“ท่านพ่อ หุบเขาหยางผิงมีความสำคัญอย่างมากต่ออาณาจักรซีหยางของเราดังนั้น ข้า จึงต้องการอาสาไปต่อสู้และทวงพื้นที่ของเราคืนหวังว่าท่านพ่อจะทรงอนุญาติ!”ชูหยี ได้กล่าวพูดด้วยความเคารพ

“แน่นอน,ข้าอนุญาติ”

ชูจิน ได้พยักหน้าและหัวเราะ”ในเมืองหลวงของเรายังมีทหารองค์รักษ์มากกว่า 50,000 นาย ข้าจะให้พวกมันติดตามเจ้าไป 30,000 นาย พาเจ้าไปยังหุบเขาหยางผิง แต่ข้ามีข้อแม้เพียงข้อเดียว ภายในสามวัน ข้าจะต้องได้รับหุบเขาหยางผิงกลับคืนมา!”

“ท่านพ่อโปรดวางพระทัย ข้าจะใช้เวลาแค่สองวันเท่านั้น ข้าจะยึดครองหุบเขาหยางผิงกลับมาให้ได้ !!”รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ ชูหยี

เหล่าข้าราชบริพารที่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเยาะเย้ยในใจเล็กน้อย แม้ว่าเหล่าแม่ทัพพวกนี้จะอ่อนเเอกว่าเล็กน้อยแต่ประสบการณ์ในการนำทัพของพวกเขาก็ดีกว่ามาก พวกเขาได้ลองทุกวิถีทางมาหลายวันแต่ก็ยังไม่เป็นผล แต่ องค์ชายกำลังพูดอะไร ? เขาบอกว่าจะสามารถยึดหุบเขาหยางผิงกลับคืนมาได้ ?

พวกเขาได้ดูละครน้ำเน่าอย่างมีความสุข

กระทั่งบางคนได้มองเห็นผลพลอยได้จากเรื่องในครั้งนี้

“เอาล่ะ ลูกพ่อ จงไปยึดครองหุบเขาหยางผิงกลับมาวะ!”

“ขอรับ เช่นนั้นข้าขอตัว!”

หลังจาก ชูหยี รับคำสั่ง เขาก็นำทหารองค์รักษ์ 30,000 นายจากไปและมุ่งหน้าไปยังหุบเขาหยางผิงอย่างรวดเร็ว

ตราบดใที่เขาสามารถเอาชนะ หุบเขาหยางผิง ได้ในครั้งนี้ เขาจะได้เป็นรัชทายาทอย่างแน่นอน

ดังนั้นเขาจะต้องทุ่มทุกอย่างที่มี!

เขาจะต้องยึดครองหุบเขาหยางผิงกลับมาให้ได้!”

ในเวลาเดียวกัน เมิ่งเถียน ได้มองไปที่ จินยี่เหว่ย ที่มาส่งข่าว เขาได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย”เจ้าแน่ใจใช่มั้ยว่าเมืองหยุนไห่เหลือกองกำลังน้อยกว่า 5,000 คน”

“ท่านแม่ทัพเมิ่ง นี่เป็นข่าวกรองจากจินยี่เหว่ยของเราไม่มีทางพลาดอย่างแน่นอน!”

“แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกเขาส่งคนไปไหนหมด?”เมิ่งเถียนกล่าวถาม

“พวกเขามุ่งหน้าไปที่หุบเขาหยางผิงและต้องการยึดหุบเขาหยางผิงคืนจากแม่ทัพเตียวเลี้ยว!”

“ฮ่าฮ่า,ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างข้าจริง ๆ !”

จู่ ๆ เมิ่งเถียน ก็หัวเราะออกมา”เดิมข้าคิดว่าเมืองหยุนไห่ย่อมมีกองทหารไม่ต่ำกว่า 300,000 นายคอยคุ้มกัน และข้าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามวัน เพื่อที่จะจัดการทหารครึ่งล้าน แต่ตอนนี้ ข้าไม่คิดเลยว่ากองทหารทั้งหมดจะถูกย้ายออกไป ช่างเป็นเรื่องดีอะไรขนาดนี้!”

“นี่สมควรต้องยกความดีความชอบให้แม่ทัพเตียวเลี้ยว!”

เมิ่งเถียนได้โบกมือขึ้น”ทหารม้าทุกนายรับคำสั่ง!”

