บทที่ 125 แต่ผมมีเงิน!
บทที่ 125 แต่ผมมีเงิน!
โจวอี้เคยไปที่บาร์แห่งหนึ่งมาก่อน ที่นั่นยังมีสาว ๆ มากมายรออยู่ และบางคนก็สวยกว่าที่อยู่ข้างๆ เขาเสียอีก
ดังนั้นเขาจึงระงับความรู้สึกไม่สบายใจเหล่านี้ไปทันที
“คุณแค่ต้องพาผมไปที่ห้องชั้นบนสุด ไม่จำเป็นต้องอยู่กับผมตลอดเวลา”
“คุณโจว คุณไม่ชอบฉันเหรอ” อวิ๋นอวิ๋นถาม
“เปล่า!”
“ในเมื่อคุณไม่ได้ไม่ชอบฉัน หัวหน้าก็ให้ฉันไปกับคุณด้วยค่ะ อย่าไล่ฉันไปเลยนะ ไม่งั้นหัวหน้าจะคิดว่าฉันทำให้คุณไม่พอใจและคงจะลงโทษฉัน” อวิ๋นอวิ๋นจับแขนของโจวอี้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น
โจวอี้มองที่เธอและไม่ได้พูดอะไร
จากนั้นทั้งสองก็มาถึงประตูห้องโถงที่ชั้นสาม โจวอี้ตบมือของอวิ๋นอวิ๋น อีกฝ่ายเข้าใจในทันที หลังจากปล่อยมือแล้ว เธอก็เปิดประตูให้โจวอี้
ห้องโถงนี้กว้างขวางมากและครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยตารางเมตร
การตกแต่งภายในยังหรูหรามาก ไม่แย่ไปกว่าพาราไดซ์คลับเลย
ทว่าโจวอี้ก็ถึงกับต้องขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อก้าวเข้ามาในห้อง เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเพราะมีหมอกควันอยู่ข้างใน
ภายในห้องโถงนี้ นอกจากหวงไห่เทาแล้วยังมีชายวัยกลางคนอีกสองคน และกลุ่มของสาวงามทั้งหลายที่คอยนวดไหล่ นวดขา ป้อนอาหาร ป้อนไวน์ และคอยป้อนจูบพวกเขา และยังมีเด็กสาวสี่คนในชุดกระโปรงกำลังถอดกางเกงชั้นในพลางเต้นโยกย้ายอยู่ท่ามกลางไฟหลากสี …พวกเธอเต้นรำไปกับเสียงเพลงที่ร้อนแรง
ทันใดนั้น โจวอี้ก็จำคำที่เขาได้เรียนรู้มาได้ ซึ่งเหมาะสมที่สุดสำหรับการอธิบายฉากตรงหน้านี้
ฟุ่มเฟือย ตัณหา และเมาเงิน
หวงไห่เทากำลังอุ้มเด็กสาวสองคนที่กำลังป้อนองุ่นให้เขา เนื่องจากอีกฝ่ายกำลังมองไปในจุดที่ไม่สมควรมองของพวกเธอ จึงไม่เห็นว่าโจวอี้กำลังมาที่นี่
ในขณะที่ชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนที่นั่งด้านซ้ายสุดมองเห็นชายหนุ่มเข้ามาหา เขาจึงเลิกคิ้วขึ้นและผลักผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาออก ก่อนจะถามว่า “พ่อหนุ่ม มีอะไร”
โจวอี้ชี้ไปที่หวงไห่เทาและแผดเสียงแข่งกับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม “ผมมาหาเขา!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชายวัยกลางคนตัวอ้วนก็คว้ากล่องบุหรี่บนโต๊ะก่อนจะโยนมันออกไปและตะโกนว่า “ไห่เทา! เจ้าหนุ่มนั่นมาหาคุณ!”
