นอร่าค่อนข้างสงบเสงี่ยมขณะที่เธอพาผมไปยังเขตกลุ่มชาวเลหลังจากที่ผมได้รับคำบอกรักและสายตาที่อ่อนโยนอย่างกะทันหัน ผมแน่ใจว่าหัวใจของเธอกำลังระส่ำระสาย หลังจากสิ่งที่ผมพูดและทำตัวไม่ปกติในแบบที่พี่น้องเขาทำกัน ผมหมายถึงการกอดพี่สาวของคุณหน่ะพอว่า แต่การจับมือเธอเบาๆ และกระซิบคำบอกรักกับเธอหล่ะ? นั่นไม่ใช่เรื่องปกติ

ผมแน่ใจว่าในหัวของนอร่าคงเต็มไปด้วยจินตนาการอันบ้าคลั่ง หัวใจของเธออาจกำลังชื่นชมยินดีกับความจริงที่ว่าผมอาจจะรักเธอในแบบที่ต่างออกไป แต่นั่นคือทั้งหมดที่ผมจะทำกับเธอในตอนนี้ ผมจะค่อยๆ ทิ้งคำใบ้และทำให้แน่ใจนอร่าจะเป็นคนเริ่มเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเราก่อน

“พี่สาวเรามาถูกทางแล้วใช่ไหมครับ?”

หลังจากนอร่าได้ยินคำถามของผม เธอก็หลุดจากภวังค์ เธอส่ายหัวและมองมาที่ผมอย่างตั้งใจเหมือนพยายามหาบางอย่างเพื่อพิสูจน์ทฤษฎีของเธอ แต่น่าเศร้าสำหรับเธอ ผมได้แต่ส่งยิ้มเปี่ยมสุขให้เธอ สีแดงปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของนอร่าก่อนที่เธอจะมองไปทางอื่น

“น-แน่นอนสิ เรากำลังมุ่งหน้าไปถูกทางแล้ว!”

เสียงของเธอแหลมขึ้นเล็กน้อย อาจเป็นเพราะการพยายามซ่อนความอายของเธอ ผมอยากจะจูบเธออีกครั้งจริงๆ แต่ก็ต้องยั้งตัวเองเอาไว้ก่อน ตอนนี้เรามาถึงพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นแล้วและสามารถมองเห็นนักเรียนจำนวนมากได้

ขณะที่เรากำลังเดินผมเห็นนักเรียนบางคนชี้มาที่ผมหรือนอร่าก่อนที่พวกเขาจะหันไปซุบซิบกัน แต่ก็ไม่มีใครเดินเข้ามาหาพวกเราหรือทำอะไรที่ควรค่าแก่การให้ความสนใจเลย ด้วยความสงบเพียงไม่กี่นาทีเราทั้งคู่ก็มาถึงศูนย์เทเลพอร์ต

ที่นั่นเราทั้งคู่ผ่านทางมาได้อย่างง่ายดายและเข้าไปในวงเทเลพอร์ต หลังจากนั้นแสงสีขาวก็เข้ามาเติมเต็มการมองเห็นของผมขณะที่เราหายไปจากจุดที่เคยยืนอยู่ ไม่นานแสงที่บังตาของผมก็หายไปในตอนที่มาถึงอีกห้องหนึ่งซึ่งเหมือนกับห้องที่เราอยู่ก่อนหน้านี้

ทันทีที่ลืมตา กลิ่นทะเลก็โชยมาเต็มจมูก ไม่นานนักผมก็สังเกตเห็นว่านักเรียนในห้องนั้นเป็นพวกที่อาศัยอยู่ในทะเลมากกว่า ผมเห็นนักเรียนตั้งแต่เผ่าเต่าไปจนถึงเผ่าแมวน้ำเดินเตร่ไปมา บวกกับผมรู้สึกได้ถึงปริมาณมานาของอนุภาคน้ำในอากาศ ที่นี่เป็นสถานที่ที่ดีสำหรับผู้ที่มาจากทะเลอย่างแน่นอน ในขณะที่ผมรู้สึกถึงบรรยากาศรอบข้าง นอร่าที่อยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้นมา

“แปลกหลาดใจเหรอ?”

“แน่นอนสิครับ การสร้างพื้นที่เช่นนี้ต้องไม่ง่ายแน่ๆ”

“ก็จริง พื้นที่ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นเพื่อให้คนที่มาจากทะเลรู้สึกสบายใจ แม้ว่าผู้ที่มีเชื้อสายขุนนางและเชื้อพระวงศ์จะไม่มีปัญหาที่ผิวน้ำก็เถอะ”

“งี้นี่เอง….”

