ตอนที่ 110 การฝึกภาคสนามของการต่อสู้ชิงตำแหน่งหัวหน้า 22

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 110 การฝึกภาคสนามของการต่อสู้ชิงตำแหน่งหัวหน้า 22

คนจากฝั่งสีแดงกำลังสร้างบ้าน ขณะที่คนจากฝั่งสีเขียวกำลังเล่นสนุก ช่างน่าประทับใจอะไรเช่นนี้!

ทั้งได้ปั้นตุ๊กตาหิมะ ทั้งได้เล่นปาลูกบอลหิมะ ไม่ต้องเอ่ยเลยว่ามีความสุขมากขนาดไหน!

สวี่หลิงอวิ๋นเป็นผู้ริเริ่มทำเสียงอึกทึกอีกครั้ง เธอแบ่งคนออกเป็นสองกลุ่ม และทั้งสองกลุ่มถูกจับคู่อย่างเท่าเทียม

รุยและไกอากลายเป็นผู้นำของแต่ละทีม โดยสวี่หลิงอวิ๋นกระจายคนจากแผนกเกษตรกรรมและคนที่มาเพิ่มภายหลังอีกแปดร้อยไปยังแต่ละกลุ่ม จากนั้นทั้งสองกลุ่มจึงต่อสู้กันอย่างกระตือรือร้น!

สวี่หลิงอวิ๋นยังตั้งกฎขึ้นมาอีกว่าใครก็ตามที่โดนลูกหิมะเขวี้ยงใส่จะแพ้ไปโดยปริยาย!

จะหลบหลีกการโจมตีจากลูกหิมะได้อย่างไร? มีเพียงทางเดียวเท่านั้น! นั่นคือการใช้พลังดวงดาวปกป้องตัวของพวกเขาเอง!

ขณะที่ต่อสู้กัน พวกเขาต้องคอยพยุงพลังดวงดาวที่ป้องกันตัวเอาไว้ เนื่องจากพลังดวงดาวนี้เชื่อมต่อกับพลังจิต ดังนั้นจึงไม่มีใครยอมอ่อนข้อ!

สวี่หลิงอวิ๋นหยิบเครื่องดื่มสำหรับบทลงโทษขึ้นมา! เครื่องดื่มนี้เป็นการผสมผสานระหว่างยาที่มีรสขมกับน้ำมะนาว ทั้งสองสิ่งนี้ทำให้เหล่านักเรียนทั้งหลายต่างรู้สึกกลัว!

และที่น่ากลัวที่สุด! คือองค์หญิงสามได้ผสมน้ำดีของสัตว์ลงไปด้วย!

แหวะ! น่าขยะแขยงชะมัด!

ทุกคนรู้สึกตึงเครียดจนไม่มีใครกล้าผ่อนคลาย!

พลังจิตของสวี่หลิงอวิ๋นนั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง เธอสามารถเปลี่ยนพลังเป็นอาวุธต่าง ๆ ได้ทุกเมื่อ ในขณะเดียวกันเธอก็เพิ่มตัวช่วยที่เป็นแรงกระตุ้นไว้ใต้เท้าของตัวเอง ทำให้สามารถบินขึ้นไปสูงถึงสิบเมตร และเขวี้ยงก้อนหิมะขนาดใหญ่ไปทางสมาชิกทีมที่อยู่ด้านล่างอย่างรุนแรง!

เธอโหดเหี้ยมและแม่นยำ ระดับพลังดวงดาวของเหล่านักเรียนยังไม่เท่ากับของเธอ พวกเขาจึงล้มลงอย่างรวดเร็ว!

เมื่อเห็นเช่นนั้น รุยและไกอาก็สั่งให้เพื่อนร่วมทีมของพวกเขากระจายตัวออกไป พวกเขาเรียนรู้การเคลื่อนไหวของสวี่หลิงอวิ๋นและเริ่มโจมตีด้านข้างของเธอ

คนจากแผนกเกษตรกรรมของสวี่หลิงอวิ๋นเจ้าเล่ห์นัก เมื่อรู้ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นดีไม่เท่ากับอีกฝ่าย พวกเขาจึงนั่งลงบนพื้นและใช้พลังดวงดาวปกป้องตนเอง

พลังของคนคนเดียวค่อนข้างมีขีดจำกัด แต่ถ้าทั้งกลุ่มรวมพลังกันล่ะ?

คนจากแผนกเกษตรกรรมขยับตัวเข้าหากันอย่างใกล้ชิดและระดมพลังดวงดาวทั้งหมดไว้ด้วยกัน จากนั้นเบนเน็ตจึงควบคุมพลังดวงดาวเหล่านี้ด้วยพลังจิตของเขา และแปรสภาพพลังเป็นเกราะป้องกันขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบนักเรียนทั้งหลายเอาไว้ข้างในอย่างแน่นหนา!

แม้แต่รุยที่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับ 6 ดาวก็ไม่สามารถทำเช่นนี้ได้!

