บทที่ 126 ตัวตนของเขา

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า

บทที่ 126 ตัวตนของเขา

บทที่ 126 ตัวตนของเขา

โจวอี้เข้าใจเรื่องนี้ทันทีหลังจากได้ยินเรื่องราวจากเฉียนต้าจ้าว

จางเหิงคนนั้นเคยเป็นรองผู้จัดการทั่วไปของเทียนเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งพูดได้ว่าในบริษัทบันเทิงขนาดใหญ่เช่นนั้น เขามีสถานะที่อยู่ต่ำกว่าหนึ่งคน แต่ก็อยู่เหนือคนนับหมื่นมาแล้ว

ช่างน่าเสียดาย!

ด้วยสถานะและอำนาจที่สูงขึ้น ผู้คนจึงหยิ่งผยองและหยิ่งยโส บางครั้งพวกเขาอาจหลงตัวเองจนไม่ให้ความเคารพต่อเจ้านายที่มีอำนาจสูงสุด

ท้ายที่สุดเขาจึงถูกส่งเข้าคุกไปในที่สุด

“เขายักยอกเงินของเทียนเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์จริงเหรอ?” โจวอี้ถามด้วยความสงสัย

“ผมไม่รู้!” เฉียนต้าจ้าวส่ายหัวและสีหน้าของฟ่านเอ้อร์เฉียงก็ยังงุนงง

หวงไห่เทาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วยิ้มออกมา “ในฐานะรองผู้จัดการทั่วไปของเทียนเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ เขามีอำนาจมากและย่อมหาผลประโยชน์เข้าตัวเองแน่นอน แต่ระบบการจัดการและรายละเอียดทางบัญชีการเงินของบริษัทขนาดใหญ่ในระดับนั้นมีความชัดเจนมาก ถ้าเขาโลภเงินเล็กน้อยมันคงไม่เป็นปัญหาอะไรเท่าไหร่ เพราะเขาสร้างผลงานเอาไว้เยอะ ดังนั้นปัญหาหลักน่าจะมาจากการที่เขาไม่ยับยั้งตัวเองซะมากกว่า”

โจวอี้พยักหน้าเงียบ ๆ

เขาคิดว่าการคาดเดาของหวงไห่เทานั้นสมเหตุสมผล

“คุณคิดว่าจางเหิงยังมีประโยชน์อยู่อีกงั้นเหรอ” หวงไห่เทาถามด้วยรอยยิ้ม

“ยังมีอยู่” โจวอี้กล่าว

“ยังไง?”

โจวอี้หยิบแก้วไวน์ขึ้นมาชนกับคนทั้งสาม จากนั้นก็เริ่มวิเคราะห์

“เป็นบทเรียนที่ดีสำหรับเขาแล้วที่ได้ตกจากตำแหน่งสูงเพราะทุจริตและติดสินบน หากเขายังมีสมองอยู่บ้าง เขาจะจำบทเรียนนี้ไว้”

“ช่วงนี้ผมได้ให้ความสนใจกับวงการบันเทิงมาบ้าง ดังนั้นผมจึงรู้ว่าเทียนเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์เป็นบริษัทบันเทิงชั้นนำติดหนึ่งในสามอันดับแรกของประเทศจีน รองผู้จัดการทั่วไปของบริษัทบันเทิงขนาดใหญ่แบบนี้อาจมีปัญหาในการหางานใหม่ เพราะวัดเล็กไม่สามารถรองรับพระใหญ่ได้ และวัดใหญ่ก็แทบจะไม่มีที่นั่งว่างเลย”

“แม้ว่าจะมีที่นั่งว่าง แต่ใครจะอยากเอาจางเหิงกลับมาใช้ใหม่ เพราะการใช้เขาอาจทำให้เจ้านายของเทียนเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ไม่พอใจได้”

“ถ้าการเดาของผมถูกต้อง แม้ว่าจางเหิงจะออกจากคุกมาได้หนึ่งเดือนแล้ว เขาก็ยังหางานได้ยาก เว้นแต่เขาจะเปิดบริษัทใหม่เองคนเดียว” โจวอี้พูดอย่างนั้นแล้วก็มองพวกเขาอย่างเงียบ ๆ

แปะ ๆ ๆ ๆ

ทั้งสามปรบมือให้

ฟ่านเอ้อร์เฉียงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณพูดถูก จางเหิงได้สมัครไปที่บริษัทบันเทิงมากกว่าสามสิบแห่งตั้งแต่เขาได้รับการปล่อยตัวจากคุก และทุกบริษัทเหล่านั้นปฏิบัติต่อเขาอย่างอบอุ่น แต่ท้ายที่สุดกลับไม่มีใครต้องการเขาเลย”

โจวอี้มองไปที่ฟ่านเอ้อร์เฉียงและถามอย่างสงสัย “พี่ฟ่าน คุณรู้เรื่องดีขนาดนี้ได้ยังไง?”

