ในอดีตกองทัพของเมิ่งเถียน,เมิ่งเถียนก็คือแม่ทัพใหญ่และเมิ่งอี้ก็คือรองแม่ทัพ พวกเขาสองพี่น้องคือผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดรองลงมาก็แม่ทัพคนอื่น ๆ
แต่ตอนนี้ เมิ่งเถียน ได้มอบหน้าที่ให้แม่ทัพคนอื่นจัดการแทนที่จะเป็นน้องชายของตัวเอง นี่แสดงให้เห็นว่าทั้งสองคนมีเรื่องขัดแย้งอะไรกันอย่างแน่นอน หว่านฉีหลิน จึงไม่ได้ตอบกลับรับคำสั่ง
“เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าสั่งหรือไม่?”เมิ่งเถียน จ้องมองไปที่ หว่านฉีหลิน
หว่านฉีหลินได้กัดฟันแน่นและคุกเข่าลงบนพื้นข้างหนึ่ง”ข้าน้อยรับคำสั่ง!”
“ดีมาก!”
เมิ่งเถียนจ้องมองไปยังแม่ทัพคนอื่น ๆ และกล่าวพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม”พวกเจ้าทุกคนเป็นแม่ทัพแห่งอาณาจักรหนานหยานเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาและเป็นพี่น้องของข้า ข้าหวังว่าทุกคนจะทำอย่างเต็มที่เพื่ออาณาจักรเพื่อฝ่าบาท อย่าได้คิดถึงเรื่องไม่เป็นเรื่องอื่นใดอีก!”
“พวกเราจะเชื่อฟัง!”
“เอาล่ะ ทุกคนไปเตรียมตัวพวกเราจะออกเดินทางกันในอีกครึ่งชั่วโมง!”
“ขอรับ”
หลังจากแม่ทัพเหล่านี้จากไป เมิ่งอี้ ก็มาหา เมิ่งเถียน พร้อมกับกล่าวถาม”พี่ใหญ่ เป็นไปได้หรือไม่ว่าท่านกำลังไม่เชื่อใจน้องชายคนนี้?”
เมิ่งเถียน ได้มองไปที่น้องชายของเขาพร้อมกับถอนหายใจออกมา”เมิ่งอี้ เจ้าเป็นน้องชายของข้า ข้าจะไม่ไว้ใจเจ้า และ ไม่เชื่อใจเจ้าได้อย่างไร”
“แต่ข้า ข้าภักดีต่อองค์ชายของข้า กลับกัน เจ้ากลับภักดีต่ออาจารย์ของเจ้า เหรินหยาน!”
เมิ่งอี้ ได้เงียบไปเล็กน้อย
เมิ่งเถียน ได้มองไปที่ เมิ่งอี้ และกล่าวพูดอีกครั้ง”เมิ่งอี้ เจ้าเป็นน้องชายของข้า เจ้าจะตัดสินใจยังไงข้าจะไม่ห้ามเจ้า แต่ถ้าเจ้ากล้าที่จะขัดขวางแผนการของข้า ข้าจะไม่แสดงความเมตตาใด ๆ ออกมา!”
เมิ่งอี้ มองไปที่ เมิ่งเถียน พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึก”พี่ใหญ่ข้าเข้าใจแล้ว”
“เอาล่ะ ไปเตรียมตัวให้พร้อมพวกเราจะนำทัพออกไปกัน!”
“ขอรับ ข้าจะรีบทำตามคำสั่งทันที”
หลังจากที่ เมิ่งอี้ ถอยออกไป เมิ่งเถียน ก็จ้องมองไปที่แผ่นหลังน้องชายของเขา”เสี่ยวอี้ ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ทำอะไรโง่ ๆ “
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เมิ่งเถียน ได้นำทัพทหารม้าไปยังแถวหน้าเหมือนที่ผ่านมา ทั้งยังมีหัวหน้ากองที่คุมทัพหลังอีก 350,000 นาย คนที่คุมทัพอยู่ด้านหลังของเขาไม่ใช่เมิ่งอี้ แต่เป็นแม่ทัพอีกคน
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ทำให้ เมิ่งเถียน ไม่กล้ามอบกองทัพให้เมิ่งอี้ควบคุมอีก
ผ่านไปครึ่งวันท้องฟ้าก็พลันมืดลง
ประตูเมืองหลวงของอาณาจักรซีหยางกำลังจะปิดตัวลง
แต่ในขณะนี้เหล่าทหารที่กำลังจะปิดประตูเมืองก็สัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนบนพื้นดินพวกเขาได้ผงะและตอบสนองอย่างรวดเร็ว
“เข้าชาร์จ!”
