ครูฝึกโจ่วพลันถามอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง “แล้วเซรุ่มที่ฉันเอามาให้นายตรวจมันใช้ได้ผลไหม? แล้วถ้ามันถูกฉีดเข้าไปในร่างกายของใครสักคนล่ะ? จะเกิดอะไรขึ้นกัน?”

“ฉีดเข้าไปในร่างกายของใครสักคน?” นักวิจัยเผยยิ้มอย่างขมขื่น “บุคคลนั้นก็อาจจะตายได้ หรือไม่เขาก็อาจจะติดเชื้อและอวัยวะภายในล้มเหลว จากที่ตรวจดูอย่างละเอียดแล้ว ค่าการผสมผสานของยีนของสัตว์ทั้งสามยังไม่ค่อยสูงมากนัก และมันก็อาจจะเป็นเซรุ่มที่ยังไม่สมบูรณ์ แต่แค่การผสมยีนของมนุษย์ให้เข้ากับสัตว์ก็เป็นเรื่องที่ยากมากพออยู่แล้ว นับประสาอะไรกับการฉีดยีนของสัตว์เข้าไปในร่างกายของมนุษย์ล่ะ… หรืออีกอย่าง เนื้อเยื่อดีเอ็นเอของบุคคลนั้นก็อาจจะถูกกินและถูกทำลายได้ แต่ยังไงก็เถอะ ในประวัติศาสตร์ของการวิจัยทางชีววิทยา การทดลองประเภทนี้ยังไม่มีใครทำให้ประสบความสำเร็จได้เลย”

ครูฝึกโจ่วพลันถอนหายใจ “แต่คราวนี้… เดิมทีเรามีทหารที่ผ่านคุณสมบัติในการเข้าร่วมหน่วยรบมังกรอยู่แล้วสามนาย แต่โชคร้ายที่หนึ่งในนั้นถูกฉีดด้วยเซรุ่มนี้ ไอ้เซรุ่มบัดซบนี่ทำให้ทั้งสุขภาพและความสามารถโดยรวมของเขาลดลง ตอนนี้ฉันสงสารหมอนั่นมากเลยล่ะ”

ทันใดนั้น นักวิจัยก็ตอบกลับ “มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว อีกอย่าง ทหารนายนั้นก็อาจจะเหลือเวลาอยู่อีกไม่มากแล้วด้วย แต่ถ้าเราคิดในแง่ดี หน่วยรบมังกรเองก็ยังมีตำแหน่งงานอื่นว่างอยู่นะ อย่างน้อยให้เขามาช่วยงานด้านโลจิสติกส์ก็ได้”

ครูฝึกโจ่วพลันเผยยิ้มออกมาอย่างขมขื่นทันที “ตอนแรกฉันก็คิดแบบนั้นแหละ แต่สหายอีกสองคนบอกมาว่าหมอนั่นคงจะไม่ยอมแน่ เขาไม่ต้องการให้หน่วยรบมังกรเข้ามาช่วยเหลือโดยใช้ความสงสารหรือความเห็นใจ”

นักวิจัยพลันพยักหน้า “งั้นก็ลองหาตำแหน่งงานดีๆ พร้อมกับเงินบําเหน็จบํานาญแล้วก็สวัสดิการที่ดีกว่าเดิมให้เขาสิ ยังไงก็เถอะ ฉันคิดว่าทหารทุกนายที่ต้องยอมเสียสละทั้งเลือดและหยาดเหงื่อเพื่อเข้าร่วมกับหน่วยรบมังกรควรที่จะได้รับความเคารพและการดูแลเป็นอย่างดีนะ”

ครูฝึกโจ่วพยักหน้าทันที “เรื่องนั้นฉันจัดการให้หมดแล้ว ตอนนี้หมอนั่นไปทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนที่เมืองซ่างเฉิงอยู่ ตราบใดที่ยังไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เขาก็ต้องใช้ชีวิตแบบนั้นไปก่อน”

