บทที่116 ของขวัญที่แท้จริง
เจียงหยุนเอ๋อวางมือของเธอลงที่มือของลี่จุนถิง และถามอย่างสงสัย:“ยังมีของขวัญชิ้นใหญ่อีกชิ้นหนึ่ง?คืออะไรเหรอ?”
“คุณมากับฉันก็รู้แล้ว”ลี่จุนถิงแสร้งทำเป็นลึกลับ
ทั้งครอบครัวลงจากเรือยอชต์ และลี่จุนถิงก็พาเจียงหยุนเอ๋อและถวนจื่อมาถึงที่คฤหาสน์แห่งหนึ่ง
“ที่นี่คือ?”เจียงหยุนเอ๋อมองไปที่คฤหาสน์ตรงหน้าแล้วถามขึ้น
“อันนี้เป็นคฤหาสน์ที่ออกแบบโดยบริษัทซูซื่อ การออกแบบของบริษัทนี้มีความเรียบง่ายและสง่างาม ฉันรู้สึกว่าเหมาะกับรสนิยมของเธอ”ลี่จุนถิงกล่าว
“ไม่ไม่ไม่ ฉันไม่เอาแล้ว”เจียงหยุนเอ๋อส่ายหัว วันนี้เธอก็มีเรือยอชต์แล้ว และถ้ายังรับคฤหาสน์แบบนี้อีกมันคงจะเกินไปแล้ว
“ใครบอกว่าฉันให้คุณ?”ลี่จุนถิงหัวเราะฮึ แต่ในใจกลับรู้สึกว่าผู้หญิงที่ประหม่าของเขานั้นน่ารักมาก
“หือ?”เจียงหนิงเอ๋อผงะ“คุณไม่ได้ให้ฉัน แล้วคุณให้ใคร?”
“แน่นอนฉันให้มันกับถวนจื่อ”ลี่จุนถิงชี้ไปที่ถวนจื่อที่ยืนอยู่ด้านข้างของเขา
“ถวนจื่อ?”ดวงตาของเจียงหยุนเอ๋อเบิกกว้าง
“ใช่ไง คุณก็มีเรือยอชต์แล้ว คุณยังจะเอาคฤหาสน์?คุณจะโลภเกินไปไหม”ลี่จุนถิงพูดพร้อมกับเอามือจิ้มไปที่หัวของเจียงหยุนเอ๋อ
“ไม่ได้ไม่ได้”เจียงหยุนเอ๋อส่ายหน้าของเขาภายใน“ถวนจื่อไม่สามารถรับไว้ได้”
“ทำไมรับไว้ไม่ได้?คุณก็รับไว้แล้วทำไมเขาจะรับไว้ไม่ได้?”
“เขายังเด็ก และอีกอย่างของขวัญชิ้นนี้มันก็แพงเกินไป”
“จะเป็นอะไรไป ฉันจะรักลูกชายของฉันไม่ได้เหรอ?”ลี่จุนถิงทำท่าอย่างเฉยเมย
เจียงหยุนเอ๋อเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ลี่จุนถิง คำพูดของเขานั้นกระตุ้นโดนใจของเธอจริง ๆ
“ได้ งั้นฉันขอขอบคุณคุณแทนถวนจื่อด้วย”เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกว่าตัวเองนั้นมีความสุขมาก
เมื่อลี่จุนถิงเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อไม่ได้ปฏิเสธอีก ก็ลูบหัวของเธอเบาๆอย่างนุ่มนวล
ตระกูลส้ง
เมื่อส้งหวั่นหวั่นได้ยินคนมารายงานเบาะแสของลี่จุนถิงและเจียงหยุนเอ๋อในวันนี้ และยิ่งไปกว่านั้นคือเมื่อได้ยินว่าลี่จุนถิงส่งเรือยอชต์ให้เจียงหนิงเอ๋อหนึ่งลำ และส่งคฤหาสน์ให้ถวนจื่อ
ส้งหวั่นหวั่นก็โกรธมากจนทุบกระเป๋าและเสื้อผ้าที่เพิ่งซื้อมาใหม่
ส้งหวั่นหวั่นกำผ้าห่มอย่างแน่น เธอโกรธ เธอโกรธทำไมคนคนนั้นไม่ใช่เธอ ทำไมถึงถูกเจียงหยุนเอ๋อเอาความโปรดปรานของลี่จุนถิงไป
ในแง่ของด้านรูปลักษณ์ ด้านพื้นเพ ด้านการฝึกอบรม ตัวเองเทียบไม่ได้กับเจียงหยุนเอ๋อตรงไหน ทำไมผู้หญิงพวกที่มีภาระจึงดึงดูดสายตาของลี่จุนถิงได้
เธอรู้สึกว่าไม่สามารถทนให้เรื่องราวพัฒนาไปมากกว่านี้
ส้งหวั่นหวั่นตัดสินใจจะเอามอบของขวัญตอบเป็นข้ออ้าง เพื่อจะไปเยี่ยมคุณแม่ของลี่จุนถิง
