บทที่ 127 ทำเพื่อเธอ

บทที่ 127 ทำเพื่อเธอ

เพลง?

นี่คือเนื้อเพลง?

ถังหว่านแสดงสีหน้าแปลก ๆ ขณะเงยหน้าขึ้นมองโจวอี้ จากนั้นเธอก็ส่ายหัว และสายตาของเธอก็กลับมามองที่เนื้อเพลงต่อ

ชื่อเพลง ‘โชคชะตา’ นั้นดูธรรมดามาก

เธอมองดูเนื้อเพลงดังกล่าวอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะฮัมเพลงไปตามทำนองของมัน

การแสดงออกของเธอค่อย ๆ กลายเป็นจริงจังมากขึ้น

หลังจากอ่านจบทั้งเพลงแล้ว ถังหว่านก็ถามอีกฝ่ายว่า “คุณไปเอาเพลงนี้มาจากไหน”

“คุณเคยเห็นเพลงแบบนี้มาก่อนไหม” โจวอี้ถามกลับ

“ไม่!” ถังหว่านส่ายหัว

“ผมซื้อเพลงนี้มาจากเพื่อนน่ะ” โจวอี้ยิ้ม

“เพื่อน? ใคร?”

“คนแต่งเคยเป็นนักเรียนดีเด่นในวิทยาลัยดนตรีตี้ตู เขาชอบดนตรีแต่ไม่ได้ทำงานด้านนี้ เขาเปิดร้านน้ำชาแทน”

“รู้จักกันได้ยังไง”

“คนแต่งเป็นคนไข้ของผมเอง” โจวอี้ตอบ

ถังหว่านพยักหน้า

เธอถือกระดาษในมือด้วยแววตาเป็นประกาย

“ฉันชอบเพลงนี้ เนื้อเพลงและการเรียบเรียงดีมาก แม้ว่าผมจะไม่สามารถรับประกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าการปล่อยเพลงนี้จะโด่งดังเหมือนพลุแตกไหม แต่มันย่อมชนะใจใครหลาย ๆ คนได้อย่างแน่นอน”

“ถ้างั้นก็เอามันไปร้องตามที่คุณต้องการเถอะ” โจวอี้ยิ้ม

“แต่ลิขสิทธิ์ล่ะ…”

“อย่ากังวลเรื่องลิขสิทธิ์ ผมถามคนแต่งมาแล้ว มันจะไม่มีปัญหา”

ถังหว่านลังเลอยู่ครู่หนึ่งและในที่สุดก็พยักหน้า

หัวใจของเธอพลันอบอุ่นขึ้นมา

เนื่องจากเธอเป็นนักร้อง โจวอี้จึงแลกเปลี่ยนเพลงกับคนไข้ แสดงให้เห็นว่าตำแหน่งของเธอในใจของเขานั้นมีความสำคัญอย่างมาก

“คุณให้อะไรเขาตอบแทน”

“เคล็ดวิชาการต่อสู้!” โจวอี้ยิ้ม

ถังหว่านรู้ว่าโจวอี้รู้จักเคล็ดวิชาการต่อสู้ และคิดว่าในเมื่อคนแต่งเพลงนี้ชอบเคล็ดวิชาการต่อสู้ อีกฝ่ายคงจะเป็นผู้ชายที่อยากได้เคล็ดวิชาการต่อสู้ไปทำให้ร่างกายแข็งแกร่งมากขึ้น

“ขอบคุณนะ!” ถังหว่านกล่าวจากใจ

“อย่าพูดถึงมันเลย ของของผมก็เป็นของคุณ” โจวอี้ก้าวไปข้างหน้าและวางมือโอบรอบเอวของ ถังหว่านเอาไว้

อืม!

บางและหอมมาก!

ถังหว่านไม่ได้ปฏิเสธอ้อมกอดของโจวอี้ แต่รู้สึกว่ามือใหญ่ของเขาค่อย ๆ ขยับลง และทันใดนั้นเธอก็หน้าแดงขึ้นมา

เธอผลักโจวอี้ออกไป ก่อนจะหันหลังและเดินออกไปข้างนอกทันที

“เดี๋ยวก่อน ผมมีเรื่องจะถามคุณ!” โจวอี้ก้าวไปขวางเธอทันที

“อะไรอีก”

“คุณถูกที่บริษัทรังแกรึเปล่า”

“ไม่!”

“ผมได้ยินมาจากซุนเหมิงว่ามีคนขโมยห้องอัดเสียงคุณ แต่ตอนนี้คุณกลับบอกว่าไม่ได้ถูกรังแก?” โจวอี้พูดต่อด้วยสีหน้าจริงจัง “เสี่ยวหว่าน ผมรู้ว่าคุณชอบร้องเพลงและผมก็สนับสนุนการเป็นนักร้องของคุณ แต่ผมคิดว่าคุณไม่ควรทำงานให้คนอื่นอีกแล้ว คุณควรเป็นนายตัวเองและเปิดบริษัทบันเทิงของตัวเอง ดีไหม?”

ถังหว่านหันไปจ้องอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็ค่อย ๆ เอื้อมไปแตะหน้าผากของชายหนุ่ม

“ไม่มีไข้นี่นา?” เธอพูดเช่นนั้นจบแล้วก็หันหลังเดินจากไป

ตั้งบริษัท?

เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!

เธอไม่รู้วิธีบริหารบริษัท และไม่มีแหล่งเงินทุน จะให้คาดหวังกับโจวอี้เนี่ยนะ? เขาเพิ่งลงมาจากภูเขาได้ไม่นาน มันเป็นไปไม่ได้หรอก!

โจวอี้มองตามแผ่นหลังของถังหว่านด้วยความรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

เธอไม่มั่นใจในตัวเขาเหรอ?

ผมต้องการเปิดบริษัทเพื่อผลประโยชน์ของเธอเลยนะ?

ช่างเถอะ

จริง ๆ แล้วมันก็ไม่ใช่ว่าเพื่อประโยชน์ของเธอคนเดียว หลัก ๆ แล้วก็เพื่อให้เธอได้ใช้เวลากับลูกสาวมากขึ้นต่างหาก…

แต่แน่นอน ถ้าเธอมีเวลามากพอที่จะซักเสื้อผ้าและทำอาหารกินเองแล้วอุ่นเตียง มันก็คงจะดียิ่งขึ้น…

โจวอี้ถอนหายใจสองสามครั้ง ก่อนจะตั้งมั่นในใจว่าจะสร้างบริษัทบันเทิงที่ดีขึ้นมาให้ได้

อันดับแรกเขาจะต้องเก็บเป็นความลับก่อน และเมื่อบริษัทใหญ่ขึ้น แข็งแกร่งมากพอ เขาจะบอกเธอเมื่อถึงเวลา เขาจะทำให้เธอต้องอ้าปากค้างเพราะความตกใจ!

เช้าตรู่วันถัดมา

โจวอี้เพิ่งนอนไปสี่ชั่วโมงเท่านั้นแต่ก็ตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์แจ่มใส

เขาทำอาหาร เกลี้ยกล่อมลูกสาวให้ทานอาหาร และส่งเธอไปโรงเรียน

หลังจากที่โจวอี้กลับมา เขาก็วิ่งไปที่บ้านหลังถัดไปและพบว่าถังหว่านยังคงหลับสนิทอยู่

เขาไม่ได้รบกวนถังหว่าน แต่กลับไปที่ห้องนอนของเขาเพื่อนอนต่อ

ส่วนตอนเที่ยง เขาแต่งตัวเรียบร้อยและรีบไปหาหวงไห่เทา

ร้านอาหารเซิงตัง

นี่คือร้านอาหารชั้นนำในเมืองจินหลิง ว่ากันว่าเชฟที่นี่เป็นเชฟจากเมืองหลวง

อาหารทุกจานที่นี่ถูกรังสรรค์มาอย่างดีและโอชารส ไม่ว่าคนในท้องถิ่นจินหลิงหรือผู้มาเยือนจากเมืองอื่น ๆ ก็มักจะเพลิดเพลินกับความเอร็ดอร่อยของรสชาติที่ยอดเยี่ยมนี้อยู่เสมอ

แน่นอนว่าร้านนี้คือร้านระดับสูงและราคานั้นก็สูงลิ่ว

ว่ากันว่าใครอยากได้โต๊ะก็ต้องจ่ายค่าจองก่อนเป็นตัวเลขถึงห้าหลัก ดังนั้นแขกที่มาที่นี่จึงไม่ใช่แค่ผู้มีเกียรติหรือคนรวยธรรมดาทั่วไป

ชั้นหก ภายในห้องชุดพายุฝนฟ้าคะนอง

พื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่พักผ่อนถูกกั้นด้วยฉากกั้น และกลิ่นหอมของชาอบอวลไปทั่ว จานผลไม้และของว่างวางอยู่บนโต๊ะน้ำชาอย่างพิถีพิถัน ชายและหญิงกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่โซฟาหนัง

“ไห่เทา วันนี้คุณทำตัวลึกลับเหลือเกิน จะเลี้ยงใคร? ทำไมต้องอยากพาฉันมาด้วย?” จางซิ่วจือถามหวงไห่เทาด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ต้องกังวลนะพี่สะใภ้! คุณจะรู้เองเมื่อเห็นเขา” หวงไห่เทาถามกลับ “ว่าแต่คุณรู้จักจางเหิงจริง ๆ? คุณมีข้อมูลติดต่อของเขาจริง ๆ ใช่ไหม?”

“เมื่อเช้าที่คุณโทรหาฉัน คุณก็ถามแล้วไม่ใช่แล้วเหรอ! อดีตรองผู้จัดการทั่วไปของเทียนเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ที่เพิ่งออกจากคุกเคยพูดคุยกับคนในบริษัทเครื่องประดับของฉัน ฉันจึงมีข้อมูลติดต่อเขา” จางซิ่วจืออธิบาย

“โอเค ถ้างั้นผมค่อยโล่งใจหน่อย” หวงไห่เทายิ้ม

ก๊อก ก๊อก…

เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่พนักงานเสิร์ฟผอมเพรียวและสะสวยในชุดกี่เพ้าลายดอกไม้จะค่อย ๆ เปิดประตูและพาชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามา

“ฮ่าฮ่า ในที่สุดพรเอกของงานก็มาแล้ว!” หวงไห่เทายืนขึ้นยิ้ม

เมื่อจางซิ่วจือได้ยินเช่นนี้ก็มองไปยังชายหนุ่มที่เดินเข้ามาตามหลังพนักงานเสิร์ฟ อีกฝ่ายเป็นชายหนุ่มหล่อเหลา รูปร่างดี และดูสงบล้ำลึก…

เขาคือใคร?

ทำไมหวงไห่เทาถึงเชิญมาด้วยตัวเอง?

เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะเป็นลูกชายของตระกูลใหญ่ในเมืองจินหลิง หรือไม่ก็ลูกของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่

แต่ถึงกระนั้นเพื่อนลึกลับของหวงไห่เทาก็ดูเป็นคนที่น่าจะเป็นชนชั้นสูงที่ไม่ธรรมดา!

“ไห่เทา นี่คือใคร?” จางซิ่วจือถาม

“พี่สะใภ้ เขาคือโจวอี้ น้องชายของผม” หวงไห่เทายิ้มมองไปที่โจวอี้พลางกล่าวว่า “นี่คือประธานจาง เจ้าของบริษัทอัญมณีสีน้ำเงิน และเธอก็เป็นภรรยาของพี่ชายผม หยางเซี่ยวหางประธานหยางกรุ๊ป โจวอี้ คุณสามารถเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ได้!”

“สวัสดี พี่สะใภ้ ผมโจวอี้!” โจวอี้ยิ้มและยื่นมือออกไป

โจวอี้?

ชื่อคุ้น ๆ ไหม? ดูเหมือนจะเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหนสักแห่ง

จางซิ่วจือยื่นมือของเธอไปจับมือกับโจวอี้พลางยิ้มออกมา แต่ขณะที่เธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เธอก็นึกถึงบางเรื่องขึ้นมาได้ แววตาของเธอเป็นประกายทันทีที่ถามออกมา “คุณเป็นสามีของถังหว่านใช่ไหม?”

โจวอี้ยิ้มและตอบกลับ “ถังหว่านเป็นแม่ของลูกสาวผม”

แววตาของจางซิ่วจือเป็นประกาย และท่าทีของเธอก็ดูเป็นมิตรในทันที เธอมองไปที่โจวอี้ด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ฉันได้เป็นพี่สะใภ้ของคุณโจว อันที่จริงฉันอยากพบคุณมานานแล้วแต่ไม่มีโอกาส ไห่เทาทำได้ดีจริง ๆ”

“พี่สะใภ้เรียกผมว่าโจวอี้เฉย ๆ จะดีกว่า” โจวอี้เหลือบมองหวงไห่เทาก่อนจะถามด้วยรอยยิ้มว่า “ว่าแต่คุณรู้จักผมงั้นเหรอ?”

“ฉันได้ยินจากไห่เทามานานแล้วว่าเรามีหมอจีนที่ดีมากในจินหลิง และวันก่อนฉันไม่มีอะไรทำ ฉันก็เลยไปชอปปิงและทานอาหารเย็นกับเสี่ยวหว่าน!”

“เสี่ยวหว่านเป็นคนอารมณ์เย็นชา หากมีสิ่งใดที่ไม่สุภาพโปรดอย่าถือสาเธอ” โจวอี้ยิ้ม

“ไม่เย็นชาเลย เสี่ยวหว่านเป็นคนดี!”

หวงไห่เทามองดูพวกเขาและเอ่ยขึ้นว่า “พี่สะใภ้ โจวอี้ เรามาคุยกันระหว่างทานอาหารเถอะ! วันนี้ผมตื่นสาย ยังไม่ได้กินอาหารเช้าเลย ตอนนี้ท้องผมร้องไปหมดแล้ว!”

“ได้!”