บทที่ 107 พญามาโจมตี!
หยางเทียนตงมาถึงตีนเขาเพียรบำเพ็ญเซียน คุกเข่าลงตรงหน้าป้ายศิลา เริ่มโขกศีรษะคำนับกับพื้น

“อาจารย์ ศิษย์ผิดไปแล้ว”

“อาจารย์ ศิษย์ผิดไปแล้ว”

“อาจารย์ ศิษย์ผิดไปแล้ว”

……

ขณะที่เขาท่องนั้น ก็โขกศีรษะลงกับพื้นไม่หยุด

บนเขา

ไก่คุกรัตติกาลกระโดดผล็อยลงมาจากต้นฝูซัง เอ่ยด้วยความตื่นเต้น “ครึ่งปีศาจกลับมาแล้ว?”

ครึ่งปีศาจ?

สวินฉางอันพลันรู้สึกสนใจขึ้นมา หรือจะเป็นศิษย์พี่ใหญ่ที่พูดถึง

หานเจวี๋ยหมุนกายเดินกลับเข้าไปในถ้ำเทวาฟ้าประทาน ไก่คุกรัตติกาลและสวินฉางอันกลับเดินลงเขา

เมื่อกลับเข้ามาในถ้ำเทวาฟ้าประทาน หานเจวี๋ยก็รีบตรวจสอบปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดในสำนักหยกพิสุทธิ์

เขาไม่พบพญาอสรพิษหยก ทว่าตรวจสอบพบทหารปีศาจของพญาอสรพิษหยก ซึ่งเป็นปีศาจวิหคไม่กี่ตัว

เขาไม่ได้ไปจับปีศาจวิหคเหล่านั้น แต่กลับปล่อยให้พวกมันไปส่งข่าว และรอให้พญาอสรพิษหยกมาสังหาร

ช่วงเวลาต่อมา ศิษย์ของสำนักหยกพิสุทธิ์พากันทยอยกลับสำนัก มู่หรงฉี่ก็กลับมาแล้ว เขามาที่ใต้ต้นฝูซังเพื่อเริ่มฝึกฝนกับสวินฉางอัน และไม่ออกไปอีก

หยางเทียนตงรู้สึกตกตะลึงกับตบะของสวินฉางอันและมู่หรงฉี่มาก

ศิษย์หลานใกล้จะทะลวงถึงระดับปราณก่อกำเนิดแล้ว?

ทั้งยังไก่คุกรัตติกาลอีก!

ไม่คิดว่าจะมีตบะระดับสุญตา!

หยางเทียนตงยืนนิ่งไว้อาลัยให้สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นอย่างอดไม่ได้ เมื่อหลายปีก่อนสุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นเพิ่งจะทะลวงระดับเปลี่ยนวิญญาณ ทั้งยังคิดที่จะสั่งสอนไก่คุกรัตติกาลอีก ดูท่ามันคงจะหมดหวังเสียแล้ว

หานเจวี๋ยฟังพวกเขาพูดคุยกันอยู่ในถ้ำเทวา ถึงได้รู้ว่าตบะของสุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นเพิ่งจะอยู่แค่ระดับเปลี่ยนวิญญาณ ทำให้เขาหมดคำพูดอย่างอดไม่ได้

‘พวกเจ้ากล้าดีอย่างไรกัน!’

‘หนึ่งระดับปราณก่อกำเนิด หนึ่งระดับเปลี่ยนวิญญาณก็กล้าวางแผนโจมตีพญาอสรพิษหยกแล้วหรือ’

‘ไม่แปลกใจเลยที่พญาอสรพิษหยกจะโกรธถึงเพียงนั้น การถูกมดก่อกบฏเป็นการหยามเกียรติอย่างใหญ่หลวง’

‘โชคดีที่พวกเขาพบกับพวกหวงจุนเทียน มิเช่นนั้นคงตายไปเสียนานแล้ว’

หลายเดือนต่อมา

หลี่ชิงจื่อมาเยี่ยมเยียน

ยามที่เขาเห็นหยางเทียนตงยังโขกศีรษะอยู่ตรงตีนเขา สีหน้าก็แปลกประหลาดขึ้นในทันที

เมื่อเข้าไปในถ้ำเทวาฟ้าประทาน เขาก็ก้าวฝีเท้าไปตรงหน้าหานเจวี๋ยอย่างรวดเร็ว กล่าวอย่างรีบร้อนขึ้นว่า “ผู้อาวุโสหาน เกิดเรื่องใหญ่แล้ว พญาอสรพิษหยกนำทหารปีศาจบุกสังหารเข้ามาในต้าเยี่ยน ตามที่สัตว์เลี้ยงปีศาจของพวกเราสืบมา เป้าหมายของพวกเขาเป็นไปได้มากที่จะเป็นพวกเรา ที่แท้ครึ่งปีศาจที่พญาอสรพิษหยกตามล่าสังหารก็คือศิษย์ของท่าน…”

