ตอนที่ 167 แผนวาดล้าง

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature )

ตอนที่ 167 – แผนกวาดล้าง

  นับถอยหลัง 168:00:00

  ตอนที่ความมืดมิดยุติลง ชิ่งเฉินยังคงยืนอยู่ในเกาะกลางถนนเงียบ ๆ 

  7 วันก่อน เขาก็ยืนอยู่ที่นี่รายงานชิ่งกั๋วจง จากนั้นมองดูอีกฝ่ายถูกตำรวจพยุงขึ้นรถตำรวจกับตา 

  ณ ขณะนี้รถตำรวจถึงขนาดยังไม่ได้ขับออกไปเลย 

  ชิ่งเฉินจับตามองรถตำรวจสตาร์ทขึ้นอย่างเงียบ ๆ ในความมืดมิด จากนั้นค่อย ๆ ไปไกล เขาถึงขนาดยังสามารถมองเห็นชิ่งกั๋วจงในรถกำลังคอตก ห่อเหี่ยวเป็นที่สุด 

  น่าอัศจรรย์ใจเกินไปแล้ว เรื่องเรื่องเดิมถึงกับสามารถเพลิดเพลินได้สองครั้งโดยห่างไปหลายวัน……

  ในการรายงานครั้งนี้ อันที่จริงมีเรื่องหนึ่งที่สำคัญเป็นพิเศษ: ชิ่งเฉินยอมให้อีกฝ่ายโอนบ้านอย่างไม่ลังเลสักนิด ดังนั้นชิ่งกั๋วจงในวันนี้โอนบ้านสำเร็จแล้ว และกำเงินขายบ้านอยู่หลายแสน 

  นี่หมายความว่า ชิ่งกั๋วจงมีทุนพนันเพียงพอ ถือเป็นโทษมาตรา 303 การรวมกลุ่มเพื่อเล่นการพนัน จัดการพนันตั้งแต่สามคนขึ้นไป จำนวนเงินสะสมของทุนพนันห้าหมื่นหยวนขึ้นไป ต้องระวางโทษจำคุก, คุมประพฤติ, กักขังไม่เกินสามปี……

  ดังนั้นตอนนั้นหลังจากที่เขาล้มชิ่งกั๋วจงในความมืดก็เลยไม่ได้หยิบฉวยเงินไปจากบนตัวพวกนักพนัน แล้วยังจงใจเน้นย้ำกับคุณผู้หญิงที่รับรายงานของศูนย์รายงาน 110 ถึงเรื่องนี้ 

  ณ ตอนนี้ชิ่งเฉินกลายเป็นนักท่องเวลาแล้ว และยังเป็นผู้สืบทอดรุ่นต่อไปขององค์กรอัศวิน ไม่เห็นเงินห้าหมื่นหยวนในสายตาตั้งนานแล้ว 

  เงินไม่กี่หมื่นหยวนนี้ใส่ไว้บนตัวของชิ่งกั๋วจงสามารถแสดงบทบาทที่ใหญ่ยิ่งกว่าอย่างเห็นได้ชัด 

  เพียงแต่ เมื่อเขามองตามรถตำรวจจากไปไกล จู่ ๆ ชิ่งเฉินรู้สึกเหมือนกับว่าตนเองก็ไม่ได้จะปลื้มปริ่มขนาดนั้นแล้ว   

  ไม่ใช่ว่าเสียใจภายหลังที่ส่งชิ่งกั๋วจงเข้าไป ทว่าจู่ ๆ เขารู้สึกว่าชีวิตของตนเองเหมือนจะไม่ต้องครุ่นคิดถึงเรื่องราวประเภทนี้อีกแล้ว 

  ชิ่งเฉินมีชีวิตใหม่แล้ว         

  ขณะนี้ อุปกรณ์สื่อสารในกระเป๋าของเขาสั่นไม่หยุด หลิวเต๋อจู้กำลังส่งข้อความอย่างบ้าคลั่ง “บอสครับ ท่านจะกลับมาตอนไหน!”

  ”บอส ท่านรีบกลับมาจัดการหลินเสี่ยวเสี้ยวเถอะครับ ถ้าไม่จัดการเขาอีก ผมอาจจะต้องตายแล้ว!”

  ชิ่งเฉินสับสนอยู่บ้าง “หลินเสี่ยวเสี้ยวอยากฆ่าคุณ? ทำไมเขาอยากฆ่าคุณ?”

  หลิวเต๋อจู้เอ่ยอย่างกระสับกระส่ายว่า “ทุกคนพูดซะดิบดีว่าตอนกลางวันเล่นละครด้วยกัน ผลคือตอนกลางคืนเขาจะล้างแค้น ให้ผมฝันร้ายมันทุกวันเลย!”

