ตอนที่ 106 การฝึกภาคสนามของการต่อสู้ชิงตำแหน่งหัวหน้า 18

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 106 การฝึกภาคสนามของการต่อสู้ชิงตำแหน่งหัวหน้า 18

แต่จะเป็นไปได้อย่างไร? เด็กคนนี้เคยอยู่ในระดับ 4 ดาวมาก่อน ดังนั้นเขาไม่น่าจะอยู่ในหน่วยรบพิเศษ

คณบดีแกลลาเกอร์คิดอยู่ครู่หนึ่ง “หรือบางทีเด็กคนนี้อาจจะเป็นทหารอยู่ในแผนกบำรุงเครื่องจักรกล?”

“ไม่ใช่ครับ!” พลเอกโอคาซีมองดูเบนเน็ตบนหน้าจอ แน่นอนว่าพลเอกหนุ่มจดจำนักเรียนอวบอ้วนคนนี้ได้

“เขาอยู่แผนกเกษตรกรรม”

คณบดีแกลลาเกอร์ตกตะลึง “ใช่เหรอ? แผนกเกษตรกรรมมีคนแบบนี้ด้วยหรือไง?”

โอคาซีพยักหน้า “เขาเป็นนักเรียนที่เคยอยู่ในระดับ 3 ดาวมาก่อนครับ”

พลังดวงดาวระดับสามนั้นไม่สามารถสอบเข้าสถาบันทางการทหารของจักรวรรดิได้ด้วยซ้ำ อย่าพูดถึงแต่สถาบันทางการทหารเลย แม้แต่สถาบันอื่นก็เป็นไปไม่ได้…

ดังนั้นเขาจึงเข้าร่วมได้เพียงแค่แผนกเกษตรกรรมเท่านั้น!

“บางที เขาอาจจะอยากเข้ากองบัญชาการรบ” คณบดีแกลลาเกอร์ลูบคางของตนเอง ต้นกล้าที่ดีงามเช่นนี้ หากไม่เข้ามาที่กองบัญชาการรบ พรสวรรค์ของเด็กชายคนนี้ก็จะเสียเปล่าไม่ใช่เหรอ!?

การใช้พลังดวงดาวแปรสภาพเป็นของทั้งสองสิ่งในเวลาเดียวกันนั้นย่อมเป็นไปได้! แต่พลังจิตจะต้องแข็งแกร่งมาก!

นี่คืออัจฉริยะ!

“บางทีเขาอาจจะไม่ได้อยากเข้าก็ได้” แลนเซล็อตที่นั่งอยู่ด้านข้างกำแพง เอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ราวกับกำลังพูดถึงสิ่งลี้ลับ “ก็เขาประสบความสำเร็จได้เพราะองค์หญิงนี่ครับ”

สายตาเหลือบมองไปทางโอคาซี “ท่านพลเอกโอคาซี? ท่านคิดว่าสิ่งที่ผมพูดถูกต้องไหม?”

โอคาซีมองตอบเขาและพยักหน้า “แน่นอนครับ!”

สวี่หลิงอวิ๋นยอดเยี่ยมมาก! เธอสมควรได้รับคำชมเชยและการยกย่องจากทุกคน

“ยอดเยี่ยมมากที่ความคิดเห็นของเราตรงกัน!” แลนเซล็อตเผยตาหยีที่ดูคล้ายกับรอยยิ้ม “ดูเหมือนว่าความคิดของเราจะเหมือนกันมากขึ้นเรื่อย ๆ นะครับ”

“แต่ผมหวังว่าการเลือกคู่ครองของพวกเราจะต่างกันออกไป ท่านก็คิดเช่นนั้นใช่ไหม?”

ดวงตาเฉียบคมราวกับดาบของโอคาซีจ้องมองไปที่อีกฝ่าย

พลเอกหนุ่มเข้าใจคำพูดของอีกฝ่ายอย่างแจ่มแจ้ง! องค์ชายรัชทายาทคนนี้กำลังประกาศสงครามกับเขา!

ตราบใดที่ไม่ใช่คนโง่เขลาย่อมมองเห็นคุณค่าในตัวของสวี่หลิงอวิ๋น ดูเหมือนว่าเธอจะมีหนทางในการช่วยให้ผู้คนอัปเกรดพลังดวงดาว

ถึงแม้ว่าจะมีเพียงสองคนที่ได้รับการเลื่อนขั้นจากการแข่งขันบนลานน้ำแข็งนี้ แต่ความน่าจะเป็นดังกล่าวยังมีผลพวงมาถึงปัญหาบางอย่างเช่นกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสวี่หลิงอวิ๋นมองดูท่าทีการเลื่อนขั้นของเบนเน็ต รอยยิ้มของเธอก็บ่งบอกได้ว่าเธอเข้าใจทุกอย่างและเห็นดีเห็นชอบด้วย!

หรือนี่แสดงว่า? มันคือสิ่งที่เธอคาดหวัง!

