บทที่ 8 ตอนที่ 1
ในป่าอันมืดมิด ร่างสองร่างเผชิญหน้ากันที่ด้านหน้าซากปรักหักพังของกระท่อมที่พังทลายและถูกไฟไหม้
หนึ่งในนั้นคือ โนโซมุ เบลาตี้ ชายหนุ่มผู้มีดาบอยู่ที่เอว
เขาสวมชุดเครื่องแบบสีขาวของสถาบันโซลมินาติ เขาหายใจเข้าลึกๆซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยสีหน้ากังวล
อีกคนหนึ่งตือซอนเน่ ชายชราผู้มีเคราสีขาวและหนวดสีขาวสวมเสื้อคลุม
เขามาที่เมืองนี้ในฐานะผู้ดูแลในการปิดผนึก เทียแมต และพับแขนอันเหี่ยวย่น และจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้า
มีความตีงเครียดเกิดขึ้นระหว่างทั้งสอง
ในที่สุดโนโซมุก็วางมือบนหน้าอกและประสานมือราวกับว่าเขากำลังจับอะไรบางอย่าง
จากนั้นทันทีที่เขาทำท่าเหมือนกระชากอะไรบางอย่างออกจากอก พลังมหาศาลเหมือนแม่น้ำเชี่ยวกราดกระจายทุกทิศทาง
「อั่ก!」
โนโซมุส่งเสียงร้องด้วยความทรมาน
ราวกับว่าพลังของเทียแมตกำลังไหลไปทั่วร่างกายของเขาด้วยความเจ็บปวดอันรุนแรง ใบหน้าของเขาแข็งทื่อและกำฝ่ามือของเขาจนเปลี่ยนเป็นสีขาว
เขาพยายามจะควบคุมพลังให้ได้
เขาหลับตาลงและจดจ่ออยู่กับตัวเองต่อไป
พลังที่กระจายตัวออกมารอบๆค่อยๆลดลงโดยไม่รู้ตัว
สีหน้าของโนโซมุบิดเบี้ยวมากกว่าเดิม ในไม่ช้าผิวหนังของเขาก็เริ่มมีเส้นเลือดแตกพร้อมกับเสียงร่างกายฉีกขาดหลายๆส่วนเพราะพลังของเทียแมต
โนโซมุก็ยังคงพยายามคุมสติของตัวเองไว้ไม่ให้หวั่นไหว
โดยไม่สนใจเลือดที่หลั่งริน เขายังตั้งหน้าทำสมาธิต่อไป
“ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซ!”
ส่วนหนึ่งของพลังของพลังที่รั่วไหลออกมาทำให้เกิดเสียงคำรามเหมือนความแต้น พัดก้อนกรวดและทรายที่อยู่รอบๆออกไป
จากนั้นพลังบางอย่างที่ล้นออกมาก็พันเข้ากับซอนเน่ ราวกับกำลังบีบคอเขา เสมือนเป็นเจตจำนงของตัวเอง
ซอนเน่ไม่แสดงท่าทีใดๆต่อพลังนั่นและเขาไม่คิดจะห้ามมันด้วยตัวเองยังคงเฝ้าดูสถานการณ์ตรงหน้าอย่างเงียบๆ
ไม่กี่นาทีต่อมามันก็หายไป ด้วยเสียงที่ดังกึกก้อง เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลของโนโซมุทันที
ทันใดนั้นซอนเน่ก็เปิดปากพูด
「มาได้เท่านี้เองรึ」
ในเวลาเดียวกันกับคำพูดเหล่านั้น พลังของโนโซมุก็ถูกจำกัดไว้
ทันทีที่โซ่ที่มองไม่เห็นเริ่มพันรอบตัวเขาอีกครั้ง โนโซมุก็คุกเข่าลง ณ จุดนั้น
「แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก……」
ลมหายใจที่ขาดหายหลุดออกมาจากปากโนโซมุ และเลือดที่ไหลลงมาจากบาดแผลที่เปิดอยู่ก็ทำให้พื้นย้อมไปด้วยสีแดง
ซอนเน่ใช้เวทย์รักษาอย่างรวดเร็วเพื่อให้โนโซมุกลับมาได้สติอีกครั้ง ตอนนี้โนโซมุก็กลับมาในสภาพปกติและถูกทำความสะอาดเลือดของเขาให้อีกด้วย
จุดประสงค์ที่ทั้งสองอยู่ตรงนี้ก็เพื่อตรวจสอบพลังของเทียแมต
เป็นการเรียนรู้ที่จะใช้พลังวิญญาณซึ่งเป็นพลังหลักของเหล่ามังกร และพลังต้นกำเนิด
เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ของโนโซมุ ผลลัพธ์นั้นออกมาไม่ดีนัก
「เริ่มฝึกมาได้สองสัปดาห์แล้ว บันทีกที่ดีที่สุดคือเพิ่มขึ้นสิบวินาทีนับแต่ครั้งแรก」
「ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา….จะว่าไงดีล่ะ มันเสถียรขึ้นแล้ว……」
ขณะที่โนโซมุดูผิดหวัง ซอนเน่กลับชม
「ร่างกายของเจ้าก็เหมือนกับมนุษย์ในทุกด้าน เว้นแต่จะสามารถควบคุมพลังเหนือธรรมชาติของเจ้าได้ หากทำเช่นนั้นไม่ได้มันก็จะไม่พัฒนาขึ้นหรอก」
“พันธนาการผนึกวิญญาณ”
มันเป็นความสามารถเหนือธรรมชาติของโนโซมุ และเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่
จุดประสงค์ของโนโซมุคือการสามารถเปิดใช้งานพลังของเทียแมตโดยที่ประครองสติไว้ได้
เป็นเวลาประมาณสองสัปดาห์หลังจากที่เริ่มฝึกเหมือนว่าจะควบคุมพลังเหนือธรรมชาติของเขาไม่ได้เลย
「ก่อนอื่นจะควบคุมพลังนี่ได้ยังไงกันล่ะเนี่ย?」
「”พลังเหนือธรรมชาติ”ที่ได้รับมาจากการเป็นดราก้อนสเลเยอร์ของเจ้านั้นแตกต่างจาก “พลังเหนือธรรมชาติดั้งเดิม”ที่จะมอบให้กับผู้ที่โค่นมังกรลงได้
พลังเหนือธรรมชาติของดราก้อนสเลเยอร์ ทุกๆคนจะสามารถเรียนรู้วิธีการใช้พลังได้เองอัตโนมัติ แต่วิธีนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถที่แต่ละคนได้ มันคล้ายกับความสามารถของเจ้าตัวที่เชี่ยวชาญ」
พลังเหนือธรรมชาติ เป็นคำทั่วไปที่ใช้เรียกพลังและความสามารถที่เผ่าพันธุ์หนึ่งครอบครอง ในทางกลับกัน ความสามารถเป็นคำทั่วไปสำหรับพลังที่บุคคลนั้นมีอยู่
ในแง่นั้นพลังเหนือธรรมชาติของผู้ที่ได้รับพลังจากการเป็นดราก้อนสเลเยอร์จะตีความได้สองอย่าง
「เนื่องจากพลังเหนือธรรมชาติของเจ้าเป็นการวิวัฒนาการความสามารถของตัวเจ้าเอง คนเดียวที่สามารถเรียนสิ่งนี้ได้ก็คือตัวเจ้าเองและเจ้าของพลัง ในแง่นั้นเจ้ามีแต่ต้องศึกษามันด้วยตัวเองเท่านั้น」