  ชิ่งเฉินเคยประสบกับฝันร้าย เขาทราบชัดมากว่าหลิวเต๋อจู้ประสบกับอะไร

  แต่เขาไม่แคร์เลย ทว่าถอยเรื่องอื่น “ในคุกหลายวันมานี้มีสถานการณ์พิเศษรึเปล่า มีนักท่องเวลาใหม่รึเปล่า”

  หลิวเต๋อจู้ตอบอย่างซื่อสัตย์ว่า “มี! แถมเป็นสถานการณ์ใหญ่! หลังท่านไป ในช่วงเวลาเจ็ดวัน ในคุกหมายเลข 18 จู่ ๆ มีการทยอยย้ายคนมาจากคุกอื่นสามร้อยกว่าคน แต่ละคนดุร้ายน่ากลัวเป็นพิเศษเลย!”

  ชิ่งเฉินขมวดคิ้ว “หลินเสี่ยวเสี้ยวพูดรึเปล่าว่าพวกเขามาทำไร”

  หลิวเต๋อจู้กล่าวว่า “พูดแล้วครับ หลินเสี่ยวเสี้ยวพูดว่าพวกเขามาหาความตาย……”

  ชิ่งเฉิน “……”

  แต่ว่า ถ้าหลินเสี่ยวเสี้ยวพูดอย่างนี้ ชิ่งเฉินก็เข้าใจอย่างคร่าว ๆ แล้ว         

  จะต้องมีกลุ่มอิทธิพลค้นพบข่าวที่หลี่ซูถงจากไปแล้ว จากนั้นย้ายคนจากเรือนจำอื่นมาหลายร้อยคนเตรียมจะก่อเรื่อง 

  แถมแปดส่วนคือพุ่งเป้ามาที่วัตถุต้องห้าม ACE-005 

  ”ผมรู้แล้ว” ชิ่งเฉินพูดจบก็เก็บอุปกรณ์สื่อสารกลับเข้าไปในกระเป๋า         

  ขณะนี้เขาเลื่อนขึ้นเป็นอัศวินแล้ว ถัดไปคือการตามหลี่ซูถงกลับไปในเรือนจำหมายเลข 18 

  ดูท่า การทะลุมิติครั้งหน้าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น 

  ชิ่งเฉินคิดได้ว่าตนเองยังมีสัญญาหนึ่งข้อ เขาดึงหมวกฮู้ดขึ้นแล้วหมุนตัวเดินเข้าไปในความมืด 

  ……

  โรงเรียนสอนภาษาต่างประเทศเมืองลั่ว 

  พื้นที่โรงเรียนตอนกลางคืนเงียบสงบสุด ๆ ไม่มีนักเรียนที่คึกคัก

  เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยลุงใหญ่ฉินที่ประตูก็นั่งสัปหงกอยู่ในป้อมยาม 

  เงาดำเงาหนึ่งกระโดดข้ามกำแพงอย่างไร้เสียง มือเท้าเบาเหมือนแมวดราก้อนหลี่* ตัวหนึ่ง 

  ชิ่งเฉินเดินทะลุทางน้อยอันคุ้นเคย บริเวณหน้าอาคารเรียนมัธยมปลาย ถึงกับใช้มือเท้าปีนป่ายผนังขึ้นไปยังดาดฟ้าตรง ๆ 

  ผนังของอาคารเรียนเทียบกับเขาชิงซานแล้วปีนง่ายกว่าเยอะ 

  นั่งบนขอบดาดฟ้า ผ่านไปไม่นานประตูเหล็กเล็ก ๆ ของดาดฟ้าข้างหลังก็ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด ถูกคนผลักเปิดอย่างแรง 

  เป็นหนานเกิงเฉินที่ผอมแห้ง 

  ประตูเล็กนั่นเดิมทีถูกล็อคเอาไว้ ภายหลังพวกคู่รักในโรงเรียนไม่มีที่นัดพบ เลยมีคนแอบทำลายล็อคที่นี่ ภายนอกดูไปไม่มีเรื่องอะไร ตัวล็อคกลับชำรุดแล้ว 

  พูดตามตรง เด็กหนุ่มยาจกสองคนที่เป็นโสดมาตลอดชีวิตจนถึงตอนนี้ก็ได้มาที่ดาดฟ้านี้เป็นครั้งแรก……

  ตอนที่หนานเกิงเฉินผลักประตูยังดูเขินอายอยู่บ้าง   

  ชิ่งเฉินกล่าวว่า “ปิดมือถือ ปิดการใช้งานซิมการ์ดของมือถือ”

