บทที่ 144 ชีวิตคนธรรมดา

เริ่มจากการใส่มะเขือเทศและข้าวโพดที่เก็บมาจากช่องว่างมิติ เทน้ำแกงซี่โครงลงไปพร้อมเครื่องปรุงเล็กน้อย จัดวางผักเอาไว้รอบ ๆ ซึ่งล้วนเป็นผักที่ปลูกในแปลงผักของนางเอง ตามด้วยลูกชิ้นปลาทำมือและบะหมี่

ในบ้านมีเด็กและคนแก่อยู่ด้วยหลายคน จี้จือฮวนจึงได้ทำน้ำจิ้มสูตรพิเศษให้พวกเขาอีกด้วย

“น้ำจิ้มเห็ดของท่านผู้เฒ่า ผักชีและกระเทียมสับที่ท่านป้าชอบ ส่วนพวกเด็ก ๆ ก็ให้กินน้ำแกง และจิ้มเครื่องปรุงเล็กน้อยก็พอ”

จี้จือฮวนจัดแจงให้ทุกคนเรียบร้อยแล้ว จึงได้ส่งชามใบสุดท้ายให้กับเผยยวน “ของเจ้า”

เผยยวนมองนางด้วยสายตาเป็นประกาย ใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ

เนื่องจากเนื้อมีจำกัด ตอนที่จี้จือฮวนกลับมาจากตำบล จึงได้ซื้อเนื้อสัตว์ป่าจากจางต้าเปียวกลับมาด้วยเล็กน้อย และตอนนี้ของทุกอย่างก็วางอยู่บนโต๊ะแล้ว

เนื้อถูกแล่เป็นชิ้นบาง ๆ พอจุ่มลงไปในหม้อ แกว่งครู่เดียวก็สุกแล้ว ยิ่งเมื่อห่อหุ้มไปด้วยน้ำจิ้มสูตรพิเศษ ก็อร่อยจนไท่ซ่างหวงแทบจะเผลอกัดลิ้นตัวเองไปด้วย

จี้จือฮวนเห็นเขายังอยากกินอีก ก็กระแอมออกมาเล็กน้อย “ท่านกินได้แค่สองชิ้นเท่านั้น รออีกสองสามวันหากตรวจดูอาการแล้วพบว่าเป็นปกติดี จึงจะได้กินสี่ชิ้น”

ตะเกียบที่ไท่ซ่างหวงยื่นออกไปก็หดกลับในทันที ก่อนจะเปลี่ยนไปคีบเต้าหู้ที่เพิ่งตักออกจากหม้อเมื่อครู่อย่างเงียบ ๆ แทน

จี้จือฮวนยังได้ตั้งโต๊ะเล็ก ๆ อีกหลายโต๊ะ เพื่อให้ยอดฝีมือที่ไท่ซ่างหวงพามาได้กินอาหารร้อน ๆ กันด้วย

โคมไฟถูกแขวนไว้ใต้ชายคาของบ้าน ทั้งครอบครัวกินข้าวกันอย่างมีความสุข ไท่ซ่างหวงไม่ได้มีความสุขเช่นนี้มานานมากแล้ว

เขากินไปก็มองทุกคนไปด้วย จนตอนนี้ก็เผลอหยุดกินไปแล้ว

“ท่านปู่ทวด เหตุใดท่านถึงไม่กินต่ออีกขอรับ?” อาชิงน้อยเงยหน้าขึ้นถามไท่ซ่างหวงพร้อมกะพริบตาปริบ ๆ

อาอินตักผักที่สุกแล้วให้ท่านปู่ทวดอย่างรู้ความ

เด็ก ๆ ในราชวงศ์ มีความสนิทสนมกันเช่นนี้ที่ไหนกัน

“ไม่ใช่ไม่กิน เพียงแต่อร่อยมากจนปู่ทวดเสียดายก็เท่านั้นเอง”

อาชิงน้อยเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง “ต่อไปท่านปู่ทวดอยู่บ้านพวกเราก็สามารถกินของอร่อยได้บ่อย ๆ แล้วขอรับ!”

“ดี ๆ~” ไท่ซ่างหวงมองไปทางเผยจี้ฉือ

อาฉือเม้มริมฝีปาก จากนั้นก็คีบหน่อไม้ให้เขา “หน่อไม้บนเขากำลังอ่อน ท่านกินเยอะ ๆ นะขอรับ”

ไท่ซ่างหวงจึงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข

ท่านป้ามุ่ยปากขึ้นมา นี่มันอะไรกัน ก่อนที่เจ้าจะมา เด็ก ๆ บ้านนี้เป็นคนของข้านะ!

โชคดีที่ยังมีห้องรับแขกในเรือนเหลืออยู่ หลังจากจี้จือฮวนและเผยยวนกินข้าวเสร็จแล้ว ก็ได้ช่วยกันเตรียมห้องนอนให้ไท่ซ่างหวง อาศัยตอนที่ไม่มีคนจี้จือฮวนจึงเอ่ยถามขึ้นมา “ไท่ซ่างหวงพูดกับเจ้าว่าอย่างไร?”

เผยยวยเองก็ไม่คิดที่จะปิดบังนาง จึงเลือกเล่าแต่สิ่งสำคัญในการสนทนาของพวกเขาเมื่อครู่ให้นางฟัง

เดิมคิดว่าจี้จือฮวนจะต้องตกใจเป็นแน่ คิดไม่ถึงว่านางจะพยักหน้ารับรู้นิ่ง ๆ และเอ่ยขึ้นมา “ในเมื่ออาฉือเป็นลูกชายของอดีตองค์รัชทายาท เช่นนั้นพวกเจ้าต้องระวังองค์ชายรองกับตาของเขา อัครมหาเสนาบดีหานให้ดี”

แม้ว่าในนิยายจะไม่ได้กล่าวถึงเรื่องของอดีตองค์รัชทายาทว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผู้เขียนเพียงกล่าวไว้สั้น ๆ เท่านั้น แต่ตามหลักการที่ว่า ใครได้ผลประโยชน์ผู้นั้นก็เป็นผู้บงการ จี้จือฮวนย่อมทราบดี

สุดท้ายองค์ชายรองก็จะได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ ต่อให้ไม่ใช่ผู้บงการและมีคนอื่นชักใยอยู่ข้างหลัง แต่เจ้าเด็กคนนี้ก็ต้องคอยผสมโรงด้วยอย่างแน่นอน

เพราะมีองค์รัชทายาทคอยขวางทางอยู่ ใครก็อย่าคิดว่าจะได้ปีนขึ้นบัลลังก์อย่างชอบธรรมมิใช่หรือ

เผยยวนก็เคยคิดถึงเรื่ององค์ชายรองมาก่อน “เจ้ารู้อะไรมาอย่างนั้นหรือ?”

“ไม่รู้ ข้าเพียงแค่คิดตามก็เท่านั้น” จี้จือฮวนวางหมอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว

เผยยวนจึงพยักหน้ารับ “อืม ข้าจะจับตาดูไว้”

หลังจากเขาพูดจบก็หยิบตั๋วเงินปึกหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อแล้วยื่นให้นาง

อาศัยแสงเทียน จี้จือฮวนถึงกับหนังตากระตุกขึ้นมา พลางมองหน้าเขา

ดวงตากระจ่างใสของเผยยวนมองนางแค่เพียงแวบเดียว “เอาไว้ใช้ในบ้าน”

“เจ้าเอาเงินมากมายเช่นนี้มาจากที่ใดกัน?”

