บทที่ 32 มีลางสังหรณ์ไม่ดี

บัลลังก์ชายาหมอเทวดา

บทที่ 32 มีลางสังหรณ์ไม่ดี

ฮูหยินเฒ่าออกคำสั่ง นางโจวถูกจับมัดอย่างรวดเร็ว
นางโจวดีดดิ้นด้วยความกระวนกระวาย ไม่ยอมรับ:
“ท่านแม่! ข้าถูกครหา พวกเขาตั้งใจป้ายสีข้าอย่างแน่นอน ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น!”
ถึงแม้นางมักจะขัดแย้งกับสองพี่น้องเย่จายซิง ไม่ใช่คนดี แต่เรื่องนี้นางเป็นผู้บริสุทธิ์ สิ่งที่ไม่ได้ทำ จะยอมรับได้อย่างไร
ทว่าฮูหยินเฒ่า ท่านรองเย่และนางเสิ่นล้วนไม่เชื่อคำพูดของนาง
เย่เจียหยูเองก็คิดว่าบ้านสามอยากจะฮุบสมบัติทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว
นางพูด:
“ท่านแม่ สาวใช้ของพี่สะใภ้สามต้องเอากุญแจไปให้ท่านอาสามแน่นอนเจ้าค่ะ สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือท่านอาสามเปิดคลังสมบัติแล้วหรือยัง!”
ท่านรองเย่ถูกเตือน รีบหันไปถามองครักษ์ที่เฝ้าคลังสมบัติทันที:
“เมื่อวานพวกเจ้าเห็นท่านสามหรือไม่?”
หัวหน้าองครักษ์ส่ายหน้า:
“เรียนท่านสอง เมื่อคืนไม่มีผู้ใดมาขอรับ แต่ว่า…”
“แต่ว่าอะไร?”
ท่านรองเย่สังหรณ์ใจไม่ดี
“แต่ว่าเมื่อคืนพวกเราล้วนรู้สึกสะลึมสะลือ เวลานี้หวนคิดดูแล้ว น่าจะมีปัญหาอย่างแน่นอน”
หัวหน้าองครักษ์พูด
“หรือว่าคลังสมบัติถูกคนเปิดแล้ว?!”
เย่เจียหยูพูดเสียงแหลม นางคาดหวังว่าจะใช้เงินในคลังสมบัติไปประมูลเพลิงลิลึก ทว่าคิดไม่ถึงกลับมีคนเร็วกว่าไปก้าวหนึ่ง
นางมองสมบัติส่วนหนึ่งในคลังสมบัติเป็นสมบัติของตนแล้ว แน่นอนว่าไม่ยอมให้ผู้อื่นลักขโมย
ฮูหยินเฒ่าโมโหยิ่งนัก ตบหน้านางโจวหลายฉาด:
“พวกเจ้าใจกล้ายิ่งนัก ถึงได้กล้าวางอุบายกับข้า!”
ตบหลายครั้งยังไม่บรรเทาความขุ่นเคือง ใช้เล็บจิกและหยิกอีกหลายครั้ง
นางโจวร้องโอดครวญ นางจะยอมรับได้อย่างไร เอาแต่บอกว่านางถูกบ้านรองป้ายสี
“ยังจะปากแข็งอีก!ท่านแม่ ข้าคิดว่าการที่น้องสามไม่ปรากฏตัวต้องเป็นเพราะกำลังเคลื่อนย้ายสมบัติ พวกเรารีบไปหากันเถอะ!”
ท่านรองเย่พูดโดยที่ขมวดคิ้วเป็นปมแววตาฉายความขุ่นเคือง
“ไปกันเถอะ! ข้าจะดูสิว่าลูกทรพีจะเหิมเกริมเพียงใด ไม่กระทั่งข้าที่เป็นแม่ก็ไม่อยู่ในสายตา!”
ฮูหยินเฒ่าพูดเสียงเหี้ยม สิ่งที่นางเกลียดที่สุดคือการที่ผู้อื่นท้าทายอำนาจของนาง ทำให้นางหวนคิดถึตอนที่ตนตกต่ำ
เย่จายซิงเดินตามอยู่ด้านหลังคอยดูเรื่องคลึกครื้น สาวใช้ตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าคุณหนูจะพูดถูก มีเรื่องสนุกให้ดูจริงๆ!
เป็นถึงฮูหยินสาม แต่กลับถูกจับเช่นนี้ แก้มยังถูกตบจนบวม
ตลอดทาง สาวใช้เห็นภาพนี้ อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
นางโจวเจ็บแค้นอย่างมาก ถูกบ่าวไพร่เห็น วันข้างหน้านางจะมีความน่าเกรงขามได้อย่างไร?