เมื่อพูดมาเยอะแล้วซอนเน่ก็หยุดครู่หนึ่ง
「แล้วประเด็นอื่นล่ะ สัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณหรือเปล่า?」
รวมจิตใจให้เป็นหนึ่งพร้อมกับปลดปล่อยพลังให้ถึงขีดจำกัดพยายามควบคุมพลัง นอกจากนี้ โนโซมุยังถูกมอบหมายอีกหน้าที่คือการจับสัมผัสกับพลังวิญญาณที่อยู่รอบตัว
พลังของมังกรคือพลังวิญญาณและพลังต้นกำเนิด เป็นพลังพื้นฐานในการสร้างโลกใบนี้
การเรียนรู้เวทย์วิญญาณนั้นเป็นเพียงทางลัดในการใช้พลังนี้
เข้าใกล้การควบคุมพลังในทิศทางที่ต่างออกไป โนโซมุพยายามใช้ประโยชน์จากเวทย์วิญญาณในการควบคุมพลัง
「ไม่เลย……」
「ฮะฮะ เจ้านี่ไม่รู้สึกถึงเหล่าวิญญาณที่อยู่โดยรอบเลยงั้นเหรอ? ในฐานะที่เป็นดราก้อนสเลเยอร์ แม้ว่าจะดูดซับพลังวิญญาณไปมากแค่ไหน แต่ร่างกายก็ยังคงความเป็นมนุษย์ ในอัตรานี้ การเรียนรู้เวทย์วิญญาณของเจ้าเข้าขั้นสิ้นหวังเลยนะ……」
ขั้นตอนแรกในการเรียนรู้เวทย์วิญญาณคือการรับรู้ถึงวิญญาณที่อยู่รอบตัว
จากนั้นสื่อสารกับวิญญาณที่สัมผัสได้
สุดท้ายก็จะสามารถใช้พลังได้โดนการถ่ายโอนพลังไปยังวิญญาณหรือภูติที่อยู่รอบๆ และใช้พันธสัญญาชั่วคราวในการสร้างปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติขึ้น
TN:เผื่อใครงงเกี่ยวกับเวทย์วิญญาณ มันก็คือวิญญาณตามชื่อ ซึ่งจะเป็นเหล่าภูติก็ดี สิ่งที่มองไม่เห็นก็ดีล้วนอยู่ในหมวดนี้ เป็นการยืมพลังของเผ่าที่ไร้รูปลักษณ์ นั่นเอง
โนโซมุนั้นพลาดในก้าวแรก(ไม่เห็นวิญญาณ)
เขาพยายามตั้งสมาธิและสัมผัสกับวิญญาณที่อยู่รอบๆโดยไม่ปล่อยพลังออกมา แต่ก็ไม่สามารถรับรู้ได้
ซอนเน่คิดว่าสาเหตุอาจเกิดจากการพันธนาการวิญญาณที่ทำให้ความสามารถในการพัฒนาเรียนรู้ทุกอย่างลดต่ำลง แต่หลังปลดปล่อยออกมาผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ต่างกัน
มีหลายครั้งที่บุคคลหนึ่งปรากฏตัวขึ้นสามารถสัมผัสวิญญาณ ซึ่งหาได้ยากในบรรดามนุษย์ เรื่องราวส่วนใหญ่ เช่น สัมผัสที่หกของมนุษย์ การเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น เป็นต้น
เหตุผลที่มนุษย์ไม่สามารถใช้เวทย์วิญญาณได้นั้นเป็นขั้นตอนที่สอง เนื่องจากมนุษย์แทบจะไม่สามารถสัมผัสกับวิญญาณได้เลย