สำหรับผู้เล่นคนอื่น ๆ ของสวี่หลิงอวิ๋น ส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้เล่นที่มีพลังดวงดาวระดับ 5-6 ดาว พวกเขาถูกจับคู่เข้ากับรุยอย่างเท่าเทียม มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะแยกออก

ในขณะที่คนจากฝั่งสีแดงกำลังยุ่งอยู่กับการสร้างบ้าน ตัดไม้ และทำเตียงก็ต่างมองดูอีกฝ่ายเล่นเกมกันด้วยความอิจฉาริษยา

แต่เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่น่าทึ่ง พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะปรบมือและส่งเสียงเชียร์ออกมา

ชาวเน็ตรู้สึกดีใจที่ได้เห็นอย่างนั้น

‘องค์หญิงสามรู้จักการละเล่นดีจังเลยนะ! อยากจะเข้าไปเล่นกับพวกเขาบ้างจัง! ฉันขอแนะนำให้จักรวรรดิทำพื้นที่แห่งนี้ให้กลายเป็นดินแดนแห่งหิมะ!’

‘พาฉันไปเล่นด้วยสิ! รุย นายโง่หรือเปล่า? เร็วเข้า ยอมแพ้คนทั้งหลายจากแผนกเกษตรกรรมซะ แล้วรีบไปหาคนอื่นแทน! ถ้านายไม่รีบไป เดี๋ยวองค์หญิงสามก็เอาชนะคนจากทีมของนายได้อยู่ดี!’

‘องค์หญิงสามเยี่ยมไปเลย! ทำไมถึงรวดเร็วขนาดนี้?! แค่หนึ่งนาทีเท่านั้นเองนะ?!’

‘เดี๋ยวก่อน! ผู้ชายที่อยู่ตรงนั้นกำลังเลื่อนขั้นหรือเปล่า?!’

ใช่แล้ว! ตอนที่เขาเห็นว่าองค์หญิงสามกำลังพุ่งเป้ามาที่เขาโดยตรง ชายหนุ่มจากทีมของรุยรู้สึกตกใจมากและได้รับการเลื่อนขั้นในที่สุด!

คลื่นพลังที่สร้างออกมาถูกส่งไปยังก้อนหิมะและพุ่งตรงไปยังทิศทางของสวี่หลิงอวิ๋น!

สวี่หลิงอวิ๋นกระโดดขึ้นไปสูงกว่าสิบเมตรเพื่อหลบหลีกก้อนหิมะ แต่เมื่อเธอลอยตัวลงมือ ช้อนลำแสงขนาดใหญ่ก็อยู่ในมือของเธอเป็นที่เรียบร้อย!

เธอใช้ช้อนขนาดใหญ่ตักกองหิมะขนาดยักษ์ขึ้นมาและโรยลงไปที่ชายหนุ่มที่ซึ่งได้รับการเลื่อนขั้นเป็นระดับ 6 ดาว!

“ไม่เอาน่า! ไปกันเถอะ! ถึงนายจะได้เลื่อนขั้น แต่ก็อย่าลืมป้องกันตัวเองล่ะ! นายจะคิดว่านายได้เลื่อนขั้นในสนามรบ แล้วรู้สึกตื่นเต้นจนจะดึงเกราะป้องกันตัวของตัวเองออกก็ได้เหรอ คิดว่าเอเลี่ยนกลืนกินนายเข้าไปไม่ได้หรือไง?!”

“ไปกินของว่างกันเถอะ!” สวี่หลิงอวิ๋นส่ายหัว

ใบหน้าของชายหนุ่มที่เพิ่งเดินออกจากสนามรบด้วยความสุขเมื่อสามนาทีที่แล้วได้เปลี่ยนเป็นโศกเศร้า!

จำนวนคนที่อยู่ในทีมของรุยจากดั้งเดิมเก้าร้อยคนเหลือเพียงสองถึงสามร้อยคนเพียงเท่านั้น ในขณะที่ทีมของสวี่หลิงอวิ๋นเหลือจำนวนคนมากกว่าห้าร้อยคน

เห็นได้ชัดว่าชัยชนะเอียงเอนไปด้านขององค์หญิงสาม

เดิมทีชาวเน็ตต่างคิดว่าการเลื่อนขั้นจากการเล่นปาลูกบอลหิมะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ แต่ไม่ช้าทุกคนกลับต้องตกตะลึง!

เมื่อมองเห็นชายหนุ่มจำนวน 7-8 คนได้รับการเลื่อนขั้นจากระดับ 5 ดาวเป็นระดับ 6 ดาว เป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่ออย่างมาก!

ระดับ 6 ดาวเป็นสิ่งที่หาได้ยากในสถาบันการทางทหารทั่วทั้งจักรวรรดิชิงเหย้า หลังจากไต่ถึงระดับ 5 ดาวแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้รับการเลื่อนขั้นอีกครั้ง

เช่นเดียวกับคณบดีแกลลาเกอร์ ผู้ซึ่งติดอยู่ในระดับ 6 มาเป็นเวลานานหลายปี พลังจิตของเขาจำกัดการพัฒนาของตนเอง

ในขณะเดียวกัน นักเรียนเหล่านี้ได้รับการเลื่อนขั้นจากระดับ 5 ดาวเป็นระดับ 6 ดาวได้อย่างไร?