ฮี้้…

ทหารม้าทุกคนได้หยุดนิ่งและเตรียมรับคำสั่ง

“มุ่งไปข้างหน้ารอจนประตูเมืองหยุนไห่เปิดทำลายกองทัพที่เหลือและเมืองหยุนไห่ทั้งหมด!”

“ขอรับ!”

“เมิ่งอี้!”

“ข้าน้อยอยู่นี่แล้วขอรับ!”

“เจ้านำทหารราบติดตามข้ามาทันที!”

“ขอรับ!”

เมิ่งเถียน ได้ถือดาบยาวและตะโกนขึ้น”บุกยึดเมืองหยุนไห่!”

“ยึดเมืองหยุนไห่!”

พวกเขาอยู่ห่างจากเมืองหยุนไห่ไม่ถึงสองชั่วโมง และ ทหารม้าก็ไปถึงเมืองหยุนไห่ภายในเวลาหนึ่งชั่วโมง

“กองทัพทั้งหมดบุกโจมตี!”

เมิ่งเถียน ได้สั่งการทหารม้าและพุ่งไปที่ประตูเมืองหยุนไห่พร้อมกับทหารม้าเหล็ก 20,000 นาย

“ดูนั่น อาณาจักรซีหยางของเรา มีกองทัพที่นั่นด้วยงั้นหรือ?”

ที่ประตูเมืองหยุนไห่นายหทารสองสามคนได้มองไปที่กองทัพที่ไม่มีธงพวกเขาได้หารือกัน

“น่าจะใช่,บางทีนั่นอาจจะเป็นกองทัพที่เมืองอื่นส่งมาเพื่อสนับสนุนในการบุกโจมตีหุบเขาหยางผิง!”

“ก็อาจเป็นไปได้อาณาจักรซีหยางของเรา…”

ฟุ่บ

ก่อนที่เขาจะพูดจบลูกศรเเหลมก็แทงทะลุหน้าอกของเขา

จากนั้นฝนลูกศรนับไม่ถ้วนก็พุ่งคลุมกำแพงเมืองของเมืองหยุนไห่

ทหารที่รักษาการณ์เมืองไม่รู้ว่าจะมีใครโจมตีเมืองในเวลานี้ พวกเขาช้าเกินไปที่จะตอบสนอง พริบตาเดียวก็มีศพจำนวนมากเต็มไปทั่วกำแพงเมือง

ฟุ่บ

เมิ่งเถียน ได้นำกองทัพขนาดใหญ่เข้ามาในเมืองโดยที่ไม่มีทหารยามปิดประตู

ด้วยทหารม้า 20,000 นาย เมิ่งเถียน สั่งให้ ทหารม้า 1,000 นาย เฝ้าควบคุมประตูเมือง ส่วนที่เหลือได้ตามเขาไปยังอีกสามประตูเพื่อจัดการทีละด้าน

สองชั่วโมงต่อมาเมืองหยุนไห่ขนาดใหญ่ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยกองทัพของ เมิ่งเถียน

เนื่องจากทหารยามของเมืองหยุนไห่เหลือไม่มากในการต่อสู้ครั้งนี้กองทัพของเขาจึงมีผู้บาดเจ็บไม่เกิน 30 คน

ในเมืองหยุนไห่ทั้งหมด ตกอยู่ในความโกลาหล

เพื่อป้องกันความโกลาหล เมิ่งเถียน ได้ส่งคนไปจัดการชาวเมืองเหล่านี้

เมื่อคนในเมืองหยุนไห่ รู้ว่า คนเหล่านี้มาจากอาณาจักรหนานหยาน พวกเขาก็ยิ้มอย่างขมขื่น เพราะก่อนหน้านี้อาณาจักรซีหยาง ต้องการยึดมณฑลจงซานของอาณาจักรหนานหยาน

กองทัพนับล้านที่ถูกส่งไปยังมณฑลจงซานได้สูญเสียและตกตายทั้งหมด เมืองหยุนไห่ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่สุดทางตอนใต้ ย่อมถูกบุกรุกโดยง่ายจากคนจากอาณาจักรหนานหยาน

นี่ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความหดหู่

โชคดีที่ทหารเหล่านี้ไม่ได้สังหารผู้คนทั้งหมดมิฉะนั้นพวกเขาจะต้องทนทุกข์มรมานมากกว่านี้

สองชั่วโมงต่อมากองทัพทหารราบก็เดินทางมาถึง

ในขณะนี้ เมิ่งเถียน จ้องมองไปที่ ข่าวจากจินยี่เหว่ยในมือของเขาด้วยสีหน้าแปลก ๆ

ในเมืองหลวงอาณาจักรซีหยาง ทหารองค์รักษ์กว่า 200,000 คน ตอนนี้ ถูกเกณฑ์ออกไปรบ 180,000 คน ที่หุบเขาหยางผิง

ตอนนี้ในเมืองหลวงเหลือทหารองค์รักษ์ไม่ถึง 20,000 นาย

นี่มันอะไร?

