จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 111

พลัง เป็นพลังที่ไร้ประมาณ

พลังอันไร้เทียมทานหลั่งไหลออกจากร่างของอวิ๋นม่าน นางเหยียบย่างอยู่บนอากาศพลางจ้องมองหยางซานอย่างเย็นชา “มอบชีวิตมา!”

ความเกลียดชังที่ถูกสะกดไว้นับสิบปี ในที่สุดก็ถูกปลดปล่อยออกมาแล้ว

พลังที่สะสมมาหลายพันปี รวบรวมมาหนึ่งร้อยชาติภพ

ย่อมเป็นพลังที่น่ากลัวสุดประมาณ

หยางซานสั่นกลัว พลังสวรรค์ในตอนนี้แทบจะกลายเป็นของไร้ประโยชน์ พลังไปสือซานซิ่นเป็นพลังที่ยากจะจินตนาการ หลังจากนั้นครึ่งลมหายใจ เขาก็สงบใจลง “ถึงกับทําลายผนึกลงได้ เป็นแบบนี้กลิ่นอายโชคชะตาก็ใช้ไม่ได้แล้ว หากปล่อยให้เจ้ามีชีวิตก็มีแต่จะเป็นภัยต่อตระกูลหยาง เช่นนั้นก็ให้เหล่าฟูเปิดประตูนรกให้เจ้าเถอะ”

ชุดของหยางซานโปร่งพองขึ้น ปราณเพลิงสีดําแผ่ออกจากใต้ฝ่าเท้า กลายเป็นคลื่นโถมเข้าใส่อวิ๋นม่าน กลายเป็นกรงเพลิงครอบคลุมท้องฟ้า

” หรือเขาต้องการจะทําลายเมืองขอบนภาไปด้วย?”

“ในเมืองยังมีประชาชนอีกนับล้านชีวิต เฮ้อ”

“เป็นผู้บ่มเพาะขั้นสวรรค์ มีหรือที่คนธรรมดาจะอยู่ในสายตาของเขา สําหรับเขาแล้วก็คงมองไม่ต่างจากมด”

“ฮ่าฮ่าฮ่า…”

จู่ๆหลี่กงก็หัวเราะ “ตระกูลหยางมั่นใจเกินไป กลับถูกผู้เยาว์คนหนึ่งปั่นป่วน เมืองขอบนภากําลังจะถล่ม แล้วหยางฮงจะเอาอะไรมาสู้กับข้า? มีเพียงข้า ผู้เป็นโอรสสวรรค์”

หลีกงตื่นเต้นยินดี เขามีความสุขจริงๆ

ในที่สุดก็สามารถนําความกังวลที่หลบซ่อนอยู่ในใจมาตลอดออกไปได้ ปราณมังกรสีทองไหลหลังจากร่าง

หลูตงไห่และจ้าวฉางชิงชะงัก สายตาจ้องมองหลี่กงด้วยความตกตะลึง

หลี่กงพลันเก็บรั้งปราณมังกรกลับเข้าร่าง สีหน้าท่าทางกลับไปเป็นปกติ สายตามองไปยังเมืองขอบนภาพลางยิ้มออกมา

“เทียนน้อย เทียนน้อย…” ฉินเหลียนยกร่างของฉันเทียนออกจากซากปรักหักพังก่อนจะกอดเขาเอาไว้ เมื่อเห็นใบหน้าที่ขาวซีดและโลหิตที่ไหลจากมุมปากของเขาแล้ว หยาดน้ำตาก็ไหลรินอาบแก้ม

“ฟู่….” ฉินเทียนระบายลมหายใจก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้าง ”อวิ๋นม่าน”

“ท่านน้า เกิดอะไรขึ้นกับอวิ๋นม่าน?” ฉินเทียนรู้สึกเจ็บปวดที่หน้าอก แก่นภายในร่างหมุนเร็วจี๋เพื่อเติมเต็มพลังปราณที่ขาดหาย พลังของมังกรฟ้าและคชสารดึกดําบรรพ์ไหลเวียนไปตามร่างกาย หลังจากนั้นไม่นานร่างกายของเขาก็ค่อยๆฟื้นฟู

