ตอนที่ 87 สังหารพ่อแม่หรือขุดสุสานบรรพบุรุษของเจ้า

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

ตอนที่ 87 สังหารพ่อแม่หรือขุดสุสานบรรพบุรุษของเจ้า

บังเอิญกับที่นางหวงเพิ่งจะได้สติคืนมาจึงได้ยินถ้อยคำของบุตรสาวและพยายามยืนให้มั่นคง เร็วเข้า รีบพาหานเอ๋อร์ไปวางไว้บนเตียงในห้องนอนของเจ้าสามก่อน เอ้อร์หวา รีบไปจุดไฟต้มยาเร็วเข้า !

หลินเว่ยเว่ยอุ้มบัณฑิตหนุ่มไปยังห้องทางทิศตะวันออกแล้วหันมาเอ่ยกับมารดาของเจ้าอ้วนซาน เจ้าอย่าเพิ่งไป อีกประเดี๋ยวพวกเรามาคุยกันหน่อย !

เจ้าว่าอย่างไรนะ ? คิดว่าข้ากลัวเจ้าหรือ ? มารดาของเจ้าอ้วนซานเหลือบมองโต๊ะหินในลานบ้าน ทันใดนั้นก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันที เท้าของนางก้าวออกไปด้านนอกโดยไม่รู้ตัว

นางเฝิงรู้สึกกังวลกับบุตรชายของตน เมื่อเห็นว่ามารดาของเจ้าอ้วนซานไม่มีท่าทีสำนึกผิดเลยแม้แต่น้อย นางจึงกล่าวด้วยความโมโห เสี่ยวเว่ยของพวกข้าไปสังหารพ่อแม่หรือขุดสุสานบรรพบุรุษของเจ้า ? เจ้าจึงทำลายชื่อเสียงของนางมากเพียงนี้ คำพูดให้ร้ายที่เจ้ากล่าวออกมาคือต้องการบีบบังคับให้สตรีนางหนึ่งตายใช่หรือไม่ !

มารดาของเจ้าอ้วนซานเป็นคนไร้เหตุผลจึงคิดจะโวยวายต่อ นางเถียงคอเป็นเอ็นว่า นางเป็นอันใดกับเจ้า ? เหตุใดต้องปกป้องนางถึงเพียงนี้ ? ถ้าเจ้าสงสารนางก็แต่งนางเป็นลูกสะใภ้เลยสิ ! ถึงอย่างไรเสื้อผ้าของบุตรชายเจ้าก็ถูกนางถอดออกแล้ว ทั้งริมฝีปากของนางก็สัมผัสโดนผิวของบุตรชายเจ้าด้วย…

หลินเว่ยเว่ยวางร่างบัณฑิตหนุ่มลงในห้องแล้วเดินออกมา เมื่อได้ยินเช่นนั้นนางก็เดินตรงไปเบื้องหน้าของมารดาเจ้าอ้วนซานและด้วยร่างกายที่สูงเกือบ 1.7 หมี่1ของนาง เมื่อมาเผชิญหน้ากับมารดาของเจ้าอ้วนซานที่ผอมแห้งและสูงประมาณ 1.5 หมี่ หลินเว่ยเว่ยไม่ต้องพูดอันใดหรอก ลำพังแค่พละกำลังก็สามารถกดดันอีกฝ่ายได้แล้ว

มารดาของเจ้าอ้วนซานเป็นคนแข็งนอกอ่อนใน นางถอยไปหลายก้าวแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเทาว่า เจ้า…เจ้าจะทำอันใด ? นางเด็กโง่จะฆ่าคน ! สามี…ช่วยข้าด้วย…

หลินเว่ยเว่ยคว้าคอเสื้อของอีกฝ่ายเอาไว้แน่น จากนั้นเท้าของมารดาเจ้าอ้วนซานก็ลอยขึ้นเหนือพื้นและตอนนี้ก็ถูกหลินเว่ยเว่ยยกจนตัวลอย ‘หรือว่านางเด็กอ้วนอยากทุบข้าให้ตายคามือ ? ’