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เมิ่งเถียน ที่นำทัพทหารม้าไปยังเมืองหลวงและในอีกครึ่งวันเขาย่อมสามารถพิชิตเมืองหลวงของอาณาจักรซีหยางได้

นี่เป็นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่

ถ้าหากข่าวนี้ไม่ได้มาจากจินยี่เหว่ย เมิ่งเถียน ไม่มีวันเชื่อ

แต่ตอนนี้ เขาได้จ้องมองไปที่แม่ทัพที่อยู่ภายใต้บัญชาของเขา”จัดทัพหนึ่งแสนนายให้อยู่ปกป้องเมืองหยุนไห่ คอยป้องกันการโจมตีจากเมืองอื่น ๆ ส่วนกองกำลังที่เหลือกว่า 400,000 นายให้ติดตามข้ามา พวกเราจะมุ่งหน้าไปยึดเมืองหลวงของอาณาจักรซีหยาง!”

“ท่านแม่ทัพเดี๋ยวก่อน!”

เมื่อคำพูดของเขาสิ้นสุดลง เมิ่งอี้ ก็ได้ลุกขึ้นต่อต้าน

เขามองไปที่น้องชายและขมวดคิ้วเล็กน้อย”เมิ่งอี้ เจ้าต้องการพูดอะไร?’

“ท่านแม่ทัพ แม้ว่าเราจะยึดเมืองหยุนไห่ ได้แล้ว แต่รากฐานของพวกเราก็ไม่มั่นคง หากเรารีบส่งคนออกไปในครั้งนี้ จะเหลือทหารเพียงแค่ 100,000 นายคอยคุ้มกันเมืองหยุนไห่ หากเมืองอื่น ๆส่งกองกำลังมาสนับสนุน ผู้คนในเมืองหยุนไห่ก็จะก่อการกบฏทันที นั่นมันอันตรายสำหรับเรามากเกินไป!”เมิ่งอี้ ได้ตอบกลับ

เมิ่งเถียน ได้ยินดังนั้นก็กลายเป็นโกรธทันที”เมิ่งอี้ แม่ทัพเตียวเลี้ยว ได้ใช้จำนวนคนเพียงแค่ 30,000 นาย ในจำนวนเหล่านั้นมีทหารที่ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 10,000 นายแต่พวกเขาก็ยังยืนหยัดปกป้องหุบเขาหยางผิงได้จนถึงตอนนี้ ข้ามีกองทัพที่พร้อมรบมากกว่า 500,000 นาย แต่เจ้ากลับให้ข้ารั้งทหารเหล่านี้ไว้ที่นี่ เจ้าคิดจะพูดอะไรกันแน่?”

แม้ว่า เมิ่งอี้ จะเป็นน้องชายของเขา แต่เมิ่งเถียน ก็เข้าใจว่า เมิ่งอี้ น้องชายของเขายังติดต่อกับอาจารย์ของตนอย่างลับ ๆ ซึ่งก็คือ เหรินหยาน

สิ่งนี้ทำให้ เมิ่งเถียน รู้สึกผิดหวังมาก

“ท่านแม่ทัพข้า…”

“ไม่ต้องพูดแล้ว!”

เมิ่งเถียน ได้โบกมือขึ้น”หว่านฉีหลิน!”

“ข้าน้อยอยู่นี่ขอรับ!”แม่ทัพคนนึงได้ลุกขึ้นแม้ว่ารูปลักษณ์ของเขาจะหยาบกร้านแต่เขาก็เป็นคนที่เชื่อถือได้มาก

“เจ้านำทหารหนึ่งแสนนายไปคุ้มกันเมืองหยุนไห่ หากข้าไม่ได้สั่งก็ห้ามใครเคลื่อนทัพนอกแผนอย่างเด็ดขาด!”เมิ่งเถียน ได้กล่าวอย่างเคร่งขรึม

“นี่….”

หว่านฉีหลิน ได้จ้องมองไปที่ เมิ่งเถียน และ จากนั้นก็มองไปที่ เมิ่งอี้ ด้วยใบหน้าที่ซับซ้อน