ความจริงเปิดเผย

ศิษย์สำนักจันทร์จรัสแสงที่รีบร้อนวิ่งเข้ามาหน้าตั้งนั้น เป็นศิษย์ฝ่ายในธรรมดาที่มาประจำการ และที่มันรีบร้อนเข้ามาก็เพราะตื่นตระหนกกับข่าวที่พึ่งได้รับทราบ

ตอนนี้พอถูกทุกสายตาในห้องของตัวตนทรงพลังทั้งหลายจ้องมาก็บังเกิดเป็นแรงกดดันไม่น้อย ทำให้มันถึงกับชะงักค้าง มีวาจาคิดกล่าวก็ไม่อาจกล่าวออก…

“เจ้าไม่ต้องกลัวอันใด กล่าวมาเถอะ”

เมื่อเห็นว่าศิษย์สำนักจันทร์จรัสแสงคนนี้ตื่นกลัว รองเจ้าสำนักจันทร์จรัสแสงก็กล่าวปลอบออกมา

พอได้วาจาปลอบประโลมจากรองเจ้าสำนัก อาการตื่นตระหนกก็คลายลง มันสูดลมหายใจเข้าลึกๆไม่กี่คำ ค่อยกล่าวเรื่องราวออกมา “ยามนี้ข่าวที่แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหานเหอ ล้วนถูกปล่อยออกมาจากตลาดมืดหยินชาน…ที่พวกมันทำลายตระกูลโอวหยาง เพราะมีคนของตระกูลโอวหยางหาญกล้าแอบอ้างเป็นคนของตลาดมืดหยินชาน!!”

ตลาดมืดหยินชาน!

สิ้นคำศิษย์สำนักจันทร์จรัสแสง ทุกคนในห้องถึงกับอุทานออกมาดังอา ปากยังอ้าค้างเอาไว้!

“ฮึ่ม! วันหลังหากไร้หลักฐานอันใด ก็อย่าได้กล่าวเหลวไหล!!”

หลังถานเฉวียนกลับมารู้สึกตัว มันก็ว่ายตามองคนของขุมพลังทั้ง 8 รอบหนึ่ง ค่อยแสยะยิ้มกล่าวตวาดออกมาเสียงเย็นอย่างถากถาง

เผชิญกับวาจาเย้ยเยาะของถานเฉวียนรอบนี้ คนของทั้ง 8 ขุมพลังได้แต่จุกอยู่ในอก ไร้คำใดจะกล่าวตอบโต้

สุดท้ายแล้วพวกมันก็เป็นฝ่ายผิดเองที่ด่วนสรุป

“ท่านรองเจ้าสำนักถานตอนนี้พวกเราอย่าได้กังวลเรื่องนี้อีกเลย พวกเรามาหารือกันถึงเรื่องที่ตลาดมืดหยินชานกระทำเถอะ…คราวนี้พวกมันนับว่าล้ำเส้นเกินไปแล้ว! พวกมันรู้ทั้งรู้ว่าสกุลโอวหยางได้รับการสนับสนุนจากพวกเรา 9 พันธมิตร แต่พวกมันยังกล้าลงมือฆ่าล้างทั้งตระกูล!!”

ชายชราเคราขาวยาวเฟื้อยกล่าวออกหน้าเคร่ง

“เจ้ากล่าวเช่นนั้นก็ไม่ได้…ตลาดมืดหยินชานกล่าวบอกออกมาแล้ว ว่ามีคนของตระกูลโอวหยางกล้าแอบอ้างเป็นพวกมัน ถึงได้ลงมือฆ่าล้างตระกูลเช่นนี้”

“ถูกแล้ว! คราวนี้เป็นคนของสกุลโอวหยางแส่หาเรื่องเองแท้ๆ!”

“ข้าเองก็เคยได้ยินประกาศิตของตลาดมืดหยินชานมา…หากผู้ใดกล้าสมอ้างเป็นพวกมัน ฆ่าไม่ละเว้น!”