“ก่อนหน้านี้มีคนติดค้างข้า ใบยืมหนี้ก็มีอยู่ด้านใน”

จี้จือฮวนเปิดตั๋วเงินปึกนั้นออก ก่อนจะพบว่ามีใบยืมหนี้แผ่นหนึ่งอยู่ในนั้นจริง ๆ นางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พลางเอ่ยว่า “ดอกเบี้ยสูงทีเดียว คนผู้นี้ไม่ใช่คนโง่จริง ๆ หรือ?”

เอี๋ยนเฉาซึ่งกำลังร้องไห้และรวบรวมเงินอยู่ถึงกับจามแรง ๆ สองครั้ง เขาสูดลมหายใจเข้าและทอดถอนใจออกมา “ต้องมีคนกำลังคิดถึงข้าอยู่เป็นแน่”

พวกชาวบ้านจะมีคำกล่าวหนึ่งบอกว่า จามหนึ่งครั้งคือคนด่า จามสองครั้งคือคนคิดถึง

คนรับใช้ข้าง ๆ มุ่ยปากพลางเอ่ยออกมา “หากมีคนสองคนกำลังด่าท่านอยู่เล่าขอรับ?”

เอี๋ยนเฉา “…”

“อยากตายหรืออย่างไร ยังไม่รีบไปเร่งพวกเขาอีก!”

เผยยวนเห็นจี้จือฮวนลังเลก็รีบเอ่ยขึ้นมา “ช่วงที่ผ่านมาเจ้าดูแลข้ากับพวกเด็ก ๆ ก็ลำบากมากแล้ว ดังนั้นเงินที่ใช้จ่ายในบ้านข้าควรเป็นคนหามาให้เจ้า”

จี้จือฮวนคิดไปคิดมา ก็เห็นว่าเหตุผลนี้ฟังขึ้นไม่น้อย ถือว่าช่วยเขาเก็บเงินก็แล้วกัน

“เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะไม่ปฏิเสธเจ้าก็แล้วกัน แต่เจ้าจะเก็บเอาไว้สักใบหรือไม่?”

“ไม่ต้อง ๆ ข้ามีพอใช้แล้ว” เผยยวนตบถุงเงินที่มีเงินสิบเหรียญทองแดงอยู่ข้างใน ผู้ชายก็ควรจะจ่ายค่าใช้จ่ายในบ้าน จะหมกเม็ดไว้ใช้ส่วนตัวได้อย่างไรกัน!

เงินนี่เขาจะรวบรวมเอาไว้ วันหน้าค่อยซื้อปิ่นปักผมให้ฮวนฮวน

เวลากลางคืน ในห้องของจี้จือฮวนมีเสียงของนางเล่านิทานให้เด็ก ๆ ฟังลอยออกมา

เผยยวนที่อยู่ห้องข้าง ๆ จึงฟังอย่างตั้งใจ ขายาว ๆ ของเขาวางทอดยาวบนเตียงพร้อมกับรอยยิ้มที่พึงพอใจเกลื่อนบนใบหน้า อีกห้องหนึ่ง ไท่ซ่างหวงกำลังมองดวงจันทร์บนท้องฟ้า “จางตงไหล เจ้าว่าชีวิตเช่นไร จึงเรียกว่าชีวิต?”

จางตงไหลเป็นคนมีไหวพริบ ไฉนเลยจะไม่รู้ความหมายของไท่ซ่างหวง “กระหม่อมคิดว่าชีวิตในตอนนี้ยอดเยี่ยมที่สุดแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

คิดไม่ถึงว่ามาคราวนี้ สิ่งที่ไท่ซ่างหวงต้องการล้วนมีครบ ยังจะมีอะไรดีไปกว่านี้อีกอย่างนั้นหรือ

ไท่ซ่างหวงมองท้องฟ้าด้านนอก “ยังไม่พอน่ะสิ”

คนที่เขาอยากปกป้อง มักจะมีคนอยากให้พวกเขาตาย เช่นนั้นเขาจะตายไม่ได้เด็ดขาด เขาต้องมีชีวิตยืนยาว