เสียงกรีดร้องของอวิ๋นม่านทําให้เขาตกใจจนฟื้นขึ้นมา

จ้องมองปราณเพลิงสีดําที่สร้างความกดดันอันมหาศาลนั่น และหันมามองใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของฉินเหลียนแล้ว ฉันเทียนก็รู้สึกราวกับหัวใจถูกเข็มทิ่มแทง เขาค่อยๆยื่นมือขวาไปปาดน้ำตาบนใบหน้างามนั้น จากนั้นจึงค่อยๆลุกขึ้นก่อนจะกล่าวว่า “ท่านน้า ยิ่งไปไกลเท่าไรก็ยิ่งดี ข้าเกรงว่าอีกไม่นานเมืองขอบนภาจะถล่มแล้ว”

“แล้วเจ้าล่ะ?” ฉินเหลียนไม่กลัวความตาย ในใจนางได้ตัดสินใจไปแล้ว หากฉันเทียนไม่ไปนางก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น

“ข้า?” ฉินเทียนเหม่อลอย คิดถึงพลังที่สูงใหญ่ราวขึ้นเขาของหยางซานแล้ว เขาก็รู้สึกว่าระดับห้าขันกลันวิญญาณของตนช่างเล็กกระจ้อยร่อยนัก

หากกกระทั่งหยางซานยังสู้ไม่ได้ แล้วเขาจะไปจัดการหลงเสี่ยวเทียนที่แข็งแกร่งกว่าเป็นร้อยๆเท่าได้อย่างไร? เขาจะอาศัยอะไรไปถล่มนิกายหมื่นอสูร?

คิดถึงตรงนี้ เขาก็สงบลง

นับตั้งแต่มาที่โลกใบนี้ เขาก็ก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อต้องมาเจอกับผู้บ่มเพาะที่บําเพ็ญเพียรมานับร้อยปีแล้ว ความเร็วของเขาก็กลายเป็นไร้ประโยชน์

เขาต้องการเวลาและค่าประสบการณ์เพื่อเพิ่มเลเวล

และหนทางที่ดีที่สุดก็คือการฆ่า…

เขาต้องการฆ่าหยางฮงและหยางซาน ไม่ปล่อยบุคคลทั้งสองไปแม้แต่คนเดียว หลังจากนั้นตัวเขาก็จะได้รับรางวัลใหญ่

คิดถึงตรงนี้ ดวงตาของฉันเทียนก็เปลี่ยนเป็นมั่นคง เขามองดูหยางซานอย่างเย็นชา

“เทียนน้อยอย่าทําเรื่องโง่เขลา” ฉินเหลียนรีบพูดดัก ”อวิ๋นม่านทําลายผนึกได้แล้ว พลังไปสือซานซินกําลังถูกรวบรวม หยางซานย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง ยังมี ยังมี…”

“ยังมีอะไร?” ฉินเทียนถามขึ้น

ฉินเหลียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวออกมา ”ข้าเกรงว่านางจะเสียสติ และการทําลายล้างก็จะเกิดขึ้น”

“ว่าไงนะ?” ฉินเทียนหน้าเปลี่ยนสี

“พลังของไปสือซานซิ่นทรงพลังเกินไป ตัวนางในตอนนี้ย่อมแบกรับไว้ไม่ไหว เมื่อควบคุมมันไม่ได้ ข้าเกรงว่าทั้งเมืองขอบนภาจะถูกเปลี่ยนเป็นธุลี…”

ก่อนที่ฉินเหลียนจะกล่าวจบ ร่างของฉันเทียนก็พุ่งออกไปแล้ว

นางขมวดคิ้วลงก่อนจะพุ่งร่างตามติดไป

อวิ๋นม่านในตอนนี้กําลังอยู่ในสภาพตามที่ฉินเหลียนกล่าว จิตใจของนางพร่ามัวเลื่อนลอย หลังจากพลังไปสือซานชิ้นถูกปล่อยออกมาแล้ว ในห้วงสํานึกของนางก้หลงเหลือเพียงความคิดเดียว ฆ่าหยางซาน

จัดการหยางซานที่ทําให้ฉินเทียนบาดเจ็บถึงเพียงนั้น อวิ๋นม่านมีเพียงความคิดเช่นนี้

หยางซานใช้พลังสวรรค์สร้างเขตแดนเทพ ภายในเขตแดนเทพ เขาก็คือผู้ปกครองที่สามารถกําหนดทุกสิ่ง เขาคือเทพในเขตแดนนี้

