ตอนที่ 172 ไปขัดห้องน้ํา

หลิวเฉียนไม่รู้ว่าหลินหนานมีใครหนุนหลังอยู่กันแน่ แต่สําหรับฉินเสี่ยวยู่นั้น เขารู้ภูมิหลังครอบครัวของเธอ

เชอะ! ฉันอาจจะจัดการกับหลินหนานไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าจะจัดการกับเธอไม่ได้นะฉินเสี่ยวยู่!

“ตกลง! ฉันจะให้หลินหนานกลับเข้ามาทํางาน ส่วนเธอ.. ก็ไปเก็บข้าวของแล้วออกจากบริษัทนี้ไปได้เลย!” หลิวเฉียนที่ชอบใช้อํานาจบารมีในฐานะเจ้านาย หันไปตวาดใส่ฉินเสี่ยวยู่เสียงดัง

“ได้ค่ะผู้จัดการหลิว ฉันจะรีบไปเก็บของเดี๋ยวนี้!”

ทันทีที่ได้ยินคําตอบของหลิวเฉียง ฉินเสี่ยวยู่ก็ถึงกับยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ ถึงแม้ความสําเร็จครั้งนี้จะต้องแลกมาด้วยการลาออกจากงาน แต่หากสามารถช่วยให้หลินหนานกลับมามีงานทําได้ ก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว!

“คุณไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น แต่เป็นเขาต่างหากที่ต้องไป!”

ระหว่างที่ฉินเสี่ยวยู่กําลังหันหลังเดินออกจากห้องทํางานของหลิวเฉียนนั้น น้ําเสียงคุ้นหูก็ดังแทรกขึ้นมา

“หลินหนาน นี่.. นี่นายจริงๆเหรอ?”

ทันทีที่ได้ยินเสียงคุ้นหูนั้น ฉินเสี่ยวยู่ก็รีบเงยหน้าขึ้นมองอย่างรวดเร็ว และเมื่อเห็นหลินหนานกําลังก้าวเดินเข้ามารอยยิ้มสดใสก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอทันที

เธอดีใจอย่างมากที่ได้พบหลินหนานอีกครั้ง!

หลินหนานเดินตรงเข้าไปหาฉินเสี่ยวยู่ พร้อมกับยิ้มให้เธอเล็กน้อย ก่อนจะพูดกับหญิงสาวว่า “เฮ้อ..นี่ถ้าผมมาไม่ทันเวลาคนซื่อๆอย่างคุณคงจะถูกหลอกโดยไม่รู้ตัวอีกตามเคยสินะ!”

หลังจากที่พูดจบ หลินหนานก็เหลือบมองไปทางหลิวเฉียนด้วยแววตาดุดัน พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ําเสียงเย็นชา

“ผู้จัดการหลิว คุณนี่ช่างเป็นเจ้านายที่ดีจริงๆ ถึงกับกล้าเลิกจ้างพนักงานดีๆคนหนึ่ง โดยที่เธอไม่มีความผิดอะไรเลย..”

หลิวเฉียงถึงกับต้องยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่หน้าผาก ก่อนจะพูดออกไปอย่างสํารวม “หลินหนาน.. นี่เธอมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“คุณไม่จําเป็นต้องสนใจว่าผมจะมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ เอาเป็นว่าคุณรีบๆทําตามสัญญาที่ได้รับปากผมไว้เมื่อวานจะดีกว่า!” หลินหนานตอบกลับด้วยน้ําเสียงเย็นชาเช่นเคย

หลังจากที่ได้ยินคําพูดของหลินหนาน หลิวเฉียงถึงกับกระวนกระวายขึ้นมาทันที และรีบอ้อนวอนหลินหนานเสียงสั่น

“น้องหลิน.. พอจะมีหนทางเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องนี้บ้างมั้ย?”

“ความจริงก็มีนะ! แต่ประตูต่อรองได้ปิดลงตั้งแต่คุณไล่ฉินเสี่ยวยออกแล้ว เพราะฉะนั้น คําถามนี้คุณควรจะถามฉินเสี่ยวยู่มากกว่าที่จะถามผม และคนที่คุณควรขอร้องก็คือฉินเสี่ยวยู่ไม่ใช่ผม!”หลินหนานพูดจบก็ยกมือขึ้นชี้ไปทางฉินเสี่ยวยู่ที่เวลานี้ยืนอยู่ด้านหลังของตนเอง

“อะไรนะ?! จะให้ฉันไปขอร้องฉินเสี่ยวยู่นี่นะ?! ไม่มีมีทาง ฉันทําไม่ได้!” หลิวเฉียนส่ายหน้าปฏิเสธทันที

เมื่อครู่เขาเพิ่งจะไล่เธอให้ไปเก็บของ แล้วก็ออกจากบริษัทไป แต่ตอนนี้กลับจะต้องให้เขากลืนน้ําลายตัวเองด้วยการไปขอร้องอ้อนวอนให้เธออยู่ต่อ!