เขาเป็นผู้แนะนำหยางเทียนตงให้กับหานเจวี๋ย หยางเทียนตงยังเคยช่วยให้สำนักหยกพิสุทธิ์กับราชาปีศาจเตี่ยนซู่มีสัมพันธ์อันดีต่อกัน ซึ่งนับว่ามีผลงานอยู่มาก เพราะอย่างนั้นตอนนี้เขาก็ไม่อาจให้หานเจวี๋ยขับไล่หยางเทียนตงออกจากสำนักได้

“มาก็มาเถอะ บรรดาศิษย์กลับมาหมดแล้วหรือ แล้วตำหนักลับเล่า” หานกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ

ในใจเขายังคงรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง

หากไม่สามารถสังหารพญาอสรพิษหยกภายในชั่ววินาที จะทำให้พญาอสรพิษหยกหนีไปหรือไม่ เมื่อถึงตอนนั้นจะเกิดภัยพิบัติตามมาไม่จบสิ้น!

“กลับมาหมดแล้ว ตำหนักลับถูกผนึกเรียบร้อย ทางส่งตัวอื่นๆ ข้าทำลายหมดแล้ว หลังจากนี้สามารถผ่านเข้ามาได้เพียงสำนักหยกพิสุทธิ์” หลี่ชิงจื่อตอบ

หานเจวี๋ยพยักหน้า ประสิทธิภาพการทำงานของหลี่ชิงจื่อยังนับว่าค่อนข้างสูงนัก

หลี่ชิงจื่อถามอย่างระมัดระวัง “หลังจากนี้ก็แค่รอหรือ”

สถานการณ์ครั้งนี้ไม่เหมือนกับที่ผ่านมา พญาอสรพิษหยกเข้ายึดครองแดนบำเพ็ญพรตหลายเขต เขาโกรธขึ้นมาจริงๆ แล้ว

ความลำบากในครั้งนี้กล่าวได้ว่าเป็นภัยจากปีศาจที่พบเจอได้ยากในรอบหมื่นปี!

ลำพังแค่หานเจวี๋ยคนเดียว จะสามารถต้านทานได้จริงหรือ

“อืม” หานเจวี๋ยรับคำเพียงครั้ง

หลี่ชิงจื่อเห็นเช่นนี้ก็ได้แต่ระงับความหวาดหวั่นและความกระวนกระวายใจไว้ จากนั้นก็จากไป

รอกระทั่งเขาไปแล้ว หานเจวี๋ยถึงสูดหายใจเข้าลึกๆ

หญ้าโลกาสวรรค์ถูกเขาบรรจุไว้ในแจกันหยกขาวเรียบร้อย เตรียมพร้อมจะหนีได้ตลอดเวลา

แม้หานเจวี๋ยจะเชื่อมั่นในตนเอง แต่เขามักจะคิดถึงความเป็นไปได้ที่เลวร้ายที่สุดด้วยความเคยชิน

หากสู้ไม่ไหวจริงๆ คงได้แต่หนีจริงๆ แล้ว!

หานเจวี๋ยนำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาเริ่มสาปแช่งพญาอสรพิษหยก ครั้งนี้เขาไม่ได้สาปแช่งด้วยพลังทั้งหมด เพราะต้องเก็บพลังไว้เตรียมพร้อมต่อสู้ได้ตลอดเวลา

เพียงเล่นกับสภาพจิตใจของฝ่ายตรงข้ามก็พอแล้ว!

……

ทางเหนือของต้าเยี่ยน หิมะปกคลุมเต็มพสุธา

ปีศาจมากมายจำนวนนับไม่ถ้วนรวมตัวกันท่ามกลางหิมะที่ตกหนัก มีเงาร่างสูงใหญ่นับร้อยจั้งยืนองอาจอยู่บนพื้นหิมะ ในมือถือไม้เท้าพฤกษาทองอยู่ท่อนหนึ่ง

เขาก็คือพญาอสรพิษหยก!