“ครั้งนี้ตระกูลโอวหยางผิดเอง ยังจะมีผู้ใดช่วยมันได้?”

……

เหล่าตัวตนระดับสูงของทั้ง 9 ขุมพลังไม่เว้นสำนักจันทร์จรัสแสง เห็นด้วยว่าครั้งนี้สกุลโอวหยางแส่หาเรื่องเอง พวกมันจะถูกตลาดมืดหยินชานฆ่าล้างก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้นประกาศิตข้อนี้ของตลาดมืดหยินชานก็เป็นที่รู้กันดี ว่ามันคือกฏที่ไม่อาจละเมิด!

คนในสกุลโอวหยางก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้!

แต่ถึงกระนั้นคนในสกุลโอวหยางก็ยังกล้าแอบอ้างเป็นคนของตลาดมืดหยินชาง เป็นพวกมันรนหาที่ตายเอง!

“พวกเจ้าจะกล่าวเช่นนี้ก็ไม่ถูก…ถึงตระกูลโอวหยางอาจจะผิด แต่นี่จะไม่ทำเกินไปหน่อยหรือ? ไฉนไม่เพียงฆ่าแค่คนผิดกลับลงมือเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์เช่นนี้!”

“มิผิด! ข้าเองก็คิดว่าตลาดมืดหยินชานกระทำเกินไปแล้ว ดูเหมือนพวกมันจะไม่เห็นหัวพวกเราเลย!”

“ข้าเองก็รู้สึกเช่นนั้น พวกเราส่งคนไปหาคำอธิบายจากพวกมันเถอะ!”

……

นอกจากผู้ที่เห็นด้วยแล้ว ก็มีไม่กี่คนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของตลาดมืดหยินชาน ตัวตั้งตัวตีหนึ่งในนั้นเป็นคนของสำนักยันต์ลี้ลับ

ส่วนที่เหลือก็เป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับสำนักยันต์ลี้ลับ

เรื่องที่สำนักยันต์ลี้ลับนั้นเป็นศัตรูที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกเดียวกันได้กับตลาดมืดหยินชาน ไม่ใช่ความลับใน 9 พันธมิตร

ทั้งหมดนี้เพียงเพราะเจ้าสำนักยันต์ลี้ลับคนก่อน ปรมาจารย์ยันเต๋าระดับ 3 ดาวตกตายด้วยมือสังหารของตลาดมืดหยินชาน!

ทั้งหมดสืบเนื่องมาจากการกดขี่ข่มเหงของตลาดมืดหยินชาน ที่บีบคั้นให้เจ้าสำนักยันต์ลี้ลับกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้า

เนื้อหาคำสาบานที่ต้องกล่าวต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้านั้นก็คือ มันไม่อาจส่งมอบยันต์เต๋าจู่โจมระดับ 3 ดาวให้แก่ผู้ใดได้เด็ดขาดหากไม่ใช่คนของสำนักยันต์ลี้ลับ

อีกทั้งทุกคนในสำนักยันต์ลี้ลับต้องกล่าวคำสาบานออกมาอีก ว่าหากใครมียันต์เต๋าจู่โจมระดับ 3 ดาวไว้ในครอบครอง ต้องไม่ใช้ยันต์เต๋าจู่โจมระดับ 3 ดาวกับคนนอกเด็ดขาด!

ด้วยเหตุนี้ต่อให้สำนักยันต์ลี้ลับจะมีปรมาจารย์ยันต์เต๋าระดับ 3 ดาวที่สามารถเขียนยันต์เต๋าจู่โจมระดับ 3 ได้ก็ไร้ค่า!

สำนักยันต์ลี้ลับเองก็ต้องเสียผลประโยชน์ทางธุรกิจไป!