หวงไห่เทาไม่ได้ยินสิ่งที่ชายอ้วนตะโกน แต่เขาสังเกตเห็นว่ากล่องบุหรี่ถูกโยนทิ้งไปยังทิศทางหนึ่งจึงหันไปมอง และเมื่อเห็นโจวอี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ค่อย ๆ หายไป
“ปิดเพลง” หวงไห่เทาโน้มตัวเข้าไปใกล้ผู้หญิงในอ้อมแขนของเขาเพื่อบอกเธอ ก่อนจะลุกขึ้นทันทีและอ้าแขนของเขาเพื่อต้อนรับโจวอี้
“คุณมีแต่กลิ่นผู้หญิง อย่ามาแตะต้องตัวผม” โจวอี้สังเกตว่าหวงไห่เทามีคราบไวน์เปียกบนหน้าอกด้วย ดังนั้นเขาจึงผลักอีกฝ่ายออกไปด้วยความรังเกียจ
เพลงร้อนแรงถูกปิดลง และสี่สาวที่กำลังเต้นอย่างร้อนแรงก็หยุดชะงัก สายตาที่อยากรู้อยากเห็นทั้งหมดจับจ้องไปที่โจวอี้ทันที
หวงไห่เทาไม่ได้ยินคำพูดของโจวอี้อย่างชัดเจน แต่เขาก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร เขาลดแขนลงอย่างไม่พอใจนัก
“คุณมาหาผมด่วนแบบนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ” หวงไห่เทาถาม
“ไม่หรอก มันแค่เรื่องเล็กน้อย” โจวอี้ตอบ
“เรื่องเล็กน้อยเหรอ โอเค มันเป็นเรื่องเล็กน้อย งั้นมาคุยไปดื่มไปกัน” หวงไห่เทาชี้ไปที่ชายวัยกลางคนสองคนที่ยืนขึ้นและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมอยากจะแนะนำคุณให้รู้จักกับเพื่อนสองคนคือฟ่านเอ้อร์เฉียง และเฉียนต้าจ้าว เรียกพวกเขาว่าพี่ฟ่าน และพี่เฉียน”
จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่โจวอี้อีกครั้งและพูดกับชายสองคนนั้นว่า “นี่คือน้องชายของผม โจวอี้”
“พี่ฟ่าน พี่เฉียน” โจวอี้ยิ้มและพยักหน้า
“น้องชายของไห่เทา? ไม่เคยได้ยินมาก่อน!” ฟ่านเอ้อร์เฉียงที่มีพุงยื่นออกมาและใบหน้าอิ่มเอิบจับมือกับโจวอี้ด้วยรอยยิ้ม และพูดอย่างเป็นมิตร “แต่ไม่เป็นไร น้องชายของไห่เทาก็เหมือนน้องชายของเรา น้องโจว มา! มานั่งด้วยกัน!”
“น้องโจว คุณหล่อมาก” เฉียนต้าจ้าวเองก็ยื่นมือออกไป
“พี่ชายทั้งสองก็ค่อนข้าง ‘แข็งแกร่ง’ เช่นกัน” โจวอี้ยิ้ม
“ฮ่า ฮ่า นี่แหละ คำนี้แหละ!” ทั้งสองคนถึงกับหัวเราะ
หวงไห่เทาหยิบไวน์แก้วหนึ่งมาจากหญิงสาวแล้วมอบให้โจวอี้ด้วยรอยยิ้ม “เราควรดื่มสักแก้วก่อน”
“ชน!”
โจวอี้ถูกดึงให้นั่งลง และหญิงสาวชื่ออวิ๋นอวิ๋นก็นั่งลงข้างเขาเช่นกัน แถมยังจับแขนของชายหนุ่มไว้แน่น
โจวอี้เหลือบมองเธอเล็กน้อย ก่อนจะหันไปยิ้มและดื่มกับหวงไห่เทา
“เอาล่ะ มีอะไรให้ผมช่วย?” หวงไห่เทาจุดบุหรี่ให้ตัวเองและโจวอี้
“คุณคุ้นเคยกับวงการบันเทิงไหม ผมต้องการเปิดบริษัทบันเทิง” โจวอี้เริ่มเข้าประเด็นทันที
“แค่ก ..” หวงไห่เทาสำลักบุหรี่
เปิดบริษัทบันเทิง?
ล้อเล่นรึเปล่า?
ถ้าจะเปิดโรงพยาบาลยังเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่การเปิดบริษัทบันเทิงคืออะไร?
ฟ่านเอ้อร์เฉียงและเฉียนต้าจ้าวมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ
หวงไห่เทาดูเหมือนจะคิดถึงอะไรบางอย่าง ดวงตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของเขาจึงจางหายไป เขาจ้องมองที่โจวอี้และถามว่า “เพราะภรรยาของคุณ?”