เมิ่งเถียน ได้นำกองทัพพุ่งตรงไปยังประตูเมือง
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรซีหยาง ทหารองค์รักษ์ที่นี่ล้วนเป็นทหารชั้นยอด
เมื่อพวกเขาพบศัตรูพวกเขาได้ตอบโต้และใช้หน้าไม้จำนวนมากยิงลงมาทำให้ทหารม้าของ เมิ่งเถียน สูญเสียไปมากกว่า 20 นาย
แต่คนเหล่านี้แม้จะแข็งแกร่ง แต่ก็มีศัตรูมาจำนวนมากเป็นธรรมชาติที่พวกเขาจะไม่สามารถตั้งรับได้ทัน
ทั้งทหารราบถึงจะกำลังรบไม่ได้อ่อนเเอเเต่พวกเขาก็ย่อมไม่ใช่คู่มือของทหารม้า
พริบตาพวกเขาก็ถูกสังหารทันที
หลังจาก เมิ่งเถียน สั่งให้ทหารบางส่วนจัดการภายในเมืองเขาก็ไปยึดประตูอีกสามประตู
“ไม่ดีแล้ว เกิดเรื่องใหญ่ เกิดเรื่องใหญ่!”
ในอาณาจักรซีหยาง จักรพรรดิชูจิน ที่กำลังนอนกอดนางสนมของเขา ตอนนี้ เขาได้ยินเสียงตะโกนของทหารยามด้านนอก
“เกิดอะไรขึ้น?”ชูจิน ได้ตะโกนออกไปด้วยความโกรธ
“ฝ่าบาท เกิดเรื่องแล้วพะยะค่ะ”ทหารองค์รักษ์ด้านนอกได้ตะโกนขึ้นด้วยอาการตื่นตะหนก
“มีอะไรเกิดขึ้น รายงานมา!”
ชูจิน เต็มไปด้วยความโกรธ เขารีบสวมเสื้อคลุมมังกรของเขา
“เป็นกองทัพของอาณาจักรหนานหยาน พวกมันบุกมายังเมืองหลวงของเราพะยะค่ะ!”
“อะไรนะ?”
ชูจิน ที่สวมใส่เสื้อคลุมมังกรเสร็จเขาได้ตะโกนออกมาอย่างตกใจเขารีบดึงดาบออกมาและชี้ไปที่ทหารองค์รักษ์คนนั้น”เจ้ากำลังพูดเรื่องไร้สาระอันใด บุตรชายของข้า ชูหยี ได้นำทัพ 400,000 นาย ไปต่อต้านอยู่ที่หุบเขาหยางผิง จะมีกองทัพของอาณาจักรหนานหยาน ปรากฏตัวขึ้นในเมืองหลวงได้อย่างไร?”
“พวกมันมุ่งมาจากเมืองหยุนไห่พะยะค่ะ!”
ตุบ
ชูจิน รู้สึกราวกับว่าศีรษะของเขาถูกฆ้อนทุบเข้าใส่เขาได้เซถอยหลังไปสองสามเก้า
ในฐานะจักรพรรดิเขาไม่ใช่คนโง่
พวกมันจะต้องข้ามผ่านมาจากแม่น้ำผิงหยวน อย่างแน่นอน
กองกำลังรักษาการณ์ของเมืองหยุนไห่ 300,000 นาย ได้ถูกย้ายไปโจมตีหุบเขาหยางผิง ทั้งกองกำลังองค์รักษ์ส่วนตัวก็ยังถูกย้ายออกไปมากกว่า 180,000 นาย
อาณาจักรหนานหยาน คงจะใช้โอกาสนี้บุกโจมตีเมืองหลวงของเขาอย่างแน่นอน
“เร็วเข้า ส่งทหารออกไปต้านทานพวกมัน และรีบส่งคำสั่งให้ ชูหยีรีบกลับมาเมืองหลวงโดยเร็วที่สุด!”
แม้ว่าจะตื่นตระหนกและหวาดกลัว แต่ชูจิน ก็รู้ตัวว่าอะไรควรทำที่สุดในเวลานี้
“ขอรับ!”
หลังจากมองทหารองค์รักษ์ที่เพิ่งจากไปเสร็จชูจินได้ครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนที่รอยยิ้มจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา”กองทัพของอาณาจักรหนานหยานไม่ได้มีมากขนาดนั้นอย่างมากที่บุกเมืองหลวงในคราวนี้ย่อมไม่เกิน 50,000 นาย ด้วยทหารองค์รักษ์ 20,000 นายของข้าก็เพียงพอที่จะต่อต้านพวกมันจนถึงเช้าของวันพรุ่งนี้ หลังจากที่ บุตรชายของข้า ชูหยี กลับมา มาดูกันว่าทัพ 50,000 นายของพวกเจ้าจะตายอย่างน่าอนาถเพียงใด!”
