บทที่ 115 เริ่มการโต้กลับ (ต้น)
ฉู่ชูเหยียน กำลังเตรียมจะสั่งให้คนใช้จัดเตรียมรถม้าเพื่อเดินทางแต่ ซูอัน หยุดนางเอาไว้ เขารู้สึกว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่ ในยามค่ำคืนแบบนี้มันควรจะเป็นช่วงเวลาที่ทั้งสองคนจะเดินไปตามถนนใต้แสงจันทร์เพื่อบ่มเพาะความรู้สึกของกันและกัน มันจะไม่โรแมนติกเลยหากพวกเขานั่งรถม้าและไปถึงปลายทางโดยเวลาแค่เพียงไม่ถึงก้านธูปดับ
เมื่อโดนซูอันห้ามไว้ ฉู่ชูเหยียน ก็ไม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน ดังนั้นทั้งสามคนจึงลงเอยด้วยการเดินไปตามถนนด้วยกัน
แน่นอนว่าแค่เพียงไม่นาน พวกเขาทั้งสามก็กลายเป็นจุดสนใจกับผู้ที่สัญจรไปมา
“ดูสิ ดู! นั่นคือคุณหนูใหญ่ของตระกูลฉู่!”
“โอ้ นางช่างงดงามราวกับนางฟ้าจริง ๆ !”
“สาวใช้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ นั่นก็ดูไม่เลวเหมือนกัน นางดูสวยกว่าพวกคุณหนูตระกูลดัง ๆ หลายตระกูลด้วยซ้ำ!
“แน่นอน! สาวใช้ประจำกายคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่ จะธรรมดาได้อย่างไรกันจริงไหม?”
“เอ๊ะ? แล้วไอ้คางคกที่ยืนอยู่ข้างพวกนางนั่นเป็นใครกัน?”
“อา ไอ้คนผู้นั้นน่าจะเป็นไอ้ขยะประจำเมืองที่ดันโชคดีได้เป็นลูกเขยของตระกูลฉู่แน่นอน เหอะ ดูใบหน้าของมันตอนนี้สิว่าโง่เง่าแค่ไหน แค่มองเพียงปราดเดียวก็รู้ได้เลยว่าไอ้คนผู้นี้มันไม่มีอะไรดีสักอย่าง!”
“เฮ้อ คุณหนูฉู่สวยขนาดนี้แท้ ๆ ทำไมสายตาของนางถึงเลอะเลือนขนาดนี้ ไปเลือกเอาไอ้คนผู้นี้มาเป็นสามีได้ยังไงกัน”
“เจ้ากำลังพูดว่าคนที่ตระกูลฉู่เลือกให้มาเป็นลูกเขย สู้เจ้าไม่ได้ว่างั้น?”
“ฮ่า! แม้แต่ข้าก็สามารถเอาชนะไอ้ขยะผู้นั้นได้อย่างง่ายดายเจ้าเชื่อไหมล่ะ!”
…
ซูอัน รู้สึกขัดหูเป็นอย่างมากที่ได้ยินเสียงการสนทนาของผู้คนรอบ ๆ
พวกเจ้าน่ะสิคางคก! บิดาของเจ้าก็คางคก!
เพื่อยั่วยุผู้คนรอบ ๆ ที่พูดไม่ดีเกี่ยวกับเขาให้มากขึ้น ซูอัน จงใจเดินชิด ฉู่ชูเหยียน เพื่อทำให้ดูเหมือนพวกเขาสนิทสนมกันมากขึ้น
และเป็นไปตามที่เขาคาดไว้ คะแนนความโกรธจำนวนมหาศาลหลั่งไหลเข้ามาหาเขาทันที
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! อิจฉาข้าไปสิไอ้พวกคางคกเวร! ข้าขอให้พวกเจ้าทุกคนอกแตกตายด้วยความอิจฉา!
หัวใจของ ซูอัน บานสะพรั่งด้วยความสุข ทรัพย์สินเงินทองและภรรยาที่งดงามนั้นมีเอาไว้เพื่ออวดชาวบ้านอยู่แล้ว เขาคงจะโง่มากหากไม่ใช้ทรัพยากรที่เขามีอยู่เพื่อโกยคะแนนความโกรธให้เพิ่มพูน!
“เจ้าพาข้าออกมาเดินเล่นเพียงเพื่อสนองความจองหองของเจ้าอย่างนั้นเหรอ?” ฉู่ชูเหยียน มองเห็นเจตนาของ ซูอัน ทันที และนางรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่เลือกเดินตามชายผู้นี้ออกมา ไม่เคยนึกฝันเลยว่าเขาจะมีแผนการเช่นนี้ในใจ!
