ตระกูลโอวหยางล่มสลาย!
ด้วยเหตุนี้นักฆ่าของตลาดมืดหยินชานจึงมิอาจเปิดเผยตัวตนได้
นักฆ่าของตลาดมืดหยินชานที่กล้าเปิดเผยตัวตน ก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่เบื่อชีวิต! เพราะทันทีที่กล่าวเผยตัวตนออกไปก็นับว่าละเมิดคำสาบาน มิแคล้วถูกอัสณีฟ้าพิฆาตตายตก!
และหากมีใครกล้าแอบอ้างเป็นคนของตลาดมืดหยินชาน…พวกมันก็ไม่ได้รับข้อยกเว้น!
ตลาดมืดหยินชานมีกฏข้อหนึ่งที่ระบุเอาไว้และบังคับใช้อย่างเข้มงวด! หากมีขุมพลังหรือใครก็ตามที่หาญกล้าแอบอ้างว่าเป็นคนของตลาดมืดหยินชาน พวกมันต้องถูกทำลายด้วยน้ำมือของคนตลาดมืดหยินชาน!!
และเพื่อบังคับใช้เรื่องนี้ให้เป็นบรรทัดฐาน
ไม่ว่าใครก็ตามที่เข้าร่วมตลาดมืดหยินชาน วันใดที่บรรลุถึงขอบเขตเซียน จำต้องกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้า ว่าจะต้องเร่งรุดไปทำลายใครก็ตามที่หาญกล้าแอบอ้างเป็นคนของตลาดมืดหยินชานทันที หากอยู่ในวิสัยที่กระทำได้!
ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตาม จะต้องถูกอัสนีสวรรค์พิฆาตด่าวดิ้น!
กระทั่งไท่หวู่กับหยินหยางเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ทั้งคู่ได้กล่าวคำสาบานนี้ออกมาแล้ว
หากพวกมันไม่ทราบก็แล้วไป แต่หากพวกมันทราบเรื่องราวแล้วยังนิ่งเฉย พวกมันก็ต้องถูกฟ้าลงทัณฑ์ไปตามสภาพ!
“เจ้าจะพิสูจน์ได้อย่างไร ว่าความที่เจ้ากล่าวเป็นจริง”
หยินหยางมองไปยังนักฆ่า 3 ดาราครึ่งด้วยแววตาเคร่งขรึม “เจ้ากล้าสาบานต่อทัณฑ์สวรร์เก้าเก้าหรือไม่ ว่าวาจาที่เจ้ากล่าวรายงานข้ามิแปลกปลอม..หากกล้ารายงานเท็จแม้ครึ่งคำขอให้อัสนีสวรรค์ฟาดผ่าตายตก!”
นักฆ่า 3 ดาราครึ่งพอได้ยินประโยคนี้ของชายชราหยินหยางมันก็ไม่อิดออดลังเล เพียงหลั่งเลือดกล่าวคำสาบานออกมาทันที
เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!
……
เสียงอัสนีฟาดผ่า 9 คำรบกังวาลไปทั่วเมืองหานเหอยามดึก ทำให้ผู้คนไม่น้อยที่สะดุ้งตื่นขึ้นมา
และผู้ที่ตื่นขึ้นมา ก็ทราบได้ทันทีว่านี่เป็นเสียงที่สวรรค์ตอบรับคำสัตย์สาบานของผู้คน
เมื่อเห็นว่านักฆ่า 3 ดาราครึ่งกล่าวคำสาบานแล้วไม่ถูกอัสนีลงทัณฑ์ ทั้งไท่หวู่และหยินหยางก็รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายกล่าวรายงานเรื่องจริง
เหตุผลที่มันต้องทำการรวจสอบและยืนยันเรื่องนี้ให้แน่ชัด เพราะกริ่งเกรงนักฆ่า 3 ดาราครึ่งคิดใช้แผนยืมมีดฆ่าคน!
ใน 9 พันธมิตรแห่งนี้ ตัวตนระดับมันกับไท่หวู่ ก็คือ ‘มีด’ อันคมกริบ!
“ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าสามารถยืนยันตัวตนของผู้แอบอ้างได้แล้ว?”