ทั้งความตั้งใจและพลังเวทย์ที่มนุษย์ใช้นั้นมีรากฐานมาจากพลังของจิตวิญญาณซึ่งเป็นธาตุต้นกำเนิด ดูเหมือนว่าสมัยก่อนมนุษย์จะมีความสามารถในการจัดการธาตุต้นกำเนิดในร่างกายของมนุษย์ได้ด้วยการใช้เวลาและการฝึกฝน
โนโซมุที่ภายในร่างมีพลังของมังกรที่แข็งแกร่งที่สุด คิดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะใช้เวทย์วิญญาณ แต่จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีแววเลย
สีหน้าผิดหวังปรากฏขึ้นบนหน้าของโนโซมุ
「จะท้อไปทำไมพ่อหนุ่ม ควบคุมพลังเหนือธรรมชาติและเชี่ยวชาญเวทย์วิญญาณ สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถบรรลุได้เพียงชั่วข้ามคืนหรอกนะ จนถึงขณะนี้ ผู้คนที่ยิ่งใหญ่มากมายและประสบความสำเร็จต่างท้าทายและล้มเหลว คิดว่าพวกครึ่งมนุษย์ใช้เวลากี่ปีในการฝึกพลังให้เชี่ยวชาญได้ง่ายงั้นเหรอ ส่วนใหญ่ก็ใช้เวลามากทั้งนั้น แม้แต่ข้าก็ไม่เว้น?」
ซอนเน่พูดยั่วโมโหโนโซมุ
โนโซมุกัดริมฝีปากด้วยความหงุดหงิด ทันใดนั้นชายแก่ก็ยิ้มออกมา
「หรือเจ้าจะยอมแพ้แล้วงั้นเรอะ?」
「อย่ามาพูดบ้าๆนะไอ้ตาแก่บ้ากามนี่ ถ้าต้องยอมแพ้ในระดับนี้ ผมคงไม่เสนอหน้ามาฝึกแบบนี้หรอก」
โนโซมุตอบโต้คำยั่วยุของซอนเน่
มีแสงอันทรงพลังในแววตาของเขา
ความมุ่งมั่นนั่นคืออะไร มีบาดแผลมากมายไปทั่วทั้งร่างและเส้นเลือดฉีกขาดหลายเส้น
แม้ว่าจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด ความตั้งใจของเขาที่จะควบคุมพลังให้ได้ก็มีเบื้องหลังคำพูดสั้นๆแค่นั้น เขาตอกกลับตาแก่ตรงหน้าด้วยความมุ่งมั่นในตัวเอง
เมื่อซอนเน่เห็นโนโซมุที่ยิ้มออกมา เขาก็ยิ้มออกมาเช่นกัน
โนโซมุเองก็ไม่ยอมแพ้ รู้สึกเหมือนกลับมาได้ฝึกกับชิโนะอีกครั้ง
「เข้าใจแล้ว การเรียนรู้ก็คือการเลียนแบบ ทำซ้ำ และดัดแปลง แค่ซ้ำมันไปเรื่อยๆจนให้ร่างกายมันด้านชาและสัมผัสได้สัญชาตญาณก็พอแล้ว……」
โนโซมุพยายามลุกขึ้น
ไม่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยการฝึกฝนเพียงเล็กน้อย ทำซ้ำจนกว่าจะฝังไปถึงกระดูกดำ และเรียนรู้จะที่เลียนแบบ และปรับตัว บอกตัวเองว่าต้องฝึกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
「อย่างไรก็ตัวเจ้าที่มีสมญานามที่เรียกว่าลอร์ดนั่น……」
「อะไรกันตาแก่บ้ากาม」
「……เปล่า ไม่มีอะไร」
เมื่อมองไปที่โนโซมุที่ยืนขึ้น ซอนเน่ก็พูดถ้อยคำที่มีความหมายออกมา
โนโซมุถามอีกครั้งว่ามันคืออะไร แต่ซอนเน่ก็เลี่ยงที่จะตอบ
ความเงียบแปลกๆเกิดขึ้นระหว่างทั้งสอง