  ”อ้อ……” หนานเกิงเฉินทำตาม 

  ชิ่งเฉินกล่าวว่า “ทีหลังพูดเรื่องของโลกภายในอีก เราสองรนจะหาสถานที่ที่ไม่มีคนประเภทนี้ จนกว่าฉันจะได้ป้อมปราการข้อมูลมาปกป้องความลับ”

  หนานเกิงเฉินมองชิ่งเฉินที่นั่งอยู่ขอบดาดฟ้าแวบหนึ่ง เดิมทีก็อยากจะขึ้นไปนั่ง แต่เขามองลงไปชั้นล่างอีกแวบ ตัวสั่นงั่ก ๆ ขึ้นมาทันที 

  ”แค่ก ๆ พี่เฉิน” หนานเกิงเฉินลังเลอยู่ครึ่งค่อนวันถึงกล่าวว่า “ฉันบอกเรื่องฝั่งฉันก่อนเถอะนะ อันดับแรกหลี่อีนั่วรู้แล้วว่าฉันเป็นนักท่องเวลา……”

  ชิ่งเฉินถามด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “ก่อนหน้านี้นายไม่ได้พูดว่าเธอไม่รู้เหรอ”

  หนานเกิงเฉินนึกทบทวน หลี่อีนั่วถามเขาอยู่หลายครั้งว่าเขาเป็นนักท่องเวลารึเปล่า ตนเองล้วนพูดว่าไม่ใช่ 

  จากนั้นอีกฝ่ายล้วนใช้แววตาเอ็นดูคนโง่มองเขาพูดว่า: อืม ๆ โอเค คุณไม่ใช่ 

  ชิ่งเฉินคิดแล้วถามว่า “เธอให้คุณมาพูดอะไรกับฉันรึเปล่า หรือว่าเอ่ยถึงฉันรึเปล่า”

  ”ไม่นะ” หนานเกิงเฉินอึ้งไปหน่อยหนึ่ง 

  ”งั้นดูท่าว่าเธอยังไม่รู้ความสัมพันธ์ของเราสองคน แล้วก็ไม่รู้ว่าฉันเป็นนักท่องเวลา” ชิ่งเฉินคาดเดา “หลังเธอรู้ว่านายเป็นนักท่องเวลาไม่มีปฏิกิริยาอะไรเหรอ”

  หนานเกิงเฉินกล่าวว่า “เธอให้ฉันปกปิดเต็มที่ห้ามปากสว่าง เพราะว่าในกลุ่มการเงินตอนนี้พากันกำหนดแผนกวาดล้างแล้ว”

  ”แผนกวาดล้าง? !” ชิ่งเฉินตะลึง “นี่จำทำอะไร”

  ”แผนที่จะสร้างผลกระทบย้อนกลับโลกภายใน” หนานเกิงเฉินอธิบาย “อันที่จริงคนของโลกภายในยังค่อนข้างเกลียดชังนักท่องเวลา โดยเฉพาะคนใหญ่คนโตพวกนั้น ทุกวันนี้พวกเขาตัดสินใจจุดหนึ่งแล้ว มนุษย์โลกภายในที่ถูกแทนที่แทบไม่ต่างกับตายไปแล้ว สติสัมปชัญญะทั้งหมดล้วนไม่รู้ว่าหายไปที่ไหน เรื่องประเภทนี้คิดขึ้นมาก็รู้สึกน่าสะพรึงกลัวแล้ว พี่เฉิน ฉันเข้าใจพวกเขาได้นะ ถ้าเกิดโลกที่พวกเราอยู่เป็นโลกภายใน จู่ ๆ มีวันหนึ่งพ่อ)ฉันถูกคนแทนที่ คิดว่าคงรู้สึก……อย่างกับว่าจะค่อนข้างดีเลยนะ?”

  ชิ่งเฉิน “……”

  ”เดี๋ยวนะ ตัวอย่างไม่ถูกต้อง” หนานเกิงเฉินครุ่นคิดชั่วครู่แล้วกล่าวว่า “ฉันมีแค่นายเป็นเพื่อนคนเดียว ถ้าเกิดพี่เฉินนายมีวันหนึ่งจู่ ๆ ถูกแทนที่ นายฏ้จะไม่รู้จักฉัน แล้วก็ไม่เป็นเพื่อนฉันแล้ว ฉันจะกลัวขนาดไหน ในโลกภายใน คนมากมายต่างเผชิญกับสถานการร์ประเภทนี้: เพื่อนกลายเป็นคนแปลกหน้า ลูกหายไป พ่อกลายเป็นคนอื่น นี่กับหนังวิทยาศาสตร์ที่พวกเราเคยดูแต่ก่อนที่มนุษย์ต่างดาวควบคุมชาวโลกเหมือนจะไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย”

