ตอนที่ 88 ก้นขาวหรือไม่
ในหมู่บ้านมีหลายครอบครัวที่โดนนินทาว่าร้ายทั้งต่อหน้าและลับหลัง ตอนนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งในหมู่บ้านโดนสตรีนางนี้ไปเห็นว่าใกล้ชิดกับชายหนุ่มคนหนึ่ง นางใส่สีตีไข่แล้วนินทาเรื่องของหญิงสาวคนนั้นไปทั่วหมู่บ้าน ทำให้หญิงสาวอับอายจนไม่กล้าออกจากบ้านเป็นเวลานาน !
เมื่อนึกถึงเรื่องเหล่านี้แล้ว สายตาของชาวบ้านที่มองไปยังมารดาของเจ้าอ้วนซานก็ไม่ได้แฝงไปด้วยความเห็นอกเห็นใจอีกต่อไป
หมู่บ้านฉือหลี่โกวมีหลายครอบครัวที่อพยพมาจากต่างถิ่น ดังนั้นหากจะให้ผู้ใหญ่บ้านลำเอียงอย่างเปิดเผยก็คงไม่เหมาะสมสักเท่าไร เขาเหลือบมองบิดาของเจ้าอ้วนซานคราหนึ่งเพื่อส่งสัญญาณให้รีบตอบรับเรื่องแม่แพะเพื่อเป็นการจบเรื่องนี้โดยเร็ว !
แม้จะบอกว่าแม่แพะตัวนั้นมีรูปร่างผอมแห้งไปหน่อย แต่หากนำไปขายในเมืองก็ยังสามารถแลกเป็นเงินได้สองสามตำลึง เดิมทีมารดาของเจ้าอ้วนซานคิดจะเลี้ยงไปถึงช่วงก่อนปีใหม่แล้วค่อยขายให้ได้ราคาดี ดังนั้นนางจะทำใจยกให้ผู้อื่นได้อย่างไร ?
ได้ ข้ารู้ทางเลือกของเจ้าแล้ว ! เจ้ายอมที่จะเปิดก้นให้ผู้อื่นดู แต่ไม่ยอมมอบแพะให้ข้า ! ข้าเองก็ไม่ใช่คนขาดแคลนเงินทองอันใด ดังนั้นเป้าหมายของข้าก็คือสั่งสอนให้เจ้าหลาบจำเสียบ้าง ! หลินเว่ยเว่ยถลกแขนเสื้อแล้วก้าวขึ้นไปบนบันไดและเริ่มปลดผ้าคาดเอวของมารดาเจ้าอ้วนซาน
ชาวบ้านที่มามุงดูต่างพากันยืดคอออกมาโดยพร้อมเพรียง พวกเขาเบิกตากว้างพลางจ้องเขม็งเพื่อพิสูจน์ว่าก้นของมารดาเจ้าอ้วนซานขาวหรือไม่…
มารดาของเจ้าอ้วนซานที่ตัวห้อยต่องแต่งอยู่ด้านบนได้เห็นปฏิกิริยาของทุกคนอย่างชัดเจน นางเริ่มรู้สึกกลัวว่าหากโดนถอดกางเกงต่อหน้าทุกคน นางจะมีหน้าใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร เมื่อคิดได้ดังนั้นนางก็น้ำตาไหลพรากและร้องไห้ออกมาอย่างโหยหวน เจ้ากำลังบีบให้ข้าตาย ! เจ้ามันใจดำอำมหิต เจ้ากำลังจะบีบเอาชีวิตของข้า !