โนโซมุค่อยๆเปิดปากของเขาขณะที่เขามองดูซอนเน่ที่เงียบไป
「นี่ อาจารย์ เกิดอะไรขึ้นกับเทียแมต เมื่อ ห้าพันปีก่อน?」
「มีอะไรงั้นเหรอเจ้าหนุ่ม?」
「พูดตามตรงตอนแรกผมคิดว่าเทียแมตเป็นแค่ผู้หญิงเจ้าปัญหาเท่านั้น แต่ว่าผมก็ได้รับการช่วยเหลือจากเธอไว้มากมาย แต่ก็จริงที่มันสร้างปัญหาให้กับไอริสและคนอื่นๆแต่……」
「แต่……?」
ความสงสัยเกิดขึ้นในตัวเขา ราวกับจะยืนยันสิ่งนี้ โนโซมุหายใจเข้าลึกๆและหลับตาลง
จากนั้นก็กั้นหายใจจังหวะหนึ่ง ปล่อยอากาศที่ไหลอยู่ในปอด และพูดออกมา
「ก็รู้สึกว่าตัวผมกับเธอนั้นคล้ายกัน……」
หลังจากได้ยินคำพูดของโนโซมุ ซอนเน่ก็ลูบเคราของเขาอย่างครุ่นคิด
「โอ้ยนี่เจ้ายังไม่เห็นอดีตทั้งหมดของเทียแมตอีกงั้นเหรอ?」
「มิคาเอล…สิ่งเดียวที่ผมรู้ตอนนั้นคือเขาพยายามจะสร้างประเทศร่วมกับเทียแมต แต่สุดท้ายก็ล่มสลายไป」
ฉากที่โนโซมุเห็นคือประเทศที่ถูกทำลายไปแล้ว เพื่อนมังกรที่ตายจากไป และเทียแมตต้องทุกข์ทรมานจากพลังงานที่เธอดูดซับเอาไว้
จากนั้นเทียแมตก็ถูกมิคาเอลปฏิเสธตัวตนของเธอ และเธอก็จมอยู่ในความสิ้นหวังและความโกรธ
แต่ไม่รู้เลยว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร
มีบางอย่างที่เป็นเหตุการณ์สำคัญ
ในเวลานั้นเขาพยายามทำความเข้าใจกับความโกรธของเทียแมต และหันดาบใส่พวกไอริส เขาพยายามตลอดเวลาที่จะฟังเสียงของเทียแมตและมิคาเอล
「อย่างไรก็ตาม เทียแมตเองก็ถูกทรยศเหมือนกัน……」
ชิ้นส่วนทั้งหมดยังไม่ครบ และแม้ว่าโนโซมุรู้ว่าเกิดอะไร แต่ไม่รู้สาเหตุหลักๆ
「ฮืม….มันก็เป็นเรื่องที่ดีที่เราจะมาคุยเรื่องของเธอ แต่พูดตามตรงข้าไม่สามารถบอกเจ้าได้มากนัก ไม่ว่าจะรู้เกี่ยวกับชะตากรรมของอัลฮารันต์หรือไม่ก็ตาม……」
「อัลฮารันต์?」
「เป็นชื่อประเทศที่เทียแมตและมิคาเอลสร้างขึ้น แม้ว่าชื่อมันจะถูกฝังอยู่ในดินแดนเหล่านั้นเป็นเวลานานและหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ของมนุษย์ก็ตามแต่……」
อัลฮารันต์ โนโซมุไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
「อยู่อีกมิติเหรอ?」
「ก็แบบนั้นแหละ ถ้านั่นคือสิ่งที่กำลังพูดถึงกัน แสดงว่ามีใครบางคนเหมาะสมกว่าข้า」
เมื่อมองโนโซมุที่กำลังพึมพำชื่อ ซอนเน่ก็วางมือลงบนพื้น
「ถ้าอย่างงั้นกลับบ้านกัน」
「อืม! ……」