  ดังนั้น นักท่องเวลากับประชากรโลกภายในอันที่จริงแล้วมีสภาพเป็นปรปักษ์กันโดยธรรมชาติ 

  ไม่มีคนที่เต็มใจจะถูกเผ่าพันธุ์อื่นควบคุม         

  จากนั้นจึงมี “แผนกวาดล้าง”         

  ”ฉันได้ยินหลี่อีนั่วพูดว่าตอนนี้กลุ่มอำนาจต่าง ๆ ของโลกภายในควบคุมตัวนักท่องเวลาไว้ได้ไม่น้อย” หนานเกิงเฉินกล่าวต่อ “ตามที่เธอคำนวณ ตระกูลหลี่เดี่ยว ๆ ก็ควบคุมนักท่องเวลาไปสามร้อยกว่าคนแล้ว และคนพวกนี้ก็คือกุญแจสำคัญของแผนกวาดล้าง”

  ”พวกเขาควบคุมนักท่องเวลาพวกนี้อยากจะทำอะไร” ชิ่งเฉินขมวดคิ้ว         

  ”พวกเขาอยากควบคุมนักท่องเวลาพวกนี้ หลังจากกลับโลกภายนอกให้ช่วยพวกเขาล่าสังการมนุษย์โลกภายนอกที่ชื่อเดียวแซ่เดียวกับพวกเขาทั้งหมด” หนานเกิงเฉินกล่าว 

  ”นี่ก็คือแผนกวาดล้าง”

  ลมหนาวหอบหนึ่งพัดมา ชิ่งเฉินจู่ ๆ รู้สึกว่าคืนปลายฤดูใบไม้ร่วงหนาวนิดหน่อยแล้ว 

  ……

  กลไกการทะลุมิติของนักท่องเวลาจนถึงทุกวันนี้ยังเป็นปริศนา ทุกคนเพียงสามารถตัดสินได้คร่าว ๆ : ผู้ที่ชื่อเดียวกันแซ่เดียวกัน ผู้ที่หน้าตาเหมือนกัน ตำแหน่งที่ปรากฏสอดคล้องกันอย่างกว้าง ๆ ก็จะได้รับ “คุณสมบัติโอเพ่นเบต้า”

  กฎนี้อันที่จริงแล้วไม่ซับซ้อนเลย ดังนั้นคนของโลกภายในก็สอบสวนออกมาได้อย่างง่ายดายมาก 

  คนใหญ่คนโตพวกนี้ดิ้นรนอย่างขมขื่นมาครึ่งชีวิต จะทนได้อย่างไรที่ตอนที่ตัวเองกับลังมีความสุขกับชีวิตกลับถูกคนอื่นแทนที่?   

  ดังนั้น พวกเขาพากันตั้งแผนกวาดล้าง วางแผนจะกำจัดความเป็นไปได้ที่จนเองจะถูกแทนที่จากสาเหตุเบื้องกำเนิด: ฆ่าผู้ที่ชื่อแซ่เดียวกัน 

  นี่เป็นวิธีที่เรียบง่ายที่สุดแล้วก็มีประสิทธิภาพที่สุด

  การทะลุมิติเป็นตั๋วเที่ยวทางเดียว คนของโลกภายนอกถึงจะดูเหมือนอยู่ในสภาพที่ถูกทุบตีถ่ายเดียว แต่เรื่องที่พวกเขาคิดจะทำไม่จำเป็นต้องให้ตัวเองไปทำ

  หลังจากที่บุคคลที่ชาญฉลาดเหล่านั้นค้นพบนักท่องเวลาไม่ได้ฆ่าพวกเขาให้ตายตรง ๆ ล้างแค้นแทนครอบครัวมิตรสหายเลย ทว่าเลือกใช้ประโยชน์

  ชิ่งเฉินถามว่า “พวกเขาวางแผนว่าเมื่อไหร่จะดำเนินการแผนกวาดล้าง”

  ”น่าจะยังไม่รีบร้อนชั่วคราว” หนานเกิงเฉินกล่าว “หลี่อีนั่วพูดว่า แผนตระกูลหลี่ใหญ่มาก พวกเขาถึงขนาดถือนักท่องเวลาเป็นเครื่องมือที่มีค่าให้ใช้งาน ไม่แค่มีแผนกวาดล้าง พวกเขายังมีแผนทะลุมิติย้อนกลับ!”

  ”เล่นไรเนี่ย?” ชิ่งเฉินงงงวย “พวกเขายังคิดจะทะลุมิติย้อนกลับ?”