นั่นเท่ากับฉันยอมตบหน้าตัวเองชัดๆ!

หลินหนาน แกนี่มันเลวได้ใจจริงๆ!

“โอ้โห! คิดไม่ถึงว่าผู้จัดการหลิวจะเป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรีขนาดนี้ เอาล่ะ.. ในเมื่อคุณไม่เต็มใจทําก็ไม่เป็นไรถ้าอย่างนั้นผมก็จะไปพร้อมกับฉินเสี่ยวย!”

หลังจากพูดจบ หลินหนานก็หันหลัง และเดินออกไปจากห้องทํางานของหลิวเฉียนทันทีท่ามกลางสายตาของฉินเสี่ยวยู่

“หลินหนาน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? นายจะไปไหน? นายไม่ได้ถูกไล่ออกแล้ว..”

ฉินเสี่ยวยู่รีบวิ่งตามหลินหนานออกไป พร้อมกับร้องตะโกนถามด้วยสีหน้างุนงง หลินหนานจึงหันกลับมาตอบพร้อมรอยยิ้ม

“เรื่องนี้เดี๋ยวคุณก็จะรู้เองล่ะ! ว่าแต่… ทําไมคุณถึงได้รีบกลับมาทํางานนักล่ะ? ตอนนี้คุณป้าเป็นยังไงบ้าง? อาการของท่านดีขึ้นหรือยัง?”

ฉินเสี่ยวยู่ตอบกลับยิ้มๆ “อาการของแม่ดีขึ้นมากแล้วล่ะหลินหนาน อีกอย่างทางโรงพยาบาลก็ส่งเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลให้ทุกวันแล้วที่ฉันมาพบผู้จัดการหลิวในวันนี้ก็เพื่อที่จะมาอธิบายเรื่องราวในวันนั้นให้เขาฟังว่ามันไม่ใช่ความผิดของนาย แต่เป็นความผิดของฉันเองแล้วก็ขอร้องให้ผู้จัดการหลิวรับนายกลับเข้าทํางานเหมือนเดิมแล้วแต่คิดไม่ถึงว่านายก็จะมาที่นี่ด้วยเหมือนกัน!”

“เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณ คุณอยู่เฉยๆ อย่ามากวนน้ําให้ขุ่น ผมจะจัดการแก้ปัญหาครั้งนี้เองอีกอย่างผมคงไม่ยอมทํางานที่นี่แน่ถ้าต้องแลกกับการที่คุณต้องตกงาน!”หลินหนานบอกกับฉินเสี่ยวยู่

ฉินเสี่ยวยู่ได้ฟังคําพูดของหลินหนาน สีหน้าของเธอพลันเปลี่ยนเป็นรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีเธอเอ่ยบอกหลิน หนานหน้าเศร้า

“เรื่องนี้จะไม่ใช่ความผิดของฉันได้ยังไง? ถ้าฉันไม่ขอให้นายไปช่วยที่โรงพยาบาลวันนั้นนายก็คงจะไม่ถูกผู้จัดการหลิวไล่ออก แต่คิดไม่ถึงว่า ไม่เพียงฉันจะช่วยนายไม่ได้ แต่กลับกลายเป็นว่าตัวไล่ออกด้วยน่ะส.”

หลินหนานได้ฟังคําพูดของฉินเสี่ยวยู่แล้ว จิตใจของเขาพลันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที และได้แต่คิดในใจว่า..

ใครบอกว่าในที่ทํางานมีแต่ศัตรู ยากที่จะหามิตรแท้ได้ อย่างน้อยฉินเสี่ยวยู่ก็เป็นคนหนึ่งที่มีมนุษยธรรมในตัวสูงมาก!

หลินหนานยิ้มให้กับฉินเสี่ยวยู่ พร้อมกับปลอบเธอไปว่า “เรื่องนั้นคุณไม่ต้องกังวลใจไปเสี่ยวยู่ผมเอาหัวตัวเองเป็นเดิมพัน..นอกจากทั้งคุณและผมจะไม่ถูกไล่ออกแล้วแต่ผู้จัดการหลิวยังจะต้องมาอ้อนวอนขอร้องพวก เราให้อยู่ทํางานที่นี่ต่อด้วย!”

“จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง? อย่าลืมว่าเขาเป็นผู้จัดการฝ่ายขายนะ เขาจะมาอ้อนวอนขอร้องลูกน้องเพื่อให้ทํางานต่อทําไมกัน?” ฉินเสี่ยวยู่จ้องมองหลินหนานด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าไม่เชื่อในคําพูดของเขาอย่างแน่นอน

หลิวเฉียนเป็นคนที่เข้มงวดมาก แล้วก็ไม่เคยปราณีกับลูกน้องในแผนกเลย และถ้าลูกน้องไม่เอ่ยปากขอความช่วยเหลือคนอย่างเขาก็ไม่เคยคิดที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือใครก่อนเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่ได้ยินคําพูดของหลินหนาน ฉินเสี่ยวยู่จึงได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่มีทางเชื่อในคําพูดของเขา!

“ทําไมจะเป็นเป็นไปไม่ได้?”

หลินหนานตอบกลับไปพร้อมกับหัวเราะอย่างมีเลศนัย “ระหว่างต้องปล่อยให้ถังข้าวสารที่มีอยู่หลุดมือไปกับการต้องเสียหน้าถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกอะไรล่ะ?”

และคนอย่างหลิวเฉียนก็ไม่มีทางปฏิเสธข้อเสนอของหลินหนานแน่! เพราะเมื่อวานนี้ เขายังยอมรับปากที่จะทําตามเงื่อนไขของหลินหนานอย่างง่ายดาย

แต่ถึงแม้หลิวเฉียนจะรับปากหลินหนานไปด้วยวาจาเมื่อวานนี้ แต่เขาก็จะพยายามต่อรองหาทางออกเป็นอย่างอื่นแน่..

เฉินเสี่ยวยู่ได้ฟังคํายืนยันหนักแน่นจากหลินหนาน เธอก็ได้แต่ยืนหน้านิ่วคิ้วขมวด และสีหน้าของเธอก็กําลังบ่งบอกว่า ภายในหัวตอนนี้เต็มไปด้วยคําถามมากมาย

แต่แล้วจู่ๆ หลิวเฉียนก็วิ่งตามคนทั้งคู่ออกมาจากห้องทํางาน ปากก็ร้องตะโกนออกไปว่า “หลินหนานอย่าเพิ่งไป! ถ้า.. ถ้านายยอมรับปากที่จะกลับมาทํางาน ฉันก็จะไม่ไล่ฉินเสี่ยวยู่ออก!”

หลินหนานเหลือบมองหลิวเฉียนพร้อมกับส่ายหน้าไปมา ปากก็พูดออกไปว่า “นี่ผู้จัดการหลิว คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? เรื่องที่ผมจะกลับมาทํางาน กับเรื่องที่คุณจะต้องขอโทษฉินเสี่ยวยู่มันเป็นคนละเรื่องกัน..”

“ได้ๆ ฉันจะยอมทําตามที่นายต้องการ!” หลิวเฉียนเอ่ยตอบหลินหนาน และพยายามข่มความโกรธภายในใจไว้

เวลานี้หลิวเฉียนเสมือนคนที่ถูกหลินหนานผลักให้ไปยืนอยู่ขอบหน้าผา และอยู่ในสภาพที่กลืนไม่เข้าคาย ไม่ออก แต่หากต้องเลือกระหว่างหน้าตากับหน้าที่การงาน เขาก็คงเลือกที่จะยอมเสียหน้าขอโทษฉินเสี่ยวยู่!

หลินหนานเบะปากพร้อมกับพูดขึ้นว่า “นี่ผู้จัดการหลิว เมื่อเช้าไม่ได้กินข้าวมาหรือยังไง? ถึงได้พูดเบาจนผมแทบไม่ได้ยินแบบนี้ พูดให้มันดังๆหน่อย!”

หลิวเฉียนกวาดสายตามองพนักงานที่อยู่ในแผนกของตน เขาได้แต่โน้มตัวและก้มศรีษะลงพร้อมกับกระซิบเสียงเบา

“คุณฉัน.. ผมขอโทษ! กรุณายกโทษให้ผมด้วย ที่กล้าเสียมารยาทกับคุณเมื่อครู่นี้ ผมมันคนไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ําเอง! ได้โปรดอภัยให้ผมด้วย”

ห้ะ?!!