เรื่องนี้เป็นความอัปยศครั้งใหญ่ของสำนักยันต์ลี้ลับมาโดยตลอด เช่นนั้นพวกมันจึงมองตลาดมืดหยินชานเป็นศัตรูที่มิอาจอยู่ร่วมโลกเดียวกันได้

สำหรับเรื่องที่ตลาดมืดหยินชานบีบบังคับให้สำนักยันต์ลี้ลับต้องกล่าวสาบานแบบนี้ เพราะพวกมันไม่อยากให้มีใครในพื้นที่ 9 พันธมิตรมียันต์เต๋าจู่โจมระดับ 3 ดาวไว้ในครอบครอง

เพราะนี่จะส่งผลกระทบต่อ ‘ธุรกิจ’ ของพวกมัน!

ลองนึกภาพว่านักฆ่าระดับ 2 ดาราที่มีขอบเขตพลังฝึกปรือสู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบ กำลังจะลอบสังหารเป้าหมายที่มีพลังฝึกปรือต่ำกว่า ทว่าอีกฝ่ายกลับมียันต์เต๋าจู่โจมระดับ 3 ดาวไว้ในครอบครอง จนสามารถฆ่ามือสังหารได้…

เช่นนั้นภารกิจก็ล้มเหลวแล้ว!

ภารกิจล้มเหลวย่อมส่งผลต่อ ‘ความน่าเชื่อถือ’ ของตลาดมืดหยินชาน

สำหรับตลาดมืดหยินชานแล้วความน่าเชื่อถือสำคัญที่สุด!

ด้วยเหตุนี้ตลาดมืดหยินชานจึงไม่อนุญาตให้คนในพื้นที่ปกครอง 9 พันธมิตรมียันต์เต๋าจู่โจมระดับ 3 ดาวไว้ในครอบครอง

“เหอะ! ในเมื่อเจ้าอยากส่งคนไปหาคำอธิบายจากตลาดมืดหยินชาน พวกเจ้าก็ไปกันเองเถอะ…ข้าขออภัยด้วยแต่ต้องบอกว่าพวกเรามิเห็นด้วยเรื่องนี้!”

รองเจ้าสำนักจันทร์จรัสแสงอย่างถานเฉวียน ย่อมรู้เรื่องราวความบาดหมางระหว่างสำนักยันต์ลี้ลับกับตลาดมืดหยินชานดี ย่อมไม่บ้าจี้ตามคำยุยง

“ถูกแล้ว! พวกเจ้าไปกันเองเถอะ หากพวกเจ้าหาคำอธิบายทั้งเจรจาเรื่องราวสำเร็จ พวกเราจักจัดงานเลี้ยงฉลองให้พวกเจ้าเอง!”

“ถูกแล้ว”

……

อาวุโสทั้งหลายที่ไม่ได้สนิทสนมกับคนของสำนักยันต์ลี้ลับกล่าวออกมา

ในฐานะที่เป็นอาวุโสระดับสูงๆของแต่ละขุมพลัง พวกมันคนใดยังไม่ใช่ ‘แพะชรา’ มากประสบการณ์? ไหนเลยจะถูกวาจาไม่กี่คำของคนสำนักยันต์ลี้ลับลากลงเหวได้…

พวกมันไม่มีใครคิดเป็น ‘มีด’ ให้สำนักยันต์ลี้ลับ!

สำหรับขุมพลังอื่นๆที่มีการซื้อขายกับสำนักยันต์ลี้ลับ ก็ได้แต่นิ่งเงียบ…แต่ในใจก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้เช่นกัน

แม้พวกมันจะมีสัมพันธ์อันดี แต่ก็ไม่ได้ดีถึงขนาดนั้น

9 พันธมิตรแม้จะจับมือเป็นพันธมิตรกัน แต่ก็ไม่ได้สมัครสมานกลมเกลียวกันแต่อย่างใด

หากตลาดมืดหยินชานไม่คิดทำลายล้าง 9 พันธมิตรจริงๆจังๆ พวกมันก็ไม่มีวันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้

และตลอดหลายปีที่ผ่านตลาดมืดหยินชานก็ไม่คล้ายมีความคิดเช่นนั้น

“เจ้า…พวกเจ้า!”

ชายชราเครายาวเฟื้อยของสำนักยันต์ลี้ลับพอได้ยินคำของถานเฉวียนกับคนอื่นๆ มันก็มีโมโหไม่น้อย “พวกเรามิได้เป็นพันธมิตรกันหรือไร!?”

