บทที่ 8 ตอนที่ 2

 

เมื่อโนโซมุออกไปนอกสถาบัน ดวงอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปแล้ว

 

พระอาทิตย์ยามอัสดงส่องสว่างอาคารเรียนเป็นสีแดงสด

 

ขณะที่โนโซมุเดินไปตามทางเดินที่เปื้อนสีแดงสด เขาก็จำการฝืกของเขาก่อนหน้านี้ได้ กระแสพลังที่ไหลไปทั่วร่างกาย ความประสงค์ในการทำลายยังมีอยู่

 

 

 

(ต้องหาทางปลดปล่อย……)

 

 

 

โนโซมุรู้สึกว่าเขาเสียบางอย่างไป ไม่มีความหวังที่จะควบคุมพลังนี้ได้ และไม่สามารถสัมผัสวิญญาณได้

 

ในเขาวงกตที่เขายังคงหาเบาะแสไม่ได้ ความคับข้องใจของโนโซมุก็เพิ่มมากขึ้นในอกของเขาเท่านั้น

 

 

 

「อึก……」

 

 

 

เมื่อตระหนักได้ว่าตัวเองเริ่มหงุดหงิด โนโซมุจึงหายใจเข้าลึกๆ

 

ขณะที่หายใจอยู่นั้น ความอยากที่จะทำลายบางอย่างก็จางหายลงไปบาง

 

เมื่ออาการของเขาลดลง โนโซมุก็นึกถึงการฝึกก่อนหน้านี้อีกครั้ง

 

 

 

「แม้ว่าจะบอกว่าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวเอง แล้วต้องทำยังไง!?」

 

 

 

โนโซมุรู้สึกเหมือนมีบางอย่างผุดขึ้นในหัวของเขา

 

ขณะเดียวกันภาพที่เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ก็ปรากฏในหัว

 

 

 

“เท็ต ขอบคุณที่พยายามอย่างหนักนะ”

 

 

 

“โม่ววววววววว~ ทำไมฉันต้องทำหน้าตาแบบนี้ในร่างมนุษย์ด้วยเนี่ย~”

 

 

 

“เอ๋พูดถึงเรื่องนั้นเหรอ? หากเป็นประมุขของประเทศ ก็ต้องมีศักดิ์ศรีและหน้าตา แม้ว่าเท็ตจะแอบเศร้า แต่ว่าต้องทำอะไรสักอย่างกับหน้าตาเธอในตอนนี้นะ?”

 

 

 

“เอ่อ มิคาเอลใจร้ายเกินไปแล้ว……”

 

 

 

「นี่คือ…..ความทรงจำของเธออีกแล้วงั้นเหรอ……」  

 

 

 

เงาขางผู้หญิงที่เหมือนกับเทียแมต กำลังประท้วงมิคาเอล

 

นั่นคือความทรงจำของเทียแมตที่โนโซมุเคยเห็นมาก่อน เมื่อเขาอยู่เคียงข้าวตัวเองด้วยการปรับความโกรธและยอมรับในตัวเทียแมต

 

ทั้งสองคนเลือนลางราวกับจะจางหายได้ในพริบตา และโนโซมุแทบจะไม่เห็นหน้าพวกเขาเลย ความจริงที่ว่าทั้งสองไม่สามารถมองหน้ากันได้ก็ได้โผล่ให้เห็นแล้ว ทำให้โนโซมุกังวลมากยิ่งขึ้น

 

 

 

(เทียแมตและผมเริ่มจะสนิทกันมากขึ้นรึเปล่านะ? หรือเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการควบคุมวิญญาณผ่านทางพันธนาการวิญญาณจะแชร์ความทรงจำร่วมกัน? แต่ว่าการควบคุมพลังของเทียแมตแทบจะไม่เพิ่มขึ้นเลย แล้วมันหมายความว่ายังไงล่ะ……)

 

 

 

ความคาดหวังมียี่สิบเปอร์เซ็นต์และความวิตกกังวลแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ปะปนในใจของเขา

 

การโผล่มาของเทียแมตและมิคาเอลหายไปในเวลาไม่กี่วินาทีราวกับกระแสน้ำที่ลดระดับลง

 

ความวิตกกังวลและความคาดหวังที่เกิดขึ้นในอกของโนโซมุกองพะเนินเทินทึกเหมือนเดิม

 

 

 

「โนโซมุ ฝึกเสร็จแล้วงั้นเหรอ?」

 

 

 

「เอ๊ะ?」

 

 

 

โนโซมุตกใจชั่วครู่กับการทักทายกะทันหัน

 

เมื่อโนโซมุเงยหน้าขึ้นมอง ที่หน้าประตูหลักของสถาบันโซลมินาติก็สะดุดตา เห็นได้ชัดว่ากำลังตรงมาทางนี้

 

และที่หน้าประตูหลักก็มีหลายคนรอโนโซมุอยู่

 

หนึ่งในนั้นเด็กสาวผมขาวสังเกตเห็นโนโซมุก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับโบกมือเล็กน้อย

 

 

 

「ทำไมทุกคนมาอยู่ที่นี่กันล่ะครับ?」

 

 

 

「พูดอะไรแปลกๆ ทุกคนก็มารอรับโนโซมุยังไงล่ะ ฮิฮิ?」

 

 

 

ไอริสดิน่า ฟรานซิส สาวผมขาวพูดกับโนโซมุซึ่งได้แต่ตั้งคำถาม

 

เธอเอามือวางบนสะโพกถอนหายใจอย่างหงุดหงิด

 

 

 

「พวกเรายังมีเรื่องมากมายให้ทำเลยนะ เพราะงั้นไม่ต้องกังวลหรอกนะ」

 

 

 