แล้วถ้อยคำที่เจ้าใส่ร้ายข้ามาโดยตลอดไม่ใช่การเอาชีวิตข้าหรือ ? ถ้อยคำของเจ้าร้ายกาจเพียงนั้น ตอนที่เจ้าว่าร้ายผู้อื่นเคยเอาใจเขามาใส่ใจเราหรือไม่ ? เคยคิดบ้างหรือไม่ว่าวันหนึ่งผลกรรมทั้งหมดจะตกอยู่ที่ตนเอง ? หลินเว่ยเว่ยปลดผ้าคาดเอวของมารดาเจ้าอ้วนซานสำเร็จแล้วทำให้กางเกงที่หลวมของอีกฝ่ายพร้อมหลุดได้ทุกเมื่อ
หยุดเดี๋ยวนี้ ! หยุด ! ! เรายินดีชดใช้ ! ยินดีชดใช้แพะตัวนั้นให้แก่เจ้า ! บิดาของเจ้าอ้วนซานเป็นคนรักศักดิ์ศรีของตนอยู่ไม่น้อย ต่อให้ภรรยามีข้อเสียมากมายเพียงใด แต่พวกเขาก็อยู่ด้วยกันมาจนมีบุตรสาว 3 คน บุตรชายอีก 1 คน หากนางถูกเปลือยก้นต่อหน้าทุกคน เช่นนั้นบุตรสาวบุตรชายจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด !
มารดาของเจ้าอ้วนซานยกสองมือดึงกางเกงเอาไว้ ตัวของนางแกว่งไปมาพลางร้องไห้ฟูมฟายราวกับวิญญาณแขวนคอตาย แพะของข้า ! ข้าอุตส่าห์ฟูมฟักมันมากว่าครึ่งปีอย่างยากลำบาก…
ชุนหยา เจ้าไปจูงแม่แพะตัวนั้นมาจากบ้านพวกเราเถิด… บิดาของเจ้าอ้วนซานมีสีหน้าหม่นหมองอยู่ไม่น้อย เวลานี้ราวกับพลังชีวิตของเขาถูกสูบไปจนเกือบหมดอย่างไรอย่างนั้น
หลินเว่ยเว่ยเห็นว่าแพะถูกจูงมาแล้วจึงให้เจ้าหนูน้อยจูงมันไปไว้ที่สวนหลังบ้าน จากนั้นก็หิ้วมารดาของเจ้าอ้วนซานพร้อมกระโดดลงจากบันไดแล้วโยนนางลงไปบนพื้นราวกับโยนสิ่งของสกปรกก็มิปาน เอาล่ะ ตอนนี้ถึงเวลาขอโทษแล้ว !
แพะของข้า ! ฮือ แพะของข้า ! มารดาของเจ้าอ้วนซานล้มฟุบไปกับพื้นพลางร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลเปรอะเปื้อนใบหน้า แต่ไม่สามารถทำให้ผู้อื่นเห็นอกเห็นใจได้
บิดาของเจ้าอ้วนซานกลัวว่าเรื่องจะยิ่งไปกันใหญ่จึงรีบไปลากภรรยาขึ้นมาแล้วจับตัวนางโค้งขอโทษไม่หยุด เป็นความผิดของเมียข้าเอง ต่อไปนี้ข้าจะดูแลนางให้ดี จะไม่ให้นางไปพูดว่าร้ายผู้อื่นอีก เร็วเข้า ! รีบพูดขอโทษเร็ว…
ฮือออ…แพะของข้า… มารดาของเจ้าอ้วนซานยังร้องไห้ฟูมฟายและพิงสามีของตน ปากก็พึมพำถึงแม่แพะไม่หยุด
หลินเว่ยเว่ยคิดว่าสิ่งเหล่านี้น่าจะเพียงพอให้มารดาของเจ้าอ้วนซานจดจำไปชั่วชีวิต ไป ! วันหน้าหากจะพูดสิ่งใดออกมาก็หัดมีคุณธรรมเสียบ้าง กรรมจะได้ไม่ตกอยู่บนตัวบุตรชายและบุตรสาวของพวกเจ้า !