อย่า ! แม้นางจะปากร้ายแต่ก็พูดไปเรื่อยเท่านั้น ! เห็นแก่ที่เป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน เจ้าไว้ชีวิตนางสักครั้งเถิด ข้ารับประกันว่าต่อไปนี้ข้าจะคอยดูแลนาง ไม่ให้นางมาขวางหูขวางตาเจ้าอีก ข้าขอโทษแทนนางด้วย ! บิดาของเจ้าอ้วนซานเดินไปเพื่อจะจับแขนของหลินเว่ยเว่ยแต่ถูกสะบัดออกจนตัวเขาเซถอยหลัง

หลินเว่ยเว่ยทำเสียงฟึดฟัดด้วยความไม่พอใจ นางใส่ร้ายและจงใจปล่อยข่าวลือเพื่อทำลายผู้อื่น ! ตัวข้าไม่เป็นไรหรอก อย่างมากก็แค่ไม่แต่งกับผู้ใดชั่วชีวิต แต่บัณฑิตเจียงยังต้องเข้าสอบซิ่วไฉ สอบจอหงวน จะให้เรื่องไม่ดีมาแปดเปื้อนคุณธรรมและชื่อเสียงของเขาไม่ได้ หากเจ้าทำลายอนาคตอันสดใสของเขา ข้าจะทำให้พวกเจ้าทั้งครอบครัวต้องล่มจมไปพร้อมกับเขา !

มารดาของเจ้าอ้วนซานขาห้อยต่องแต่งกลางอากาศ กระนั้นก็ยังมิวายที่จะแถอย่างหน้าด้าน ๆ ต่ออีก นี่ข้าช่วยเจ้าอยู่นะ เมื่อก่อนเจ้าเป็นคนโง่เขลา ในอนาคตหากคิดแต่งออกไปก็คงหาคนดีได้ยาก สู้ใช้โอกาสที่ได้แตะเนื้อต้องตัวบัณฑิตเจียงมาแต่งเข้าเป็นสะใภ้เสีย…

แตะเนื้อต้องตัวหรือ ? เช่นนั้นหากข้าจับเจ้าโยนไปในเล้าหมูแล้วกดตัวเจ้าให้แตะเนื้อต้องตัวกับมัน เจ้าก็ต้องแต่งงานกลายเป็นแม่หมูใช่หรือไม่ ? หลินเว่ยเว่ยทำหน้าตากรุ้มกริ่ม

เจียงโม่หานที่แสร้งหมดสติอยู่ภายในห้องทางทิศตะวันออกรู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมา ‘นางหมายความว่าอย่างไร ? นี่นางเทียบข้ากับหมูหรือ ? ’

เช่นนั้นข้าก็จะสามารถเที่ยวบอกผู้อื่นได้ว่าเจ้าเป็นผู้มีรสนิยมประหลาด ไม่ชอบสามีตนเองแต่ดันไปชอบหมูตัวผู้ หลินเว่ยเว่ยดันอีกฝ่ายเข้ามาประชิด

มารดาของเจ้าอ้วนซานหน้าเขียวด้วยความโมโหราวกับมะเขือยาว ตอนนี้นางเตะขาฟาดแขนปัดป่ายไปทั่วราวกับวิญญาณที่ตายแล้ว หมูตัวผู้อันใด ? เดิมทีหมู่บ้านของเราก็ไม่ได้เลี้ยงหมูอยู่แล้ว เจ้าอยากใส่ร้ายข้าก็ช่วยทำให้มันน่าเชื่อถือหน่อยได้หรือไม่ ?