“แน่นอนว่าไม่ ที่ข้าพาเจ้าเดินนั้นเป็นเพียงเพราะข้าอยากจะสร้างความทรงจำที่ดีร่วมกับเจ้าต่างหาก!” ซูอันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“…” ฉู่ชูเหยียน
เสวี่ยเอ๋อร์ พ่นลมหายใจอย่างเย็นชาจากด้านหลัง “ความทรงจำดี ๆ บ้าบออะไรที่เจ้าจะสร้างได้กับคุณหนูของข้า? หยุดหลงตัวเองได้แล้วไอ้คนไร้ประโยชน์เอ๊ย!”
ซูอัน คุ้นเคยกับลมปากที่เหมือนพิษร้ายของเสวี่ยเอ๋อร์แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจคำพูดของนางและสั่งสอนนางกลับไป “เจ้านายกำลังพูดกันอยู่ คนรับใช้ไม่มีสิทธิ์พูดสอดที่นี่!”
ท่านยั่วยุ เฉียวเสวี่ยอิง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +300!
“เจ้า!!!” เสวี่ยเอ๋อร์ชี้นิ้วไปที่ ซูอัน อย่างโกรธจัด “ฮึ่ม! ข้าเดาว่าสวรรค์คงชดเชยความสามารถด้านอื่น ๆ ให้เจ้าโดยที่ให้เจ้าปากเก่งแบบนี้แทนสินะ!”
ในขณะที่พูด นางก็จ้องมองเป้ากางเกงของเขาด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
ซูอัน หัวเราะออกมาโดยที่ไม่แสดงอาการทุกข์ร้อนกับคำพูดของนางเลย ชายหนุ่มตอบกลับอย่างขบขันว่า “ไม่ว่าข้าจะแข็งหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าข้าเป็นผู้ชายคนแรกที่เห็นและสัมผัสร่างกายของเจ้า”
ท่านยั่วยุ เฉียวเสวี่ยอิง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +999!
เสวี่ยเอ๋อร์ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมชายผู้นี้ถึงได้ไร้ยางอายขนาดนี้ แม้แต่ในขณะที่เขากำลังพูดถึงปมด้อยของตัวเอง เขาก็ไม่ได้แสดงความอับอายเลยแม้แต่น้อย
ท้ายที่สุด ฉู่ชูเหยียน ก็ถึงขีดจำกัดความอดทน นางตำหนิทั้งสองคนทันที “พอได้แล้ว! พวกเจ้าสองคนไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องน่าอายเหรอที่พูดเรื่องแบบนี้กลางถนน?”
เมื่อได้ยินคำตำหนิ ทั้งสองคนเมินหน้าหนีไปคนละทางแทบจะพร้อมเพรียงกัน
เมื่อเห็นว่าการเคลื่อนไหวของพวกเขามีความคล้ายคลึงกันอย่างน่าประหลาด ฉู่ชูเหยียน ก็เกิดความคิดที่น่าขันว่าทั้งสองคนนี้ช่างเป็นเหมือนคู่รักกันจริง ๆ และนางที่อยู่ตรงนี้ก็เหมือนกับเป็นมือที่สาม
ที่เข้ามาแทรกยังไงยังงั้น
แต่แล้วเมื่อนางรู้สึกตัวว่าความคิดของนางเริ่มเตลิดไปไกล นางก็รีบสลัดความคิดไร้สาระออกจากหัวของนางและพูดว่า “จริงสิก่อนหน้านี้ ข้าได้ยินมาว่าเจ้าฆ่า หมาป่ากระซวกทวาร ไปหลายสิบตัว?”
ซูอัน รู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินเรื่องนี้เขารีบถามกลับทันที “เจ้าไปได้ยินมาจากไหน?”
“ฮวนเจา บอกข้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในตอนที่นางเล่า นางแสดงสีหน้ายินดีมากจนดูเหมือนว่ามันเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของตัวนางด้วยซ้ำ”
เมื่อนึกถึงสีหน้าเบิกบานของน้องสาวของนาง ริมฝีปากของ ฉู่ชูเหยียน เผยรอยยิ้มที่สดใสออกมา
“แน่นอน ข้าจะบอกให้รู้เอาไว้ว่าตอนนี้สามีของเจ้าไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว ข้าในตอนนี้แข็งแกร่งกว่าที่เจ้าคิดเอาไว้เยอะ!” ซูอัน ตอบกลับด้วยท่าทางภาคภูมิใจ ซึ่งภายในใจของเขามันยังร่ำร้องอีกว่า ‘สรรเสริญข้าเร็ว! สรรเสริญข้าเยอะ ๆ เร็วเข้า!