  ”อืม” หนานเกิงเฉินพยักหน้า “นี่ยังเป็นแค่ไเดียว ฉันจะยกตัวอย่างมาให้เห็นภาพนะ อย่างเช่นผู้นำตระกูลของตระกูลคาชิมะชื่อว่าลีบยองฮี เขาพักอาศัยอยู่ในเมืองเมืองหนึ่งของตระกูลคาชิมะตลอดทั้งปี ซึ่งตรงกันกับโซล เวลานี้ โลกภายนอกอันที่จริงมีคนคนหนึ่งที่มีชื่อแซ่เหมือนเขา หน้าตาตรงกัน แต่เขาไม่ได้พักอาศัยที่โซล ดังนั้นกลไกทะลุมิติของลีบยองฮีไม่ได้ถูกกระตุ้นขึ้นเลย ถ้าเกิดตระกูลหลี่สามารถหาลีบยองฮีที่อยู่บ้านนอกเจอ จากนั้นส่งเขาไปโซลที่โลกภายนอก สถานที่สอดคล้องกับโลกภายใน อย่างงั้น ผู้นำตระกูลของบ้านคาชิมะก็อาจจะจู่ ๆ กลายเป็นนักท่องเวลาแล้ว!”

  ชิ่งเฉินตกตะลึง

  ”ถ้าจะลอบสังหารลีบยองฮีที่โลกภายในจะต้องยากมาก แถมจะเกิดผลลัทธ์ที่ไม่รู้ แต่ถ้าตัวลีบยองฮีถูกแทนที่ งั้นก็จะไม่มีหนทางแล้ว ภัยพิบัติทางธรรมชาติบวกกับมนุษย์นิ! ตอนที่หลี่อีนั่วพูดเรื่องนี้ขึ้นมาตื่นเต้นเชียวแหละ” หนานเกิงเฉินกล่าว

  ถ้าแผนกวาดล้างที่พูดก่อนหน้านี้ ชิ่งเฉินยังเคยเดาอยู่ อย่างนั้นแผนทะลุมิติย้อนกลับนี่ เขาไม่เคยคิดถึงมากก่อนจริง ๆ 

  ช่างน่าขยะแขยงเกินไปแล้วจริง ๆ   

  ใช้ราคาที่ต่ำที่สุดไปทำให้คนที่สุดยอดที่สุดขยะแขยง? ! 

  ชิ่งเฉินสะเทือนใจอยู่บ้าง อย่างเห็นว่าในการต่อสู้ไม่กี่ครั้งเขาแสดงถึงไหวพริบและความเฉลียวฉลาดมากแค่ไหน แต่เทียบกับคนที่เล่นกลยุทธ์มาตลอดชีวิตพวกนี้ จิตยังยังไม่สกปรกเท่าพวกพวกนั้น 

  หนานเกิงเฉินเอ่ยเสริมว่า “อันนี่ฉันก็แค่ยกตัวอย่างนะ ลีบยองฮีอายุเหมือนกับจะหนึ่งร้อยกว่าปีแล้ว โลกภายนอกเป็นไม่ได้ที่จะหาคนมาแทนที่ แต่ว่าวิธีการนี้สามารถใช้กับตัวคนอื่น”

  เดี๋ยวนะ จู่ ๆ ชิ่งเฉินคิดถึงปัญหาข้อหนึ่ง พวกหลี่ซูถงกับหลินเสี่ยวเสี้ยวจะถูกแทนที่ไหม? ! 

  นี่เป็นปัญหาที่ร้ายแรงมาก 

  ถ้าโลกภายนอกก็มีหลี่ซูถงหนึ่งคน แล้วกลุ่มอำนาจของโลกภายในก็จงใจหาเขา ส่งมาที่เมืองลั่ว งั้นไม่ใช่ว่าหลี่ซูถงก็จะอันตรายแล้วเหรอ 

  ชั่วขณะหนึ่ง แม้แต่ชิ่งเฉินยังอยากจะดำเนินการแผนกวาดล้างแล้ว ตัวเองได้พบเจอท่านอาจารย์ที่ดีคนหนึ่งอย่างไม่ง่ายดาย ผลคืออีกฝ่ายกลับถูกคนทะลุมิติ เขารับผลลัพธ์นี้ไม่ไหวนะ 

  แต่คำถามก็กลับมาอีกครั้ง ถ้าโลกภายนอกก็มีหลี่ซูถงหนึ่งคนจริง ๆ งั้นอีกฝ่ายมีความผิดอะไร แค่เพราะว่าชื่อแซ่เดียวกัน หน้าตาเหมือนกัน ก็ต้องถูกฆ่าแล้วเหรอ 