ความคิดของชูจิน ค่อนข้างสมเหตุสมผล
เพราะเขาได้ยินมาว่าอาณาจักรหนานหยานไม่ได้มีกองกำลังทหารมากมาย
อย่างไรก็ตาม กองทัพที่บุกมาคราวนี้ กลับไม่ใช่เพียงแค่ 50,000 นาย มันเป็นกองทัพ 400,000 นายที่นำโดยเมิ่งเถียน
แม้แต่ข่าวที่เขาส่งไปหา ชูหยี ก็ยังถูกดักเอาไว้ได้
เมิ่งเถียน ฉลาดมาก เขาเข้าใจสิ่งสำคัญที่สุดเมื่อต้องยึดบุกเมืองหลวงของศัตรู อย่างแรกคือ การจับจักรพรรดิของอีกฝ่าย แต่ถ้าคุณต้องการจับ จักรพรรดิอย่างบุ่มบ่ามอีกฝ่ายก็คงจะหนีไปได้
ดังนั้นเขาจึงไม่เร่งรีบบุกไปที่พระราชวัง แต่ได้ส่งคนไปยึดประตูเมืองทั้งสี่แทน
เมื่อถึงเวลา ที่จินยี่เหว่ยส่งข่าวมา ทุกอย่างก็จะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาทั้งหมด
เมิ่งเถียน ได้มองจดหมายในมือของเขาและหัวเราะออกมา”จักรพรรดิแห่งอาณาจักรซีหยาง ไม่ธรรมดาจริง ๆ น่าเสียดายที่เขารู้ตัวช้าไป!”
“ถูกต้องแล้วท่านแม่ทัพ ตอนนี้ประตูเมืองทั้งหมดถูกพวกเราควบคุมไว้หมดแล้วแม้แต่แมลงวันสักตัวก็ไม่สามารถรอดออกไปได้!”
“พวกเจ้าทำงานได้ดีมาก!”
เมิ่งเถียนได้กล่าวพูดออกมา”กองทัพที่เหลือของเราอยู่ที่ไหน?”
“กองทัพของพวกเราได้เข้ามายังเมืองหลวงแล้วพวกเขากำลังจัดตั้งรูปขบวนกันอยู่!”
“ดีมาก!”
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงต่อมากองทัพทั้งหมดก็ได้มารวมตัวกัน
เมิ่งเถียน ได้จัดกองทัพ 150,000 นาย ไปเฝ้าประตูเมืองทั้ง 4 จากนั้นเขาก็นำทัพ 250,000 นายที่เหลือมุ่งหน้าไปยังพระราชวังอาณาจักรซีหยางโดยตรง
ผู้คนในเมืองหลวงได้หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพวกเขา เมื่อพวกเขาเห็นกองทัพขนาดใหญ่บุกมาพวกเขาก็ลังเลและอยู่ในบ้านด้วยความหวาดกลัว
ครั้งนี้ เมิ่งเถียน ได้สร้างความกลัวฝังรากลงไปในใจของพวกเขาทุกคน
ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมงเมิ่งเถียนได้นำทัพเดินมาถึงด้านนอกพระราชวัง
เมื่อเขาเห็นทหารยามคอยคุ้มกันอยู่บนกำแพงวังเขาก็ตะดกนขึ้น”ข้าคือแม่ทัพเมิ่งเถียนแห่งอาณาจักรหนานหยาน ข้าได้นำทัพ 400,000 นายบุกมายึดเมืองหลวง และ จับกุมจักรพรรดิซีหยาง!”
“ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าคิดครึ่งชั่วโมงว่าจะเปิดประตูวังและส่งจักรพรรดิพวกเจ้าออกมาหรือจะให้ข้าส่งกองทัพเข้าไปภายในวังและสังหารพวกเจ้าทุกคน!”
“จะอยู่หรือจะตาย!”
“จะอยู่หรือจะตาย!”
“จะอยู่หรือจะตาย!”
กองทัพของเมิ่งเถียนได้ตะโกนขึ้นเสียงของพวกเขาได้ดังก้องสั่นสะเทือนฟ้าดินจนทำให้ทหารยามหลายคนหวาดกลัว
กระทั่งบางคนยังฉี่รดกางเกง