ส้งหวั่นหวั่นมาถึงตระกูลลี่ในวันรุ่งขึ้น
ครั้งที่แล้วโม่เสี่ยวฮุ่ยส่งเสื้อผ้าให้ส้งหวั่นหวั่น และในครั้งนี้ส้งหวั่นหวั่นก็ตั้งใจซื้อผ้าปักลายกี่เพ้าของซูซิ่วโดยเฉพาะส่งให้กับโม่เสี่ยวฮุ่ย
“อุ๊ย หวั่นหวั่นมาแล้วเหรอ”เนื่องจากช่วงนี้ส้งหวั่นหวั่นและโม่เสี่ยวฮุ่ยได้ติดต่อกันอย่างใกล้ชิด ดังนั้นโม่เสี่ยวฮุ่ยเรียกชื่อของส้งหวั่นหวั่นในตอนนี้ก็จะเป็นมิตรมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
“คุณป้า”ส้งหวั่นหวั่นเรียกอย่างไพเราะ และวางชุดกี่เพ้าที่ห่อเสร็จตั้งแต่ตอนแรกลงบนโต๊ะ
“อันนี้คืออะไรเหรอ?” โม่เสี่ยวฮุ่ยมองไปที่ของขวัญที่ถูกห่ออย่างสวยงามที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วถามขึ้น
“คุณป้า อันนี้เป็นของขวัญที่ฉันมอบให้คุณไงคะ”ส้งหวั่นหวั่นพูดพลางดันกล่องของขวัญด้านหน้า
“ดูเด็กอย่างคุณจะมาก็มาสิ ยังจะมีของขวัญอะไรมาให้ฉันอีก ทำไมต้องเปลืองเงินด้วย” แม้ว่าปากของโม่เสี่ยวฮุ่ยจะตำหนิเล็กน้อย แต่ในใจของเขาก็มีความสุขมากเช่นกัน
“คุณป้า คุณลองแกะดูสิ”
โม่เสี่ยวฮุ่ยเปิดกล่องของขวัญออก แล้วหยิบกี่เพ้าทั้งชุดที่อยู่ด้านในออกมา และแสดงต่อหน้าต่อตา และเมื่อเธอเห็นลวดลายที่สวยงามประณีตมากนั้น ก็ตกตะลึงจนอ้าปากค้าง“พระเจ้า อันนี้สวยงามมาก”
“ฉันรู้ว่าคุณป้าชอบเย็บปักถักร้อยซูซิ่วมานาน และฉันก็ได้ชุดกี่เพ้านี้มาโดยบังเอิญ ดังนั้นจึงรีบนำมามอบให้คุณป้าทันทีเลย”
“โอ๊ย ของขวัญชิ้นนี้ของคุณแพงไปหน่อย” เนื่องจากโม่เสี่ยวฮุ่ยชอบเย็บปักถักร้อยของซูซิ่ว ดังนั้นเธอจึงรู้เกี่ยวกับการเย็บปักถักร้อยของซูซิ่วเล็กน้อย
มองออกว่ากี่เพ้าที่ส้งหวั่นหวั่นส่งให้ตัวเองนั้นเป็นงานฝีมือล้วน ๆ แบบนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายอย่างมากถึงจะได้มาแน่นอน
เธอให้มันกับตัวเองโดยทันทีหลังจากที่ได้รับมา และความตั้งใจแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
“โอ๊ย คุณป้า ดูที่คุณพูดล้อเล่นสิ ของขวัญชิ้นนี้ของฉันเมื่อเทียบกับของขวัญที่จุนถิงมอบให้เจียงหยุนเอ๋อนั้นของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวเท่านั้น”ส้งหวั่นหวั่นพูดติดตลก
“อะไรนะ?จุนถิงส่งอะไรให้ผู้หญิงคนนั้น?”จู่ ๆสีหน้าของโม่เสี่ยวฮุ่ยดูแย่ลงกะทันหัน และน้ำเสียงก็ไม่ได้ใจดีเหมือนในตอนแรก
“คุณป้าคุณไม่รู้เหรอคะ?”ส้งหวั่นหวั่นแสร้งทำเป็นตกใจ“จุนถิงส่งเรือยอชต์ให้เจียงหยุนเอ๋อหนึ่งลำ และยังส่งคฤหาสน์ซูซื่อให้เด็กคนนั้นด้วย คุณก็รู้ ว่าคฤหาสน์นั้นถึงจะมีเงินมากก็ไม่สามารถซื้อได้”
โม่เสี่ยวฮุ่ยหรี่ตาของเธอ และรู้สึกในใจลึกๆว่าไม่สามารถให้ลูกชายของเธอเป็นแบบนี้อีกต่อไป และหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปแม้แต่บริษัทก็คงจะยกให้คนอื่นไปแล้ว