บิดาของเจ้าอ้วนซานพยุงภรรยาออกไป ชาวบ้านที่มาร่วมชมเหตุการณ์ต่างแยกย้ายกันกลับบ้านของตน และเรื่องราวทั้งหมดก็เป็นอันจบลงเท่านี้ ชื่อเสียงในด้านความเก่งกาจของหลินเว่ยเว่ยได้แพร่สะพัดไปทั่วหมู่บ้าน ขนาดว่ามารดาของเจ้าอ้วนซานยังตกอยู่ในกำมือนางโดยไม่อาจหลีกหนีได้ ลำพังแค่ความกล้าแสนน้อยนิดของพวกตนมีหรือจะกล้ารังแกนาง
ท่านแม่เจ้าคะ ในท้องของแม่แพะตัวนี้มีลูกอยู่ อีกไม่เกินสองเดือนก็น่าจะได้ดื่มน้ำนมแพะกันแล้ว ! หลินเว่ยเว่ยลูบแม่แพะอย่างชื่นชมยินดี
นางหวงถอนหายใจออกมาแล้วกล่าวว่า ลูกนะลูก ! แม่บอกเจ้าตั้งหลายคราแล้วว่าเวลาจะทำสิ่งใดต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี เรื่องนี้แม้ดูเหมือนว่าเจ้าเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่ในความเป็นจริงแล้วเจ้าเสียเปรียบอยู่มาก !
หลินเว่ยเว่ยได้ยินดังนั้นจึงหันไปมองมารดาด้วยความไม่เข้าใจ ท่านแม่เจ้าคะ ข้าเสียเปรียบตรงไหนหรือ ?
ชื่อเสียงสำคัญที่สุดสำหรับสตรี ชื่อเสียงเรื่องเก่งกาจของเจ้าแพร่กระจายออกไปเช่นนี้ ในอนาคตเรื่องแต่งงานของเจ้า… ตอนนี้เรื่องแต่งงานของบุตรสาวคนรองกลายเป็นความกังวลใจของนางหวงไปแล้ว
เฮอะ ! ท่านแม่ ท่านคิดมากเกินไปแล้ว ! น้องสี่เคยกล่าวไว้ว่าถ้าในอนาคตไม่มีผู้ใดแต่งงานกับข้า เขาจะเป็นคนเลี้ยงดูข้าเอง หลินเว่ยเว่ยเบนความสนใจจากแม่แพะไปที่เจ้าหนูน้อย
เจ้าหนูน้อยได้ยินดังนั้นก็รีบพยักหน้าทันที อืม ใช่ขอรับ ! ข้าจะเลี้ยงกระต่ายไว้เยอะ ๆ เพื่อขายเอาเงินมาดูแลพี่สาว
เช่นนั้น…หากภรรยาของเจ้าไม่ยอมเลี้ยงพี่สาว เกิดว่านางไล่ข้าออกจากบ้าน เจ้าจะทำเช่นไร ? หลินเว่ยเว่ยเริ่มหยอกน้องชาย
เจ้าหนูน้อยขมวดคิ้วแล้วกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า หากนางไม่ยอม ข้าก็จะไล่นางกลับบ้านมารดาของนาง ! เพราะข้าจะเอ่ยไว้ตั้งแต่แรกว่าหากไม่ยอมดูแลพี่รอง ข้าก็จะไม่แต่งด้วย !
หลินเว่ยเว่ยลูบแก้มน้องชายแล้วหอมแก้มนิ่มด้วยความเอ็นดู พี่รองรักเจ้าไม่เสียเปล่า ! คืนนี้ข้าจะทำไก่ตุ๋นโสมให้เจ้า !
นางหวงส่ายหน้าอย่าจนใจแล้วหันไปมองคู่พี่น้องที่ ‘รับส่ง’ กันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย ไก่ตุ๋นโสมหรือ ? เจ้าอย่าเปลี่ยนเรื่องนะ เจ้ารอง นี่เจ้าไม่คิดจะแต่งงานกับผู้ใดจริงหรือ ?
หลินเว่ยเว่ยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ท่านแม่เจ้าคะ ท่านอย่าเพิ่งคิดมากไปเลย ตอนนี้ท่านรักษาสุขภาพให้ดีก็พอแล้ว ! ไม่ต้องกังวลเรื่องการแต่งงานของข้าหรอก ! ท่านคิดสิว่าพวกเราใช้เวลาไม่กี่วัน ผลไม้อบแห้งที่เราทำขายได้เงินตั้งสิบกว่าตำลึงแล้ว เราทำผลชิงอบแห้งแล้วก็จักมีลูกบ๊วย พอถึงฤดูใบไม้ร่วงก็จะมีพวกถั่วอบ ! พอนับรายได้ทั้งปีแล้วพวกเราสามารถทำเงินได้เกิน 100 ตำลึงได้อย่างสบาย พอถึงตอนนั้นท่านก็บอกไปสิว่าจะมอบสินเดิมให้บุตรสาวมากหน่อย ท่านยังกังวลเรื่องที่จะไม่มีคนมาแต่งกับบุตรสาวอีกหรือเจ้าคะ ?
