ตอนที่ 16-2 ใช้เเจกันทุบ
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้เว่ยหยางกำลังจดจ่ออยู่กับภาพที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า
แม่นมจ้าวกำลังป้อนซุปให้กับผู้ที่กำลังนอนป่วยอยู่บนเตียง
หลี่เว่ยหยางจึงรีบเดินไปข้างหน้า และใช้มือปัดถ้วยซุปออกจากมือของแม่นมจ้าวในทันที
ถ้วยซุปนั้นตกลงบนพื้น และแตกกระจายทันที ส่วนน้ำซุปนั้นหกเลอะเทอะไปทั่วพื้น
“ผู้ใดกล้า?!”
หลี่เว่ยหยางคำรามออกมาเหมือนคนเสียสติ
“แม่นมจ้าว ดวงตาของท่านฝ้าฟางจนจำข้ามิได้หรือ”
เมื่อตระหนักถึงบุคคลที่อยู่ตรงหน้า แม่นมจ้าวจึงตื่นตระหนก และมีอาการสั่นไปทั้งร่างด้วยความหวาดกลัว
ฮัวเหม่ยบอกกับข้าว่า คุณหนูสามจะมาที่นี่ตอนหนึ่งทุ่มมิใช่หรือ? เหตุใดท่านจึงมาก่อนเวลานัด?
“ผู้ใดสั่งให้เจ้าเอาซุปนี้มาให้ชิหยินเหนียนกิน?!”
น้ำเสียงของหลี่เว่ยหยางหนักแน่นและแข็งกร้าว ซึ่งมิเหมือนกับเด็กสาวอายุสิบสามผู้บอบบางเลยแม้แต่น้อย
แม่นมจ้าวมีความรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก และได้กล่าวอย่างตะกุกตะกักว่า
“มัน. . . มัน. . .”
ชิหยินเหนียง ผู้ซึ่งกำลังนอนป่วยอยู่บนเตียง มีอาการสะดุ้งสุดตัว และละล่ำละลักเอ่ยถามออกมาว่า
“เว่ยหยาง? เจ้าคือเว่ยหยางจริง ๆ หรือ!”
ชิหยินเหนียนเป็นคนละเอียดอ่อนอย่างแท้จริง
แม้ว่านางจะยังอายุมิมากเท่าไหร่แต่รูปร่างหน้าตาของนางนั้นแก่กว่าอายุจริงมาก มิหนำซ้ำตอนนี้ยังมาป่วยหนักอีก
ร่างกายนั้นผอมแห้งเสียจนทำให้กำไลหยกที่ข้อมือของนางหลวมมาก จนพร้อมที่จะหลุดออกมาได้ทุกขณะ
นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่เว่ยหยางได้พบกับมารดาผู้ให้กำเนิดของตนเอง
ดวงตาของเว่ยหยางมีน้ำตาคลอเต็มเบ้าตาโดยมิรู้ตัว แต่นางมิได้ตอบกลับชิหยินเหนียง
แต่กระพริบตาอย่างรวดเร็วสองสามครั้ง พร้อมกับชี้นิ้วไปที่พื้น และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดุดันออกมาว่า
“แม่นมข้าว เจ้าช่างกล้านัก ผู้ใดสั่งให้เจ้าทำในสิ่งที่ชั่วช้าเช่นนี้ นี่ถึงขั้นพยายามจะฆ่าชิหยินเหนียงเลยหรือ?!”
แม่นมจ้าวกำลังจะอ้าปากเพื่อโต้เถียง แต่ได้เหลือบไปเห็นมดสองสามตัวนอนตายอยู่ที่พื้น บริเวณข้าง ๆ น้ำซุปที่หกอยู่
เห็นได้ชัดว่า การตายของพวกมันเกิดจากพิษที่อยู่ในน้ำซุป
นางมิสามารถแก้ตัวได้อีกต่อไป จึงคิดที่จะหนี นางหันหลังและกำลังจะวิ่งไปที่ประตู
หลี่เว่ยหยางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า
“เจ้าสองคนจับตัวนางมาให้ข้า!”
ไป๋จือและสาวใช้อีกคนสบตากัน
ทันใดนั้นทั้งสองคนก็กระโจนเข้าหาแม่นมจ้าว และคว้าแขนของนางเอาไว้คนละข้าง
ในระหว่างนั้น แม่นมผู้นี้ได้พยายามดิ้นรน และต่อสู้อย่างสุดกำลัง
ในขณะเดียวกันนั้น หลี่เว่ยหยางจึงเดินเข้าไปหานาง และตบหน้าอย่างรุนแรง เสียงนั้นดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้อง
“เจ้าบังอาจสังหารชิหยินเหนียงเลยหรือ!”
แม่นมจ้าวเจ็บปวด และรู้สึกโกรธมากขณะที่กรีดร้องออกมาเหมือนกับคนเสียสติ
“คุณหนูสาม! ฮูหยินใหญ่ส่งข้ามาดูแลท่าน! ท่านจะมาตบตีข้าเช่นนี้มิได้!”
สิ่งที่ข้าจะทำมิเพียงแต่จะตบตีเจ้าเท่านั้น แต่ข้าจะกำจัดเจ้าด้วย!