อย่างไรก็ตามบนพื้นผิวโม่เสี่ยวฮุ่ยก็ต้องแสร้งทำเป็นเฉยเมย“จุนถิงชอบส่งก็ส่งเถอะ เพราะยังไงก็แค่ส่งของต่ำ ๆเท่านั้น ตระกูลลี่ของฉันก็ไม่ใช่ว่าจะขาดเงิน”
หลังจากส้งหวั่นหวั่นได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย
เธอรู้ว่าคนอย่างโม่เสี่ยวฮุ่ยเป็นคนอย่างไร เธอได้ยินคำพูดนี้บนพื้นผิวไม่ได้อะไร แต่ว่าในใจของเธอมีแผนอย่างแน่นอน และสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องมากังวล
“คุณดูฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว คุณกลับไปตอนดึกมากแบบนี้ก็ไม่ปลอดภัย เอาอย่างนี้วันนี้คุณก็พักที่บ้านของฉันเถอะ” โม่เสี่ยวฮุ่ยมองที่นาฬิกาที่อยู่บนผนัง
“แบบนี้คงไม่ดีมั้งคะ”ในใจของส้งหวั่นหวั่นปรบมือว่าดีตั้งแต่แรกแล้ว แต่ในพื้นผิวนี้ก็ต้องแสร้งทำเป็นขี้อายสักหน่อย
“แล้วมันเป็นอะไรไป?ฉันบอกว่าได้ก็คือได้”โม่เสี่ยวฮุ่ยพูดขึ้นอย่างเอาแต่ใจ
“ถ้าอย่างนั้นก็เคารพเทียบไม่ได้กับทำตามคำสั่งแล้ว”ส้งหวั่นหวั่นแทบจะอดไม่ไหวที่อยากจะอยู่ที่นี่ตลอดไป
จากนั้นทั้งสองคนก็คุยกันไปอีกครั้ง และโม่เสี่ยวฮุ่ยก็เพิ่งจะโทรศัพท์หาลี่จุนถิง
“จุนถิง” โม่เสี่ยวฮุ่ยอ่อนโยนต่อลูกชายของเธอเสมอ
“อืม เป็นอะไรครับคุณแม่?”ถึงแม้ว่าบางทีลี่จุนถิงจะไม่ค่อยพอใจคุณแม่ของตัวเองมากนัก แต่ก็รู้ว่าโม่เสี่ยวฮุ่ยนั้นหวังดีกับตัวเองจริง ๆ
“ดึกขนาดนี้แล้วทำไมคุณยังไม่กลับมาทานข้าวอีกล่ะ?แม่ให้เชฟทำอาหารจานโปรดที่คุณชอบกินมากที่สุดให้ คุณรีบกลับมาเถอะ”
ลี่จุนถิงมองไปที่เอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ และเขาทำเสร็จเกือบจะหมดแล้ว จึงเอ่ยปากพูดว่า“ครับคุณแม่”
ลี่จุนถิงจัดการเอกสารเล่มสุดท้ายเสร็จก็กลับบ้านแล้ว
เมื่อกลับถึงบ้านและเห็นอาหารอันโอชะที่เต็มโต๊ะไปหมด ก็รู้สึกว่าท้องเริ่มหิวขึ้นมา จึงนั่งลงและทานอาหารเล็กน้อย
โม่เสี่ยวฮุ่ยยังช่วยลี่จุนถิงเอาไวน์มาหนึ่งขวด และบอกว่าเขาทำงานหนักเกินไป ควรที่จะมีความสุขกับมันบ้าง
ลี่จุนถิงคิดแล้วก็รู้สึกว่ามีเหตุผล ดังนั้นจึงดื่มไปหลายแก้ว
ระหว่างที่ทานอาหาร โม่เสี่ยวฮุ่ยก็ขึ้นไปที่ชั้นบน
“หวั่นหวั่น เป็นอย่างไรบ้าง?โม่เสี่ยวฮุ่ยเคาะประตูห้องรับแขก แล้วพูดเบาๆ ราวกับว่ากลัวลี่จุนถิงที่อยู่ชั้นล่างได้ยิน
“คุณป้า อันนี้ฉัน……”ส้งหวั่นหวั่นแสร้งทำเป็นลำบากใจ อยู่ภายในห้อง
“เป็นอะไร?ไหนให้ป้าดูหน่อย”โม่เสี่ยวฮุ่ยพูดแล้วก็เดินเข้าไปที่ห้องของส้งหวั่นหวั่น
และเมื่อเห็นเสื้อผ้าที่ส้งหวั่นหวั่นสวมใส่ ก็พยักหน้าด้วยความชื่นชม
“หวั่นหวั่นไม่เลวจริง ๆ หุ่นดีมากจริง ๆ”
เมื่อ่ได้ยินเช่นนั้น ถึงแม้ในใจของส้งหวั่นหวั่นจะมีความสุขมากจริง ๆ แต่เขาก็ยังแสร้งทำเป็นระมัดระวัง