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือนอกจากนักเรียนในระดับ 5 ดาวจะได้รับการเลื่อนขั้นแล้ว คนจำนวนมากที่มาจากระดับ 3 และ 4 ดาวก็ยังได้เลื่อนขั้นเหมือนกัน!

แทบจะนับไม่ถ้วน คนจำนวนอย่างน้อยสองร้อยคนได้รับการเลื่อนขั้น!

จากผู้คนทั้งหมดจำนวนหนึ่งพันแปดร้อยคน หนึ่งในเก้าของพวกเขาได้รับการเลื่อนขั้น!

นี่เป็นสถิติที่น่าเหลือเชื่อ!

‘ก็คือว่าองค์หญิงสามทำท่าทีว่าเล่นกับพวกเขา แต่จริง ๆ แล้วพวกเขากำลังฝึกฝนพลังดวงดาวและพลังจิตกันอยู่เหรอ?’

พอคิดแล้วก็รู้สึกกลัว!

ถึงแม้ว่าผู้คนจะคาดเดากันมาก่อน ทว่าพวกเขากลับไม่คิดว่าการคาดเดานั้นจะเป็นจริง!

ใบหน้าของคณบดีพูลแมนเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม หากเป็นเช่นนี้ ความสำคัญขององค์หญิงสามจะไม่ใช่เพียงองค์หญิงธรรมดาอีกต่อไป แต่การดำรงอยู่ที่มีศักยภาพของเธอจะเป็นประโยชน์ให้แก่คนรุ่นหลังนับหลายพันรุ่น!

‘ที่ว่ากันว่าองค์หญิงสามคือดาวศุกร์ พวกคุณคิดว่าพวกคุณเชื่อกันไหม?’

‘ฉันเริ่มจะเชื่อแล้วล่ะ!’

‘แม่ฉันกลายเป็นทาสจงรักภักดีไปแล้ว แล้วบอกว่าปีนี้ฉันจะเข้าแผนกเกษตรกรรมให้ได้! ที่จริงฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับ 5 ดาวเลยนะ!’

‘5 ดาวเหรอ? ไสหัวไปซะ! ฉันเรียนอยู่ชั้นปีที่สามของสถาบันการศึกทางการทหารของจักรวรรดิ ฉันอยากจะกลับไปเรียนปีหนึ่งใหม่ ให้ฉันซ้ำชั้นได้ไหมคะ?’

การเลื่อนขั้นอย่างต่อเนื่องของทีมสีเขียวทำให้คนจากทีมสีแดงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย

พวกเขาต่างยืนอยู่ในความสงบเยี่ยงทาส ขณะตรวจสอบพลังดวงดาวของตนเอง ฮึ่ม! ทำไมมันถึงไม่เปลี่ยนไปเลยล่ะ? ทำไมเจ้าพวกโง่เขลาพวกนั้นถึงได้เลื่อนขั้น แต่ทำไมพวกเขาถึงไม่เปลี่ยนแปลงเลยสักนิด?

ฉินหยวนและลุคมองหน้ากันและกันเงียบ ๆ ความคิดไร้สาระปรากฏขึ้นในหัวของพวกเขา หรือว่าพวกเขาควรจะยอมแพ้ดี?

ไม่! พวกเขาคือคนของจักรวรรดิชิงเหย้า ถึงจะโดนโจมตีแต่พวกเขาก็จะไม่ยอมแพ้!

กัดฟันแล้วสู้ต่อ!

เมื่อสร้างบ้านเสร็จแล้ว สวี่หลิงอวิ๋นก็ยิ้มหน้าระรื่น ขณะกลับมาพร้อมกับสมาชิกทีมสีเขียว

แต่ผู้คนจากค่ายสีเขียวกลับยิ้มไม่ออก!

ใครก็ตามที่มีหิมะตกอยู่บนร่างกายจะต้องรู้สึกอยากอาเจียนแทบตายจากการถูกทำโทษโดยให้ดื่มเครื่องดื่มที่องค์หญิงสามเป็นคนปรุง

อารมณ์ชื่นบานกลับถูกแทนที่ด้วยความขมขื่นในทันที!

คนจากฝั่งสีแดงมองดูพวกเขาที่กำลังถูกทำโทษด้วยความโศกเศร้า แต่ในใจกลับรู้สึกยินดีปรีดา หยิ่งผยองคิดว่าพวกเขาจะบดขยี้คนได้สักกี่คน

ฮึ! คนจากฝั่งสีแดงรู้ดีว่าพวกเขาเป็นกลุ่มที่น่าเวทนาเมื่ออยู่ต่อหน้าคนจากฝั่งสีเขียว เป็นเพียงคนตัวเล็กคนน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับอีกฝ่าย จึงไม่กล้าเงยหน้ามอง

แน่นอนว่าพวกเขาทำเรื่องที่ไม่ดี และรู้สึกแย่กับการกระทำนั้น