ไท่หวู่กล่าวถามนักฆ่า 3 ดาราครึ่งออกมา
“ใช่”
นักฆ่า 3 ดาราครึ่งพยักหน้ารับ
“พวกมันเป็นใคร?”
หยินหยางถาม
“พวกมันเป็นคนของตระกูลโอวหยางแห่งเมืองหานเหอ เป็นตระกูลขุมพลังชั้น 8 ที่อยู่ภายใต้อาณัติของ 9 พันธมิตร…นับว่าร่ำรวยมิใช่น้อย”
นักฆ่า 3 ดาราครึ่งกล่าว
“ตระกูลโอวหยางงั้นเหรอ? “
ได้ยินคำรายงานของมือสังหาร ไท่หวู่กับหยินหยางหันหน้ามองสบตากันทันใด ต่างเห็นถึงประกายตาที่ลุกโชนขึ้นมาดั่งเพลิงไฟในแววตากันและกัน
และคืนนั้นภัยพิบัติถึงขั้นหายนะพลันอุบัติขึ้นที่ตระกูลโอวหยาง!
คนตระกูลโอวหยางทั้งหมดที่อยู่ในตระกูลไม่เว้นโอวหยางป้า ได้ถูกสังหารลงจนหมดสิ้นในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน!
อีกทั้งคนของสกุลโอวหยางยังถูกฆ่าก่อนที่จะได้ตอบโต้อันใด!
กระทั่งบรรพบุรุษของตระกูลโอวหยางที่อยู่ในขอบเขตเซียน แม้จะเร่งรุดออกจากการปิดด่าน เพื่อออกมาต่อต้านมือสังหาร พวกมันก็ทำได้แค่มอบชีวิตให้แก่มือสังหารทีละคนๆ
บรรพบุรุษตระกูลโอวหยางแม้จะอยู่ในขอบเขตเซียนแล้วแท้ๆ แต่กระทั่งจวบจนวินาทีสุดท้ายก่อนที่จะตายยังไม่อาจขบคิดได้ออก ว่าไฉนยอดฝีมือที่น่ากลัวระดับนี้ ถึงได้ลงมือสังหารพวกมันโดยไม่มีแม้แต่วาจาจะกล่าวสักครึ่งคำ
ค่ำคืนนี้ธารโลหิตย้อมชโลมตระกูลโอวหยางจนแดงฉาน…
ยามเมื่อสายธารโลหิตเจิ่งนอง ยอดฝีมือ 2 คนที่บุกมาฆ่าล้างคนสกุลโอวหยางก็จากไปอย่างเงียงงัน
และหลังจากพวกมันจากไป ก็มีคนในชุดคลุมลมดำมากมายพุ่งร่างเข้าๆออกๆ ตระกูลโอวหยาง
จนเมื่อคนของ 9 พันธมิตรทราบเรื่องราว พอมาถึงตระกูลโอวหยางก็พบว่าทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตระกูลโอวหยางถูกกวาดไปจนเหี้ยนแล้ว
คงเหลือเพียงซากศพไร้ชีวิตกองสุมบนพื้น สายธารโลหิตย้อมดินจนแดงฉานส่งกลิ่นคาวคลุ้ง
ตระกูลโอวหยางที่ยิ่งใหญ่น่าเกรงขามเมื่อวาน มาวันนี้กลับกลายเป็นแค่หน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ กลับกลายเป็นอดีตไปโดยปริยาย
ที่สำนักงานใหญ่ 9 พันธมิตร ชนชั้นอาวุโสของแต่ละขุมพลังเร่งรุดมารวมตัวกันทันที
“พวกเจ้าทั้งหมดคิดอย่างไรกับเรื่องของตระกูลโอวหยาง?”