มาร์โผล่ออกมาจากด้านหลังไอริส

 

เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงว่าเครื่องแบบสีขาวของเขาเปื้อนฝุ่นหลายจุด มาร์เองก็คงฝึกหนักเช่นกัน

 

เมื่อมองดูทั้งสามคนที่อยู่ด้านหลัง ทิม่า ทอม และ มิมูรุ ก็สงสัยว่าคงจะเป็นเทคนิคผสานของเขาแน่ๆ

 

 

 

「พระอาทิตย์ก็เริ่มจะตกดินแล้วสิ ถึงเวลากลับบ้านกันแล้วนะ โนโซมุก็รีบๆเข้าสิ」

 

 

 

ซีน่าซึ่งตามหลังไอริสเล็กน้อย เร่งเร้าโนโซมุด้วยน้ำเสียงโมโหเล็กน้อย เห็นได้ชัดเลยว่าทุกคนมารอโนโซมุ

 

 

 

「นั่นสินะ ซีน่าคุง ฉันคิดว่าเป็นความคิดที่ดีเลยล่ะการที่เราได้กลับบ้านก่อนที่ประตูหลักจะปิด」

 

 

 

ไอริสเงยหน้าขึ้นมองตะวันที่กำลังลับขอบฟ้าพร้อมกับสะบัดผมสีขาวสลวยของเธอ

 

ใช่แล้วผมของเธอยังเป็นสีขาวบริสุทธิ์อยู่

 

เมื่ออาเซลเข้าโจมตี ผมสีดำมันวาวของไอริสก็สูญเสียสีไปโดยสิ้นเชิงเนื่องจากการใช้พลังชีวิตแทนพลังเวทย์เพื่อหยุดโนโซมุ

 

นอร์นซึ่งตรวจร่างกายของเธอกล่าวว่าไม่มีอาการผิดปกติใดๆกับร่างกายของเธอ และเส้นผมจะกลับเป็นสีดั้งเดิมเมื่อเวลาผ่านไป

 

ทุกครั้งที่เขาเห็นผมสีขาวของเธอ โนโซมุก็รู้สึกเจ็บใจที่ทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้

 

 

 

「แล้วการฝึกเป็นยังไงบ้าง เอ่อคงจะไปได้ไม่สวยสินะคะ ดูจากสภาพแล้ว?」

 

 

 

「อืม ก็ประมาณนั้นไร้เหตุผลชะมัด……」

 

 

 

ไอริสเข้าไปใกล้โนโซมุ คิ้วของเธอขมวดขึ้น

 

ต่างจากผมของเธอที่เปลี่ยนเป็นสีขาว สีตาของไอริสยังคงเดิม

 

สายตาของโนโซมุถูกดึงดูดไปในแววตาของเธอ

 

หน้าของเขาเริ่มที่จะแดงและโนโซมุก็ถูกจ้องจากระยะเผาขน

 

ในทางกลับกันไอริสที่มองเห็นท่าทางอันเหนื่อยล้าของโนโซมุ ก็ยังคงขมวดคิ้วขึ้นไปอีก

 

 

 

「พูดอะไรน่ะมันจะไปเปล่าประโยชน์ได้ยังไงคะ แค่ดูหน้าเธอก็รู้แล้วนะ ทำอะไรบุ่มบ่ามอีกแล้วสิท่า!?」

 

 

 

「โนโซมุคุง นั่งตรงนั้นสักครู่นะ นี่ฉันเทศน์ทุกวันตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมายังไม่สำนึกพอสินะคะ」

 

 

 

นอกจากนี้ซีน่าที่เฝ้าดูอยู่ก็เข้ามาแจม

 

โนโซมุถูกสั่งให้นั่งสำนึกผิดอยู่ตรงทางเท้าโดยไร้ซึ่งการโต้แย้งและทั้งสองคนก็ขอให้เปิดเผยรายละเอียดการฝึกในวันนี้

 

ขณะที่โนโซมุพูดถึงเนื้อหาการฝึก ไหล่ของไอริสและซีน่าก็เริ่มสั่น

 

ทันใดนั้นก็มีเงามืดๆปรากฏขึ้นระหว่างทั้งสอง ดูเหมือนจะโกรธจนเลือดขึ้นหน้าเลยล่ะ

 

ในทางกลับกันโนโซมุยังคงเล่าต่อหน้าสาวๆแม้หน้าของเขาจะมีเหงื่อก็ตาม

 

 

 

「ก็นะ? ดังนั้นมันค่อนข้างไร้เหตุผลเลยใช่ไหมล่ะครับ?」

 

 

 

「「มันจะเป็นแบบนั้นได้ไงคะ!!」」

 

 

 

ทันทีที่เขาพูดจบ ทั้งสองคนก็ระเบิดอารมณ์ออกมาราวกับยักษ์มาร

 

สิ่งต่อไปที่กระทบเข้ากับโนโซมุคือความโกรธในความไม่สำนึกในตัวของเขาเอง

 

 

 

「โนโซมุ นี่ได้แผลติดต่อมาเจ็ดวันติดแล้วนะคะแล้วยิ่งนับวันยิ่งมีแผลมากขึ้นมันหมายความว่าไงกันคะ!?」

 

 

 

「เอ่อ ไม่ได้เจ็บตัวมากขึ้นสักหน่อยครับ……」

 

 

 

「คิดว่าแค่แผลเป็นหายแล้วจะไม่มีปัญหาเหรอคะ? ดาบที่มีชื่อเสียงทั้งหลายต่างมีอายุขัย หากใช้ไม่ระวังและทะนุถนอม มันก็พังเป็นเหมือนกันนะคะ? มันก็เหมือนกับร่างกายของโนโซมุนั่นแหละ」

 

 

 