พนักงานฝ่ายขายทั้งหมด ต่างก็นั่งอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง ราวกับว่ามีระเบิดลูกใหญ่ตกลงมาใส่และสายตาของทุกคนก็กําลังจับจ้องอยู่ที่คนทั้งสาม ปากก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ไม่หยุด

“นี่ผู้จัดการหลิวเป็นอะไรไป? จู่ๆก็ออกมาขอโทษขอโพยคนกลางแผนกแบบนี้ มิหนําซ้ําคนๆนั้นก็ยังเป็นฉันเสี่ยวยู่ด้วย!”

“นี่เธอตาบอดหรือยังไง? ไม่เห็นเหรอว่าที่ผู้จัดการหลิวต้องขอโทษฉินเสี่ยวยู่ ก็เพราะหลินหนานคอยบงการอยู่..”

“นั่นน่ะสิ! อย่าลืมว่าหลินหนานเป็นคนของเลขาเหลียง เธอเป็นคนพาเขาเข้ามาทํางานที่นี่ แสดงว่าแบ็คของหลินหนานก็ต้องไม่ธรรมดาเหมือนกัน”

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของพนักงานในแผนกฉินเสี่ยวยู่ได้แต่ยืนงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ผู้จัดการหลิวขอโทษฉันต่อหน้าพนักงานคนอื่นๆในแผนกงั้นเหรอ?!

นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย?

ฉินเสี่ยวยู่รีบยกมือขึ้นโบกไปมาก ปากก็ร้องตอบไปว่า “มะ.. ไม่เป็นไรค่ะผู้จัดการหลิว ฉันโอเค! ฉันไม่ได้คิดอะไรเลยกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยจริงๆ

“เสี่ยวยู่.. ถ้าอย่างนั้นเธอก็ช่วยขอร้องหลินหนานแทนฉันที่จะได้มั้ย? ฉันแก่ขนาดนี้แล้ว จะให้ฉันวิ่งแก้ผ้าต่อหน้าทุกคนในบริษัท แล้วฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ภาพพจน์ที่ฉันสั่งสมมาหลายปีคงต้องป่นปี้คราวนี้แน่”

ฉินเสี่ยวยู่ได้แต่ยืนงุนงง เมื่อสถานการณ์กลับพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้!

“รึ่งแก้ผ้างั้นเหรอ?!!”

ฉินเสี่ยวยู่หันไปถามหลินหนานทันที “หลินหนาน.. เรื่องจริงเหรอ?”

“จริงสิ! ถ้าเขาไม่ยอมวิ่งแก้ผ้า ผมก็จะไม่กลับมาทํางานที่นี่!” หลินหนานตอบกลับยิ้มๆ

ฉินเสี่ยวยู่ถึงกับต้องกลั้นหัวเราะ ก่อนจะพูดกับหลินหนานว่า “ทําอย่างนั้นไม่ได้หรอก! เพราะถ้าผู้จัดการหลิววิ่งแก้ผ้าจริงๆ เขาต้องถูกตํารวจจับข้อหาอนาจารแน่!”

หลินหนานถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เขาหัวเราะจนน้ําหูน้ําตาไหล ก่อนจะตอบฉินเสี่ยวยู่ไปว่า

“คุณเป็นคนใจอ่อนเกินไป คนอย่างผู้จัดการหลิว ถ้าไม่ลงโทษให้หนัก เขาก็จะไม่มีทางหลาบจําแน่!”

“แต่การวิ่งแก้ผ้ามันมากเกินไป! ฉันว่าเราเปลี่ยนวิธีการลงโทษไม่ดีกว่าเหรอ?”

ฉินเสี่ยวยู่ขยิบตาให้หลินหนาน พร้อมกับเข้าไปโอบแขนของเขาเขย่าไปมา และหน้าอกใหญ่โตของหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มอย่างฉินเสี่ยวยู่ก็มีพลังทําให้หลินหนานใจอ่อนไม่ใช่เล่นจนเขาถึงกับนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง..

เมื่อได้ยินคําพูดของฉินเสี่ยวยู่ หลิวเฉียนก็รีบพูดขึ้นมาทันที “ใช่ๆๆๆ!! ฉันยอมทําทุกอย่างเพื่อแลกกับการ ที่ไม่ต้องไปวิ่งแก้ผ้า!นายบอกมาได้เลยว่าต้องการให้ฉันทําอะไร?”

หลินหนานทําท่าทางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็พูดขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้น.. ผมจะทําโทษให้คุณไปล้างห้องน้ําเป็นเวลาหนึ่งเดือน!”