  จู่ ๆ เขาถามหนานเกิงเฉินว่า “นักท่องเวลาที่ถูกตระกูลหลี่ควบคุมตัวพวกนั้นมีผู้เหนือมนุษย์ไหม ผู้เหนือมนุษย์จะถูกแทนที่ไหม”

  ”ก็มีผู้เหนือมนุษย์คนหนึ่งจริง ๆ” หนานเกิงเฉินกล่าว “หลี่อีนั่วเคยบ่นว่า ความสามารถของผู้เหนือมนุษย์คนนั้นเหมือนจะพึ่งพาไม่ได้มากนัก……”

  ชิ่งเฉินพอได้ยินว่าผู้เหนือมนุษย์ก็สามารถถูกทะลุมิติ หัวขมวดขมวดขึ้นมาทันควัน

  นี่ไม่ได้แปลว่าหลี่ซูถงจะถูกแทนที่จริง ๆ เหรอ 

  แถมเพื่อนที่ตัวเองผูกมิตรที่โลกภายในในอนาคตก็อาจจะถูกแทนที่!

  เขาถามอีกว่า “งั้นในคนพวกนี้มีคนที่เคยฉีดยาแปลงพันธุกรรมรึเปล่า”

  ”ไม่มีคนที่เคยฉีดยาแปลงพันธุกรรม” หนานเกิงเฉินกล่าว “หลี่อีนั่วสงสัยว่า ผู้ที่ฉีดยาแปลงพันธุกรรมเปลี่ยนยีนไปแล้วดังนั้นทั้งสองฝ่ายไม่อาจไปถึงเงื่อนไขการทะลุมิติ”

  ชิ่งเฉินผ่อนลมหายใจ แต่เขาคิดถึงเรื่องอีกเรื่องขึ้นมาทันที “เดี๋ยวนะ งั้นคนตระกูลหลี่ฉีดยาแปลงพันธุกรรมให้หมดไม่ใช่ว่าก็ได้แล้วเหรอ ยังจะสร้างแผนกวาดล้างทำไม”

  หนานเกิงเฉินมองไปทางชิ่งเฉิน “พี่เฉินนายไม่รู้เหรอ ยาแปลงพันธุกรรมมีผลข้างเคียง……”

  ”ผลข้างเคียง?” ชิ่งเฉินตะลึง “หมายความว่าอะไร”

  ”มันไม่เหมือนกับการกลายเป็นผู้เหนือมนุษย์น่ะ ผู้ที่ฉีดยาแปลงพันธุกรรมสืบเชื้อสายได้ยากมาก ไม่อาจตั้งครรภ์” หนานเกิงเฉินกล่าว “ดังนั้นในกลุ่มการเงินต่างสืบหาการสืบทอดต่าง ๆ นานา คิดวิธีการให้ลูกหลานกลุ่มการเงินกลายเป็นผู้เหนือมนุษย์ ทว่าจะไม่ฉีดยาแปลงพันธุกรรมตรง ๆ”

  หนานเกิงเฉินกล่าวต่อว่า “หลี่อีนั่วพูดว่า ตอนนี้มีแค่ยาแปลงพันธุกรรมบางชนิดของกลุ่มตุลาการต้องห้ามที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาวะเจริญพันธุ์ ในตลาก็พบเห็นยากมาก แถมกลุ่มการเงินกังวลว่าถ้าเผื่อมีคนหาคนที่ตรงกับตัวเองเจอจริง ๆ จากนั้นจงใจฉีดยาแปลงพันธุกรรมที่ตรงกันให้กับ ‘ผู้แทนที่’ คนนั้นของโลกภายนอก จะยังคงสามารถทะลุมิติได้หรือไม่ ดังนั้น ยังคงเป็นแผนกวาดล้างที่พึ่งพาได้กว่าสักหน่อย”

  ชิ่งเฉินตกตะลึง เขายังไม่รู้จริง ๆ ว่ายาแปลงพันธุกรรมถึงกับมีผลข้างเคียงประเภทนี้ 

  แล้วงั้นยีนของตัวเองก็เปลี่ยนแล้ว ก็จะไม่อาจสืบเชื้อสายได้ด้วยรึเปล่า? ! 

  ท่านอาจารย์ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องประเภทนี้เลยนะ!   