「ไม่เลย ไม่เลยสักนิด แค่นี้สบายมากครับ……」

 

 

 

「หาาาาาาา คิดแบบนั้นเองสินะคะ บางทีร่างกายคงด้านชาไปถึงข้างในแล้วสินะ ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจ แต่มันไม่มีความหมายหรอกนะคะหากไม่ปฏิบัติตามน่ะ」

 

 

 

「อันที่จริงเป็นความผิดผมเองแหละเพราะเข้าใจทุกอย่างก่อนจะทำ ฟังนะแม้แต่นกที่ถูกงูรัดมันก็พยายามดิ้นอย่างเอาเป็นเอาตายเลยไม่ใช่เหรอไงครับ」

 

 

 

「จะหาว่าพวกฉันสมองขี้เลื่อยงั้นเหรอคะ?」

 

 

 

「ก็แบบว่ายิ่งฝึกเท่าไรมันก็ยิ่งให้ผลดีเท่านั้นใช่ไหมล่ะครับ」

 

 

 

「คิดว่าพูดแค่นั้นจะจบจริงๆเหรอ」

 

 

 

「……ถึงแม้ว่าสถิติสูงสุดจะถูกทำลายแล้วก็นะ~」

 

 

 

ประวัติของผมกำลังดีขึ้นเรื่อยๆนะ ดังนั้นจึงได้ทำการเรียนรู้ และประท้วงต่อทั้งสองคน

 

แม้หลังจากนั้น โนโซมุก็ยังโดนทั้งสองคนเทศน์ต่อไป

 

จากนั้นมาร์และคนอื่นๆเฝ้าดูทั้งสามคนด้วยสายตาอันอบอุ่น

 

 

 

「นี่มันไร้สาระเกินไปแล้ว」

 

 

 

「พวกเขาสามคนออกไปจักรวาลของตัวเองแล้วล่ะ」

 

 

 

ฟีโอเห็นด้วยกับไอริสและซีน่า แต่มาร์ก็ถอนหายใจราวกับว่ามันเป็นธรรมชาติของโนโซมุ

 

ในทางกลับกันทิม่าที่มองไปมาระหว่างทั้งสามคนด้วยความรู้สึกสับสน

 

 

 

「เอาล่ะ ทำไงถึงจะหยุดพวกเขาได้คะเนี่ย?」

 

 

 

「มันเป็นความผิดของโนโซมุเอง ดังนั้นก็ปล่อยให้เขาโดนไปเถอะ แม้แต่ไอริสและซีน่าก็เป็นห่วงโนโซมุมากเกินไปจนน่ารำคาญมากเลยจริงๆ」

 

 

 

「อะฮะฮะฮะฮะ พอเห็นแบบนี้แล้วซีน่าเองก็มีมุมน่ารักกับเขานะเนี่ย~」

 

 

 

「มิมูรุ นิสัยไม่ดีเลยนะ」

 

 

 

เมื่อเร็วๆนี้มิมูรุยิ้มให้กับการเปลี่ยนแปลงของซีน่าเพราะเธอเริ่มรู้ตัวแล้วว่าตัวเองตกหลุมรักเขา

 

ต่อจากนี้จะล้ออะไรดีน้า

 

แม้ว่าทอมจะรู้ทันมิมูรุ แต่ก็ไม่ได้พยายามจะหยุดเธอ อาจเป็นเพราะเดี๋ยวก็โดนซีน่าจัดการเอง

 

โนโซมุโดนสวดยาวยับ ส่วนมาร์และคนอื่นๆก็ดูการเทศน์เป็นอาหารตากันไป ในเวลานั้นแม่สาวผมแดงก็ตะโกนออกมาจากด้านหลัง

 

 

 

「ยาโฮะ โนโซมุยังมีชีวิตรอดกลับมาอีกงั้นเหรอ?」

 

 

 

คนที่ตะโกนเรียกคือลิซ่า เฮาวด์ เพื่อนสมัยเด็กของโนโซมุ

 

ผมของเธอซึ่งครั้งหนึ่งเลยไว้ทรงหางม้ายาว ตอนนี้ตัดผมสั้นกว่าไหล่ของเธอแล้ว

 

ถัดจากเธอคือคามิลล่า

 

 

 

「เอ๊ะ คามิลล่าก็จะกลับบ้านด้วยเหรอ?」

 

 

 

「อืม ยังไงก็ตามแต่พวกเธอทำอะไรกันอยู่เนี่ย?」

 

 

 

「เอ่อ ทางที่ดีอย่าถามจะดีกว่านะเฮะเฮะ」

 

 

 

โนโซมุที่นั่งตัวตรงกับสาวสวยสองคนที่กำลังยืนบ่นเขา แม้จะมองจากด้านข้าง โนโซมุก็เหมือนผู้กระทำความผิด

 

 

 

「แล้วมาที่นี่มีธุระอะไรงั้นเหรอลิซ่าคุง?」

 

 

 

「พอดีฉันเองก็ฝึกด้วยตัวเองนะช่วงนี้ มันคงไม่แปลกหรอกใช่ไหมเฮะเฮะ? นอกจากนี้ถ้าพวกเธอไม่รีบประตูสถาบันจะปิดแล้วนะ」

 

 

 

ลิซ่าคว้าแขนของโนโซมุซึ่งนั่งอยู่และช่วยเขาให้ลุกขึ้นยืน

 

ด้วยการจับแขนโนโซมุให้ยืนขึ้น ร่างกายของโนโซมุกับลิซ่าจึงแนบชิดติดกัน

 

เมื่อเห็นแบบนั้นทั้งสองคนก็เลือดขึ้นหน้าทันที

 

 

 

「ลิซ่าคุง ฉันคิดว่าเธอเข้าใกล้เขามากเกินไปนะคะ?」

 