“เพราะผมเป็นพี่เขยของเขาไง” ฟ่านเอ้อร์เฉียงยิ้ม

พี่เขย?

ไม่แปลกใจเลย!

โจวอี้พยักหน้าและถามต่ออีกว่า “ขอถามที พี่ฟ่านทำงานอะไร?”

“ธุรกิจการค้าต่างประเทศ บริษัทการค้าต่างประเทศฮานไห่อินเตอร์เนชันแนล” ฟ่านเอ้อร์เฉียงยิ้ม

“ส่วนผม ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง บริษัทโตชิบาแมทเทอเรียล” เฉียนต้าจ้าวเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นโจวอี้มองมาที่เขา เขาจึงแนะนำตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องให้อีกฝ่ายเอ่ยถาม

“ผมโจวอี้ แพทย์จีนแห่งโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจินหลิง” โจวอี้ยิ้ม

แพทย์แผนจีน?

ฟ่านเอ้อร์เฉียงและเฉียนต้าจ้าวมองไปที่หวงไห่เทา และถามผ่านสายตาของพวกเขา

หวงไห่เทากล่าวด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ว่า “โจวอี้เป็นแพทย์แผนจีนในโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจริง ๆและที่สำคัญคือเขาแข็งแกร่งมาก ๆ”

ฟ่านเอ้อร์เฉียงและเฉียนต้าจ้าวเป็นคนฉลาดที่อยู่ในโลกธุรกิจมาหลายปี ดังนั้นการที่หวงไห่เทากล่าวว่า ‘แข็งแกร่งมาก’ ทำให้พวกเขาตระหนักว่า โจวอี้มีภูมิหลังอื่นนอกเหนือจากสถานะของแพทย์

ยิ่งไปว่านั้น ด้วยนิสัยที่ถือตัวสุด ๆ ของหวงไห่เทา มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะนับใครเป็นพี่น้องได้ง่าย ๆ ดังนั้นโจวอี้คงมีความพิเศษบางอย่าง

อย่างไรก็ตาม วันนี้พวกเขาเพิ่งได้พบกับโจวอี้เป็นครั้งแรก หวงไห่เทาไม่ได้พูดถึงตัวตนอื่น ๆ ของโจวอี้ ดังนั้นพวกเขาจึงยังไม่ริเริ่มที่จะถาม

“พี่ฟ่าน ผมสงสัยว่าคุณจะแนะนำจางเหิงให้ผมรู้จักได้ไหม” โจวอี้ถาม

“ผมแนะนำให้ได้ แต่ถ้าเป็นผมแนะนำ ความเป็นไปได้ที่เขาจะยอมมาพบนั้นคงต่ำมาก”

“ทำไม?”

“เพราะเราเคยมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีมาก่อน ผมไม่ชอบเขาและเขาก็ขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับผม” ฟ่านเอ้อร์เฉียงยิ้ม

ได้ยินเช่นนี้โจวอี้ก็หันไปมองหวงไห่เทา

หวงไห่เทาคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “ผมไม่เคยติดต่อจางเหิงมาก่อน ดังนั้นผมจึงแนะนำให้คุณไม่ได้ แต่มีคนหนึ่งที่ผมคิดว่าสามารถช่วยคุณได้”

“ใคร?”