  แต่ว่า ถ้าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงขนาดนี้ หลี่ซูถงจะต้องแจ้งกับเขา อีกฝ่ายไม่เอ่ยถึง นั่นก็คือจะไม่มีผลข้างเคียงที่ใหญ่ขนาดนี้ 

  ทะลุมิติครั้งหน้า เขาจะต้องถาม ๆ ท่านอาจารย์ดูแล้ว……

  ถึงอย่างไรก็ยังค่อนข้างสำคัญ……

  แน่นอนว่ายังมีข่าวดี ตามตรรกะอันนี้ในปัจจุบัน ครูน่าจะไม่ถูกแทนที่ เพราะว่าชั่ววินาทีที่เลื่อนขึ้นเป็นอัศวิน ยีนจะเปลี่ยนแปลง 

  มีแค่ผู้เหนือมนุษย์อย่างหลินเสี่ยวเสี้ยวกับเยี่ยหว่านที่ยังคงมีความเสี่ยง!   

  หนานเกิงเฉินกล่าวว่า “พี่เฉิน นายมีวิธีการอะไรขัดขวางการทะลุมิติอะ หลี่อีนั่วค่อนข้างดีกับฉันเลย ถ้าเถผื่อเธอถูกแทนที่ ยังไม่ใช่เหมือนตายไปแล้วเลยเหรอ”

  ชิ่งเฉินคิดแล้วกล่าวว่า “ฉันอาจจะคิดวิธีการได้สักอย่าง รอฉันยืนยันแล้วค่อยบอกนาย”

  เวลานี้ จู่ ๆ เขาคิดถึงเรื่องอีกอย่าง:

  สมรรถภาพทางกายของแทบทุกคนในองค์กรคุนหลุนล้วนเหนือคนธรรมดา นี่จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับยาแปลงพันธุกรรม หรือว่าพวกเขาไม่กังวลถึงผลข้างเคียงนี้ 

  หรือว่า พวกเขารู้ผลข้างเคียง แต่ยังคงเลือกทางนี้ 

  ”ตระกูลหลี่วางแผนว่าจะดำเนินการแผนกวาดล้างเมื่อไหร่” ชิ่งเฉินถาม 

  หนานเกิงเฉินกล่าวว่า “ฉันแค่รู้ว่าตระกูลหลี่ในขณะนี้ไม่รีบร้อนเลย พวกเขาอยากให้นักท่องเวลาที่ถูกควบคุมพวกนั้นแข็งแกร่งขึ้นอีกหน่อย รอให้พวกเขาไม่บุบสลายง่ายขนาดนั้นแล้วค่อยวางแผน”

  ปัจจุบันนี้การเสาะหานักท่องเวลายิ่งมายิ่งยาก นักท่องเวลามากขึ้นเรื่อย ๆ เรียนรู้ที่จะซ่อนตัว ดังนั้นหลังจากที่ตระกูลหลี่มีแผนการที่ชั่วร้ายกว่า พวกเขาได้ถือนักท่องเวลาเป็นทรัพยากรเชิงกลยุทธ์ที่ต้องทะนุถนอมประเภทหนึ่งแล้ว 

  กลุ่มการเงินเป็นคนที่เข้าใจการสร้างผลกำไรที่สุดในโลก พวกเขาจะเอาปัจจัยที่ไม่พึงประสงค์ทั้งหมดคิดหาวิธีการเปลี่ยนให้เป็นเงื่อนไขที่มีประโยชน์ 

  หนานเกิงเฉินกล่าวว่า “พี่เฉิน สิ่งที่ฉันรู้ก็บอกนายหมดแล้ว ฉันเป็นแค่……เพื่อนของหลี่อีนั่ว ดังน้นไม่มีวิธีการจะรู้มากมายขนาดนั้น ถ้าอยากทำความเข้าใจมากขึ้น เกรงว่าต้องถามสมาชิกแกนหลักของตระกูลหลี่ถึงจะได้ พวกเราที่โลกภายนอกก็ไม่ได้รู้จักคนประเภทนี้อะ”

  หนานเกิงเฉินไม่รู้จัก ชิ่งเฉินกลับรู้จักสมาชิกแกนหลักตระกูลหลี่อยู่คนหนึ่งจริง ๆ! 

  หลี่ถงอวิ๋น! 

  ชิ่งเฉินกดเรื่องนี้ไว้ในใจชั่วคราว เขาถามว่า “นายอยู่ที่สถานที่ต้องห้ามเป็นไงบ้าง ปลอดภัยรึเปล่า”

  หนานเกิงเฉินทบทวนถึงการสอบสวนที่เปลืองคนนิดหน่อยฉากนั้น ตอบว่า “กฎที่พวกเรารู้ตอนนี้มี ไม่สามารถขับถ่ายเรี่ยราด ไม่สามารถร้องเพลงตามคนอื่น ไม่สามารถฆ่าคน ไม่สามารถพูดคำหยาบ……พี่เฉิน นายจะต้องรู้กฎมากกว่านี้สินะ จะบอกฉันได้รึเปล่า”