 

 

「งั้นเหรอ? ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลยนี่ พวกเราเป็นเพื่อนสมัยเด็กและยังเป็นเพื่อนกัน มันเป็นเรื่องปกติมากเลยไม่ใช่เหรอ」

 

 

 

ไอริสบ่นลิซ่าด้วยการตั้งคำถาม ซีน่าไม่พูดอะไร แต่ตาจ้องเขม็ง ส่วนลิซ่าก็ตอบกลับไปแบบง่ายๆ

 

ในทางกลับกันลิซ่าเมินเฉยต่อแรงกดดันของทั้งสองคนราวกับลมที่พัดผ่านไป

 

นอกจากนี้เธอยังกดหน้าอกลงไปที่แขนของโนโซมุมากยิ่งขึ้น กอดรัดเขามากขึ้นไปอีก

 

ร่างของทั้งสองที่ติดกันก็ยิ่งแนบชิดมากขึ้นไปอีก ในเวลาเดียวกัน ไอริสและซีน่าก็แทบจะไฟลุกแล้ว

 

ร่างกายของโนโซมุนั้นแข็งทื่อ รู้สึกเหมือนกับมีหอกน้ำแข็งแทงเข้าที่คอของเขา

 

 

 

「เอ๊ะ หรือว่าจะกังวลเรื่องที่คนอื่นมองเราทั้งสองคนยังไงงั้นเหรอ? ฉันเข้าใจได้ว่ามันอาจจะยากนิดหน่อย แต่ว่าตอนนี้มันใกล้จะปิดสถาบันแล้ว และแถวนี้มีนักเรียนไม่มากมักคงไม่เป็นไรเนอะ~~!」

 

 

 

เวลาผ่านไปสองสัปดาห์นับตั้งแต่โนโซมุและลิซ่าเคลียร์ปมในใจกัน เรื่องราวนี้ถูกรู้ไปทั่วสถาบัน

 

แน่นอนว่ามีข่าวลือไม่มีมูลมากมายกลับมาอีกแล้ว

 

จากเนื้อหาลิซ่าได้เปลี่ยตัวเองใหม่ ไปจนถึงเรื่องราวเล็กๆน้อยๆ เช่น เคนพยายามจะมาแทนที่โนโซมุ และในทางกลับกันโนโซมุก็กลับมาคืนดีกับลิซ่า มีข่าวลือต่างๆเกิดขึ้นมากมาย

 

ทั้งโนโซมุและลิซ่าต่างใช้เวลาทั้งวันในการฝึกฝนโดยไม่สนข่าวลือที่แพร่สะบัด

 

ขณะที่โนโซมุฝึกควบคุมพลังของเทียแมต ลิซ่าก็มุ่งหน้าตามฝันของเธอ

 

ตอนนี้พวกเขาแต่ละคนต่างเดินตามทางของตัวเอง ทั้งสองไม่สนใจเสียงนกเสียงกาอีกต่อไป

 

ลิซ่ากลับมาก็เริ่มแกล้งไอริสมากขึ้น

 

เสียงถอนหายใจหลุดออกมาจากปากของโนโซมุ

 

 

 

「เอ่อ……….ลิซ่า ช่วยถอยออกไปหน่อยได้ไหม คือว่ามันโดนอยู่น่ะ」

 

 

 

「เอ๋ ถ้าโนโซมุพูดแบบนั้นก็ช่วยไม่ได้นะ」

 

 

 

ในตอนนี้ เขาบอกให้ลิซ่าถอยห่างจากเขา เพื่อเอาใจเหล่ายักษ์มารที่กำลังโกรธเกรี๊ยว

 

ลิซ่าผละตัวออกห่างจากเขาอย่างเชื่อฟัง

 

ไอริสและซีน่าต่างก็ลดแรงกดดันลง ทั้งสองฝ่ายต่างยอมลดความเป็นศัตรูต่อกัน

 

เนื่องจากใกล้ถึงเวลาต้องออกจากสถาบัน โนโซมุและเพื่อนๆก็มุ่งหน้าไปที่หน้าประตูหลัก

 

เมื่อเข้าใกล้ประตูหลัก จำนวนนักเรียนก็ค่อยๆเพิ่มขึ้น

 

ที่นั่นโนโซมุตระหนักได้ว่ามีนักเรียนเยอะกว่าปกติ

 

 

 

「เอ่อทำไมถึงมีนักเรียนเหลือเยอะขนาดนี้ล่ะครับ」

 

 

 

「โนโซมุ จำไม่ได้งั้นเหรอคะ ใกล้จะถึงวันเทศกาลปฐมนิเทศแล้วนะคะ?」

 

 

 

「เทศกาลปฐมนิเทศงั้นเหรอ อ่าถึงวันนั้นแล้วเหรอเนี่ย……」

 

 

 

เทศกาลปฐมนิเทศ

 

ซึ่งเป็นเทศกาลที่สถาบันโซลมินาติจะเปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าชมสถาบันปีล่ะครั้ง

 

ในเวลานั้นจะมีทั้คนในสถาบันและนอกสถาบันมาเยี่ยมชม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็น

 

ในขณะเดียวกันก็มีการจัดกิจกรรมต่างๆในเมืองเพื่อการหาผลประโยชน์ร่วมกัน เหมือนกับเทศกาลทัศนศึกษา

 

แต่ว่าจุดประสงค์ของงานในครั้งนี้คือหลังจากการเปิดให้เข้าชมถึงช่วงกลางวันจะปิดลง

 

ในคืนเทศกาลจะมีการจัดปาร์ตี้ที่โรงเรียนสำหรับบุคคลสำคัญจากหลายประเทศและนักเรียนชั้นนำจากแต่ละชั้นจะได้รับการเชิญ