เธอจงใจ!

ผู้บังคับบัญชาผู้ที่สามารถเปลี่ยนแปลงความแข็งแกร่งของเหล่าทหารได้คือผู้บังคับบัญชาการที่เหล่าทหารต้องการติดตามโดยไม่มีข้อกังขา!

ยิ่งไปกว่านั้น สถานภาพของอีกฝ่ายยังน่าเกรงขาม เป็นคุณสมบัติขององค์หญิงที่ตรงตามเงื่อนไขของจักรวรรดิเอเดน! แค่นี้ก็เกินพอแล้ว!

“ผมจะปกป้องทุกอย่างที่เป็นของผม” โอคาซีพูดขึ้นอย่างหนักแน่น

ผู้บังคับบัญชาการทั้งหลายเฝ้ามองดูการต่อสู้ของทั้งสองอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะคิดถึงลูกหลานของตนเองว่ามีใครที่ดูหล่อเหลาและพูดจาอ่อนหวานที่จะสามารถเอาชนะใจองค์หญิงสามได้บ้าง?

สำหรับโอคาซีและแลนเซล็อตน่ะเหรอ? ฮึ่ม! พอเถอะ! ถึงจะเป็นคนแบบเดียวกันแต่ใช่ว่าจะต้องชอบกัน บางทีองค์หญิงสามอาจจะชอบแค่ข้าวต้มผักดองก็ได้!

อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ยังไม่ได้แต่งงาน คุณก็สามารถเก็บสะสมทุกอย่าง งัดและพาผู้หญิงคนนั้นให้มาอยู่ในใต้ชายคาเดียวกันได้

บางทีพลเอกโอคาซีผู้น่าสงสารยังไม่รู้ว่าตัวเองยังมีคู่ต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์เหลืออยู่อีกกลุ่มหนึ่ง?!

“หวังว่าท่านจะปกป้องเอาไว้ได้” แลนเซล็อตอมยิ้ม “แล้วเรามาคอยดูกัน”

ณ จุดนี้คาร์ล เกเกอร์ผู้ช่วยของแลนเซล็อตรู้สึกตื้นตันจนแทบจะเป็นลมล้มลงไป! ช่างมีความสุขอะไรเช่นนี้!

องค์ชายรัชทายาทของเขากำลังตกหลุมรักองค์หญิงสาม! ในที่สุดผู้หญิงคนหนึ่งก็ได้รับความสนใจจากฝ่าบาทเสียที!

เย้เย้เย้! บั้นท้ายของฉันรอดแล้ว!

คาร์ลรู้สึกตื้นตันจนน้ำตาแห่งความสุขไหลริน สาบานได้ว่าเขาจะช่วยให้องค์รัชทายาทเป็นที่โปรดปรานขององค์หญิงสามมาให้ได้ และมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ เพื่อให้องค์รัชทายาทแต่งงานกับองค์หญิงสามได้สำเร็จ!

ชายหนุ่มรูปงามทั้งสองของทั้งห้วงดวงดาวหันศีรษะกลับไปจดจ่อกับเกม

ชาวเน็ตทั้งหลายเริ่มอารมณ์ฉุนเฉียว!

พวกเขาไม่ได้แม้แต่จะสนใจว่าชายรูปงามทั้งสองจะแข่งขันอะไรกัน แต่ความสนใจทั้งหมดของพวกเขากลับตกไปอยู่ที่เบนเน็ตแทน

การเลื่อนขั้นไปถึงระดับ 6 ดาวยังคงทำให้พวกเขาประหลาดใจ ไม่คิดมาก่อนว่าเจ้าเด็กอ้วนจากแผนกเกษตรกรรมคนนี้จะกลายเป็นผู้นำ!

“เขาได้รับการเลื่อนขั้นขณะวิ่งได้ยังไง? และที่สำคัญที่สุดคือเด็กคนนั้นกำลังได้เลื่อนขั้นไปถึงระดับ 6 ดาว!”

“เขาต้องการก้าวขึ้นไปถึงระดับ 6 ดาวในระยะเวลาสั้น ๆ แบบนี้เหรอ? นั่นมันดูเว่อร์ไปหรือเปล่า?! พวกคุณคิดว่าเขาจะทำได้ไหม?”

“มันน่าจะไม่ได้ผลหรอก ใช่ไหม? ไม่เคยมีใครได้รับการเลื่อนขั้นแบบนี้มาก่อน!”

“แต่เขายังดูดซับพลังงานไม่หยุดเลยนะ! หรือพูดอีกอย่างก็คือเขาดูดซับพลังงานได้เร็วมาก ถูกต้องไหม? เหมือนกับหลุมดำแน่ะ”

“ฉันรู้จักเด็กคนนี้ เขาชื่อว่าเบนเน็ต เขามีหลุมดำอยู่ในร่างกายมาตั้งแต่เด็ก เพราะงั้นเขาเลยไม่มีความถนัดอะไรเลย”

“บัดซบ! เป็นอย่างนั้นเหรอเนี่ย? แล้วตอนนี้เขายังมีหลุมดำอยู่ในร่างกายหรือเปล่า?”