“ใช่”
โจวอี้พยักหน้า
หวงไห่เทาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วโบกมือและพูดเสียงดัง “พวกคุณทุกคนออกไปก่อน และให้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนยืนอยู่ที่ประตู ถ้าไม่มีคำสั่ง อย่าให้ใครเข้ามาได้”
สาว ๆ กลุ่มหนึ่งจึงจากไปอย่างกะทันหัน
อวิ๋นอวิ๋นลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็เดินตามออกไป
หวงไห่เทาหยิบแก้วไวน์ของเขาขึ้นมาและชนกับพี่ชายอีกสองคน จากนั้นเขาก็ถามโจวอี้ว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
“เธอต้องการเปลี่ยนงานและไปที่บริษัทบันเทิงที่อู๋หมิ่นหรูบริหารอยู่ แต่ผมคิดว่าการทำงานให้คนอื่นตลอดเวลามันจะไปดีกว่าบริหารบริษัทบันเทิงด้วยตัวเองได้ยังไง?” โจวอี้กล่าว
“นั่นคือความจริง แต่คุณรู้อะไรเกี่ยวกับวงการบันเทิงไหม เข้าใจการบริหารของบริษัทไหม เคยติดต่อใครในวงการบันเทิงบ้างไหม…”
“แต่ผมมีเงิน!” โจวอี้อุดปากของหวงไห่เทาด้วยคำพูดของเขา
แปะ แปะ…
ฟ่านเอ้อร์เฉียงและเฉียนต้าจ้าวปรบมือพร้อมกัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าใครเป็นภรรยาของโจวอี้ แต่คำพูดของน้องชายคนนี้ก็เป็นอาวุธในการแก้ปัญหาทั้งหมดได้อย่างแน่นอน
คนรวยจะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ!
หวงไห่เทายิ้มอย่างขมขื่นและส่ายหัว เขากล่าวอย่างหมดหนทาง “ดูเหมือนว่าคุณจะตัดสินใจได้แล้ว บอกผมมาว่าจะเอาอะไร?”
“ผมต้องการคนที่มีความสามารถ คนยากจนที่มีสถานะในวงการบันเทิง มีสายสัมพันธ์และทรัพยากร และจัดการบริษัทบันเทิงได้ดี” โจวอี้พูดอย่างจริงจัง
“ล้อเล่นเหรอ คนแบบนั้นจะจนได้ยังไง? เพราะเขามีทั้งฐานะและทรัพยากรทางสังคม แถมยังบริหารและจัดการบริษัทเก่งด้วย” หวงไห่เทาส่ายหัว
“มีสิ!” ฟ่านเอ้อร์เฉียงตบท้องของเขาทันที
ทั้งสองจึงจ้องมองไปที่ฟ่านเอ้อร์เฉียง
“ลูกคนโตตระกูลจาง จางเหิง!” ฟ่านเอ้อร์เฉียงพูดถึงใครบางคน
“เขาคือใคร?” หวงไห่เทาสงสัย
“เขาเป็นคนเก่าแก่ในวงการบันเทิง” เฉียนต้าจ้าวพูดอย่างจริงจัง “จางเหิงเคยเป็นรองผู้จัดการทั่วไปของ ‘เทียนเฉิน เอนเตอร์เทนเมนต์’ ซึ่งเป็นคนเจ้าเล่ห์ แต่เขาถูกจำคุกเมื่อหกเดือนก่อนในข้อหาทุจริตและติดสินบน แต่หัวหน้าของเทียนเฉิน เอนเตอร์เทนเมนต์ไม่ได้ตัดอนาคตเขาซะทีเดียว ดังนั้นจางเหิงจึงถูกตัดสินจำคุกเพียงหกเดือนและปล่อยตัวก่อนกำหนดหนึ่งเดือน ตอนนี้เขาคงจะออกจากคุกแล้ว”
“คนติดสินบน?” โจวอี้ดูงงงวย
เขารู้สึกว่าบุคคลนี้น่าจะมีความลับอื่นซ่อนอยู่อีก มิฉะนั้นเพื่อนสองคนของหวงไห่เทาคงไม่พูดถึง
แต่ท้ายที่สุดแล้ว …ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องการคน