 

ที่นั่นมีบุคคลสำคัญจากหลากหลายประเทศจัดกิจกรรมรับสมัครนักเรียน

 

แต่ละประเทศจะแข่งขันกันเพื่อรับสมัครนักเรียนที่ดีเยี่ยมเข้าสถาบัน

 

นักเรียนยังคงใช้งานนี้เป็นโอกาสในการดูตัวและหางานด้วย กล่าวอีกนัยหนึ่งคืองานปาร์ตี้หางานนั่นแหละ

 

 

 

「พูดตามตรงถึงแม้จะเรียกว่าเทศกาลปฐมนิเทศ แต่เราก็ไม่ค่อยมีคนเกี่ยวข้องมาที่สถาบันมากนักนะคะ」

 

 

 

「อย่างดีที่สุดก็แค่ไปดื่มเหล้าในงานเลี้ยงเท่านั้นแหละค่ะ」

 

 

 

「ฉันคิดว่ามีสิ่งที่ต้องทำมากพอสมควร ดังนั้นเลยไม่คิดจะพลาดงานครั้งนี้น่ะ……」

 

 

 

โดยไม่คำนึงถึงโนโซมุ มาร์ที่อยู่ห้อง สิบ เสมอมาเพราะเป็นนักเรียนด้อยโอกาส ไอริสที่อยู่อันดับต้นๆก็คงจะได้เข้าร่วมทุกปี

 

แม้ว่าจะคุ้นเคยกับแวดวงสังคม แต่คู่ตอสู้ส่วนใหญ่นั้นรู้จักคนสำคัญหมด นั่นเป็นเหตุผลที่ไม่สามารถลดความระมัดระวังตัวได้เลย

 

บางทีอาจจะคิดถึงงานเปิดตัว แต่เบื้องหลังการแสดงอย่างงดงามกลับมีบรรยากาศเศร้าๆอยู่

 

ลิซ่าพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดเห็นของไอริส

 

 

 

「นั่นสินะ อยากให้มาประเทศของเราจริงๆ ! ก็อยากจะพูดแบบนั้นอยู่หรอก แต่ฟังแล้วน่าขนลุกใช่ไหม」

 

 

 

「ลิซ่าเองไม่คิดจะรับใช้ประเทศใดประเทศหนึ่งหรอคะ?」

 

 

 

「เหหห? ความฝันของฉันคือการเป็นนักผจญภัยนะ ดังนั้นการรับใช้ประเทศหนึ่งค่อนข้างจะยุ่งยากอะ ฉันไม่คิดว่ามันจะผลเสียอะไรนะคะซีน่าจัง?」

 

 

 

「เหมือนกับฉันเลยค่ะ ความแข็งแกร่งของฉันไม่เพียงพอจะกอบกู้ประเทศบ้านเกิด ดังนั้นเลยต้องการความช่วยเหลือจากประเทศอื่นๆ จริงๆแล้ว ฉันก็พยายามหลีกเลี่ยงพวกที่เล็งหาผลประโยชน์ทางร่างกายของฉันเหมือนกันค่ะ」

 

 

 

โดยธรรมชาติแล้วลิซ่าอยู่ห้องหนึ่งและซีน่าอยู่ห้องสองก็มีประสบการณ์ในการร่วมงาน

 

ดูเหมือนว่าสาวๆแต่ละคนต่างก็มีเรื่องกังวลเป็นของตัวเอง

 

 

 

「นักเรียนที่ยังคงอยู่จนกระทั่งเลิกเรียนอาจเป็นเหล่าคนที่เข้าร่วมงานและไม่เคยเข้าร่วมมาก่อน เพราะงั้นอาจจะไม่คุ้นกับงานปาร์ตี้ เลยพยายามจะไม่ทำตัวให้เสียมารยาทสินะครับ」

 

 

 

โนโซมุมองไปรอบๆและจดจำเหล่านักเรียนที่กำลังเดินออกไป

 

หากมองใกล้ๆจะเห็นว่านักเรียนบางคนกำลังกลุ้มใจ บางคนก็อ่านหนังสือมารยาทสำหรับผู้หญิงระหว่างเดิน

 

ทุกคนดูหมดหวังอาลัยตายยากในการสร้างความประทับใจแรกพบ

 

 

 

「ดูเหมือนทุกคนจะลำบากมากเลยนะครับ」

 

 

 

「พูดอะไรน่ะ โนโซมุเองก็ได้เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วยนะคะ」

 

 

 

「……หาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา?」

 

 

 

เมื่อโนโซมุได้ยินเช่นนั้นเขาก็ตกใจมาก จนพาเพื่อนๆถอนหายใจตามๆกัน

 

โนโซมุไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนถึงถอนหายใจ เขาก็อดไม่ได้ที่จะเกาหัวกับบรรยากาศแปลกๆที่ปกคลุมรอบๆ

 

 

 

「ประสบความสำเร็จในการทดสอบพิเศษแถมยังต่อสู้ได้อย่างสูสีกับอาจารย์จิฮัดที่ลานประลอง ฉันคิดว่าการที่โนโซมุไม่ได้รับเชิญต่างหากที่เป็นเรื่องที่แปลก อันที่จริงแค่รู้จักกับอาจารย์จิฮัดก็ได้เข้าร่วมแล้วนะคะ」

 

 

 

「ที่จริงแล้ว ก็มีชื่อเข้าร่วมงานของโนโซมุเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนี่คะ?」

 

 

 

「……อยู่ตรงไหนกันครับเนี่ยยยยยยยยยย?」

 

 

 

「ก็อยู่ที่กระดานข่าวหน้าประตูหลัก แต่ว่าติดไว้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วนะ

 

 เพราะมัวแต่ยุ่งระหว่างคิดไปเดินไปตอนเข้าเรียน เลยไม่สังเกตเห็นด้วยซ้ำสินะคะ เพราะมัวแต่หมกมุ่นกับการซ้อมกับท่านซอนเน่มากเกินไป?」

 

 

 

เห็นได้ชัดว่าเขามุ่งฝึกจนไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่าได้รับเชิญ

 

สายตาจากเพื่อนๆต่างมองด้วยความประหลาดใจ

 

 

 

「เอ่อ การที่ผมจะไปปรากฏตัวในงานเลี้ยงแบบนั้นจะดีเหรอครับ ผมเป็นถึงผู้ครองวิญญาณเทียแมต……」

 

 

 

บางทีอาจจะไม่สามารถทนต่อสายตาทำร้ายจิตใจได้ อย่างน้อยโนโซมุก็ขอโต้แย้งสักนิด

 

แต่ความคิดของโนโซมุก็ไม่ได้ผิดเลย

 

เขาเป็นคนที่ถือระเบิดเดินได้ ปกติแล้วจะไม่ต้องเผยตัวต่อสาธารณะ

 

คำถามนั้นถูกปฏิเสธอย่างง่ายดาย

 

 

 

「โนโซมุคุงมีร่างกายเป็นมนุษย์ตลอดเวลา หากเป็นเช่นนั้น การโผล่ไปในที่สาธารณะชนก็ไม่น่าจะมีปัญหา แม้แต่ท่านซอนเน่ยังบอกว่าไม่สามารถมองทะลุวิญญาณของโนโซมุได้ ดังนั้นคงมีโอกาสน้อยมากที่ทุกคนจะสังเกตเห็น」

 

 

 

「ยังมีอีกนะ โนโซมุเองก็ต้องการได้รับการยอมรับไม่ใช่เหรอ จากนั้นก็เพิ่มพันธมิตรและร่วมมือกันสร้างความช่วยเเหลือในยามจำเป็น」

 

 

 

「นั่นแหละคือเป้าหมาย ไม่ว่ากรณีใดโนโซมุคุงก็คงได้รับความสนใจไม่น้อยเลยล่ะค่ะ เนื่องจากการต่อสู้อันดุเดือดกับอาจารย์จิฮัด ฉันคิดว่าคงถูกลากตัวไปกลางงานแน่นอน」

 

 

 

「…………」

 

 

 

ดวงตาของโนโซมุเบิกกว้างราวกับว่าถูกเหตุผลทุกอย่างทิ่มแทง

 

 

 

「เอ่อตอนนี้ใช่เวลามายืนงงงั้นเหรอคะ」

 

 

 

「อะเอ่อ เดาว่าไม่ใช่แค่ไอริส ซีน่า และลิซ่าหรอกใช่ไหมที่มีทักษะเข้าสังคม……」

 

 

 

ไอริสที่หาตัวจับได้ยากในหมู่ชนชั้นสูง สามารถเข้าใจสิ่งที่เธอพูดกับคนอื่นๆและอ่านอารมณ์ผู้อื่นออก

 

ลิซ่าเองก็เป็นคนธรรมดาสามัญชนและไม่เคยติดต่อกับโลกชนชั้นสูงแต่เธอก็เข้าเรียนที่สถาบันแล้วได้พบชนชั้นสูงในทันใด

 

แล้วยังมีซีน่าเอลฟ์ที่เป็นสาวสวย เอลฟ์สาวผู้โดดเดี่ยว แต่เดิมมีความอ่อนไหวต่อความสมดุลต่อพวกมนุษย์อยู่แล้ว

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งหลังจากพวกเธอมาถึงเมืองนี้กันหมดก็มีทักษะเข้าสังคมกันหมดแล้ว

 

โนโซมุรู้สึกว่าหมดหนทางเลือก

 

 

 

「โนโซมุคุงนี่ไม่สนใจโลกรอบตัวมากเกินไปแล้วนะคะ」

 

 

 

「ฉันคิดว่าเธอควรจะมองรอบข้างให้มากกว่านี้หน่อยนะว่าควรวางตัวอย่างไรต่อคนอื่นน่ะ」

 

 

 

จู่ๆก็โดนคำพูดทำร้ายจิตใจ

 

ซีน่าและไอริสต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร้ความปราณี

 

เมื่มองย้อนกลับมาที่ตัวเอง โนโซมุเอาแต่ฝึกกับฝึกและฝึก และไม่เคยมีความรู้สึกอ่อนไหวเหมือนกับสาวๆเลย

 

โนโซมุคุกเข่าลงด้วยความสมเพชตัวเอง โดยคิดว่าผลลัพธ์ไม่น่าจะเป็นแบบนี้

 

 

 

「แต่การที่โนโซมุลืมแม้กระทั่งการอ่านกระดานข่าวของสถาบันแบบนี้ถือว่าบกพร่องในการเป็นนักเรียนของสถาบันนะ แบบนี้ใช้ไม่ได้เลยนะ?」

 

 

 

「อั่ก!」

 

 

 

เพื่อนสมัยเด็กของผมซึ่งคิดว่าใช้เวลาร่วมกันก็โจมตีใส่ผม

 

โนโซมุหลั่งน้ำตาขณะที่ทรุดตัวลงกับพื้น ราวกับบอกว่าชีวิตดับสูญ

 

 

 

「ถึงแม้ว่าจะเป็นโอกาสที่ดี แต่ไม่อยากเข้าร่วมเลยครับ……」

 

 

 

มันอาจจะเป็นเรื่องที่มีความสุข ถ้าเขารู้ตัวก่อนจะเข้าร่วมงาน ตอนนี้เขาหมดกำลังใจ

 

 

 

