ตอนที่ 82 แม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีกแล้ว

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

ตอนที่ 82 แม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีกแล้ว

ให้ลากเสบียงหนักหนึ่งพันกว่าชั่งน่ะหรือ ? ลำพังแค่ให้นางลากรถเปล่า ๆ ไปหนึ่งร้อยกว่าลี้ก็หอบแทบตาย แล้วนางจะไปเอาแรงจากที่ใดมาลากเสบียงหนักพันชั่ง ‘เจ้าคิดว่าผู้อื่นมีพละกำลังเหลือล้นเช่นเจ้าทุกคนหรือ ? ’

ทว่าตอนนี้พี่สาวคนโตเรียนรู้ที่จะสงบปากสงบคำแล้ว หากเถียงไม่ชนะก็ต้องรู้จักหลบ จะได้ไม่ต้องโมโหจนกระทืบเท้าให้ผู้อื่นหัวเราะเอา !

นางเฝิงเดินออกมาจากบ้านหลังถัดไป บัดนี้ในมือของนางถือชามขนมถั่วกวนที่ส่งกลิ่นหอมชวนรับประทาน เสี่ยวเว่ยตื่นแล้วหรือ ? เหตุใดไม่นอนต่ออีกสักพัก ?

หลินเว่ยเว่ยใช้แปรงสีฟันอันเล็กจิ้มเกลือเพื่อมาแปรงฟันพลางตอบกลับ ข้าไม่ได้ไปในเมืองมาสองวันแล้ว ตอนนี้น่าจะถึงเวลาเอาผลชิงอบแห้งไปส่งให้อาเถียน อีกประเดี๋ยวข้าจะแบกผลชิงอบแห้งเข้าไปในเมือง !

นางเฝิงได้ยินเช่นนั้นจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า พี่โม่หานของเจ้าเอาไปแล้ว เจ้าเหนื่อยมาสองวันก็พักผ่อนอยู่บ้านเถิด

บัณฑิตน้อยไปเองเลยหรือ ? หลินเว่ยเว่ยได้ยินเช่นนั้นก็เกือบสำลักน้ำที่กำลังจะบ้วนปาก เขาไหวหรือไม่ ?

เขาเป็นเด็กผู้ชาย ขนาดเจ้ายังทำได้แล้วเหตุใดเขาจะทำไม่ได้ ? เจ้าอย่าพูดเช่นนี้ต่อหน้าพี่โม่หานของเจ้าเชียว บุรุษจะโกรธที่สุดก็ตอนมีผู้อื่นมาบอกว่าเขาทำไม่ไหวนี่แหละ ! นางเฝิงหันไปขยิบตาให้เด็กสาวอย่างเย้าแหย่

เอ่อ…น้าเฝิง ท่านมาเอ่ยถ้อยคำที่คลุมเครือกับเด็กสาวอายุ 14 ปีเช่นนี้ มันจะดีหรือ ? หลินเว่ยเว่ยได้ยินเช่นนั้นก็แสร้งหัวเราะออกมา ข้าแค่กลัวบัณฑิตน้อยจะเหนื่อยเกินไปต่างหาก

ข้าไม่ได้ให้เขาเอาไปเยอะหรอก แค่ 30 ชั่งเท่านั้น หากไม่ไหวเขาก็คงเอาขึ้นเกวียนไป เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงเขาถึงเพียงนั้นหรอก นางเฝิงจิ้มหน้าผากของอีกฝ่าย จากนั้นก็เอาชามขนมถั่วกวนยัดใส่มือ ข้าทำมาให้ เจ้าลองชิมสิ

หลินเว่ยเว่ยเช็ดหน้าด้วยผ้า จากนั้นก็ลองตักขนมถั่วกวนขึ้นมาชิม ว้าว หวานชุ่มคอมาก รสชาติอร่อยมากเลย ! น้าเฝิง ท่านสามารถทำไปขายในเมืองได้เลย !

นางเฝิงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม อร่อยถึงเพียงนั้นเชียวหรือ ? ฝีมือของข้ายังต้องพัฒนาอีกมาก มันก็แค่พอกินได้เท่านั้น

หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลินเว่ยเว่ยก็ถือกระบุงไม้ไผ่ขึ้นมาแล้วขึ้นเขา ตอนนี้บรรดาผู้ที่เคยติดตามนางขึ้นไปเด็ดผักป่าพอรู้ที่ปลอดภัยแล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องให้นางพาขึ้นเขาอีก สองวันที่ผ่านมานี้นางออกเดินทางไปยังอำเภอจิงหยุนจึงไม่ได้นำผักป่าไปส่งให้ย่าหลิว !

หลินเว่ยเว่ยยังทำตามกิจวัตรประจำวัน อันดับแรกนางไปดูบริเวณกับดักวางเอาไว้ จากนั้นก็ไปทางร่องเขาที่มีผักป่าขึ้นชุมแล้วเด็ดผักป่าโยนใส่มิติน้ำพุวิญญาณ ระหว่างทางกลับนางได้พบต้นท้อป่าสองต้นจึงจัดการเก็บลูกท้อที่สุกไปจนหมด

กว่านางจะหิ้วกระต่ายป่าสองตัวกลับบ้านได้ ตอนนี้พระอาทิตย์ก็ใกล้ลาลับขอบฟ้าแล้ว

ท่านแม่เจ้าคะ ! เย็นนี้ตุ๋นกระต่ายกินกันเถิด… หลินเว่ยเว่ยยังไม่ทันเดินเข้าประตูมา เสียงของนางก็มาถึงก่อนตัวแล้ว

ตอนนี้เจ้าหนูน้อยวิ่งออกมาจากสวนหลังบ้าน พอเห็นกระต่ายป่าดิ้นอยู่ในมือของพี่สาว เขาจึงเขย่งตัวเพื่อจะแย่งพวกมันมา ไม่กิน ข้าจะเลี้ยงไว้ให้มันคลอดลูกกระต่าย !

หลินเว่ยเว่ยเห็นน้องชายทำท่าจะแย่งจึงยกมือขึ้นสูง เจ้าหนูน้อยพยายามกระโดดเท่าไรก็ไม่เป็นผล ในขณะเดียวกันนางได้ใช้มืออีกข้างบีบแก้มเจ้าหนูน้อยไว้แล้วถามว่า หากกระต่ายโตขึ้นมา เราจะเอามันไปทำอันใด ?

ขายแลกเงิน ! น้องสี่เอาแต่หมกมุ่นอยู่กับความคิดที่จะเลี้ยงกระต่ายขายเพื่อเอาเงินมาจุนเจือครอบครัว

หลินเว่ยเว่ยจึงอาศัยโอกาสนี้แกล้งถามเด็กน้อยต่อ แล้วเงินที่เราหามาได้จะใช้ทำอันใด ?

เอาไปซื้อเนื้อ ซื้อธัญพืช ! เจ้าหนูน้อยตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำขณะเดียวกันเขาก็นึกถึงรสชาติของซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวานที่พี่รองทำให้กินเมื่อครั้งก่อน ตอนนั้นเขากินอย่างจุใจเพราะเวลาที่มารดาทำอาหาร นางมักไม่ค่อยใส่น้ำมันหรือใส่เนื้อลงไปเท่าไร ไม่เหมือนกับพี่รองที่ใส่จนมือเติบ หากเขาสามารถหาเงินได้เยอะก็จะมีเงินพอซื้อเนื้อมากิน เช่นนั้นก็ไม่ต้องกินอยู่อย่างขัดสนแล้ว !

เงินที่เราหามาได้ก็นำไปซื้อเนื้อ สู้เราล่าสัตว์เอาเนื้อมากินเลยดีกว่า ! หลินเว่ยเว่ยตอบด้วยรอยยิ้ม

เจ้าหนูน้อยได้ยินเช่นนั้นก็รีบกล่าวว่า มันไม่เหมือนกัน ! ถ้าจะฆ่าก็ต้องรอให้มันคลอดลูกกระต่ายออกมาเสียก่อนแล้วค่อยฆ่า หากเราฆ่ามันตอนนี้ก็จะไม่ได้ลูกกระต่าย !

