บทที่ 158 พ่นฟอง
แสงสาดส่องเริงระบำ ช่วงเวลาผ่อนคลาย ไม่ต้องเอื้อนเอ่ย เสียงแห่งความรักดังเพราะพริ้ง
เสียงน้ำสาดเทลงมาเบาๆ ดังอยู่ในห้องอาบน้ำ ราวกับเม็ดอัญมณีล้ำค่า ค่อยๆราดรดลงไปให้ใจของหลิงเล่อบอุ่น
ที่ขายังมีเสื้อผ้าที่ต้องเปลี่ยน เขานั่งอยู่ตรงนั้นเงียบๆ มองหญิงสาวที่เดินไปมาเพื่อจัดการธุระให้ตัวเอง ใบหน้าจริงจัง ดวงตาดำสนิทอบอุ่น ริมฝีปากโค้งสวย
“คุณลุง คุณจะแช่ฟองรึเปล่า”
มู่เทียนซิงหันมาหาเขา คิดอย่างพออกพอใจ ถ้าเกิดเขาจะแช่ ก็เหลือให้เขาเพียงชั้นใน แล้วให้ลงไปถอดในอ่าง มีกลุ่มฟองขาวสะอาดปกปิดล้อมรอบ ให้เขาถอดชั้นในเอง แบบนี้เธอก็ไม่ต้องรู้สึกเขินอายแล้ว
เด็กสาวยังไม่มีประสบการณ์เผชิญโลกมากมาย
ราวกับความคิดของเธอได้ถูกคนตรงหน้ามองออกทะลุปรุโปร่งไปเรียบร้อยแล้ว
หลิงเล่หดหู่อยู่ในใจ
ร่างกายของเขาไม่น่ามองขนาดนั้นเลยหรอ ไม่ได้ดึงดูดเธอเลยสักนิด
เขาจะเปลื้องผ้าเธอให้เร็วที่สุด จากนั้นถูสบู่ไปทั่วทั้งตัวเธออย่างรวดเร็ว
คลอเคลียลำคอเซ็กซี่นั่น หลิงเล่ไม่กล้าคิดต่อไป
มองเธอที่ดูท่าทางตั้งใจรอคำตอบจากเขา ดวงตาเบือนหนีจากเส้นงดงามบนร่างกายของเธอ “คุณเคยได้ยินหรอว่าผู้ชายบนโลกใบนี้จะแช่ฟอง”
“ไม่มีหรอ”
“ไม่รู้” เขาขมวดคิ้ว “แต่ว่า ผมคิดว่าจั๋วหรันกับจั๋วซีคงไม่ทำ”
“คุณลุง ถึงจะไม่มีประสบการณ์ แต่ก็ต้องลองสักหน่อย ไม่ลองจะรู้ได้ไงว่ามันเหมาะหรือไม่เหมาะกับตัวเอง ถ้าเกิดคุณชอบขึ้นมาล่ะ”
ดวงตาเฝ้ารอของหญิงสาวจ้องมองเขา ดวงตาปริบๆมองเขาอยู่แบบนั้น ราวกับว่าพอเขาบอกว่า “ไม่” ออกมามันจะทำให้เธอผิดหวังจนร้องไห้ออกมา
แบบนี้จะให้หลิงเล่ทำยังไง
“ก็ได้ งั้นลองดูหน่อย”
ตอนที่พูดประโยคนี้ออกมา ในใจเขาได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้แล้ว พรุ่งนี้ต้องสั่งสอนจั๋วหรันให้หนักเลย
เป็นจั๋วหรันที่บอก ตอนนั้นยังเป็นหนุ่ม เขาชอบอาบน้ำเธอชอบหัวเราะ ไม่ทันระวังเห็นเขาไปหมดแล้ว จากนั้นฉวีซือก็คิดบัญชีกับจั๋วหรัน
ทำไมถึงได้มาถึงหลิงเล่ในตอนนี้ได้ เขาเกือบจะถูกเด็กน้อยมองตั้งสองครั้งแล้ว ไม่ทำให้เธอเกิดความปรารถนาเลยแม้แต่น้อยเลยหรอ