“รองเจ้าสำนักยันต์ลี้ลับ ท่านลืมเหตุผลที่พวกเราต้องจัดตั้ง 9 พันธมิตรขึ้นมาแล้วหรือ?”

ถานเฉวียนกล่าวเย้ยออกมา “คราวนี้ตลาดมืดหยินชานกลับมิคิดปกปิดการกระทำของพวกมัน ทั้งที่พวกมันจะปกปิดเรื่องฆ่าล้างตระกูลโอวหยางเอาไว้ก็ได้…ที่พวกมันกระจายข่าวออกมาเช่นนี้ ล้วนเป็นเพราะมันคิดเตือนพวกเรา!”

“คราวนี้ที่ตระกูลโอวหยางพบภัยพิบัติล่มสลาย แม้จะเกินเลยไปบ้าง…แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราเห็นวิธีที่ตลาดมืดหยินชานลงมือหรือไร?”

กล่าวถึงจุดนี้ สายตาถานเฉวียนที่มอง เหอหยิน รองเจ้าสำนักยันต์ลี้ลับก็เผยประกายคมกล้าออกมา

“ถานเฉวียน!”

หน้าเหอหยินจมลงทันใด มีโทสะไม่น้อย!

มันย่อมรู้ความนัยที่แฝงอยู่ในวาจาถานเฉวียนดี!

เรื่องนี้ไม่มีอะไรมากกว่า เหตุการณ์ครั้งก่อนที่อดีตเจ้าสำนักยันต์ลี้ลับถูกยอดฝีมือของตลาดมืดหยินชานฆ่าตาย และมือสังหารยังบีบบังคับให้สำนักยันต์ลี้ลับต้องกล่าวคำสาบานกันหมด!

“รองเจ้าสำนักถาน ท่านไม่กล่าวแรงไปหน่อยหรือ…ถึงท่านมิกล้าแข็งข้อกับตลาดมืดหยินชาน แต่ก็มิจำเป็นต้องขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตมายกยอตลาดมืดหยินชาน เพื่อสะกดข่มความฮึกเหิมของพวกเราเช่นนี้มิใช่หรือไร?”

ชายวัยกลางคนหน้าตาอัปลักษณ์กล่าว

“ผายลม!”

ถานเฉวียนหัวเราะเยาะ “ข้ากล่าวแรงอันใด? ข้าไปยกยอตลาดมืดหยินชานมาสะกดข่มความฮึกเหิมของพวกเราตรงที่ใด โปรดท่านอธิบายให้ข้าฟังสักคำเถอะ!?”

ได้ยินคำจี้ถามของถานเฉวียน ชายวัยกลางคนหน้าอัปลักษณ์ก็เงียบไปไร้คำจะกล่าว

สิ่งที่ถานเฉวียนกล่าว อีกฝ่ายไม่ได้กล่าวตรงๆ แต่เป็นมันที่ร้อนตัวไปเอง

ไม่ใช่แค่มัน อันที่จริงทุกคนย่อมสามารถผูกโยงเรื่องราวได้

ถานเฉวียนกล่าวแบบนี้ ยังมีเจตนาอื่นใดหากไม่คิดจี้แผลสำนักยันต์ลี้ลับ?

อย่างไรก็ตามถานเฉวียนไม่ได้กล่าวออกมาตรงๆ เช่นนั้นก็ไม่นับว่ากล่าวถึงสำนักยันต์ลี้ลับ!

หากมันกล่าวออกมาตรงๆแน่นอนว่าต้องเป็นการผิดใจกับสำนักยันต์ลี้ลับ เช่นนั้นมันจึงไม่โง่กล่าวออกมาตรงๆ

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้พูดไปแล้วหากให้พวกมันไปหาคำอธิบายหรือเจรจาอะไรพวกมันก็ไม่มีทางยอมไป! ว่ากันตามตรงทั้งหลายยังเห็นด้วยกับถานเฉวียนไม่น้อย!