เสวี่ยเอ๋อร์ ระเบิดเสียงหัวเราะทันทีเมื่อได้ยินเช่นนี้ ไอ้คนผู้นี้มันจะตายหรืออย่างไรหากมันไม่ได้คุยโวโอ้อวดทุกครั้งที่มีโอกาส?
ในทางกลับกัน ฉู่ชูเหยียน ไม่สนใจคำพูดของ ซูอัน นางรู้ว่า ซูอัน เป็นพวกขี้โม้อยู่แล้ว ดังนั้นนางคิดว่า จี้เสี่ยวซี พูดโกหกเพื่อช่วยเขาให้หลุดจากสถานการณ์ที่น่ากระอักกระอ่วนเมื่อที่อยู่ในสถาบัน เรื่องจริงมันน่าจะเป็นไปได้มาก ว่า หมาป่ากระซวกทวาร เหล่านั้นน่าจะโดนพิษของจี้เสี่ยวซีจนหมดสติไปก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นทั้งสองคนจึงช่วยกันฆ่าหมาป่าที่หมดสติจนหมดในภายหลัง
“พูดถึงเรื่องนี้ข้าเพิ่งนึกได้ เจ้ารู้จัก เพ่ยเหมียนหมาน ได้อย่างไร?” ฉู่ชูเหยียน ถามขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ
นี่เป็นข้อสงสัยที่ใหญ่ที่สุดที่นางมีอยู่ในใจขณะนี้ ด้วยบุคลิกของ เพ่ยเหมียนหมาน มันเป็นไปไม่ได้ที่นางจะให้ความช่วยเหลือกับชายผู้นี้ง่าย ๆ
“มันเป็นเพราะนางหลงเสน่ห์รูปลักษณ์ของข้ายังไงล่ะ! นางตกหลุมรักข้าตั้งแต่แรกเห็นและหลงใหลในร่างกายของข้า!” ซูอัน ไม่สามารถพูดถึงเหตุการณ์ที่เขาเผชิญหน้ากับ เพ่ยเหมียนหมาน ในคืนนั้นได้ ดังนั้นเขาจึงคิดข้ออ้างไร้สาระแบบนี้ขึ้นมาแทน
ท่านยั่วยุ เฉียวเสวี่ยอิง สำเร็จได้รับคะแนนความโกรธแค้น +99!
ท่านยั่วยุ ตัวประกอบ A สำเร็จได้รับคะแนนความโกรธแค้น +99!
ท่านยั่วยุ ตัวประกอบ B สำเร็จได้รับคะแนนความโกรธแค้น +99!
ท่านยั่วยุ ตัวประกอบ C สำเร็จได้รับคะแนนความโกรธแค้น +99!
…
คำพูดที่ไร้ยางอายประโยคนี้กระตุ้นคำสาปแช่งจากทั้งเสวี่ยเอ๋อร์และผู้สัญจรไปมา
ทางด้านของ ฉู่ชูเหยียน ก็พูดไม่ออกเช่นกันกับความไร้ยางอายของซูอัน และในเวลาเดียวกันนางก็ไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่ว่า เพ่ยเหมียนหมาน ยื่นมือช่วยซูอันเพราะเหตุผลที่เขาเป็นสามีของนาง และยิ่งไปกว่านั้นยังมีอีกเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลอีกเรื่องหนึ่งที่นางจำเป็นต้องถาม
“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าพูดถึงเรื่องคืนนั้นระหว่างเจ้าสองคนที่สถาบันเกิดอะไรขึ้น?”
ซูอันลังเลเล็กน้อย “ข้ากลัวว่าพูดไปแล้วเจ้าจะไม่เชื่อข้าน่ะสิ”
ฉู่ชูเหยียน ตอบอย่างใจเย็น “เจ้าจะรู้ได้อย่างไรถ้าเจ้าไม่ลองดู?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซูอันก็ถอนหายใจยาวและพูดว่า “คืนนั้นข้ากับนางกอดกันแน่นและกลิ้งไปทั่วพื้น นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นและนางไม่ต้องการให้คนอื่นรู้เรื่องนี้”