แต่ไม่ว่านางจะพูดสิ่งใดฮูหยินเฒ่าก็ไม่เชื่อ นางรู้สึกว่าบ้านรองเป็นคนทำ
นางกัดฟันครุ่นคิด วันข้างหน้าหากมีโอกาส นางจะทำให้พวกบ้านรองได้เห็นดีกัน นางจะเอาคืนความอับอายในวันนี้กลับไปอีกเท่าตัว!
อย่างรวดเร็วก็ไปถึงเรือนที่บ้านสามอยู่
“เย่เจ๋อบูเล่า!”
ฮูหยินเฒ่าพูดเสียงเหี้ยม
บ่าวรับใช้เห็นฮูหยินสามถูกจับมัด ตกใจคิดว่าเกิดเรื่องใหญ่ รีบตอบ:
“เรียนฮูหยินเฒ่า ท่านสามยังนอนหลับ ยังไม่ตื่นเจ้าค่ะ!”
“บัดซบ! ใกล้เที่ยงแล้ว เขาจะยังไม่ตื่นได้อย่างไร!”
ท่านรองเย่โมโหร้าย เขาคิดว่าเย่เจ๋อบูเอาของล้ำค่าในคลังสมบัติและหนีไปตั้งแต่ตอนกลางคืนแล้ว
สมบัติเหล่านั้นเพียงพอให้เขาอิ่มหนำสำราญไปชั่วชีวิตแล้ว!
“ท่านสามยังไม่ตื่นจริงๆ เจ้าค่ะ อยู่ในห้อง หากไม่เชื่อท่านรองเข้าไปดูได้เจ้าค่ะ!”
สาวใช้พูด
ก่อนหน้านี้พวกเขาปลุกเย่เจ๋อบูแล้ว แต่เย่เจ๋อบูกลับบอกอย่างไร้เรี่ยวแรงว่าขอนอนอีกพักหนึ่ง ตอนนี้น่าจะยังอยู่
“เมื่อวานสามีข้าถูกงูกัน ร่างกายของเขาอ่อนแอดังนั้นจึงยังนอนอยู่ นี่เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ? ท่านแม่ ท่านพี่ไม่มีวันเข้าไปเอาของในคลังสมบัติอย่างแน่นอน บ้านรองป้ายสีพวกข้าเจ้าค่ะ!”
นางโจวพูดเสียงดัง
“หุบปาก!”
ฮูหยินเฒ่ารู้สึกว่าบ้านสามผิดปกติที่สุด นางเชื่อสิ่งที่ตนเห็นเท่านั้น
ท่านรองเย่เดินไป เปิดประตู เห็นว่าบนเตียงไม่มีคน
เวลานี้ฮูหยินเฒ่าและคนอื่นๆ ยิ่งมั่นใจว่า เย่เจ๋อบูต้องขโมยสมบัติและหนีไปแล้วแน่นอน
เย่เจียหยูโมโหจนหน้านิ่วคิ้วขมวด พาดกระบี่ไว้บนคอนางโจว:
“พี่สะใภ้สาม ท่านบอกมาตามตรง ท่านอาสามอยู่ที่ใดกันแน่?”
นางเสิ่นก็โมโหยิ่งนัก เมื่อวานนางคุกเข่าให้กับเย่จายซิงจึงได้กุญแจมา แต่ตนกลับไม่ได้รับสิ่งใด ผลประโยชน์ตกไปที่บ้านสาม!
นางโจวจะรู้ได้อย่างไรว่าเย่เจ๋อบูไปที่ใด นางพูด:
“บ้านรองของพวกท่านเอาสามีข้าไปซ่อนแน่นอน! อาจจะถึงขั้นสังหารเขาแล้วก็ได้ พวกท่านช่างเหี้ยมโหดและอำมหิตยิ่งนัก!”
“เจอแล้ว! ท่านสามอยู่ที่นี่เจ้าค่ะ!”
เวลานี้ มีคนเห็นเย่เจ๋อบูอยู่ตรงรูสุนัขใต้กำแพง
เย่เจ๋อบูตกใจที่ถูกปลุก เขาลืมตาขึ้น ไม่รู้ตัวว่าตนมานอนบนพื้นได้อย่างไร
เขายังไม่ทันได้ลุกขึ้นยืน ก็ถูกเตะอย่างแรง หลังจากนั้นก็ถูกปล่อยหมัดมาที่หน้าของเขาอีกหลายที
“พี่รอง ท่านทุบตีข้าทำไม?”