พญาอสรพิษหยกที่ร่างสวมเกราะเกล็ดอสรพิษก้มลงมองราชาปีศาจเตี่ยนซู่ที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า กล่าวด้วยรอยยิ้มดุดัน “จะยอมจำนนหรือไม่”

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ที่กลายร่างเป็นมนุษย์ในยามนี้มีสภาพย่ำแย่อย่างหาที่เปรียบ บนกายเต็มไปด้วยโลหิต ศีรษะถูกพญาอสรพิษหยกเหยียบย่ำ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

ไม่ใช่แค่เขา ผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาเองก็ถูกปีศาจตนอื่นกำราบ ถูกเหยียบย่ำอยู่บนพื้นไม่ต่างกัน แต่ละตัวล้วนหวาดกลัว มองมาที่เขาอย่างสิ้นหวัง

เหล่าปีศาจต่างเข้าใจดีว่าหากราชาปีศาจเตี่ยนซู่ไม่ยอมจำนน พวกเขาอาจถูกสังหารตามปีศาจเตี่ยนซู่ไป

แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

เมื่อหวนนึกถึงภาพฉากเมื่อครู่นี้ เหล่าปีศาจก็ตัวสั่นสะท้านอย่างอดไม่ได้

ในใจของพวกเขาราชาปีศาจเตี่ยนซู่คือการดำรงอยู่ที่ไร้คู่ต่อสู้ ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับพญาอสรพิษหยกกลับไม่มีแรงที่จะโต้ตอบเลยแม้แต่น้อย!

“บัดซบ…”

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่กัดฟันกรอด เขารู้สึกอัดอั้นตันใจอย่างถึงขีดสุด

ตอนนั้นเอง

คิ้วของพญาอสรพิษหยกพลันขมวดมุ่น เกิดอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมา

“เจ้านั่นก็สมควรตายยิ่งนัก สาปแช่งข้าอีกแล้ว!”

พญาอสรพิษหยกด่าทอด้วยความโกรธเกรี้ยว เสียงของเขาราวกับระฆังที่ดังก้อง

สาปแช่ง?

เมื่อราชาปีศาจเตี่ยนซู่ได้ยินเช่นนั้น ก็นึกถึงเรื่องที่ตนเองเคยประสบพบเจอมาก่อนอย่างอดไม่ได้

ดูท่าเจ้าหมอนี่ก็ถูกเทพเซียนจับจ้องแล้ว!

ช่างเถอะ!

ก้มหัวให้ก่อน อย่างไรเสียเขาก็คงอยู่ได้ไม่นาน!

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ข้ายินยอมอยู่ใต้อำนาจ!”

พญาอสรพิษหยกแค่นเสียงเย็น ยกเท้าหินออก ขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณให้บริวารใต้อาณัติปล่อยคนของราชาปีศาจเตี่ยนซู่

“เจ้ารู้จักหยางเทียนตงหรือไม่” พญาอสรพิษหยกเอ่ยถาม เมื่อมือขวาพัดโบก หิมะก็ปลิวมารวมกันก่อตัวเป็นกระจกบานหนึ่ง ในกระจกปรากฏภาพใบหน้าของหยางเทียนตงขึ้นมา

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่เพิ่งจะตะเกียกตะกายลุกขึ้น เมื่อเพ่งสายตามองดูก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้ เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “นี่ไม่ใช่บุตรบุญธรรมของข้าหรอกหรือ หรือว่าเขาไปล่วงเกินอะไรท่าน”

บุตรบุญธรรม?

ดวงตาอสรพิษของพญาอสรพิษหยกเยือกเย็นขึ้นมาทันที

ปัก!

พญาอสรพิษหยกใช้ไม้เท้าตีเข้าที่ศีรษะของราชาปีศาจเตี่ยนซู่จนแตก เลือดสาดนองเต็มพื้น ทำเอาปีศาจทั้งหลายตกใจจนตัวสั่นเทิ้ม

จิตดั้งเดิมของราชาปีศาจเตี่ยนซู่ลอยออกจากกายเนื้อ ร่ำร้องด้วยความหวาดกลัว “พญาอสรพิษหยก! ท่านจะทำอะไร! ข้ายอมอยู่ใต้อำนาจแล้ว! หยางเทียนตงล่วงเกินท่าน ก็ไม่ใช่ว่าข้าเป็นคนสั่งให้ทำ!”

พญาอสรพิษหยกแค่นเสียงเอ่ย “เขาก็คำนับข้าเป็นบิดาบุญธรรมเช่นกัน อีกทั้งยังรวบรวมราชาปีศาจมาก่อกบฏ!”

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่นิ่งอึ้งไปทันที

ก่อกบฏ?