ได้ ข้ารู้ว่าที่ใดมีหมูป่า ประเดี๋ยวข้าจะไปแบกมันกลับมาเพื่อสนองตัณหาอันแสนประหลาดของเจ้าเอง เจ้ารอดูได้เลย หลินเว่ยเว่ยแกว่งมารดาของเจ้าอ้วนซานเหมือนตอนที่แกว่งหมาป่าสีเทาตัวนั้น

มารดาของเจ้าอ้วนซานได้ยินเสียงดัง ‘แควก’ ตอนนี้เสื้อผ้าของตนมีรอยขาดแล้ว ดังนั้นจึงหยุดดิ้นรนทันที นางถูกยกตัวสูงถึงเพียงนี้ ถ้าตกลงมาก็มีหวังได้เจ็บตัวแน่ ! แล้วถ้าบุตรสาวคนรองของตระกูลหลินคิดทำร้ายนางโดยทำให้นางแขนหักขาหักแต่กล่าวอ้างว่านางตกมาเอง เช่นนั้นก็ได้ไม่คุ้มเสียแน่นอน !

มารดาของเจ้าอ้วนซานกัดฟันถามด้วยความประหม่า แล้วเจ้าจะเอาอย่างไร ?

เมื่อทำผิดและเอ่ยถ้อยคำผิด ๆ เพื่อให้ร้ายผู้อื่นก็ต้องขอโทษผู้เสียหายด้วยความจริงใจ ยิ่งไปกว่านั้นต้องชดใช้ให้ข้าเป็นเงินจำนวน 5 ตำลึง ! หากไม่ให้มารดาของเจ้าอ้วนซานชดใช้เงินบ้างก็จะไม่รู้จักเข็ดหลาบ ! หลินเว่ยเว่ยรำคาญคนประเภทนี้ที่สุดเพราะไม่ต่างอันใดจากแมลงวัน !

5 ตำลึงเชียวหรือ ? เหตุใดเจ้าไม่ปล้นข้าเลยเล่า ? เสียงของมารดาเจ้าอ้วนซานแหลมแสบหูราวกับไก่โดนเชือด

หลินเว่ยเว่ยกระตุกมุมปากขึ้นแล้วเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา ข้าเห็นว่าเจ้าไม่มีเจตนาที่จะขอโทษหรือชดใช้อันใดทั้งสิ้น เช่นนั้นก็ได้ เจ้ารอไปนอนกับหมูป่าตัวผู้ได้เลย ! ถึงตอนนั้นถ้าหมูป่ามันคึกเกินไปจนทำร้ายเจ้าจนได้รับบาดเจ็บก็อย่ามาโทษว่าข้าไม่เตือนแล้วกัน !

บิดาของเจ้าอ้วนซานนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายเคยใช้มือทุบหมูป่าจนตาย แม้ว่าคนในหมู่บ้านยังไม่เคยมีผู้ใดได้เห็นกับตามาก่อน แต่ลำพังพละกำลังทั้งตัวก็เพียงพอที่จะกระตุ้นหมูป่าได้อย่างง่ายดาย หากภรรยาของเขาถูกบุตรสาวคนรองตระกูลหลินจับกดไว้กับหมูป่าตัวผู้จริง ต่อให้นางไม่ตายก็อาจมีสภาพย่ำแย่ แล้วถ้ามีคนที่ชอบซุบซิบนินทานำไปเล่าต่อ เช่นนั้นครอบครัวของเขาจะมีหน้าพบเจอผู้อื่นได้อย่างไร ?

ขออภัยด้วย พวกข้าต้องอภัยเจ้าจริง ๆ จะให้พวกข้าคุกเข่าต่อหน้าก็ได้ ! ทว่าเงิน 5 ตำลึงนี้เป็นเงินที่เยอะมาก ครอบครัวข้าแทบไม่มีข้าวจะกินอยู่แล้ว พวกข้าไม่มีให้หรอก… บิดาของเจ้าอ้วนซานทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ทั้งยังพยายามอ้อนวอนไม่หยุด

หลินเว่ยเว่ยชำเลืองมองไปที่เขาแล้วกล่าวว่า บ้านของพวกเจ้าเลี้ยงแพะไว้ 2 ตัวมิใช่หรือ ? เช่นนั้นก็เอาแม่แพะ 1 ตัวมามอบให้ข้าแทน !