ผมผงกหัวรับคำพูดของนอร่า ผมเข้าใจดีเพราะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตในน้ำทุกคนจะหายใจบนบกได้อย่างปกติ มีเพียงพวกเชื้อพระวงศ์หรือขุนนางเท่านั้นที่ทำได้ แถมยังเป็นกลุ่มที่ไม่มีปัญหาในการต่อสู้บนพื้นผิวอย่างเต็มกำลังด้วย

ตอนนั้นเองที่ผมสังเกตเห็นบางสิ่งที่แปลกประหลาด…ความเงียบ 

หลังจากที่เราเข้ามาทุกอย่างก็เงียบลง ผมเห็นว่านักเรียนส่วนใหญ่ที่อยู่ในทะเลต่างพากันเงียบเมื่อพวกเขามองมาทางเรา…ไม่สิ พวกเขามองมาที่ผม

ผมเห็นบางคนมองมาที่ผมด้วยความชื่นชม บางคนแสดงความขอบคุณ ในขณะที่บางคนไม่ชอบ, เกลียดหรือมีอารมณ์ด้านลบต่อผม ความเงียบกำลังตึงเครียดเมื่อบรรยากาศเริ่มร้อนขึ้น ในตอนนั้นเองที่มีเด็กหน้าตาดีผมสีฟ้าเดินเข้ามา สำหรับผมดูเหมือนว่าเขาจะอายุประมาณ 16 ปี

แถมดูเหมือนเขาจะมีสถานะสูงส่งด้วย เหล่านักเรียนแห่งท้องทะเลที่เหลือต่างก็โค้งคำนับหรือทำความเคารพกันขณะที่เขากำลังเดินเข้ามาหาผม 

นอร่าโน้มตัวมากระซิบข้างหูผม

“นิค เลวีอาธาน บุตรชายคนที่ 2 ของราชาแห่งเผ่าวาฬและเป็นน้องชายของเจ้าหญิงมาร์ลีนหน่ะ”

เมื่อได้ยินดังนั้นผมจึงผงกศีรษะ ใช้เวลาไม่นานนิคก็มาถึงผม เขามีรอยยิ้มบนใบหน้าขณะที่เขายื่นมือออกมาเพื่อจับมือผม

“นิค เลวีอาธาน ยินดีที่ได้รู้จัก”

“ออสติน ไลออนฮาร์ท ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ”

ผมยิ้มกลับไปขณะจับมือกับเขา โดยรวมแล้วเมื่อผมมองเขา ผมจะรู้สึกได้ถึงความเมตตาของเจ้าชายและสามารถบอกได้ว่าเขาได้รับความเคารพอย่างดีจากสายตาที่เหลือที่มองเขา

“ยินดีที่ได้พบวีรบุรุษแห่งท้องทะเล!”

“วีรบุรุษเหรอครับ?”

ผมเลิกคิ้วด้วยความสงสัยหลังจากได้ยินคำพูดของนิค 

เมื่อเห็นความสับสนของผม เขาก็ยิ้มในก่อนจะตอบกลับมา

“แน่นอนสิคุณวีรบุรุษ หลังจากที่นายได้ทำให้กำลังทหารจำนวนมากที่ทนทุกข์ได้พักผ่อนแล้ว ก็เลยควรได้รับความขอบคุณจากพวกเรา”

หลังจากที่พูดจบเขาก็ยิ้มบางๆ ในขณะเดียวกันผมก็มองไปรอบๆ อย่างสุขุม 

ผมเห็นว่าคนส่วนใหญ่พยักหน้าและมองมาที่ผมอย่างขอบคุณ ในขณะที่บางคนดูอาฆาตแค้น แต่บอกตรงๆ ผมไม่แคร์เจ้าพวกนั้นหรอกนะ 

ฉันส่งยิ้มเขินอายๆ ให้พวกเขาขณะที่โบกมือ

“อย่าล้อผมเล่นสิครับ ผมแค่ใช้พลังที่ยืมมาเองและที่ผมสามารถช่วยได้เป็นเพราะทหารของพวกคุณซึ่งมีเจตจำนงอันแข็งแกร่งที่ยึดมั่นในความยุติธรรม แม้จะโดนคอร์รัปชั่นไปแล้วก็ตามต่างหากครับ”

คำพูดของผมทำให้นิคและคนอื่นๆ ที่รวมตัวกันมีรอยยิ้ม ก็นะการมีทัศนคติที่ดีกับผู้อื่นนั้นดีที่สุดเสมอ 

หลังจากนั้นผมก็ไม่รอนานและถามขึ้นมา

“ผมคิดว่าคุณคงถูกส่งมาที่นี่เพื่อนำทางพวกเราใช่ไหมครับ?”