เมื่อคืนนี้เด็กทั้งสามต่างก็นอนกับจี้จือฮวน

นางตื่นตั้งแต่เช้าตรู่แล้วไปรีดนมวัว คิดจะทำซวงผีหน่าย1ผลมันฮ่อ2ให้ทุกคนได้กิน

ตอนที่อาอินตื่นขึ้นมา ก็ขยี้ตาเล็กน้อยและลุกขึ้นจากเตียง

“ท่านแม่เจ้าคะ”

จี้จือฮวนกวักมือเรียกนาง อาอินจึงนั่งลงบนม้านั่งตัวเล็กอย่างเชื่อฟัง จี้จือฮวนมัดผมให้นาง นางเพิ่งจะเรียนมาจากพวกท่านป้าในหมู่บ้าน

สักพักอาชิงก็หิ้วกางเกงวิ่งดุกดิกออกมา

เมื่อได้ยินว่าเช้านี้จี้จือฮวนจะทำผลมันฮ่อ อาอินก็แบกตะกร้าใบเล็กขึ้นเขาไป เพราะนางรู้ว่าที่ไหนมีผลมันฮ่อ

ในการทำซวงผีหน่ายต้องทำจากนมสด ๆ ในตอนเช้า ผิวนมที่เรียบเนียนขึ้นอยู่กับน้ำนม นมควายอุดมไปด้วยไขมันและโปรตีน ทำให้เกิดฟองเต้าหู้ได้ง่ายกว่า นมที่เทออกมาหลังเกิดชั้นฟองเต้าหู้ก็เอาไปผสมกับไข่ขาว และเทนมลงในชามที่มีฟองเต้าหู้อีกครั้ง จากนั้นก็เอาไปใส่ในหม้อนึ่ง

ด้านนอก อาอินเก็บผลมันฮ่อกลับมาได้ถึงครึ่งตะกร้า

ไม่นานก็มีเสียงนางบีบผลมันฮ่อดังขึ้น เมื่อแกะได้ครึ่งกะละมัง จี้จือฮวนก็นำผลมันฮ่อไปลวกเพื่อขจัดความขม และเอาไปพักไว้เพื่อให้สะเด็ดน้ำ ก่อนจะใส่ลงไปในหม้อเพื่อผัดให้แห้ง จากนั้นก็หยิบหม้ออีกใบใส่น้ำตาล น้ำเปล่า และน้ำผึ้งลงไป หลังจากต้มจนกลายเป็นน้ำเชื่อมก็เทผลมันฮ่อที่สุกแล้วลงไปผัด โรยด้วยงาขาว ราดบนซวงผีหน่ายที่นึ่งสุกแล้ว

สุดท้ายจึงหั่นกล้วยลงไปตกแต่งอีกเล็กน้อย กินคู่กับก้อนแป้งโรยงาและซาลาเปาที่ทอดแล้ว

ผลมันฮ่อที่เหลือจี้จือฮวนเอาใส่ไว้ในโหล ให้เผยจี้ฉือนำไปกินที่สำนักศึกษา

ไท่ซ่างหวงยังคงคิดถึงหม้อไฟเมื่อคืนนี้ แต่ทันทีที่ตื่นขึ้นก็ได้กินซวงผีหน่ายผลมันฮ่อที่ไม่เคยกินมาก่อน นั่นทำให้เขายิ้มหน้าบานเลยทีเดียว เฮ้อ ชีวิตดี ๆ เช่นนี้ใครอยากจะกลับวังก็กลับไปเถอะ มิน่าเล่าพวกอาฉือถึงไม่อยากกลับไป

[1] ซวงผีหน่าย (双皮奶) พุดดิ้งนม รสสัมผัสเหมือนเต้าฮวยแต่เนื้อเหลวกว่าเล็กน้อย มีฟองนมบาง ๆ เคลือบผิวหน้าของพุดดิ้งอยู่

[2] ผลมันฮ่อ (核桃) ผลวอลนัต