หากนิกายยันต์ลี้ลับหรือสำนักจันทร์จรัสแสงไปเจรจาหาความกับตลาดมืดหยินชานได้จริงๆพวกมันย่อมเห็นดีด้วย

แต่หากให้พวกมันไปเอง พวกมันไม่มีใครอยากไป

ถึงแม้ตลาดมืดหยินชานสาขา 9 พันธมิตรจะเป็นสาขาที่อ่อนด้อยที่สุด แต่ก็ไม่ใช่อะไรที่พวกมันจะไปตอแยด้วยได้!

‘หากศิษย์น้องต้วนรู้ว่าตระกูลโอวหยางล่มสลายไปแล้วแบบนี้ มิรู้จะยินดีหรือไม่?’

ลูกตาต่งฮุยเหม่อลอยไปเล็กน้อย คนลอบคิดในใจ

ไม่ว่าเรื่องราวทางด้านเมืองหานเหอจะปั่นป่วนวุ่นวายเพียงใด ต้วนหลิงเทียนแน่นอนว่าย่อมไม่รู้เรื่อง เพราะตอนนี้เขากำลังมุ่งหน้ากลับสำนักจันทร์จรัสแสง

แม้จะใช้ความเร็วในปัจจุบัน การกลับสำนักจันทร์จรัสแสงก็ยังต้องใช้ระยะเวลาสักพัก

ระยะทางจากเมืองหานเหอกับสำนักจันทร์จรัสแสง ค่อนข้างห่างกันพอสมควร

พอต้วนหลิงเทียนกลับมาถึงสำนักจันทร์จรัสแสง และได้รับทราบถึงการล่มสลายของตระกูลโอวหยาง เขาก็อึ้งไปเช่นกัน

“แอบอ้างเป็นคนของตลาดมืดหยินชาน?”

และทันทีที่ต้วนหลิงเทียนรับทราบข่าวเรื่องนี้ สิ่งแรกที่เขานึกถึงก็คือ…คืนนั้นตอนที่เขาปะทะกับโอวหยางชิงและโอวหยางชาน อาวุโสลำดับ 2 ของสกุลหาน…ดูเหมือนพวกมันจะกล่าวแอบอ้างเป็นคนของตลาดมืดหยินชานจริงๆ

ในตอนนั้นเขาเองก็ยืนยันได้ทันทีว่าโอวหยางชานไม่สมควรเป็นคนของตลาดมืดหยินชาน

อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ ว่าวาจาแอบอ้างเพียงไม่กี่คำนั่นจะกลายเป็นการจุดชนวนเภทภัยให้กับสกุลโอวหยาง ถึงขั้นถูกฆ่าล้างทั้งตระกูล…

‘นอกจากโอวหยางชานที่ตาย ก็มีแค่โอวหยางชิงกับข้าที่รู้เรื่องการอ้างตัวเป็นคนของตลาดมืดหยินชาน…โอวหยางชิงมันทำเรื่องราวรั่วไหลงั้นเหรอ?’

คิดถึงจุดนี้ต้วนหลิงเทียนก็ส่ายหัวไปมา เพราะไม่น่าจะเป็นไปได้

‘ถ้าไม่ใช่โอวหยางชิงพลั้งปากบอกออกไป…แสดงว่าคืนนั้นมีบุคคลที่ 4 อยู่ด้วย!’

คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวไปทั่วกาย

คนที่สามารถปกปิดร่องรอยได้อย่างสมบูรณ์จากสัมผัสของเขา อย่างน้อยๆมันต้องเป็นสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่…ไม่สิ! มันน่าจะเป็นถึงตัวตนในขอบเขตเซียน!

หากตัวตนระดับนั้นคิดฆ่าเขาขึ้นมา เกรงว่าต่อให้เขามียันต์เต๋าจู่โจมระดับ 3 ดาวเป็นเข่ง ก็ไม่อาจรอดพ้นความตายไปได้!

จังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบอารมณ์ที่พุ่งพล่านขึ้นมา