「งานปาร์ตี้บางทีมันก็น่าเบื่อนะ แต่อาหารที่เสิร์ฟอร่อยไม่แพ้ใครแน่นอน ฉันไม่คิดว่าการมากินอาหารในงานเลี้ยงมันจะแย่หรอกนะคะ」

 

 

 

「……ถ้าเป็นแบบนั้นพอคาดหวังได้ใช่ไหมมมมมม?」

 

 

 

ไอริสปลอบโนโซมุขณะที่ยิ้ม

 

โนโซมุสงสัยว่าเขาจะมีแรงฮึดเพราะเรื่องอาหารในงานเลี้ยงได้

 

บางทีอาจจะรู้สึกสดชื่นมากกว่านี้ โนโซมุลุกขึ้นพร้อมกับยิ้มมุมปาก

 

ซีน่าถอนหายใจ และลิซ่าก็ยักไหล่ราวกับเหลืออดกับเขา แต่ว่าเป็นฉากที่ทำให้อบอุ่นใจ

 

บรรยากาศอบอุ่น แต่ก็ถูกทำลายโดยกับระเบิดอันใหญ่

 

 

 

「อะ เอ่อ คือ มันมีการเต้นรำในงานปาร์ตี้ด้วย โนโซมุจะเลือกเต้นกับใครเหรอ?」

 

 

 

ระเบิดที่ถูกขว้างมานั้นใหญ่หลวงนัก และเกิดผลกระทบต่อทั้งสี่คน

 

ไอริส ซีน่า และลิซ่าต่างตัวแข็งทื่อยิ้มอย่างเงียบๆขณะที่โนโซมุตัดหดเหมือนกับเต่า และหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม

 

จากนั้นฟีโอที่โยนระเบิดลูกโตๆก็รีบหนีและมามองดูสถานการณ์

 

หมอนี่มันทำเสียเที่ยวทุกทีเลย เขาพยายามอ่านบรรยากาศและหาทางเลือกที่ดีที่สุด

 

โนโซมุต้องการเอาชนะตาแก่นั่น แต่หากไม่ผ่านสถานการณ์ตรงนี้ไปให้ได้ ก็คงสู่ขิตก่อนจะควบคุมพลังเทียแมตได้เช่นกัน ความสามารถในการรับรู้อันตรายของเขาส่งสัญญาณเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากเดินหมากผิด ตายทันที ดังนั้นเขาเลยเลือกที่จะเฉย

 

 

 

「ลองคิดดูสิ พวกเขาแจกที่คั่นหนังสือที่ออฟฟิศให้กับผู้ร่วมงานในปาร์ตี้ด้วยนี่ ถ้าเลือกไม่ได้ลองจับสลากดูก็ได้……」

 

 

 

「โอเค ถ้างั้นก็ลาก่อนนะทุกคน ! เดี๋ยวตามไปที่หลัง!」

 

 

 

「อ่า เฮ้ย!」

 

 

 

โนโซมุสะดุ้งกับคำพูดของมาร์และคิดว่านั่นคือคำอวยพร

 

จู่ๆผมก็ยกมือขึ้นแล้วรีบวิ่งไปที่ออฟฟิศดโดยสนใจความเหนื่อยล้าที่มีอยู่

 

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

 

ไอริสกลับบ้านของตัวเองเข้าไปในห้องทรุดลงบนเตียง

 

 

 

「ฉันจะต้องได้รับสิทธิ์นั้น……」

 

 

 

คำพูดเหล่านั้นหลุดมาจากปากของเธอ ขณะที่ซุกหน้าลงบนเตียง

 

สิ่งที่เธอจำได้อยู่ในใจคือการได้เทศนาโนโซมุหลังเลิกเรียน

 

 

 

「หวาาา ฉันไม่ได้ตั้งใจจะว่าเค้าเยอะแบบนั้นเลยนะ……」

 

 

 

พูดตามตรงเธอไม่ได้คิดจะดุโนโซมุด้วยท่าทางก้าวร้าวแบบนั้น

 

หลังจากใช้เวลาร่วมกับโนโซมุมาจนถึงตอนนี้ ฉันรู้ดีเกี่ยวกับวิธีคิดของเขาในการฝึกนั้นแตกต่างจากคนอื่นๆสิ้นเชิง และฉันก็รู้ด้วยว่าเขาพยายามอย่างนหนักที่จะคุมพลังของเทียแมต แต่ว่า…..

 

ไอริสเองก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน

 

แม้ภายนอกดูไม่เป็นไร แต่ไอริสสัมผัสได้ถึงความเหนื่อยล้าทางจิตใจของเขา

 

เหนือสิ่งอื่นใดปฏิกิริยาของโนโซมุที่เห็นผมสีขาวของเธอทำให้เขาลำบากใจมากไปอีก

 

 

 

「ฉัน มีความสุขเกินไปรึเปล่านะ……」

 

 

 

ไอริสหันหน้าของเธอซึ่งซุกเตียงไปด้านขวาและพันนิ้วของเธอเข้ากับผม

 

ผมของเธอหยาบกระด้าง แต่ก็เป็นผมที่เธอรัก

 

แม้ว่าจะภูมิใจกับผมสีดำเงางามของเธอ แต่เธอก็ภูมิใจที่สามารถปกป้องโนโซมุได้แม้จะเสียสีผมนั้นไป

 

แต่ว่าผมเส้นนี้กำลังสร้างปัญหาให้โนโซมุ

 

 

 

「สุดท้ายแล้วไม่อยากจะเชื่อเลยนี่ฉันทำตัวน่าอายขนาดนั้น……」

 

 

 

นอกจากนี้ไอริสยังแสดงความหึงหวงต่อลิซ่าอย่างชัดเจน หลังจากเห็นเธอจับแขนโนโซมุ เธอยิ่งหดหู่มากขึ้น

