“เจ้าไปไหนมาตะกี้?”

เมื่อเย่เทียนกลับมาหาออเรเลียเธอก็ถามด้วยความสงสัย.

ความจริงแล้วเธอเองก็ไม่รู้สึกตัวเลยว่าเธอเริ่มจะแคร์เย่เทียนมากกว่าปกติซะอีก.

“ที่นี่มีคนเยอะมากๆเลยน่ะครับ, ข้าเลยถูกเบียดออกไป! โอ้พระเจ้า, ข้าไม่เคยมาร่วมงานที่บ้าคลั่งแบบนี้มาก่อนเลย”

เย่เทียนยักไหล่แล้วบ่นด้วยสีหน้าไร้เดียงสา.

“นี่เป็นเรื่องปกติระหว่างชนชั้นสูงน่ะ เดี๋ยวเจ้าก็ชินเองนั่นแหละ”

ออเรเลียยิ้มแล้วอธิบายอย่างสุภาพ. ดูเหมือนว่าเธอเองก็ชินกับภาพแบบนี้ไปแล้ว .

“ท่านหญิงออเรเลียครับ, เคช่ากับข้าจะได้งานแต่งที่ยอดเยี่ยมแบบนี้รึป่าวครับ?”

เย่เทียนยิ้มแล้วถามออเรเลียกลับ. แต่ในใจเขานั้นได้ตัดสินใจไปแล้วว่างานแต่งงานในยุคนี้จะต้องมโหฬารตระกาลตา.

“นั่นก็ขึ้นอยู่กับสถานะและการเงินของเจ้าตอนนั้นแหละ ข้ามีแผนว่าจะให้เจ้าหมั้นกับเคช่าก่อนแล้วค่อยแต่งหลังจากเจ้าประสบความสำเร็จ. เคช่าเป็นลูกสาวของข้าและงานแต่งของนางจะต้องยิ่งใหญ่!”

ออเรเลียจ้องเขม็งมาทางเย่เทียนแล้วพูดช้าๆ.

“ครับ, ในงานแต่งของข้า ชนชั้นสูงและพ่อค้ารวยๆทุกคนจะต้องมาร่วมงานข้า!”

เย่เทียนยิ้มด้วยความมั่นใจ ดวงตาของเขามีไฟทะเยอทะยานลุกโชนขึ้นมา.

พอได้ยินเช่นนั้น ออเรเลียก็ยิ้มออกและพอใจมากๆ. เพราะแม่คนไหนอยากจะให้ลูกสาวตัวเองแต่งกับผู้ชายไม่มักใหญ่ใฝ่สูงล่ะ?

ไม่นานนักก็มีเสียงร้องเพลงเป็นทำนองดังขึ้นมา. นี่คือการเดินขบวนแรกในงานแต่ง. พวกชนชั้นสูงจึงร้องออกมาอย่างดัง เพราะมันจะเป็นการเสียมารยาทถ้าร้องเบา.

“แกร่ก….”

ขณะที่เพลงยังคงขับร้องอยู่ เจ้าบ่าวและเจ้าสาวมาถึงประตูหน้าบ้านพวกเขาแล้ว. แครสซัสรับถุงมาแล้วโยนเฮเซลนัทด้านในไปที่ฝูงชนรอบๆ.

(ถั่วเฮเซล)

มันเป็นประเพณีที่เจ้าบ่าวจะต้องโยนเฮเซลนัท – ที่เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ – ไปทางฝูงชนเพื่อให้มีชีวิตงอกงามหลังแต่งงาน.

ข้างหน้าประตูนั้น, ทีมเจ้าสาวและทีมคบเพลิงดูสะดุดตามากที่สุดเลย. มีเด็กผู้ชาย2คนยืนอยู่ทั้งสองข้างของเจ้าสาวและเด็กผู้ชายอีกคนก็กำลังเดินนำหน้าเจ้าสาวไปพร้อมกับคบเพลิงที่จุดมาตั้งแต่บ้านของเจ้าสาว. คบเพลิงนั้นจะถูกปักไว้บนกิ่งของต้นซานจา. เพราะผู้คนเชื่อว่าการปักต้นไม้ไว้ในต้นซานจาจะสามารถขับไล่ความชั่วร้ายได้.