“ให้ผมติดต่อคนนั้นก่อน แล้วถ้าได้เรื่องยังไงผมจะพาคนคนนั้นมาพบคุณตอนเที่ยงพรุ่งนี้” หวงไห่เทายิ้ม

“ตกลง” โจวอี้พยักหน้า

จากนั้นชายทั้งสี่ก็ดื่มกันอีกสองสามแก้ว แต่เมื่อหวงไห่เทาเสนอให้เรียกเหล่าสาวสวยเข้ามา โจวอี้ก็ลุกขึ้นและกล่าวลาทันที

เขาไม่สนใจการเที่ยวเล่นแบบนี้

เมื่อโจวอี้จากไป ชายสามคนที่เหลือก็พูดคุยกันต่อ

“บอกมาเลย!” ฟ่านเอ้อร์เฉียงมองไปที่หวงไห่เทาด้วยรอยยิ้มบาง ๆ

“บอกอะไรล่ะ?” หวงไห่เทาถามอย่างเสแสร้ง

“อย่าแสร้งทำเป็นไม่รู้ บอกเรื่องน้องชายแซ่โจวให้ฟังเร็วเข้า” ฟ่านเอ้อร์เฉียงโยนบุหรี่ให้อีกฝ่าย

หวงไห่เทารับบุหรี่มาจุดสูบก่อนจะเอ่ยว่า “จริง ๆ ผมไม่ควรบอกเลย ผมไม่รู้ว่าเขาต้องการรู้จักกับพวกคุณจริง ๆ ไหม แต่ถ้าถามมาแบบนี้ผมก็จะบอกให้”

“พูดมา!” เฉียนต้าจ้าวกล่าวเสริม

หวงไห่เทาพยักหน้าก่อนจะเริ่มต้นพูดออกมา “อย่างแรก อาจารย์ของโจวอี้คือหมอผี และอย่างที่สอง ภรรยาของเขาเป็นดาราดัง ถังหว่าน”

หมอผี?

พวกเขาแปลกใจเล็กน้อย

พวกเขารู้จักถังหว่านดาราดัง แต่พวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับพวกดาราเท่าไหร่ แต่การมีอยู่ของหมอผีทำให้พวกเขาเริ่มจริงจัง

ชีวิตคนเราเต็มไปด้วยความหวาดกลัวต่ออาการเจ็บป่วย

ไม่ว่าตัวคุณเองหรือเพื่อน หรือญาติของคุณ คนเหล่านี้ก็อาจประสบกับโรคร้ายแรงได้ทั้งนั้น

แต่การได้ทำความรู้จักกับลูกศิษย์ของหมอผี ย่อมถือว่าดีเลิศและเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน

“ไห่เทา หลังจากนี้ช่วยนัดน้องโจวมาดื่มกันอีกได้ไหม” เฉียนต้าจ้าวเอ่ยขึ้น

“ตกลง” หวงไห่เทาพยักหน้าอย่างมีความสุข

ตระกูลหวง ตระกูลฟ่าน และตระกูลเฉียน มีมิตรภาพที่ลึกซึ้งตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ถึงขนาดหลายครั้งก็หมั้นหมายคนในตระกูลระหว่างกันมาเกือบร้อยปีแล้ว ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงรู้ใจกัน ไม่มีอะไรเสียหายหากจะแนะนำโจวอี้ให้รู้จัก

ครั้นโจวอี้กลับถึงบ้านก็อาบน้ำอย่างสบายตัว ชำระล้างกลิ่นบุหรี่และไวน์ออกไปจนหมด จากนั้นก็มายืนอยู่ที่หน้าต่างชั้นสองในชุดนอน

ระหว่างทางกลับบ้าน เขาส่งข้อความถึงถังหว่านและรู้ว่าเธอยังไม่กลับมา

เวลา 02.30 น.

รถเมอร์เซเดสเบนซ์จอดอยู่ด้านนอกประตูบ้านข้าง ๆ

โจวอี้ยืนอยู่ที่หน้าต่างและมองดูถังหว่านลงจากรถ เขาเปิดไฟทันทีและโบกมือให้ถังหว่าน

“กลับกันไปก่อน พรุ่งนี้มารับฉันตอนเที่ยง” ถังหว่านพูดกับซุนเหมิงและคนขับรถ แล้วเดินไปที่ประตูบ้านของโจวอี้

ถังหว่านเดินขึ้นไปชั้นสองทันที

“ทำไมคุณยังไม่นอนอีก” ถังหว่านถามโจวอี้ที่กำลังยิ้ม

“กำลังคอยคุณอยู่”

“คุณรอฉันทำไม”

“นี่ของขวัญสำหรับคุณ” โจวอี้ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้เธอ

“อะไร?”

หญิงสาวมองไปมันด้วยสีหน้างงงวย ในกระดาษแผ่นนี้มีเนื้อเพลงที่ถูกเขียนไว้อย่างสมบูรณ์