เจ็บปวดจริงๆ
มู่เทียนซิงตั้งใจหยดเจลอาบน้ำลงในอ่างอาบน้ำ มือขาวเล็กสะบัดตีอยู่ในอ่าง ใช้เวลาไม่นาน ฟองน่ารักราวกับวิปครีมก็ได้กระจายตัวเป็นชั้นๆขึ้นมา
เธอพูดอย่างสนุกสนาน “ฮ่าๆ ในที่สุดฉันก็รู้แล้ว ทำไมถึงได้มีประโยคที่บอกว่าฟองน้ำน่ารัก เดี๋ยวอีกหน่อยฉันก็จะอาบบ้าง”
ดวงตาของชายบนวีลแชร์พลันวาววับขึ้น “งั้นก็อาบด้วยกัน”
ใบหน้าของหญิงสาวแดงระเรื่อขึ้น ไม่รู้ว่าเพราะเขินหรือเพราะอากาศร้อน ถึงได้แดงแบบนี้
เธอลุกขึ้น หยิบผ้ามาเช็ดมือเล็ก เดินไปข้างหน้า มองขาทั้งสองข้างของหลิงเล่ แต่ไม่กล้าสบตากับเขา “คุณลุง ถอด ถอดเสื้อผ้าได้แล้ว”
เสียงเบามาก แต่ทำให้คนมัวเมาได้
หลิงเล่พยักหน้า ตอบรับเธอด้วยใบหูที่แดงก่ำ “อืม”
มู่เทียนซิงก้มลง ยื่นมือออกไป ช่วยเขาแกะกระดุมทีละเม็ดๆ
แผ่นกล้ามสวยงามค่อยๆปรากฏขึ้นตรงหน้าทำให้เธอเวียนหัวไปแล้ว แต่ยังคงอดกลั้นเอาไว้ พยายามทำเป็นนิ่ง มือนั้นเคลื่อนไหวไปอย่างเป็นธรรมชาติ หลังจากแกะกระดุม เธอจึงถอดแขนของเขาออกทีละข้าง
หลิงเล่มองท่าทางไร้เรี่ยวแรงของเธอ รู้สึกเป็นห่วง “มือผมไม่ได้ใช้การไม่ได้ คุณไม่ต้องกดดันตัวเองขนาดนั้น เสื้อผมถอดเองได้”
ใบหน้าขาวเล็กของมู่เทียนซิง เดิมกำลังเขินอาย ได้ยินเขาพูดแบบนี้ ความอายได้กลายเป็นความโกรธแล้ว “ทำไมคุณไม่รีบบอกเล่า”
“นี่คงไม่ต้องให้ผมบอกหรอกหรือเปล่า”
เขาหุบยิ้ม สองขาเขาขยับไม่ได้ ใครๆก็รู้ สองมือของเขาขยับได้ เธอก็รู้ดี
มู่เทียนซิงกลอกตา การกระทำรวดเร็วขึ้น ออกแรงและทำตัวไม่มีเหตุผลขึ้นมา
เข็มขัดของชายหนุ่มถูกเธอแก้ออกอย่างรวดเร็ว แกะกระดุม รูดซิปลง
มือเล็กซ้ายขวาดึงทั้งสองข้าง เชยสายตามองเขา ท่าทางดุเล็กน้อย “คุณช่วยออกแรงยกตัวขึ้นหน่อยสักวินาที ฉันจะดึงมันลงมา”
เพียงแค่ก้นของเขาออกห่างจากวีลแชร์เล็กน้อย อาศัยจังหวะนั้น เธอดึงลงด้านล่าง กางเกงก็หลุดออกมาแล้ว
หลิงเล่ขมวดคิ้วมองเธอ เงียบไปชั่วครู่จากนั้นพยักหน้า
สองแขนค้ำอยู่บนวีลแชร์ ยกตัวขึ้น ก้นพึ่งจะยกห่างจากวีลแชร์ มือเล็กก็ดึงกางเกงลง
