดปกติแม้แต่เล็กน้อย!
ตอนนี้ดูเหมือนว่าฉินอวี่เยียนและเจียงเฉินชิงจะไม่สามารถแก้พิษให้นางได้แน่แล้ว
“ฝ่าบาท ตามผลที่พวกข้าได้ตรวจชีพจรของชินอ๋องแล้ว เขาไม่ได้ถูกวางยาพิษ และเราก็ไม่มีวิธีแก้ปัญหานี้ได้ เราทำได้เพียงชะลอและลดความเจ็บปวดให้ได้มากที่สุดสำหรับเขาเท่านั้น” ฉินอวี่เยียนหันหลังเดินไปทางมั่วเฉี่ยนยวนโดยไม่ใส่ใจในสิ่งที่นางไม่สามารถทำได้
มั่วเฉี่ยนยวนแกล้งถอนหายใจด้วยความเสียใจ “ช่างมันเถิด นี่อาจเป็นชะตากรรม ลำบากท่านทั้งสองจริงๆ”
ตอนนี้อารมณ์ของฉินอวี่เยียนนั้นแย่มาก นางไม่สนใจว่านางสามารถช่วยมั่วเซวี่ยนเฝ่ยได้หรือไม่ เดิมทีนางตั้งใจจะช่วยมั่วเซวี่ยนเฝ่ยเพื่อให้มั่วเฉี่ยนยวนติดหนี้บุญคุณสำนักชิงอวิ๋นก่อน และต่อไปคำพูดของนางก็จะง่ายขึ้น แต่ตอนนี้ไม่สามารถช่วยชีวิตคนได้ นางทำได้เพียงแค่พูดเรื่องนี้กับมั่วเฉี่ยนยวนออกมาตรงๆ เท่านั้น
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ นางก็หยิบขวดยาออกมาแล้วยื่นให้มั่วเฉี่ยนยวนทันที
“นี่คือเม็ดยาหลงเยี่ยน เป็นโอสถวิเศษที่สำนักชิงอวิ๋นไม่เคยเปิดเผยมาก่อน เม็ดยานี้สามารถยืดอายุขัยและบำรุงพลังวิญญาณได้” ฉินอวี่เยียนกล่าว
มั่วเฉี่ยนยวนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ไม่มีผู้ใดสามารถคาดเดาได้เลยว่าฉินอวี่เยียนผู้นี้ต้องการทำอะไรกันแน่ เริ่มจากออกปากช่วยชีวิตคนก่อน ตอนนี้ก็ให้เม็ดยาที่ดีเยี่ยงนี้ ถ้าหากนางบอกว่านางไม่มีเรื่องขอร้องอะไรแค่แสดงความเมตตาเท่านั้น มั่วเฉี่ยนยวนไม่เชื่ออย่างแน่นอน
“ข้าจะรับเม็ดยาล้ำค่าเช่นนี้ได้อย่างไร” มั่วเฉี่ยนยวนรีบปฏิเสธทันที มีจวินอู๋เสียแล้วเม็ดยาของสำนักชิงอวิ๋นเขาก็ไม่ต้องการ
…………….