「เป็นเรื่องจริงที่เผ่ามังกรขาวปิดผนึกอัลฮารันต์และเทียแมตเอาไว้ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องนั้นมีคนที่เหมาะสมกว่าข้า กรุณารอสักครู่……」
ก่อนที่โนโซมุจะประท้วง วงเวทย์จำนวนนับไม่ถ้วนก็ลอยไปในอากาศและเปล่งประกายต่อหน้าเขา
ช่วงเวลาต่อมาทั้งสองก็หายไปอย่างกะทันหัน
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
เมื่อแสงสีขาวที่ส่องสว่างการมองเห็นของเขาลดลง พื้นที่อันกว้างใหญ่และมีแสงสลัวก็แผ่กระจายด้านหน้าโนโซมุ
ที่เท้ามีอักษณเวทย์ที่ซับซ้อนและเปล่งแสงจางๆ
ปัจจุบันเขาอยู่ใต้ดินของสถาบันโซลมินาติและเป็นห้องใต้ดินที่มีบาเรียเวทย์ติดตั้งอยู่
「ดูเหมือนจะกลับมาแล้วนะ」
เสียงทุ้มลึกดังก้องในห้องใต้ดินที่มีแสงสลัว เมื่อโนโซมุหันความสนใจไปยังทิศทางของเสียง ก็เห็นชายคนหนึ่งสวมเกราะสีเงิน
จิฮัด รันเดล
เขาเป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของสถาบันและเสนอสถานที่นี้ให้กับซอนเน่
ไม่นานหลังจากการโจมตีของอาเซล โนโซมุก็ได้เรียนรู้ถึงความเชื่อมโยงระหว่างซอนเน่และจิฮัด
โนโซมุและเพื่อนๆของเขาถูกเรียกไปยังห้องทำงานของจิฮัด ซึ่งพวกเขาได้รู้ว่าจิฮัดและซอนเน่ทำงานร่วมกัน
หินขนาดห้าก้อนที่จิฮัดยังคงแสดงให้เห็นนั้นก็มาจากซอนเน่เช่นกัน
หลังจากนั้นมีเหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่ไอริสและเพื่อนๆ ถามคำถามกับซอนเน่และจิฮัด แต่ในที่สุดก็เชื่อว่าพวกเขาทำงานร่วมกันจริงๆ
จากนั้นจิฮัดใช้ห้องนี้เป็นพื้นที่สำหรับวิจัยตัวโนโซมุ
สถานที่ที่มีคนน้อยเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการฝึกโนโซมุ ดังนั้นจึงไม่สามารถฝึกในเมืองได้
แม้ว่าเขาจะต้องไปป่า โนโซมุก็รู้สึกว่าการฝึกฝนแม้แต่วินาทีเดียวก็ไม่อยากให้สูญเปล่า
ดังนั้น แนะนำให้ใช้เวทย์เคลื่อนย้ายของซอนเน่เพื่อไปที่ป่าจากชั้นใต้ดินของสถาบัน
ด้วยเหตุนี้ ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาจึงเดินทางไปกลับด้วยชั้นใต้ดินกับป่า
จิฮัดเหลือบมองโนโซมุและขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็กลับเป็นปกติก่อนที่โนโซมุจะสังเกตเห็น
「ขอบคุณที่พยายามอย่างหนักนะโนโซมุคุง กลับบ้านได้แล้วล่ะวันนี้」
「ครับ」
จิฮัดบอกให้โนโซมุกลับบ้านโดยไม่พูดอะไรเป็นพิเศษ