ชั่วพริบตา หลี่เว่ยหยางได้ตัดสินใจบางอย่าง ขณะที่หยิบแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่
ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาแล้วยกขึ้นเหนือศีรษะของแม่นมจ้าว
แม่นมจ้าวเงยหน้าขึ้นมองไปยังแจกันด้วยสีหน้าตื่นตกใจ
ขณะที่มือของเว่ยหยางกำลังยกขึ้นเหนือศีรษะของแม่นมจ้าวผู้นี้
แม่นมจ้าวได้สังเกตเห็นสีหน้าลังเลใจของเว่ยหยาง
“คุณหนูสาม หากท่านทุ่มมันลงมาใส่ข้า เรื่องนี้จะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่!”
แต่สำหรับคำกล่าวเหล่านั้นที่ออกมาจากแม่นมจ้าวนั้น มันช่วยเว่ยหยางในการตัดสินใจที่ไร้หัวใจของนาง
ความรู้สึกบางอย่างบอก กับเว่ยหยางว่า เรื่องนี้นางต้องจัดการให้เด็ดขาด และห้ามใจอ่อน
แต่ลึก ๆ แล้วในจิตสำนึกของนางมันมิใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะปลิดชีพผู้อื่นด้วยสองมือของตนเอง
และเมื่อได้เผชิญหน้ากับดวงตาที่น่ากลัวคู่นั้น นางจึงอดมิได้ที่จะทุ่มแจกันนั้นลงด้วยความรุนแรงที่สุด
เว่ยหยางทุ่มแจกันดอกไม้ใบนั้นลงบนศีรษะของแม่นมจ้าวด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมดของนาง
ทันทีที่เลือดไหลออกมาจากศีรษะนั้น ดวงตาของแม่นมเบิกกว้าง และร่างกายของนางนั้นอ่อนปวกเปียกไปหมด
สาวใช้ทั้งสองอยู่ในอาการตื่นตระหนก และปล่อยมือออกจากแม่นมจ้าวทันที
ขณะที่ร่างไร้วิญญาณร่างนั้นเต็มไปด้วยเลือด และล้มลงนอนไปกับพื้น
ใบหน้าของหลี่เว่ยหยางซีดราวกับเห็นผี ขณะที่นางวางแจกันดอกไม้ลงอย่างช้า ๆ
หลังจากนั้นมินาน นางกลับมาสงบสติอารมณ์และเริ่มตั้งสติ ขณะที่จ้องมองไปที่อีกสามคนในห้อง
พวกนางยังคงอยู่ในอาการตกตะลึง ซึ่งเกิดจากความสยดสยองที่อยู่ตรงหน้า เว่ยหยางจึงกล่าวขึ้นว่า
“จะต้องกลัวอันใด! นางมาที่นี่เพื่อต้องการสังหารชิหยินเหนียน สมควรแล้วที่มีจุดจบเช่นนี้!”
ไป๋จือสงบลงแล้ว จากนั้นจึงนั่งลงเพื่อตรวจสอบชีพจรของแม่นมจ้าว
“ดูเหมือนว่า . . . ดูเหมือนว่านางจะหยุดหายใจแล้ว!” ไป๋จื่อกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
หลี่เว่ยหยางจ้องมองไปยังแม่นมจ้าวอย่างเย็นชา
แม่เฒ่าผู้นี้รับคำสั่งมาจากฮูหยินใหญ่ ให้มาที่นี่เพื่อสังหารชิหยินเหนียง
หากเว่ยหยางมาตามเวลาที่นัดเอาไว้กับฮัวเหม่ย มารดาผู้ให้กำเนิดของนางก็จะต้องเสียชีวิตก่อนที่นางจะมาถึง
และหากก่อนหน้านี้ นางใจอ่อน และปล่อยให้แม่นมจ้าวมีชีวิตอยู่
มิต้องสงสัยเลยว่า แม่นมจ้าวจะต้องไปหาฮูหยินใหญ่ และบอกกล่าวเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น
เมื่อเป็นเช่นนั้น สองแม่ลูกก็จะมิมีอันใดเหลือเลยแม้แต่ลมหายใจ เพราะฉะนั้นนางมิมีทางเลือก
“คุณหนู ตอนนี้เราควรทำอย่างไรดี?”
เหงื่อหยดลงมาจากหน้าผากของไป๋จือ และร่างนั้นเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
บุคลิกที่แข็งแกร่งของคุณหนูสามมิเหมือนกับหญิงสาวทั่วไป นางจึงตัดสินใจที่จะรับใช้คุณหนูสามด้วยใจจริง
ดังนั้นไป๋จื่อจะมิทำอันใดที่จะเป็นการทรยศ และหักหลังต่อนายหญิงตัวน้อยผู้นี้เด็ดขาด
หลี่เว่ยหยางกำลังจะอ้าปากเพื่อกล่าวอันใดบางอย่าง แต่ได้ยินเสียงของชิหยินเหนียง ผู้ซึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียงกล่าวขึ้นว่า
“ซีอุยเอ๋อไปเอากระเป๋ามา และนำศพของนางใส่ไว้ในนั้น
จากนั้นมัดไว้กับก้อนหินหนัก แล้วโยนลงไปในสระบัวหลังหน้าต่างนั่น
เจ้าต้องทำให้เรียบร้อยและรวดเร็วที่สุด เข้าใจหรือไม่”