คำถามของผมทำให้เขาตกใจแต่ต่อมาเขาก็ยิ้มและพูด

“ถูกต้อง ผมมาที่นี่เพื่อนำทางให้นายและเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นในระหว่างการเดินทางของนายหน่ะ”

คำพูดสุดท้ายของเขาเกือบจะเป็นเสียงกระซิบแต่ผมกลับได้ยินมันอย่างชัดเจนและผมก็พยักหน้าตาม 

ผมเข้าใจอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีความสุขที่มีมนุษย์นำความลับที่ซ่อนอยู่ลึกที่สุดของพวกเขาออกมาแล้วกระทืบมันลงกับพื้นและผมก็ไม่คิดว่าจะมีใครมีความสุขที่ผู้กล้าที่ตนนับถือมากที่สุดถูก K.O. โดยมนุษย์หรอกนะ

“ได้สิ เชิญนำทางได้เลยครับ”

ผมพูดได้แค่นั้นขณะที่เริ่มเดินตามนิคที่เดินนำหน้าไป 

นอร่าเองก็เดินมาข้างๆ ผมเหมือนกัน สายตาของผมเอาแต่สแกนไปรอบๆ ตัวเพื่อสถานที่ใหม่ๆ รูปร่างของอาคารแต่ละหลังที่นี่ก็เข้ากับทะเลเหมือนกัน

พวกเขาภูมิใจนำเสนอวัฒนธรรมของพวกเขาบนท้องทะเล จริงๆ แล้วทะเลเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่งในโลกนี้ มีกลุ่มร่วมระหว่างทะเลกับบกที่ทำงานร่วมกันเพื่อจัดทัวร์ทางทะเล ซึ่งมันเป็นที่นิยมมากในหมู่หลายๆ ครอบครัว แถมยังราคาย่อมเยาอีกด้วย

ผมบอกได้เลยว่าไอ้พวกนั้นกำลังทำกำไรกันแทบตายกับทัวร์พวกนี้ ช่างเรื่องพวกนั้นไว้ก่อนตอนนี้ผมกำลังทึ่งกับการออกแบบที่แปลกใหม่และสิ่งมีชีวิตใหม่ๆ ที่ได้เจออยู่ ผมเห็นว่าบ้านแต่ละหลังมีสระว่ายน้ำในร่มขนาดใหญ่ด้วย

ขณะที่ผมชื่นชมของใหม่ไปเรื่อยๆ เราทุกคนก็มาถึงคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่าน ภายในบริเวณนี้ ผมเห็นนักเรียนจำนวนมากขึ้นและแต่ละคนก็ค่อนข้างแข็งแกร่ง แถมผมยังสังเกตเห็นความจริงที่ว่าเราเป็นมนุษย์เพียง 2 คนที่อยู่ที่นี่เท่านั้นอีกด้วย 

ขณะที่ผมกำลังชื่นชมคฤหาสน์ นิคก็หันมาหาผมและพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มอันภาคภูมิใจ

“ยินดีต้อนรับสู่คฤหาสน์อัญมณีแห่งท้องทะเล”

“สวยมาก”

ผมอ้าปากค้าง เมื่อเห็นท่าทางของผม นิคก็ยิ้มกว้าง ในขณะเดียวกันผมก็มองไปที่นอร่าที่ซึ่งกำลังมองฉากนั้นอย่างไม่สนใจ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังเห็นว่าเธอคุมเชิงอยู่ เธอพร้อมที่จะโจมตีอะไรก็ตามที่อาจเป็นอันตรายต่อผมอยู่

“งั้นเข้าไปกันเถอะครับ”

ผมพูดกับเจ้าชายที่ยังคงภาคภูมิใจอยู่ 

เมื่อได้ยินเสียงของผม เขาก็ผงกหัวและเดินนำไปอีกครั้ง เราเดินผ่านนักเรียนคนอื่นๆ ที่อยู่ในคฤหาสน์โดยที่ทุกคนต่างมองมาที่ผมขณะที่พวกเราเดินผ่านไป แต่เพราะคนที่นำหน้าคือนิคจึงไม่มีใครมาขัดจังหวะ

เหมือนเราเดินผ่านคฤหาสน์หลังใหญ่ไปสักพักจนมาถึงประตูห้องขนาดใหญ่ที่มีผู้คุ้มกันซึ่งดูเหมือนจะเป็นเผ่าแมวน้ำสองตัวอยู่ เมื่อเห็นนิคพวกเขาก็ผงกหัวและนิคเองก็พยักหน้ากลับไปก่อนที่เขาจะเคาะประตูเบาๆ

“ท่านพี่ พวกเขามาถึงแล้วครับ”

“เข้ามาได้”

เมื่อเสียงผู้มีอำนาจที่เยือกเย็นดังออกมาจากในห้อง นิคก็เปิดประตูขณะที่พวกเราทุกคนเดินเข้าไป 

เมื่อเข้าไปข้างในผมก็เห็นมาร์ลีนและแคทเธอรีนอยู่ข้างใน ถึงเวลาแล้วที่ผมจะต้องจัดการกับเจ้าหญิงเหล่านี้

 

 

 

-Donate-

True Money Wallet ID : mraxzy 

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต