ตอนที่ 155 หมาน้อย

สามีข้า คือพรานป่า

สามีข้า…คือพรานป่า ตอนที่ 155 หมาน้อย

หยุนเถียนเถียนแค่รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยสําหรับความเมตตาอันแปลกประหลาดของเฉินผิงอัน และไม่รู้ว่าจะเผชิญกับมันอย่างไร

เมื่อมองดูลูกสุนัขตัวเล็กที่ดุร้ายตรงหน้า แม้จะไม่ค่อยมีประโยชน์นักแต่ก็ยังพอช่วยเตือนภัยได้

ถึงหยุนเถียนเถียนจะไม่รู้ว่าเฉินผิงอันหมายถึงอะไร แต่ในเรื่องนี้เขาก็ไม่ได้มีเจตนาร้าย

ในที่สุดนางก็ตัดสินใจพาสุนัขเข้ามา เมื่อเจอเนื้อตากแห้งชิ้นหนึ่งในห้องครัวจึงโยนเนื้อชิ้นนั้นลงพื้นโดยไม่คิดอะไร

แต่เจ้าหมาน้อยตัวนี้ก็ยังไม่เชื่อง มันยังเห่าอยู่แม้ว่าจะกินเนื้อไปแล้ว ไม่นานเสียงร้องนี้ทําให้หยุนเคอและเฉินเฉินรําคาญ ทั้งสองคนขมวดคิ้วเดินออกจากห้องและเห็นสุนัขตัวหนึ่งอยู่ในลานหน้าบ้าน มีเชือกผูกไว้กับประตูและเห่าไม่หยุด

“เจ้าตัวเล็กนี้มาจากที่ใด?”

หยุนเคอขมวดคิ้ว มองไปที่หยุนเถียนเถียนซึ่งยืนอยู่ในลานบ้าน เฉินเฉินก็มองเช่นเดียวกัน เช้าตรู่พี่สาวของเขาไปได้หมาป่าตัวน้อยแสนดุร้ายนี้มาจากที่ใด?

“เฉินผิงอันเอามาให้!”

เฉินผิงอัน?

ตาสองคู่ หนึ่งใหญ่หนึ่งเล็กแทบจะถลนออกมาด้วยความสงสัย!

“อย่าถามข้า ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆเขาก็วิ่งมาที่ประตูตั้งแต่เช้าตรู่และยืนยันว่าต้องการมอบสุนัขตัวนี้ให้แก่ข้า เขายังบอกอีกว่าให้ใช้สุนัขตัวนี้เพื่อเฝ้าดูโรงงานเพราะว่ามีขโมย!”

“ข้าเพิ่งไปที่ประตูโรงงานมา แม่กุญแจถูกเคลื่อนย้ายจริงๆ! คราวนี้เฉินผิงอันไม่ได้โกหก ไม่รู้ว่าทําไมจู่ๆเขาถึงทําแบบนี้ หรือเป็นเพราะเขาเสียใจกับสิ่งที่เขาทํา?”

เฉินเฉินพูดต่อต้าน “มันสายเกินไปแล้วที่จะมาเสียใจในเวลานี้ พี่สาว อย่าสนใจเขา แค่ส่งข้ากลับไปก็พอ”

“ไม่ต้องกังวล พี่สาวจะไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสพาเจ้ากลับไปหรอก ในไม่ช้าจะมีครอบครัวที่ไร้มลทินมารับเจ้าไป เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าและเฉินผิงอันจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก!”

หยุนเคอมองไปยังลูกสุนัขที่คอยเห่าอยู่ตรงหน้า ในที่สุดเขาก็หมดความอดทนและปลดปล่อยพลังออกมาจากร่างทันที!

ชั่วครู่สองพี่น้องก็รู้สึกว่าขนบนร่างของพวกเขาลุกขึ้นพร้อมๆกัน และแต่ละคนก็มองดูหยุนเค่อด้วยความสยดสยอง! ลูกสุนัขที่อยู่ข้างหน้าก็หยุดเห่าและถอยหนีอย่างขลาดกลัว! เพียงแต่มันยังคงโชว์ฟันแหลมเล็กๆของมันอย่างดุร้าย!

หยุนเคอเดินเข้ามาช้าๆ เอื้อมมือไปแตะหัวหมาป่าตัวน้อย จากนั้นเจ้าหมาป่าตัวน้อยก็นอนราบกับพื้นอย่างเชื่อฟัง!

หยุนเคอจึงดึงพลังของเขากลับคืนมาและเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นนายพรานธรรมดา แต่สองพี่น้องรู้อยู่แก่ใจว่าคนตรงหน้าไม่ธรรมดาอย่างที่คิดแน่นอน!

“เอาล่ะ! พวกเจ้ามานี่ สอนให้มันจํากลิ่นของพวกเจ้า!”

หยุนเถียนเถียนเอื้อมไปจับมือเฉินเฉินและสองพี่น้องก็เดินเข้าไป! แม้ว่าเฉินเฉินจะยังตกใจอยู่ แต่เขามองดูพี่สาวที่เดินเข้าไปอย่างเป็นธรรมชาติจึงกัดฟันตามไป!

ในตอนนี้เจ้าหมาป่าตัวน้อยหยุดเห่าแล้ว ในทางกลับกัน มันเอนหัวพิงเฉินเฉินอย่างแสนรู้ ทั้งยังแตะที่ขากางเกงของเขาทําตัวราวกับเด็กน้อย!

“พี่สาว ลูกสุนัขตัวนี้น่ารักมาก จากนี้พวกเราเลี้ยงมันไว้ได้หรือไม่”

หยุนเถียนเถียนพยักหน้าและยิ้ม “เอาไว้เฝ้าบ้านเถอะ แต่ถึงอย่างไรเฉินผิงอันก็เป็นคนเอามันมา เราควรให้เงินเขาสิบตําลึงเหมือนซื้อหมามาจากเขา! จากนั้นเจ้าค่อยเลี้ยงมัน ดีหรือไม่?”

เฉินเฉินพยักหน้าอย่างตื่นเต้น “หมาน้อย จากนี้ไปเจ้าจะอาศัยอยู่ในบ้านของเรา เอาล่ะ ข้าจะตั้งชื่อให้ ดุขนาดนี้ เรียกเจ้าว่า เสี่ยวหลาง เป็นอย่างไร?”

ลูกสุนัขรู้ชื่อที่ไหน มันแค่แลบลิ้นออกมาแล้วเลียมือของเฉินเฉิน

“พี่สาว ท่านคิดว่าหมาป่าตัวน้อยรู้หรือไม่ว่าตอนนี้มันชื่ออะไร?”

หยุนเถียนเถียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ ที่สุดแล้วก็คือเด็กคนหนึ่ง แม้ว่าเวลาปกติเขาจะเฉลียวฉลาด แต่ในช่วงเวลาสําคัญก็ยังคงเป็นเด็กน้อย

อย่างไรก็ตาม หมาป่าแบบนี้เป็นผู้ช่วยที่ดีแน่นอนหากได้ ส่งไปฝึกที่หน่วยตํารวจพิเศษ น่าเสียดายที่ไม่เคยฝึกกับสุนัขตํารวจมาก่อน!

“มันไม่ใช่มนุษย์ มันจะเข้าใจที่เจ้าพูดทั้งหมดในครั้งเดียวได้อย่างไร? แต่ตราบใดที่เจ้าสอนมันอย่างอดทน มันก็จะเรียนรู้! หากได้รับการฝึกฝนอย่างดี มันก็จะเข้าใจทุกสิ่งที่เจ้าพูดด้วย”

หยุนเถียนเถียนเดินไปที่ห้องของนางและหยิบเงินสิบตําลึงออกมา

จากนั้นเดินไปยังลานบ้านที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จากซากปรักหักพัง

เฉินผิงอันนั่งอยู่ในลานบ้านและถลกขากางเกงขึ้น! มีรอยฟันอยู่หลายซี่ แผลลึกมาก ทั้งยังมีเลือดไหลออกมาด้วย! เฉินผิงอันไม่สนใจนัก เขาหยิบยารักษาแผลสีทองที่บ้านออกมาแล้วทาลงไป

หยุนเถียนเถียนเดินเข้ามาและบังเอิญเห็นเหตุการณ์นี้พอดี

“เฉินผิงอัน ไม่ว่าท่านคิดอะไรอยู่ในใจ แต่วันนี้ท่านก็ได้ ช่วยเหลือข้า ข้าจะจดจําความช่วยเหลือครั้งนี้ ไม่รู้ว่าสุนัขของท่านมาจากไหน หรือท่านใช้เงินซื้อ?”

เฉินผิงอันไม่เหลือบตามอง “ในสายตาของเจ้า ข้าไม่เคยเป็นคนดี! ข้าซื้อสุนัขตัวนี้จากสหายเก่า แต่เมื่อเอามันกลับมาข้าก็โดนมันกัดอยู่หลายครั้ง!”

“หากซื้อมันมา ท่านก็บอกราคาว่าซื้อมาเท่าไหร่ จะได้ไม่ขาดทุน!”

หยุนเถียนเถียนมองท่าทางที่น่าสงสารของเขา ในที่สุดก็ทนไม่ไหว แร้นแค้นน่าสมเพช!

“ได้สิ! หยุนเถียนเถียนตอนนี้เจริญก้าวหน้าแล้ว และก็ไม่ใช่เด็กหญิงตัวเล็กๆที่ถูกผู้อื่นทุบตีและด่าทออีกต่อไป ช่างเถิด ข้าเพียงอยากให้ลูกชายของข้ามีชีวิตที่ดีในมือเจ้า ไม่มีอะไรอย่างอื่น ส่วนเงินจะให้ก็ได้ เอาตามที่เจ้าสบายใจ!”

หยุนเถียนเถียนครุ่นคิดอย่างรอบคอบ หยิบเงินสิบสองตําลึงออกจากแขนของนาง และหยิบเงินห้าสิบตําลึงออกจากกระเป๋าของนางด้วย! ก่อนจะยืนให้เฉินผิงอัน!

“เงินสิบสองตําลึงถือเป็นการซื้อสุนัขตัวนี้ ส่วนเงินอีกห้าสิบตําลึงที่เหลือเอาไปหาหมอดูให้ดี! ถือว่าเรื่องนี้จบแล้ว ท่านและข้าไม่มีอะไรติดค้างกัน!”

เมื่อได้ยินว่าทั้งสองไม่ได้ติดค้างกัน เฉินผิงอันก็เงยหน้าขึ้นทันที “เราสองคนไม่มีอะไรติดค้างหมายความว่าอย่างไร? แม่ของเจ้าติดค้างข้า และข้าไม่มีวันได้มันคืนจากนาง! นางติดค้างข้ามาทั้งชีวิต!”

“แม่ของข้าคือแม่ของข้า ตัวข้าคือตัวข้า และข้าก็ไม่ได้ติดค้างท่าน!” หลังจากหยุนเถียนเถียนพูดเช่นนี้ นางก็หันหลังและจากไป

เมื่อเดินไปถึงประตูก็หยุดอีกครั้ง “อีกไม่นาน ข้าจะส่งเฉินเฉินไปให้บ้านอื่นที่ภูมิหลังครอบครัวขาวสะอาดในหมู่บ้าน! ตอนนี้แค่อยากบอกให้ท่านรับรู้เอาไว้!”

เฉินผิงอันตะลึงงัน แล้วเปล่งเสียงคํารามอย่างโกรธเคือง “นั่นคือลูกชายของข้า เหตุใดต้องเอาเขาไปให้ผู้อื่นด้วย? หยุนเถียนเถียน หากเจ้าต้องการแก้แค้นข้า เจ้าก็แก้แค้นได้เลย แต่เจ้าไม่จําเป็นต้องทําร้ายเฉินเอ๋อ!”

หยุนเถียนเถียนหันกลับมาอย่างเหยียดหยาม “แก้แค้นท่าน? ข้าไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นหรอก! ตอนนี้ลูกชายของท่านถูกขายให้ข้าแล้ว มันขึ้นอยู่กับข้าว่าจะรับเลี้ยงหรือไม่!”