 

ฉันดีใจที่โนโซมุกับลิซ่าคืนดีกัน

 

แต่ว่าสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งก็ได้ทักทอขึ้นมาใหม่ระหว่างโนโซมุและลิซ่า แม้จะไม่แสดงให้ภายนอกได้ประจักษ์

 

ไม่ใช่อารมณ์ที่ร้อนแรงเหมือนดวงอาทิตย์ แต่เป็นความสนิทชิดเชื้อจนนึกถึงดวงจันทร์

 

ฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาความเปล่งประกายนั่น ซึ่งทำให้ฉันนึกถึงความสัมพันธ์ของพ่อกับแม่

 

โนโซมุและลิซ่าตัดสินใจเดินคนละทางแต่ไม่สามารถกลับคืนสู่หนทางอันหอมหวานเหมือนคู่รักได้ในสองสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

ถึงกระนั้นความรู้สึกเหล่านั้น “อาจจะ”ยังคงวนเวียนอยู่ในอกของเธอ พร้อมกับความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วร่างกาย

 

ไอริสเอาหน้าซุกเตียงอีกครั้ง หลับตาแน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้และผ่อนคลายตัวเอง

 

นอกจากการมองเห็นและความเจ็บปวดที่เหมือนกับพายุทะเลทราย ไอริสก็สูญเสียความรู้สึกนึกคิดราวกับอารมณ์อันมืดมนของเธอถูกปลดปล่อยไป

 

 

 

「สิ่งที่โนโซมุพยายามจะทำคือควบคุมพลังเทียแมตให้สมบูรณ์ แล้วสิ่งที่ฉันทำได้คือ……」

 

 

 

ไอริสเกือบจะไร้พลังเมื่อต้องฝึกฝนกับการคุมพลังเทียแมตของโนโซมุ

 

เธอไม่มีอำนาจในการควบคุมพลังวิญญาณดั่งซีน่า

 

แต่มีบางอย่างที่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้

 

 

 

「ตัดสินใจได้แล้ว!」

 

 

 

กระโดดลงจากเตียง เธอมุ่งหน้าไปที่โต๊ะแล้วหยิบปากกาขึ้นมาช้าๆ

 

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

 

เมื่อโนโซมุและคนอื่นๆหลับไปแล้ว จิฮัดที่อยู่ห้องทำงานในตอนดึก ตรวจสอบรายชื่อบุคคลสำคัญจากประเทศต่างๆที่มาเข้าร่วม

 

มีประเทศต่างๆเข้าร่วมมากมาย อย่าง ฟอร์ซิน่า และจักรวรรดิเคร์มาโซน

 

 

 

「ท่านจิฮัด ได้ส่งรายชื่อใหม่แล้ว ขณะนี้มีผู้เข้าร่วมงานปาร์ตี้ประมาณสองร้อยคน」

 

 

 

「ปกติจะน้อยๆ แต่ปีนี้เยอะเป็นพิเศษนะ」

 

 

 

จิฮัดยังคงตรวจสอบรายชื่อต่อไปด้วยสีหน้ากังวล

 

ตั้งแต่ใบหน้าที่คุ้นเคยจนกระทั่งชื่อที่เห็นเป็นครั้งแรก อย่าลืมจำชื่อเหล่านั้นไว้ในหัวอย่างละเอียด

 

 

 

「เป็นเวลาประมาณเจ็ดปีแล้วนับตั้งแต่นักเรียนชุดแรกสำเร็จการศึกษา ผู้สำเร็จการศึกษาจะค่อยๆถูกประเมิน เดาว่าสถาบันคงได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมากขึ้น」

 

 

 

「ความจริงที่ว่ามีผู้เข้าร่วมจากสหภาพสุมายาเพิ่มขึ้นก็เป็นข้อพิสูจน์」

 

 

 

เดิมทีสหภาพสุมายาเป็นประเทศที่สร้างขึ้นจากประเทศที่รอดชีวิตจากสงครามต่างๆจากการรุกรานของอบิสเมื่อสิบปีที่แล้ว

 

เนื่องจากภูมิหลังนี้ คนสำคัญบางคนอาจจะรู้สึกไม่ดีต่อประเทศตะวันตกมากนัก และสถาบันโซลมินาติ ซึ่งสร้างขึ้นภายใต้การนำของประเทศฟอร์ซิน่าทางตะวันตก ก็มีความรู้สึกเชิงลบบ้างเมื่อก่อตั้งครั้งแรก

 

รายชื่อยังรวมไปถึงผู้เฒ่าเผ่าเอลฟ์ด้วย

 

นับตั้งแต่พวกเขาสูญเสียป่าบ้านเกิดในการรุกรานครั้งใหญ่พวกเขาอาศัยอยู่อย่างเงียบๆใกล้ชายแดนระหว่างสหภาพสุมายาและอาณาจักรเคร์มาโซน

 

แม้จะสูญเสียบ้านเกิดไปแล้ว ฝ่ายรักสันโดษยังคงอยู่และไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเผ่าอื่น

 

อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงทีละน้อย ขณะที่คิดถึงเรื่องนี้จิฮัดพลิกหน้ากระดาษถัดไป

 

ในเวลานั้นก็มีชื่อหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจจิฮัด

 

 

 

“อีกอร์ต・เฟบูรัน”

 

 

 

หนึ่งในขุนนางผู้มีชื่อเสียงที่สุดในฟอร์ซิน่า จิฮัดขมวดคิ้วด้วยชื่อของหัวหน้าตระกูลเฟบูรันซึ่งเทียบเท่าตระกูลฟรานซิส

 

 

เร่งจบแบบสุดใจจะขาดดิ้น