หลุมดำเป็นสิ่งที่ทำให้คนทั้งจักรวรรดิประกายดวงดาวหวาดกลัว มันเปรียบเสมือนกับโรคมะเร็งและโรคเอดส์ในทุกวันนี้!

ถ้ารักษาไม่หาย อนาคตก็จะพังทลายลงไป

สิ่งสำคัญที่สุดคือหลุมดำจะชื่นชอบบุคคลที่เกิดมามีพลังจิตแข็งแกร่ง มันสามารถเปลี่ยนเด็กที่มีคุณภาพชั้นสูงให้กลายเป็นเพียงเศษขยะได้!

เมื่อมองดูการวิ่งของเบนเน็ต ทุกคนถึงกับตั้งคำถามอยู่ในใจว่า หลุมดำของเขาอยู่ที่ไหน? หลุมดำนั้นยังอยู่ในร่างกายของเขาหรือเปล่า?

ถ้าหลุมดำยังอยู่ในร่างกายของเบนเน็ต แล้วเขาสามารถขัดขวางการทำงานของหลุมดำและดูดซับพลังดวงดาวได้อย่างไร?

แต่ถ้าเกิดมันไม่ได้อยู่ในร่างกายของเขา แล้วสามารถรักษาจนหายขาดได้อย่างไร?

ทุกคนต่างมีคำถามมากมายอยู่ในจิตใจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่เกิดในครอบครัวเช่นนี้ ในฐานะพ่อแม่ พวกเขาคงรู้สึกยินดีปรีดาที่หลุมดำของลูกตนเองจะได้รับการรักษา จากนั้นก็จะกลายเป็นเด็กที่อัจฉริยะที่สุด!

ในไม่ช้าข้อมูลของเบนเน็ตก็เริ่มแพร่กระจายอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ต แม้ว่าจักรวรรดิจะเข้าแทรกแซงอย่างรวดเร็ว แต่บางแห่งก็ยังได้รับข้อมูลดังกล่าว บางคนถึงขนาดเข้าไปพบครอบครัวของเบนเน็ตเพื่อให้พวกเขาอธิบายข้อกังขานี้

แน่นอนว่านี่จะเป็นเรื่องราวในภายหลัง แต่ตอนนี้พวกเราต้องกลับไปยังการแข่งขันก่อน

เบนเน็ตยังคงจดจำช่วงวัยเด็กของเขาได้ดี ทุกคนต่างพูดว่าน่าสงสารจัง หลุมดำชอบเด็กที่มีพลังจิตที่แข็งแกร่ง น่าเสียดายที่เขากลายเป็นแค่คนไร้ประโยชน์

ญาติมิตรทั้งหลายต่างมองดูเขาด้วยความโศกเศร้า ทว่าเพื่อนร่วมชั้นกลับหัวเราะเยาะ

ความรู้สึกแย่ ๆ ที่มีมานานนับหลายปีได้มลายหายไปหมดพร้อมกับการวิ่งในครั้งนี้ มีเพียงคำหนึ่งคำที่อยู่ในหัว นั่นคือวิ่ง!

วิ่งต่อ! วิ่งต่อไป!

เขากำลังจะบิน! ราวกับว่าตัวเองได้เกิดใหม่อีกครั้ง!

เบนเน็ตเริ่มรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองเบาขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับมือจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังพยุงเขาให้โบยบิน โดยไม่รู้สึกเหนื่อยล้าสักนิด เขารู้สึกได้ถึงพลังงานมหาศาลคล้ายกับร่างกายของตัวเองกำลังถูกแช่อยู่ในน้ำร้อน มันเป็นความรู้สึกที่มหัศจรรย์มาก

เฉกเช่นเดียวกับที่คนโบราณว่าไว้ ‘การตรัสรู้’ ตอนนี้เขาหมกมุ่นอยู่กับภาพจำลองนั้น และตรัสรู้ได้ถึงทุกสิ่งอย่าง

เมื่อสายลมสงบนิ่ง ร่างกายของเขาก็เลื่อนขั้นไปจนถึงจุดวิกฤต ทันใดนั้นก็สงบลงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน…

เขาไม่ขยับเขยื้อน และได้รับการเลื่อนขั้นเป็น 6 ดาว!

ทั้งสนามตกอยู่ในความเงียบ!

ชาวเน็ตทั้งหลายก็สงบนิ่งเช่นกัน แม้แต่ที่นั่งกรรมการก็ยังเงียบงัน

จนกระทั่งสวี่หลิงอวิ๋นปรบมือ จากนั้นผู้คนจึงเริ่มปรบมือเช่นกัน เสียงปรบมือเกรียวกราวเริ่มดังก้องราวกับเสียงฟ้าร้อง