ดูเหมือนว่าน้องเล็กจะเก่งในเรื่องการคิดกำไรขาดทุนแล้ว หลินเว่ยเว่ยจึงบีบแก้มของเขาด้วยความเอ็นดู จากนั้นก็แยกเจ้ากระต่ายสองตัวไว้คนละคอก รอให้พวกมันชินก่อนแล้วค่อยเอามาอยู่รวมกัน

นางนำกระต่ายที่ตายแล้วออกจากตะกร้าเพื่อจัดการถลกหนังและเอาเครื่องในออกอย่างชำนาญ หลังจากหั่นเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ใส่เกลือและเหล้าที่ใช้สำหรับทำอาหารลงไป ท่านแม่อยู่ที่ใด ? เหตุใดยังไม่เห็นเลย ?

เจ้าหนูน้อยกำลังเก็บผักป่าขึ้นมาแล้วเด็ดให้ไก่กิน หลังจากได้ยินพี่รองถามจึงตอบตามตรงว่า ท่านแม่บอกว่าจะไปที่แปลงนา

ตอนที่หลินเว่ยเว่ยกำลังล้างมืออยู่ก็มองไปที่ด้านข้างอ่างล้างมือแล้วพบว่าถังน้ำกับคานหาบหายไปแล้ว นางจึงถามอย่างร้อนใจว่า นางไปตั้งแต่ตอนไหน ? ไปนานเพียงใดแล้ว ?

เจ้าหนูน้อยคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบ กินข้าวเที่ยงเสร็จก็ไป…

ยังไม่ทันที่เจ้าหนูน้อยจะกล่าวจบ หลินเว่ยเว่ยก็วิ่งขึ้นไปบนภูเขาแล้ว

ตอนนี้นางหวงกำลังเอนกายพิงกับต้นไม้ใหญ่ นางนั่งอยู่บนก้อนหินก้อนหนึ่งพร้อมใบหน้าซีดเซียว ลมหายใจของนางดูหอบถี่กว่าเดิม เมื่อหลายวันก่อนนางขึ้นไปเก็บผักป่าบนภูเขาเป็นประจำ ตอนนั้นนางไม่ได้รู้สึกว่าเหนื่อยมากนักจึงคิดว่าตนกลับมามีสุขภาพแข็งแรงแล้ว ผู้ใดจะคิดว่าเพิ่งหาบน้ำไปได้แค่สองสามรอบก็เริ่มไม่ไหวแล้ว !

ตอนนี้นางรู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ค่อยออก ร่างกายไร้เรี่ยวแรง แม้แต่จะลุกก็ยังไม่ไหว ตอนนี้ร่างกายของนางทรุดลงทำให้กลายเป็นภาระใหญ่ที่สุดในบ้าน แต่ละวันนางต้องกินยาต้มถึง 2 เทียบซึ่งใช้เงินไม่น้อยเลยทีเดียว พอนึกถึงภาพที่บุตรสาวมีแผลพุพองเต็มฝ่าเท้า นางคิดว่าแทนที่จะมาเป็นภาระบุตรสาวก็สู้ตายไปเสียยังดีกว่า

สติของนางหวงเริ่มเลือนราง ร่างของนางค่อย ๆ ทรุดลงกับพื้นและในตอนที่หลินเว่ยเว่ยมาพบ นางก็ไม่ได้สติแล้ว

กระทั่งนางฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าบรรดาบุตรกำลังล้อมอยู่ข้างเตียง โดยหมอเหลียงที่จับชีพจรให้เสร็จแล้วกำลังสนทนากับหลินเว่ยเว่ยถึงเรื่องยา

ในตอนนี้เจ้าหนูน้อยถอนหายใจออกมาราวกับผู้ใหญ่ ท่านแม่ขอรับ พวกเราไม่ให้ท่านไปรดน้ำในแปลงนา ท่านก็ดื้อจะไป แล้วเป็นอย่างไร ท่านเหนื่อยจนป่วยแล้ว เห็นหรือไม่ขอรับ ?