นางหวงคิดตามอย่างละเอียดจึงได้เข้าใจว่าเป็นอย่างที่บุตรสาวเอ่ยไว้จริง นางคิดว่าต้องมีเงินเก็บให้มากจึงจะสามารถเลือกคู่ครองดี ๆ ให้บุตรสาวได้ ดังนั้นนางจึงหันไปมองบุตรีแล้วกล่าวว่า ต่อไปนี้แม่จะเป็นคนเก็บเงินที่ขายผลไม้อบแห้งเองเพราะเจ้าเป็นคนใช้เงินมือเติบ หากเงินอยู่ในมือเจ้าก็มีแต่จะหมดไปอย่างสูญเปล่า
ได้เจ้าค่ะ ! ต่อไปนี้ข้าจะให้ท่านเป็นคนเก็บเงินที่ครอบครัวหามาได้ทั้งหมด ! หลินเว่ยเว่ยตอบรับทันที จริงสิ ข้ายังมีธุระต้องไปหาหมอเหลียง ในกระบุงของข้ามีไก่ป่าอยู่ตัวหนึ่ง ท่านแม่ช่วยเรียกพี่ใหญ่มาจัดการที หลังจากข้ากลับมาแล้วจะตุ๋นเป็นซุปให้ท่านดื่ม ไก่ตุ๋นกับเขากวางอ่อนและโสมมีสรรพคุณช่วยบำรุงหยวนชี่1 ท่านแม่กับบัณฑิตน้อยต้องดื่มให้มากหน่อย !
โสมอันใด ? แล้วเจ้าเอ่ยถึงเขากวางจากที่ใด ? ลูกแม่ อย่าบอกว่าเจ้าซื้อของแพงมาอีกแล้ว ? ของพวกนั้นมีราคาแพงมาก คิดว่ามันเป็นของที่เราจะกินได้หรือ ? นางหวงได้ยินดังนั้นก็รู้สึกร้อนใจ
หลินเว่ยเว่ยหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ ท่านแม่ไม่ต้องกังวลเพราะข้าไม่ได้ใช้เงินซื้อมาเจ้าค่ะ !
หลังออกจากบ้านมาแล้วนางก็รีบวิ่งไปที่บ้านของหมอเหลียงและอาศัยความมืดเข้ามาบดบังเพื่อนำกวางที่นางจับได้ขึ้นมาพาดไว้บนบ่า
หมอเหลียง ท่านหมอเหลียง ! หลินเว่ยเว่ยเห็นว่าประตูบ้านของหมอเหลียงโอนเอนเหมือนใกล้พังเต็มที ในใจของนางก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจขึ้นมา ไม่ว่าอย่างไรพรุ่งนี้นางก็จะมาช่วยหมอเหลียงซ่อมประตูบ้านให้ได้ !
หมอเหลียงที่กำลังอ่านตำราแพทย์ใต้แสงไฟจากตะเกียงได้ยินนางตะโกนเรียกก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ มีอันใดอีกหรือ ? ข้าบอกเจ้าไปแล้วไม่ใช่หรือว่าบัณฑิตเจียงไม่ได้เป็นอันใด…
เมื่อเขาเดินออกมาจากในห้องแล้วเห็นว่าหลินเว่ยเว่ยกำลังแบกกวางตัวหนึ่งเดินเข้ามาภายใต้แสงจันทร์ ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มกว้างออกมา ‘นี่นาง…เอาของมามอบให้ข้าหรือ ? ’
1 หยวนชี่ คือ พลังชีวิต
ตอนต่อไป