“ฟุ่บ!”

“ฟุ่บ!”

……

ทันใดนั้นพวกเด็กๆก็โยนคบเพลิงทิ้ง, เหมือนกับการที่เจ้าสาวในยุคปัจจุบันโยนช่อดอกไม้ทิ้งนั่นแหละ, มันทำให้พวกแขกต่างเป็นบ้าแย่งกันเก็บเพราะถ้าเก็บคบเพลิงได้แปลว่าจะมีชีวิตที่ยืนยาว.

และแน่นอนว่าทุกคนล้วนอยากจะมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นและมีความสุขไปกับชีวิตที่หรูหรา.

“ซุ่ม!”

เย่เทียนเองก็เข้าไปแย่งเช่นกัน, บินไปราวกับชีต้า. เขาพุ่งไปข้างหน้าแล้วแย่งคบเพลิงทั้ง3มาไว้ในมือได้.

“ไอ้เวรซาตาน!!”

ปอมปีย์ด่าออกมาเพราะเย่เทียนแย่งคบเพลิงที่กำลังจะหล่นมาที่มือเขาพอดี. และตอนนี้เขาก็เสียโอกาสที่จะเอามันไปให้แม่ของเขาแล้ว.

….

พอเห็นรอยยิ้มกวนๆของเย่เทียน, หน้าของแครสซัสก็ดูหดหู่ขึ้นมาและความรู้สึกไม่ดีก็เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ.

“ไอ้บ้า!”

“หน้าด้าน!”

“หมอนี่มันใคร? ช่างหยาบคายเสียจริง”

เย่เทียนแย่งคบเพลิงทั้งสามมาได้ ทำให้พวกชนชั้นสูงสบถออกมาเบาๆ.

“ท่านหญิงออเรเลีย, โปรดให้ข้ามอบชีวิตที่ยืนยาวและความเยาว์อันเป็นนิรันด์ในนามของเทพธิดาแห่งชีวิตด้วยเถิด!”

เย่เทียนไม่สนใจอารมณ์ฉุนเฉียวของพวกชนชั้นสูงเลย. เขาค่อยๆเดินไปข้างๆออเรเลียอย่างช้าๆแล้วพูดอย่างองอาจ. แล้วก็มอบคบเพลิงให้เธอ.

“ขอบใจนะ, ลอร์ดซาตานผู้น่ารัก, เจ้าช่างเป็นนักรบที่แข็งแกร่งและว่องไวที่สุดในโลกจริงๆ!”

ออเรเลียดีใจมากแล้วรับคบเพลิงมาไว้ในมือด้วยความยินดี.

“ซีซาร์, นี่คือพรจากพระเป็นเจ้าล่ะ. รับไปสิ. เจ้าจะต้องเป็นใหญ่ที่สุดในสนามรบภายภาคหน้านี้แน่ๆ!”

เย่เทียนพูดกับซีซาร์พร้อมรอยยิ้ม.

“ขอบพระคุณครับท่านน้องเขยของข้า นี่คือของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดเลย!”

ซีซาร์รับคบเพลิงมาอย่างองอาจราวกับว่ามันเป็นคำอวยพรของเย่เทียน.

อีกอันล่ะ?!

เย่เทียนไม่รู้ว่าจะทำกับมันยังไงดี, เขาไม่ต้องการมันอยู่แล้ว. ชีวิตอันยืนยาวของเขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคำอวยพรของพระเจ้าเลย.

“ท่านหญิงผู้เลอโฉม โปรดให้ข้าอวยพรท่านในนามเทพธิดาแห่งชีวิตด้วยเถิด, ชีวิตยืนยันสืบไป, ความงดงามสืบไป!”

เย่เทียนเห็นสตรีชั้นสูงที่อายุราวๆเดียวกันยืนอยู่ข้างๆออเรเลีย, ซึ่งนางกำลังมองมาทางออเรเลียด้วยสายตาอิจฉา เย่เทียนเลยยิ้มแล้วส่งคบเพลิงให้เธอ.