  ชิ่งเฉินส่ายหน้า “ไม่ได้ ถ้าเปลี่ยนเป็นสถานที่ต้องห้ามอื่นฉันก็บอกนายแล้ว แต่กฎของสถานที่ต้องห้ามหมายเลข 002 ฉันสาบานกับท่านอาจารย์ว่าจะรักษาเป็นความลับ”

  หนานเกิงเฉินคิดแล้วกล่าวว่า “พี่เฉิน ในกองร้อยสนามเกิดเรื่องมากมาย พวกเขาพูดว่ามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งอาสัยกำลังของตัวเองคนอื่นก็ฆ่ากองร้อยสนามยกกอง แต่ฉันรู้สึกว่าคนพวกนั้นก็ไม่ได้มีค่าให้เห็นใจอะไร ถึงยังไงพวกเขาใช้คนเป็น ๆ ไปทดสอบกฎ”

  ”อืม” ชิ่งเฉินตอบรับอย่างสงบนิ่ง 

  ”ยังมี พวกเขาพูดว่ามียอดฝีมือแรงก์ C คนหนึ่งไปไล่ฆ่าเด็กหนุ่ม แล้วก็ไม่ได้กลับมา”

  ”อืม”

  ”ยังมี ๆ เด็กหนุ่มคนนั้นบังคับให้ชิ่งไฮววิ่งหนีไปเลย หลี่อีนั่วเคยพูดแต่ก่อนว่าชิ่งไฮวเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงที่มีกำลังที่สุดในสังเวียนแห่งเงา ถูกตั้งความหวังอย่างสูง อนาคตไร้ขีดจำกัด ผลคือ ยังคงถูกเด็กหนุ่มคนนั้นหลอกจนหัวหมุน”

  ชิ่งเฉินยิ้มเอ่ยว่า “สรุปว่านายอยากพูดอะไร”

  ”พี่เฉิน” หนานเกิงเฉินจู่ ๆ มองชิ่งเฉินถามว่า “ฉันรู้สึกอยู่เสมอว่าคนที่รักตัวกลัวตายขนาดนั้นอย่างหลิวเต๋อจู้อาศัยอะไรกลายเป็นคนดังข้างกายหลี่ซูถง ถึงกับยังสามารถบงการนาย ผลคือตอนหลังฉันมาคิด ๆ ดู ถ้าศักดิ์ฐานะของนายสองคนสลับกัน ฉันกลับรู้สึกว่าทุกอย่างสมเหตุสมผลแล้ว เด็กหนุ่มคนนั้นที่พวกเขาพูดก็คือนายสินะ นายถึงเป็นนักเรียนของหลี่ซูถงสินะ”

  บนดาดฟ้า ลมฤดูใบไม้ร่วงที่แต่เดิมคร่ำครวญอยู่หยุดลงกะทันหัน โลกก็เงียบสงบกะทันหัน ราวกับกำลังรอคำตอบ 

  ”อืม “ท่านอาจารย์ของฉันก็คือหลี่ซูถง”

  ……

 

แอบอัพก่อนครึ่งตอน เป็นตอนที่ยาวยิ่งกว่าตอนที่แล้วอีกค่ะ เต็มตอนไม่รู้จะทันวันพุธไหม….

คำผิดอาจจะเยอะหน่อยนะคะเพราะว่าไม่ได้ทวนเลย

แต่ว่านี่เป็นหนึ่งในฉากที่เราชอบที่สุดของเรื่องและเป็นตอนที่ทำให้เราอยากแปลเรื่องนี้ด้วยค่ะ คือคนโลกภายในเขาไม่ได้รับสภาพโดยแทนที่กันแต่โดยดี เขาวางแผนชั่วกันแบบเหนือชั้นจริง ๆ ไม่ได้เนิร์ฟสมองคนอื่นเพื่อชูให้พระเอกดูฉลาด แต่ทุกคนฉลาดกันมาก ๆ (ยกเว้นบางคน เช่นคนที่แซ่หลิว……) 

แต่ว่าพี่ก็ห่วงแต่ว่าตัวเองจะเป็นหมันแต่ไม่ได้ห่วงลูกน้องที่ฉีดยาไปเรียบร้อยแล้วสักนิดเลยนะคะ อีตานั่นก็คงไม่รู้ผลข้างเคียงนี้แน่นอน

 

ปล มีคำหนึ่งที่อยู่ ๆ แปลหลี่ซูถงเป็นครู นั่นไม่ได้แปลผิดแต่เป็นต้นฉบับค่ะ คนเขียนคงเมาเล็กน้อย แต่เราก็อยากแปลไว้ให้เหมือนต้นฉบับเลยไม่ได้แก้เอง