นักวิจัยพยักหน้า “แต่ถ้านายมีโอกาส ก็ลองไปคุยกับเขาดูหน่อยนะ ฉันหมายถึง… เผื่อเอาไว้น่ะ แล้วถ้านายทหารนายนั้นไม่สามารถเข้าร่วมกับหน่วยรบมังกรได้อีกต่อไปแล้ว ก็ฝากถามทีว่าเขาเต็มใจที่จะบริจาคร่างกายเพื่อประเทศชาติหลังจากที่เสียชีวิตไปแล้วไหม…”

ครูฝึกโจ่วพลันขมวดคิ้ว “ฉันคิดว่ามันคงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่หรอกนะ ชีวิตของหมอนั่นพังพินาศก็เพราะเหตุการณ์ในตอนนั้น การขอให้บริจาคร่างกายก็คงไม่ต่างอะไรกับการโรยผงเกลือลงบนแผลสดหรอก ฉันว่ามันดูจะโหดร้ายเกินไปหน่อย”

นักวิจัยเผยยิ้มอย่างขมขื่น “อ่า ฉันก็เข้าใจ นั่นแหละคือเหตุผลที่ฉันคิดว่านายสามารถคุยกับเขาเรื่องนี้ได้ แต่ถ้าเขาปฏิเสธ เราก็จะไม่บังคับอะไร นายเข้าใจใช่ไหมล่ะ? ฉันก็แค่ให้นายลองไปถามดูหน่อย”

“ก็ได้ เดี๋ยวฉันจะรับบทเป็นครูฝึกจอมโหดเอง! แต่สุดท้ายแล้ว คนที่ได้ทั้งผลลัพธ์ของการทดลองและรางวัลก็คือนักวิจัยแบบพวกนาย” ครูฝึกโจ่วพลันบ่น

“แล้วถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่บอก เราก็จะให้ค่าตอบแทนเขาเอง ยังไงก็เถอะ ความฝันของทหารนายนั้นก็คือการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือประเทศอยู่แล้ว ลองเสนอโอกาสนี้ดู… มันก็ไม่ต่างอะไรกับการมอบความปรารถนาให้บุคคลหนึ่งก่อนที่จะตายหรอก”

“อ่า เข้าใจแล้วน่า” ครูฝึกโจ่วรีบตอบกลับ “ฉันเองก็จะต้องไปคุยกับเบื้องบนด้วย แล้วก็อีกอย่าง ถ้ามีการวิจัยหรือผลลัพธ์อะไรคืบหน้า นายต้องรีบโทรแจ้งฉันทันทีเลยนะ แต่ตอนนี้ฉันต้องไปแล้ว”

– เมืองซ่างเฉิง –

เสี่ยวเฉิงพลันหยิบเครื่องดื่มชูกำลังหนึ่งขวดออกมาจากตู้เย็นและเดินไปออกกำลังกายในห้อง ทว่า ทันทีที่เสี่ยวเฉิงปิดประตูห้อง เขาก็ต้องประหลาดใจกับลูกบิดประตูที่หลุดติดมือมาด้วย!

ทันใดนั้น เขาพลันขมวดคิ้วและหันกลับไปสบถใส่ประตู “บริษัทปัญญาอ่อนที่ไหนเป็นคนทำลูกบิดเนี่ย?! มันเป็นลูกบิดราคาถูกหรือยังไงกัน?! แค่ปิดประตูมันก็หลุดออกมาแบบนี้เนี่ยนะ?!”

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เลิกสบถและเดินไปที่โต๊ะ แต่ทว่า ระหว่างที่เสี่ยวเฉิงกำลังจะหยิบแก้วน้ำขึ้นมานั้น… “เพล้ง!” แก้วที่เสี่ยวเฉิงหยิบขึ้นมาพลันแตกละเอียดคามือในทันที…

***

ดูเหมือนว่ากำลังแขนของเสี่ยวเฉิงจะเยอะมากเลยทีเดียวนะ ( ͡° ͜ʖ ͡°)