เขาสามารถทําให้สิ่งใดก็ตามสลายหายไป

ก็คือพลังของเขา พลังของเขตแดนเทพที่เหนือจินตนาการ กระทั่งหลูตงไห่และจ้างฉางชิงที่ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตรก็ยังต้องพรั่นพรึง

พลังที่บ่มเพาะมานับร้อยปีของหยางซานทําให้คนทั้งสองต้องตกตะลึงแล้ว

แม้กระนั้นหยางซานก็ยังมีความรู้เกี่ยวกับพลังไปสือชานชิ้นตื้นเขินเกินไป โดยเฉพาะตอนที่ไปซื้อซานชิ้นกําลังบ้าคลั่ง พลังที่ถูกสะกดไว้หลายพันปีจุติลงมาบนโลกนั้นน่ากลัวถึงเพียงไหน หยางซานย่อมไม่ทราบ อวิ๋นม่านที่นัยน์ตาเปลี่ยนเป็นแดงฉานพลันกรีดร้องออกมา ”อ๊า…….”

เพียงเสียงกรนีดร้องนี้ก็ทําให้เขตแดนเทพของเขาสั่นคลอน

หยางซานขมวดคิ้วก่อนจะประกบฝ่ามือทั้งสองเข้าด้วยกัน เขารวบรวมพลังปราณก่อนจะคําราม ” ปะทุ”

ในเวลาเดียวกัน อวิ๋นม่านก้แสยะยิ้มราวปีศาจออกมา สายตาจับจ้องหยางชานอย่างเหี้ยมโหด จากนั้นร่างของนางพลันกลายเป็นเปลวเพลิงสีทอง เปลวเพลิงสีทองนี้ส่องสว่างทั่วฟ้าราวกับดวงตะวันดวงหนึ่ง ปลดปล่อยพลังอันไร้ขอบเขตไปยังหยางซาน

ชาวเมืองขอบนภาวิ่งหนีเอาชีวิตรอดอย่างหวาดกลัว สถานการณ์กลายเป็นโกลาหลโดยสมบูรณ์

“เทียนน้อย!” ฉินเหลียนตะโกนและดอกบัวแปดกลีบก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง มันลอยไปห่อหุ้มร่างของฉินเทียน

ฉินเทียนยังคงพุ่งต่อไปโดยไม่หยุดชะงักแม้เพียงเสี้ยววินาที เขาพุ่งไปยังตําแหน่งที่หยางฮงอยู่พลางแสยะยิ้มชั่วร้าย ”บรรพชนของเจ้าไม่มีเวลามาใส่ใจเจ้าแล้ว ฮ่าฮ่าหยางฮง ได้เวลาตายแล้ว!”

โครม

สองหมัดที่เต็มไปด้วยพลังทั้งหมดของเขาพลันต่อยลง

หน้าอกของหยางฮงพลันยุบลงไป

หยางฮงตายแล้ว

” ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่น “ฉินเทียน” สําหรับการสังหารหยางฮง ได้รับค่าประสบการณ์ 400000 หน่วย ได้รับพลังปราณ 100000 จุด ได้รับค่าการรอดชีวิต 10000 จุด…”

“ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่น “ฉินเทียน” สําหรับการได้รับสมบัติระดับอมตะ ขั้นกลาง เตามังกรหยก…”

” ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่น “ฉินเทียน” สําหรับการได้รับทักษะระดับอมตะ ค่ายกลเจ็ดสังหาร…”

” ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่น “ฉินเทียน” สําหรับการได้รับแก่นระดับห้า จํานวน 17 แก่นระดับหก 8 แก่น..”

โชคลาภครั้งใหญ่!

แต่ฉินเทียนไม่มีเวลามาสนใจมากนัก เขารีบส่งพลังปราณไปกรพตุ้นสมบัติอมตะขั้นกลาง “เตามังกรหยก” จากนั้นจึงดึงร่างฉินเหลียนเข้าอ้อมอกเพื่อปกป้องนาง วินาทีถัดมาการปะทะกันอย่างรุนแรงของหยางซานและอวิ๋นม่านก็เกิดขึ้น