ชายร่างอ้วนหนวดเคราหนาเตอะมองหน้าทุกคนพร้อมกล่าวถามเสียงเข้ม
ลูกตาของมันว่ายมองสบตาผู้ที่อยู่ในห้อง 30 กว่าคนทีละคนๆ
คนกว่า 30 คนในห้องนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นอาวุโสระดับสูงที่ถูกผู้นำส่งมาคลี่คลายสถานการณ์และหาความกระจ่างแก่เรื่องที่เกิดขึ้น
ทั้ง 30 กว่าคนนี้ย่อมถูกส่งมาจากขุมพลังทั้ง 9
หลายคนในห้องนั้น ย่อมมีคนของสำนักจันทร์จรัสแสงและต่งฮุยรวมอยู่ด้วย
‘ไฉนคนของตระกูลโอวหยางถึงถูกฆ่าล้างตระกูลได้ในชั่วข้ามคืน? อย่าได้บอกข้าเชียวว่านี่เป็นศิษย์พี่ป๋ายลี่หงมาลงมือด้วยตัวเอง ช้าก่อน…ต่อให้เป็นศิษย์พี่ป๋ายลี่หงก็ยากจะล้างตระกูลโอวหยางได้ในเวลาชั่วข้ามคืน! แถมยอดฝีมือระดับเซียนของตระกูลโอวหยางยังตกตายหมดสิ้น ไม่เหลือรอดแม้แต่คนเดียว!’
ตอนแรกต่งฮุยยังคิดว่านี่อาจเป็นฝีมือของป๋ายลี่หงที่ล้างแค้นให้ต้วนหลิงเทียน แต่ไม่นานมันก็ตระหนักได้ว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้
“หืม?”
ทันใดนั้นเองต่งฮุยก็สังเกตเห็นว่าสายตาของผู้คนในห้องล้วนมองมาที่คนของสำนักจันทร์จรัสแสงรวมถึงพวกมัน
“พวกเราจะคิดอันใดได้? สมควรเป็นการลงมือของสำนักจันทร์จรัสแสง…จึกๆ สำนักจันทร์จรัสแสงนั้นประคบประหงมต้วนหลิงเทียนยิ่งนัก พอรู้ว่ามันถูกตระกูลโอวหยางรังแก ก็ถึงขั้นฆ่าล้างตระกูลโอวหยาง!”
ชายวัยกลางคนหน้าตาอัปลักษณ์คนหนึ่งกล่าววาจาเสียดสีออกมา
“ล้างตระกูลโอวหยางได้ในเวลาแค่ชั่วข้ามคืน! ต่อให้เป็นยอดฝีมือขอบเขตสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่หลายคนก็มิอาจกระทำได้…สมควรเป็นการลงมือของยอดฝีมือขอบเขตเซียน!”
คนอื่นกล่าวเสริม
“สำนักจันทร์จรัสแสงนับว่ายิ่งใหญ่เกินไปแล้ว กับอีแค่ความขัดแย้งเล็กๆน้อยๆเช่นนี้ กลับถึงขั้นลงมือทำลายล้างตระกูลขุมพลังชั้น 8 ที่ร่วมมือกับพวกเรา 9 พันธมิตรมานาน…เรื่องนี้สำนักจันทร์จรัสแสงต้องอธิบายพวกเรา!”
ชายชราคนหนึ่งมองเค้นถามต่งฮุย
“ถูกแล้ว! มิว่าอย่างไรสกุลโอวหยางก็เป็นพวกเราอุ้มชูมา! ต่อให้สำนักจันทร์จรัสแสงพวกเจ้าคิดฆ่าล้างบ้านผู้อื่น อย่างน้อยๆพวกเจ้าก็ต้องปรึกษาถามไถ่ความเห็นพวกเราสักคำ นี่พวกเจ้าเห็นขุมพลังชั้น 8 เป็นหัวผักกาดหรือไร!?”
คนอื่นก็เริ่มยิงคำถามออกมา
“ตอนนี้พวกเจ้าเล่นกวาดล้างตระกูลโอวหยางทั้งยกเค้าสมบัติไปหมดเช่นนี้ แล้วกิจการทั้งความวุ่นวายที่ตระกูลโอวหยางทิ้งไว้ผู้ใดจักรับผิดชอบ!? นี่พวกเจ้ามิรู้หรือไรว่ากว่าจะชุบเลี้ยงตระกูลขุมพลังชั้น 8 ให้เชื่อง พวกเราต้องลงแรงไปมากมายเพียงใด! ครั้งนี้พวกเจ้าสำนักจันทร์จรัสแสงทำเกินไปแล้ว!!”
ตอนนี้ต่งฮุยกับคนของสำนักจันทร์จรัสแสง ตกเป็นเป้าโจมตีของอีก 8 ขุมพลัง
“ฮึ่ม! พวกเจ้ากล่าวหาสำนักจันทร์จรัสแสงเราปาวๆเช่นนี้ มีหลักฐานอันใดหรือไม่?”