“ดูสินว่าข้าจะตีเจ้าให้ตายหรือไม่ไอ้คนเนรคุณ! ยังคิดอยากจะคลานหนีไปทางรูสุนัขอีก! ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้เจ้าหนีรอดเด็ดขาด!”
ท่านรองเย่ต่อยอย่างแรง เพียงไม่กี่ครั้งหน้าของท่านสามก็ช้ำเขียว ส่งเสียงร้องโอดครวญ
ยามข้องเกี่ยวกับเงินทอง ไม่เหลือมิตรภาพของพี่น้องแล้ว
เย่จายซิงมองภาพนี้ด้วยแววตาเยือกเย็น หัวเราะเย้ยหยันในใจ ดูเล่า นี่คือลูกชายทั้งสองคนของฮูหยินเฒ่า
พ่อแม่เป็นเช่นไรลูกก็ย่อมเป็นเช่นนั้น
ความเห็นแก่ตัวของเย่เจ๋อหย่งและเย่เจ๋อบูสองคนพี่น้องเหมือนฮูหยินเฒ่ายิ่งนัก
มีชีวิตอยู่ภายใต้คนเช่นนี้ สองพี่น้องร่างเดิมไม่ถูกทรมานต่างหากจึงจะเป็นเรื่องแปลก
เวลานี้นางมาแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถรังแกพวกเขาสองคนพี่น้องได้อีกแล้ว
น่าเสียดายที่ตั้งแต่กลับมาน้องชายแสนน่ารักไม่ชอบออกจากห้อง มิเช่นนั้นจะให้เขาได้ดูภาพคนทะเลาะเบาะแว้งกันเอง
ท่านรองเย่ทุบตีจนพอใจแล้วค่อยปล่อยมือ ท่านสามเย่นอนหายใจรวยรินบนพื้น นางโจวร้องตะโกน บอกว่าท่านรองเย่ฆ่าปิดปาก หลังจากนั้นก็ถูกนางเสิ่นตบหน้าอีกหลายฉาด
“ท่านแม่ พวกเขาไม่ยอมรับผิด ตอนนี้มีหลักฐานแล้ว ท่านสามยังคิดอยากจะหนีผ่านรูสุนัข หากพวกเรามาช้ากว่านี้อีกก้าวหนึ่ง เขาต้องหนีไปได้แน่นอน!”
นางเสิ่นพูดด้วยความขุ่นเคือง
“ฮูหยินเฒ่า! ท่านรอง! พวกเราเจอถุงเก็ฐของในพุ่มไม้! ท่านสามน่าจะเป็นคนซ่อนเอาไว้!”
มีองครักษ์เจอถุงเก็บของที่ไม่สะดุดตาในพุ่มไม้ละแวกรูสุนัข
ฮูหยินเฒ่ารีบสาวเท้าเดินไป ชิงถุงกลับมา เมื่อเปิดดู ด้านในมีหีบสมบัติซ่อนเอาไว้หลายหีบ
เวลานี้หลักฐานครบแล้ว
หีบสมบัติเหล่านี้นางล้วนคุ้นตา ในอดีตตอนที่เย่เจ๋อหยวนขนย้ายของเข้าไปในคลังสมบัติ นางเคยเห็นหีบสมบัติเหล่านี้ ด้านในเต็มไปด้วยของล้ำค่า
ปั้ง!
ฮูหยินเฒ่าเทของในหีบสมบัติออกมา โยนลงบนพื้น
“เจ้าสาม จับโจรๆ เจ้าอยากจะแก้ตัวอย่างไร!”
“ข้าถูกครหา! นี่ไม่ใช่ถุงเก็บของของข้าขอรับท่านแม่!”
ท่านสามเย่กระอักเลือด พูดปฏิเสธ เขาไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำว่าเขามานอนในรูสุนัขนี้ได้อย่างไร
นางเสิ่นและเย่เจียหยูเห็นหีบสมบัติ ดีใจยิ่งนัก ส่งสายตาให้ท่านรองเย่ บอกให้เขาเปิดหีบสมบัติ
ท่านรองเย่เองก็ดีใจ ถึงแม้บ้านสามจะย่ำแย่ แต่อย่างน้อยก็ได้ของกลับมาแล้ว
ท่านรองเย่เดินไปด้านหน้าหนึ่งก้าว เปิดหีบสมบัติ แต่สุดท้าย ทุกคนต่างตกตะลึง!
“เหตุใดจึงเป็นก้อนหินทั้งหมด!”
ท่านรองเย่มองก้อนหินที่อยู่เต็มหีบสมบัติ ดวงตาแทบถลน
ฮูหยินเฒ่าโมโหจนหายใจหืดหอบ เกือบจะล้มลงบนพื้น