“ขอบใจนะ, นักรบผู้แข็งแกร่งซาตาน, นี่เป็นของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดที่ข้าได้รับในปีนี้เลย”

สตรีผู้นั้นรีบรับคบเพลิงมา, เธอดูมีความสุขมากๆ.

“ไอ้เวรซาตาน!”

การกระทำของเย่เทียนทำให้ปอมปีย์รู้สึกริษยามากๆ.

“ซาตาน, นี่คือเพื่อนสนิทของข้า, ภรรยาของฉินน่า” (ไม่มั่นใจนะครับ)

ออเรเลียรู้สึกอิจฉาเล็กน้อยตอนที่เธอเห็นเย่เทียนมอบคบเพลิงให้เพื่อนของเธอ แต่โชคดีที่เย่เทียนมอบอันที่สว่างที่สุดให้เธอ เธอจึงแนะนำเพื่อนเธอให้เย่เทียน.

เย่เทียนนั้นเป็นแค่ชนชั้นสูงหน้าใหม่ที่ไม่มีความโดดเด่นใดๆเลย, เธอจึงหวังว่าเย่เทียนจะได้ทำความรู้จักกับชนชั้นสูงหน้าเก่าๆได้เร็วๆ.

“ท่านหญิง ฉินน่า, เป็นเกียรติที่ได้พบท่านครับ….”

เย่เทียนนิ่งไปพักหนึ่งแล้วชมเธอ.

เธอคือภรรยาของฉินน่างั้นเหรอ! ในประวัติศาสตร์นั้นเธอคือแม่ยายคนแรกของซีซาร์ และฉินน่าเป็นพรรคพวกที่น่าศรัทธาของกาอิอุส มาเรียสด้วย. สงครามกลางเมืองครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสาธารณะรัฐโรมันนั้น มีฉินน่าและกาอิอุส มาเรียสเป็นผู้เปิดศึกต่อสุละ, ถึงแม้ว่าจะล้มเหลวก็ตาม.

“ข้าเองก็เป็นเกียรติที่ได้พบท่านเช่นกัน, นักรบผู้แข็งแกร่งของข้า, ซาตาน!”

คุณหญิงฉินน่ายิ้มแล้วพูดกับเย่เทียน.

แล้วทั้งสามก็คุยกัน. ต่อมา, งานแต่งก็ดำเนินต่อไปอย่างครื้นเครง.

….

ตอนที่แองเจล่ากลับมาถึงบ้านมันก็เริ่มมืดแล้ว. เธอเดินไปที่พื้นที่ต้องห้ามที่สาวหมาป่าอยู่ แล้วหยิบผ้าสีแดงออกมา, แผ่ออกแล้วยื่นให้วิคตอเรียไป. แล้วเธอก็พูดกับวิคตอเรียเล็กน้อย.

“โฮ่ง!!”

วิคตอเรียหยิบผมขึ้นมาแล้วดมเบาๆด้วยปลายจมูกของเธอ. แล้วเธอก็ลุกขึ้นยืน, คำรามออกมา, ฉีกชุดเธอออกทั้งหมด, ก้มลงแล้วพุ่งออกไป.

“ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บบ!”

ทันใดนั้นวิคตอเรียก็ดูเหมือนกับหมาป่าตัวจริงจริงๆและความเร็วของเธอก็ไปถึงขั้นสุดยอด. เธอพุ่งไปได้ไกลหลายเมตรแล้วก็กระโดดขึ้นไปบนหลังคา. จากนั้นเธอก็วิ่งไปบนหลังคาอย่างเงียบเชียบภายใต้ความมืดของค่ำคืน.

ถึงแม้คนในบ้านจะได้ยินเสียงบนหลังคา พวกเขาก็จะคิดว่าเป็นแมวไล่กัดกันธรรมดาๆ.

พิธีแต่งงาน, ทริปกลางคืนของสาวหมาป่า!