ท่านหมอเหลียง ท่านแม่ไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่ ? บุตรสาวคนโตปาดน้ำตาแล้วถามด้วยความกังวล

หมอเหลียงเหลือบมองนางหวงแล้วกล่าวว่า ไม่เป็นไรแล้ว นางแค่เหนื่อย…

เขาหันไปส่งสายตาให้หลินเว่ยเว่ย หลินเว่ยเว่ยเห็นดังนั้นจึงเดินตามหลังเขาออกไป

หมอเหลียงไม่คิดปิดบังอีกต่อไป เขาจึงกล่าวกับหลินเว่ยเว่ยว่า ร่างกายของแม่เจ้าทรุดโทรมไปจนถึงแก่นของร่างกายแล้ว ตอนนี้อาการของนางหนักขึ้นเพราะทำงานหนักเกิน…หากต้องการรักษาให้หายขาดเจ้าต้องเปลี่ยนยาสูตรใหม่ ! เพราะถ้ายังใช้ยาสูตรเก่า ข้าคงรับประกันได้ว่ายืดอายุขัยของนางได้เพียง 5 ปีเท่านั้น !

หลินเว่ยเว่ยได้ยินเช่นนั้นจึงรีบกล่าวว่า เช่นนั้นต้องขอให้ท่านหมอเหลียงเปลี่ยนสูตรยาให้แม่ข้าด้วย !

หมอเหลียงได้ยินก็ถอนหายใจอีกครา แต่ยาสูตรใหม่นี้มีสมุนไพรสองตัวซึ่งราคาสูงมาก โดยทั่วไปคนธรรมดาไม่สามารถซื้อได้ !

ยาสมุนไพรตัวใดหรือ ? อย่าว่าแต่รายได้จากการขายผลชิงอบแห้งเลย เงินที่นางขายแมวป่าได้ยังถูกเก็บไว้ในกระบอกไม้ไผ่อย่างมิดชิด ! ต่อให้ต้องจ่ายเงินมากเพียงใด นางต้องรักษาอาการป่วยของมารดาให้ได้ ! มันไม่ง่ายเลยกว่าที่นางจะมีมารดาคอยห่วงใยเช่นนี้ นางไม่อยากเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาอีกแล้ว !

โสมคนและเขากวางอ่อน ! ทางที่ดีต้องใช้โสมอายุ 20 ปีขึ้นไป ส่วนเขากวางอ่อนนั้นต้องใช้สองเขา…

สภาพร่างกายของนางหวงต้องกินยาสูตรใหม่นานเกือบปี ลำพังแค่โสมคนและเขากวางอ่อนก็มีราคากว่าหนึ่งร้อยตำลึงแล้ว ต่อให้หลินเว่ยเว่ยทำงานเก่งเพียงใด แต่เงินหนึ่งร้อยตำลึงถือเป็นจำนวนมหาศาลสำหรับคนธรรมดา ! ดังนั้นหมอเหลียงจึงได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนใจ

นอกเหนือจากสองสิ่งนี้ สมุนไพรตัวอื่นข้ามีหมดแล้ว

หมอเหลียงหวังว่าหากหลินเว่ยเว่ยต้องการรักษาสุขภาพของนางหวงให้แข็งแรง สิ่งใดที่ช่วยพวกนางประหยัดได้เขาก็จะช่วย เพราะถึงอย่างไรครอบครัวของนางก็ขาดเสาหลักอย่างบิดาและมีมารดาคอยเลี้ยงบุตรอยู่คนเดียว ซึ่งมันไม่ง่ายเลย !

หลินเว่ยเว่ยกลับเข้ามาในห้องของมารดาอีกครั้ง เวลานี้นางหวงมองมาที่บุตรสาวด้วยความรู้สึกผิดแล้วเอ่ยอย่างอัดอั้น ลูกแม่ แม่…สร้างความลำบากให้เจ้าอีกแล้ว…

ตอนต่อไป