มารดาของเจ้าอ้วนซานได้ยินเช่นนั้นก็กรีดร้องโหยหวนราวกับมีใครมาแล่เนื้อของนาง ฆ่ากันเสียดีกว่า ! เจ้าเป็นโจรหรือไร ? ผู้ใดกล้ามาเอาแพะของบ้านข้าไป ข้าจะไปสู้กับคนผู้นั้น

สู้หรือ ? เช่นนั้นเจ้าต้องมีคุณสมบัติพอเสียก่อน ! หลินเว่ยเว่ยรู้สึกรำคาญมารดาของเจ้าอ้วนซานที่ดิ้นอยู่ในมือไม่หยุด นางจึงเอาเชือกไปมัดไว้บนกิ่งไม้แล้วจับมารดาของเจ้าอ้วนซานมัดไว้บนนั้น เจ้าอย่าดิ้นนักเลย ถ้าตกลงมาแล้วเป็นอันใดไป ข้าไม่รับผิดชอบเด็ดขาด !

มารดาของเจ้าอ้วนซานได้ยินเสียงเสื้อของตนที่แขวนอยู่กับกิ่งไม้ขาดดัง แควก ! นางจึงเหลือบไปมอง สูงมาก ! ถ้าตกลงไปก็มีหวังได้แข้งขาหักแน่นอน

ฆ่าคนก็แค่การพยักหน้าเพียงครู่เดียวเท่านั้น ! หากจะเอาแพะ ข้าไม่ให้หรอก เจ้ามาเอาชีวิตข้าไปดีกว่า ! มารดาของเจ้าอ้วนซานมั่นใจแล้วว่าหลินเว่ยเว่ยไม่กล้าทำร้ายตน ดังนั้นจึงพูดอย่างไม่เกรงกลัว

หลินเว่ยเว่ยได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะเยาะ เอาชีวิตเจ้าหรือ ? เช่นนั้นทางการก็มาจับข้าน่ะสิ ! หากเจ้าไม่ให้แพะก็ได้ แต่เจ้าทำลายชื่อเสียงของข้าไปแล้ว เช่นนั้นข้าจะฉีกเสื้อผ้าเจ้าให้หมด ให้บรรดาบุรุษน้อยใหญ่ตรงนี้ได้เห็นว่าผิวของเจ้าขาวหรือไม่ เนียนนุ่มหรือเปล่า…

ผู้ใหญ่บ้านทนฟังต่อไปไม่ได้แล้ว เช่นนั้นมันต่างอันใดจากการฆ่านาง ?

หลินเว่ยเว่ยหุบยิ้มทันที แล้วถ้อยคำของนางว่าร้ายข้าเล่า ? นางคิดเหลือทางรอดให้ข้าหรือไม่ ? หากข้ามาช้ากว่านี้อีกก้าวเดียว นางคงบีบคั้นจนท่านแม่ต้องตาย ! เพราะนางอยากเอาเปรียบบ้านของข้าแต่ทำไม่ได้ นางจึงแว้งกัดราวกับสุนัขบ้า ! เพื่อนบ้านทั้งหลาย พวกท่านลองคิดให้ดีว่าตนมีสิ่งใดที่นางอิจฉาหรือไม่ บ้านของพวกท่านคงมีบุตรสาวหรือสะใภ้เช่นกัน หากเราไม่สั่งสอนบทเรียนให้นางเข็ดหลาบบ้างก็ไม่รู้ว่าต้องมีอีกกี่คนที่ชื่อเสียงแปดเปื้อนเพราะปากของนาง

มารดาของเจ้าอ้วนซานเป็นคนปากเสียและชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น ดังนั้นจึงสร้างความไม่พอใจให้ชาวบ้านไปทั่ว

1 หมี่ คือ เมตร

ตอนต่อไป