เฮือก…

“ข้าไม่ทำลายดวงจิตของเจ้า จากนี้ไปเจ้าไม่มีสัมพันธ์ใดๆ กับหยางเทียนตงอีก รอข้าจับหยางเทียนตงได้แล้ว หากเจ้ากล้าเอ่ยออกมาแม้ประโยคเดียว ข้าจะทำให้เจ้าไม่อาจเกิดใหม่ได้!”

ใบหน้าของพญาอสรพิษดุดันเป็นยิ่งนัก และยังกล่าวด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น เพลิงโทสะประทุขึ้นในใจของเขาอีกครั้ง

เจ้าลูกสุนัข!

คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะยังคำนับราชาปีศาจตนอื่นเป็นบิดาบุญธรรม!

พญาอสรพิษหยกรู้สึกว่าตนเองถูกหยามเกียรติเข้าแล้ว!

ไม่อาจทนได้!

……

หน้าป้ายศิลาบนเขาเพียรบำเพ็ญเซียน

หยางเทียนตงยังคงโขกศีรษะอยู่เช่นนั้น

ครืน ครืน…

เสียงฟ้าร้องทำให้หยางเทียนตงที่อยู่ในภวังค์ตกใจตื่นขึ้นมาทันใด เขาเงยหน้ามองออกไป เมฆสีทะมึนม้วนตัวพวยพุ่งเข้ามา นั่นก็คือเมฆครึ้มที่ก่อตัวขึ้นจากไอปีศาจ!

ราวกับเขานึกอะไรขึ้นมาได้ สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นตกใจกลัวขึ้นมาทันที หันหน้ามองไปตรงขอบฟ้า ไอปีศาจปกคลุมฟ้าดินกลืนกินไปทั่วภูเขาธารา ราวกับจู่โจมมาจากขุมนรก น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก

พญาอสรพิษหยกมาแล้ว!

ไม่เพียงแต่หยางเทียนตงเท่านั้นที่ตกใจ ผู้คนทั้งหลายในสำนักหยกพิสุทธิ์ก็ตกใจจนพากันออกจากถ้ำเทวาและหอของตนเอง

“ผู้อาวุโสทั้งหลาย รีบพาศิษย์แต่ละยอดเขามุ่งหน้าไปยังค่ายกลใหญ่คุ้มกันสำนัก และรีบเปิดค่ายกลทันที!”

เสียงของกวนโยวกังดังสะท้านไปทั่วสำนัก ผู้คนทั้งหลายต่างฟังออกถึงความเคร่งเครียดในน้ำเสียงของเขา

บรรดาศิษย์ต่างเหาะเหินไปยังทิศทางต่างๆ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นไม่ขาดสาย

“พญาอสรพิษหยกมาแล้วหรือ”

“จบเห่แล้ว พวกเราจะต้านได้หรือ”

“ได้ยินว่าเขตอื่นๆ ถูกยึดครองหมดแล้ว!”

“ให้ตายสิ! เหตุใดท่านเจ้าสำนักถึงไม่พาพวกเราหนีนะ ตอนนี้พวกเราล้วนเป็นตะพาบในอ่างน้ำไม่อาจหนีรอดแล้ว!”

“หนี? เจ้าจะหนีไปที่ใด เขตและราชวงศ์รอบๆ ต้าเยี่ยนล้วนถูกปีศาจรุกรานจนหมด จะหนีอย่างไรก็ไร้ประโยชน์ ไม่สู้รวมตัวกัน อย่างน้อยก็ยังมีพลังต้านทาน!”

……

เรื่องของพญาอสรพิษหยกได้ถูกเล่าขานขึ้นตั้งแต่หลายปีก่อน เหล่าลูกศิษย์ต่างหวาดกลัวอย่างถึงขีดสุด แต่โชคดีที่คนเยอะพลังมาก ไม่ถึงกับทำให้ฐานที่มั่นสั่นคลอน

“เจ้าลูกทรพี! ข้ายังคิดว่าเจ้าจะหนีไปที่ไหน คิดไม่ถึงว่าจะหนีมาสำนักที่เล็กจ้อยเช่นนี้ วันนี้ข้าจะกินคนในสำนักเล็กๆ นี้ให้หมด! ดูสิว่าเจ้าจะหนีไปไหนได้!”

เสียงหัวเราะเย็นยะเยือกดังสะท้านไปทั่วผืนฟ้าพื้นปฐพี หยางเทียนตงตกใจจนใบหน้าซีดเผือด

……………………………………….