คำพูดของซอนเน่ที่บอกให้เขา “รอ” นั้นติดอยู่ในหัวของโนโซมุมาตั้งแต่นั้น ไม่สามารถเอาชนะความเหนื่อยล้าที่ปกคลุมไปทั่วร่างกายของเขา และเขาก็ออกจากห้องใต้ดินอย่างไม่มั่นคง
หลังจากยืนยันว่าโนโซมุออกจากห้องใต้ดิน จิฮัดก็รีบเข้าไปหาซอนเน่และถามเขาด้วยเสียงเงียบๆ
「แล้วเป็นยังไงบ้าง」
「ตามปกติแล้วไม่มีวี่แววเลยที่จะใช้เวทย์วิญญาณได้ ในช่วงสองสัปดาห์เขาปล่อยพลังจำนวนมากและทุบสถิติเดิมถึงสิบ วินาที」
「สิบวินาที?……」
จิฮัดพูดแบบนั้นซ้ำๆ จากนั้นก็หายใจเข้าลึกๆ ราวกับกำลังถอนหายใจ
「ใช่แล้ว สิบวินาที」
「มันสุดยอดไปเลยไม่ใช่เหรอไง……」
ซอนเน่พยักหน้าช้าๆราวกับเห็นด้วยกับคำพูดของจิฮัด
โนโซมุที่ได้รับพลังมา ไม่สามารถนิยามได้ว่าเป็นพลังที่มนุษย์จะรับไหว
เหตุผลที่เหล่ามังกรสร้างโลกและปิดผนึกมันเอาไว้ก็เพราะถูกตัดสินว่าพลังของเทียแมตนั้นไม่สามารถมองข้ามได้
ถ้าคิดถึงข้อเท็จจริงนั้น จะเข้าใจได้ว่าสิบวินาทีซึ่งเปรียบเสมือนเม็ดทรายนั้นน่าทึ่งเพียงใด
「ตัวเขาเองดูไม่พอใจ ดูเหมือนจะใจร้อนไปนิด และจำเป็นต้องให้ควบคุมพลังให้ได้โดยเร็วที่สุด」
ต่างจากความเข้าใจของซอนเน่และจิฮัด โนโซมุไม่พอใจกับผลลัพธ์นี้
เขาคงคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆ
อย่างไรก็ตามการที่เขาหันดาบใส่เพื่อนครั้งที่สองมันหลอกหลอนตัวโนโซมุ
「แล้วต้องรายงานบุคคลนั้นไหม?」
「การทำให้ใครบางคนสงบลงและคลายความเครียดได้ก็เป็นเรื่องยาก และอาจให้ผลตรงกันข้ามด้วยซ้ำ นั่นอันตรายกว่าที่คิด ต้องฝึกฝนให้ถึงขีดจำกัดในขณะที่ยังทนแรงกดดันได้」
อาจเกี่ยวกับความอดทนของโนโซมุ แต่แน่นอนว่าเขามีแรงบัลดาลใจในการฝึกฝนอย่างหนัก
นอกจากนี้ โนโซมุเคยเลือกการฝึกเพื่อหนีความจริง แต่จากการสังเกตของซอนเน่ ดูเหมือนว่าโนโซมุจะไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องแบบนั้นอีกแล้ว
เขาฝึกฝนโดยเผชิญกับความเป็นจริงตรงหน้า ไม่ใช่ภาพลวงตาอันคลุมเครือ
「ดังนั้นข้าคงต้องปล่อยให้เหล่าสาวๆช่วยเยียวยาจิตใจของเขา แม้ว่าข้าอยากจะทำบ้างก็ตาม หมอนั่นชีวิตมันช่างแฮปปี้ไลฟ์จริงๆเลย ข้าอิจฉาชะมัดได้มีสาวๆล้อมกาย……」
「เอ่อท่านซอนเน่……」
อันที่จริงเหตุผลที่โนโซมุจมปลักอยู่กับการฝึกในตอนนี้ก็เพราะไอริสและคนอื่นๆ ในกรณีนั้นก็ให้การที่เขาฝึกเพื่อพวกเธอ ให้พวกเธอเป็นฝ่ายซัพพอร์ตเขาดีกว่า
บทสนทนาครึ่งหลังเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาดังนั้นปล่อยไปเหอะ