ชายชราแลดูแข็งแกร่งข้างต่งฮุยตะโกนแค่นคำเย้ยหยันออกมาเสียงเย็น ค่อยว่ายตามองผู้คนในห้องกล่าวถามเสียงเข้ม
ชายชราคนนี้คือผู้รับผิดชอบหลักที่สำนักงานใหญ่ 9 พันธมิตร ที่สำนักจันทร์จรัสแสงส่งมาประจำการ ยังเป็นหนึ่งในรองเจ้าสำนักของสำนักจันทร์จรัสแสง ถานเฉวียน
“ถูกแล้ว! หากไร้หลักฐาน พวกเจ้ามิอาจกล่าวเหลวไหลใส่ความพวกเราได้!”
ต่งฮุยหัวเราะเยาะออกมา
คนของสำนักจันทร์จรัสแสงที่เหลือก็เริ่มประท้วงออกมาเช่นกัน
ถึงแม้ว่าในใจพวกมันเองก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าครั้งนี้ใช้อาวุโสป๋ายลี่หง ใช้สายสัมพันธ์ส่วนตัวให้ยอดฝีมือขอบเขตเซียนมาฆ่าล้างสกุลโอวหยางหรือไม่…แต่พวกมันก็ไม่อาจเผยข้อสงสัยนี้ออกมาได้
“เรื่องนี้ยังต้องใช้หลักฐานอันใดอีก”
ชายวัยกลางคนแลดูแข็งแกร่งผู้หนึ่งลุกขึ้นยืนกล่าวเสียงดัง ยังยิ้มเย้ยหยันไม่น้อย “นอกจากสำนักจันทร์จรัสแสงของพวกเจ้า ยังมีผู้ใดมีแรงจูงใจในการฆ่าล้างตระกูลโอวหยางอีก!?”
“ถูกแล้ว! เห็นกันชัดๆว่าผู้ที่ลงมือฆ่าล้างสกุลโอวหยางคราวนี้สมควรเป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียน…หากกล่าวถึงใน 9 พันธมิตรของพวกเรา นอกเหนือจากขุมพลังทั้ง 9 อย่างพวกเราแล้ว ขุมพลังอื่นใดยังมียอดฝีมือขอบเขตเซียนเช่นนี้ได้?”
ชายชราอีกคนกล่าวถาม
“นั่นสิ ในเขตปกครอง 9 พันธมิตรเรา นอกเหนือจากขุมพลังทั้ง 9 อย่างพวกเราแล้วขุมพลังอื่นใดยังมียอดฝีมือขอบเขตเซียนเช่นนี้ได้?” “
ได้ยินคำถามนี้ ถานเฉวียนพลันกล่าวออกมาเสียงเข้ม “หึ! หรือพวกเจ้าหลงลืมตลาดมืดหยินชานกันไปแล้ว?”
ตลาดมืดหยินชาน!
ได้ฟังถานเฉวียนเอ่ยถึงตลาดมืดหยินชานขึ้นมา ฉากในห้องเงียบไปทันใด บรรยากาศยังแปรเปลี่ยนไปในฉับพลัน
ตลาดมืดหยินชานนั้นเป็นดั่ง ‘หนามยอกอก’ 9 ขุมพลังของพวกมันมาช้านาน และยังเป็น ‘แรงผลักดัน’ ให้พวกมัน 9 ขุมพลังต้องหันมาจับมือกันเป็นพันธมิตร!
หากไม่มีตลาดมืดหยินชาน ย่อมไร้ 9 พันธมิตร!
อาจกล่าวได้ว่า 9 พันธมิตรนั้นเกิดขึ้นจากภาวะบีบคั้นของ ตลาดมืดหยินชาน!
ตลาดมืดหยินชาน สร้างแรงกดดันให้พวกมันอย่างสูง!
“เหอะ! อย่าได้ยกตลาดมืดหยินชานมากล่าวอ้างให้พวกเราหวาดกลัวไปหน่อยเลย! จนบัดนี้ตลาดมืดหยินชานเพียงเคลื่อนไหวในเงามืดเท่านั้น ไหนเลยยังเคยทำเช่นนี้มาก่อน!”