ท่าทางวุ่นวายแบบนั้นอยู่หลายรอบ หลิงเล่ทำแบบนั้นอยู่ทั้งหมดเจ็ดแปดรอบ หญิงสาวเหนื่อยเหงื่อซึมไปทั่วหน้าผาก กางเกงของเขาค่อยหลุดออกมา
เธออ้อมมาอยู่ตรงหน้าเขา ยึดกางเกงของเขาไว้ แล้วออกแรงดึง
ค่อยเงยหน้ามองเขา ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
ชายบนวีลแชร์ ถูกเธอลอกคราบจนเหลือเพียงกางเกงชั้นในตัวเดียว
“คุณลุง ฉันจะพยุงคุณลงไปในอ่าง คุณลงไปแล้ว ถอดกางเกงชั้นในเอาเองนะ เข้าใจไหม”
เธอบอกอย่างอ่อนหวาน เดินเข้ามา เข็นเขาไปที่หน้าอ่างอาบน้ำ คล้ายกับกำลังคิดถึงวิธีที่จะเอาเขาลงไป
ใบหน้าไม่ยินยอมของหลิงเล่มองไปยังเธอ “ถึงฉันจะเป็นแอสโตรบอย แต่ไม่ใช่ชะนีนะ”
“หมายความว่ายังไง”
“ใช่ ผมสามารถใช้แรงยกตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ยืดได้ถึงขั้นถอดกางเกงออกจากขาตัวเองได้นะ คุณอย่าลืมสิ สองขาของผมขยับไม่ได้ ลงไปในอ่างแล้วก็ตั้งวางตรง ถึงให้ผมก้มลงไป ก็ไม่ได้หมายความว่าจะถอดชั้นในออกมาจากเท้าได้นี่”
“……………….”
หมายความว่า หน้าที่หลักของหลิงเล่ที่ต้องถอดชั้นใน ก็ต้องตกเป็นของมู่เทียนซิงใช่ไหม
มองท่าทางลำบากใจของเธอ หลิงเล่ยังแอบเสียใจ “ที่แท้ร่างกายของผมแบบนี้มันทำให้คุณรังเกียจหรอ ผมยังคิดว่า ต่อไปจะมีคู่ชีวิตที่เอาใจใส่ ถ้าคุณเป็นแบบนี้ ยังมีอนาคตอีกไป แล้วจะทำยังไง มู่เทียนซิง ถ้าคุณไม่มีความอดทนกับผม ก็อย่าให้ความหวังกับผมอีกเลย”
พูดพลางก้มหน้าด้วยความเสียใจ ขนตาพลันชื้นขึ้น
หลิงเล่จะไม่บอกเธอแน่ ว่าเขาไม่ได้ร้องไห้ ที่มันชื้นอาจจะเพราะเขานั่งอยู่ต่ำ ละอองน้ำในอ่างอาจลอยขึ้นมา เกาะอยู่ตามขนตา
เขานั่งอยู่แบบนั้น ท่าทางน่าสงสาร สีหน้ายิ่งแย่ ทั้งตัวซีดขาว คล้ายตุ๊กตาหมูน้อย แถมยังเป็นหมูน้อยที่สวมแค่กางเกงชั้นในอีก
มู่เทียนซิงกัดริมฝีปาก คิดว่าคำพูดของเขานั้นมีเหตุผล
“คุณลุง ขอโทษนะคะ เป็นฉันที่ไม่ดีเอง”
เธอหมุนวีลแชร์กลับคืนมา มองหน้าเขา สูดหายใจลึกเรียกกำลังใจ “มาฉันทำเถอะ”
หลิงเล่รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย จ้องมองเธอ น้ำเสียงดูเจ็บปวด “คุณไม่ต้องฝืนใจหรอก สิ่งไร้ค่าอย่างผม คุณรังเกียจก็สมควรแล้ว”
“ฉันไม่ได้รังเกียจคุณ จริงๆนะ”