「แต่ว่าเจ้าหนุ่มนั่นก็เคยมีประสบการณ์แล้วครั้งหนึ่ง จากการฝึกนั้นแตกต่างออกไป แต่ดูเหมือนว่าจะจับประเด็นหลักๆได้แล้ว」
「อย่างที่คิดสินะ……」
「อา ไม่เคยคิดเลยนะว่าเขาจะได้รับวิชาดาบแบบนั้นในวัยนี้ ความสามารถในการมองเห็นอันตรายที่ถึงชีวิตที่ฝังเข้ากระดูกดำของเขา และตอบตอบสนองพร้อมกับไหวพริบอันสุดยอดยังยอดเยี่ยมมากกว่ามนุษย์ที่เคยเห็นทั้งหมดเสียอีก…」
สิ่งที่ทำให้ซอนเน่ประทับใจคือสมาธิของโนโซมุระหว่างการฝึกซ้อม
เขามองเห็นว่าตอนที่เขาจะได้รับบาดเจ็บจากการทำลายตนเอง และในเวลาเดียวกันกับซอนเน่ที่หยุดเขา เขาก็ใช้พันธนาการวิญญาณก่อนที่ซอนเน่จะเตือนอีก
「ประมาทไม่ได้เลยจริงๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าได้ทำสิ่งต่างๆโดยไม่ประมาทเลยสักนิด เส้นแบ่งชีวิตระหว่างความเป็นความตายนั้นมองเห็นได้ชัดเจน จนเริ่มกังวลแล้ว」
「ในฐานะอาจารย์ มันทำให้กังวลทุกครั้ง ตอนนี้รู้แล้วว่าอาจจะเป็นศิษย์น่าทึ่งที่เคยมีมาก็ได้……」
ซอนเน่ถอนหายใจลึกๆ เห็นอกเห็นใจอาจารย์ของโนโซมุซึ่งเขาไม่เคยพบมาก่อน
ในฐานะอาจารย์ อาจมีนักเรียนเพียงไม่กี่คนที่กังวลเรื่องนี้มากนัก
「ตอนนี้เข้าใจสถานการณ์ของโนโซมุคุงแล้ว ข้าเองก็จะมีประชุมเร็วๆนี้ ขอโทษด้วยนะ」
「ถึงช่วงพิธีปฐมนิเทศแล้วงั้นเหรอ ? ได้ยินข่าวกันให้แซ่ดเลย ดูเหมือนจะมีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น」
「ใช่ หวังว่าจะไม่มีเรื่องใดๆให้กังวลเกิดขึ้น」
หลังจากโค้งคำนับกับซอนเน่แล้ว จิฮัดก็ออกจากห้องใต้ดิน
หลังจากเห็นจิฮัดออกไปแล้ว ซอนเน่ก็เหลือบมองพื้นของห้องใต้ดิน
「เทียแมต มิคาเอล เวลาที่หยุดนิ่งมาถึงห้าพันปี บัดนนี้ถึงเวลาที่จะเริ่มเดินเข็มนาฬิการึยัง……」
เขายังคงไม่แสดงสีหน้าและจ้องมองพื้นต่อไปราวกับกำลังตรวจสอบอะไรบางอย่าง
ในที่สุดซอนเน่ก็เงยหน้าขึ้น หลับตา และเปิดใช้งานเวทย์เคลื่อนย้าย
หลังจากนั้น ในห้องใต้ดินที่มีแสงสลัว เหลือเพียงแสงที่ส่องประกายจากวงเวทย์เท่านั้น
ขึ้นบน 8 แล้ว ตอน DLC ทั้งหลายจะไว้แปลหลังจบเนื้อเรื่องหลัก เพราะมันไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลัก
ขอบคุณท่านใดก็ตามไม่ทราบชื่อเสียงเรียงนามโอนให้กระผม ขอบคุณสำหรับโดเนท แต่ไม่ต้องก็ได้นะครับ
เกรงใจครับ ผมแค่กลับมาทำหน้าที่ของผมให้เสร็จเท่านั้นเอง