ไม่นานก็มีหนึ่งในระดับสูงในห้องคืนสติ พ่นลมเสียงดัง กล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
วาจานี้ของมันก็ทำให้หลายคนเห็นด้วย
“ถูกแล้ว! แม้คนของตลาดมืดหยินชานจักลงมือลึกลับมาโดยตลอด ทว่าเรื่องนี้มันไม่คล้ายเป็นแนวทางการลงมือของพวกมัน!”
“ตระกูลโอวหยางพึ่งมีเรื่องบาดหมางกับต้วนหลิงเทียนของสำนักจันทร์จรัสแสงพวกเจ้าไม่ทันไร ตอนนี้ทั้งตระกูลกลับล่มสลายไปชั่วข้ามคืน หรือเจ้าจะบอกว่าเรื่องนี้มิมีใดเกี่ยวข้องกับสำนักจันทร์จรัสแสงของพวกเจ้าเลย?”
“สำนักจันทร์จรัสแสง กล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับงั้นหรือ?”
……
หลายคนใน 8 ขุมพลังเริ่มกล่าวเยาะต่งฮุยกับคนอื่นๆ
จังหวะนี้ถานเฉวียนกับต่งฮุยถึงกับไร้คำจะกล่าว
เพราะท้ายสุดแล้ววาจาของพวก 8 ขุมพลังก็มีน้ำหนักไม่น้อย
“บางทีอาจเป็นเพราะคนของตระกูลโอวหยางไปล่วงเกินคนของตลาดมืดหยินชานก็ได้!”
สุดท้ายต่งฮุยก็รู้สึกตัวและกล่าวแย้งออกไป
ในขณะที่คนของขุมพลังทั้ง 8 ที่เหลือคิดกล่าววาจาใดเพิ่มเติมนั้นเอง กลับมีร่างชายหนุ่มคนหนึ่งเร่งพุ่งเข้ามาในโถงประชุมอย่างรีบร้อน
การกระทำโง่เขลาบุกเข้ามาอย่างไร้มารยาทนี้ ทำให้ทุกคนในห้องคิ้วขมวดทันที
“ศิษย์สำนักใด ช่างไร้มารยาทนัก!”
“มิได้มาจากสำนักยันต์ลี้ลับข้าแน่!”
“มิใช่คนของข้าเช่นกัน!”
……
คนของ 8 ขุมพลังกล่าวปฏิเสธออกมาอย่างพร้อมเพรียง
ไม่นานสายตาของพวกมันก็เบนไปตกยังร่างของกลุ่มคนจากสำนักจันทร์จรัสแสง
ไม่ได้มาจากสำนักของพวกมัน เช่นนั้นก็เป็นคนของสำนักจันทร์จรัสแสงแล้ว!
ตอนนี้เองไม่ว่าจะเป็นถานเฉวียนหรือต่งฮุย ก็เริ่มปั้นหน้าถมึงทึงขึ้นมาทันที…บัดซบ คนของพวกมันจริงๆ!
ศิษย์สำนักจันทร์จรัสแสงที่บุกเข้ามาอย่างไร้มารยาทนั้น ไม่แยแสบรรยากาศอึมครึมใดๆทั้งสิ้น เร่งกล่าวรายงานเรื่องราวออกมาทันที “อาวุโส อาจารย์ลุง เหตุผลที่ตระกูลโอวหยางถูกกวาดล้าง ได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหานเหอแล้ว!”
“ว่าอะไรนะ!?”
สิ้นคำศิษย์สำนักจันทร์จรัสแสงผู้นี้ ทุกผู้คนในห้องพลันปั่นป่วนขึ้นมาทันที
จังหวะนี้ไม่มีใครสนใจศิษย์สำนักจันทร์จรัสแสงที่ไร้มารยาทอีกต่อไป
สำหรับพวกมันแล้ว สาเหตุที่ทำให้สกุลโอวหยางถูกฆ่าล้างตระกูลสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด
“เป็นเพราะอันใด!?”
ตอนนี้เองทั้ง 9 ขุมพลังไม่เว้นคนของสำนักจันทร์จรัสแสงไม่กี่คน ก็มองหน้าศิษย์มาใหม่เป็นสายตาเดียวกัน เร่งกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด