งานแต่งงานของชนชั้นสูงนั้นหรูหราสุดยอดมาก!

หลังจากทำพิธีเสร็จทุกขั้นแล้ว, เจ้าสาวก็คงจะเหนื่อยมากแครสซัสจึงส่งเธอกลับห้องไป. เพราะเจ้าสาวยังมีพิธีที่จะต้องทำในวันพรุ่งนี้.

หลังจากส่งเจ้าสาวกลับเข้าห้องหอไปแล้ว, แครสซัสก็ออกมาทันที. ยังมีแขกอยู่หลายคนที่กำลังรอเขาอยู่. คืนนี้เขาจะต้องเมาแน่ๆ.

หลังจากเจ้าสาวถูกส่งกลับแล้ว, ทาสหญิงเด็กๆหลายคนก็ถูกเรียกให้มารินไวน์และสร้างความบันเทิงให้กับแขก.

แน่นอนว่าคงไม่มีใครกล้าทำอะไรเกินหน้าเกินตาแน่ๆ เพราะคืนนี้เป็นคืนของเจ้าบ่าว.

ในงานเลี้ยงงานแต่งนั้นมีหลายคนมองมาทางเย่เทียนด้วยความอิจฉาเพราะตอนนี้เขากำลังอยู่กับสาวงามตั้ง3คน.

ออเรเลีย, คุณหญิงฉินน่าและยูเลีย ป้าของซีซาร์ที่เข้ามาหาเย่เทียนอย่างร่าเริงเมื่อเห็นเขา.

แค่มีหญิงงาม3คนพร้อมกันก็ทำให้ชายหลายๆคนจ้องริษยาอยู่แล้ว. สิ่งที่เหนือกว่านั้นคือสถานะของพวกเธอไม่ใช่เล่นๆ, ถ้าไม่ใช่มาจากตระกูลใหญ่ๆก็สามีมีอำนาจมากล้น.

อย่างที่รู้กันว่าคนส่วนใหญ่ในงานเป็นพวกสุภาพสตรีและบุรุษชนชั้นสูงส่วนใหญ่ก็มีแค่พวกเด็กๆไม่ก็คนแก่ๆ.

เพราะช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤตของโรมที่จะต้องปราบปรามพันธมิตรของพวกกบฏ ฉะนั้นชนชั้นสูงวัยกลางคนส่วนใหญ่ก็อยู่ในสนามรบกันหมดเพื่อเป็นกำลังหลักให้กับตระกูลของพวกเขา.

พอสังเกตเห็นสายตาของพวกชั้นสูง, เย่เทียนก็ยิ้มแรงในใจ. แม้ว่าเขาจะถูกบังคับให้ลงเรือลำเดียวกับกาอิอุส มาเรียสแต่เขาก็ไม่อยากจะโพนทะนาออกไปแต่สงสัยคืนนี้คงจะเลี่ยงไม่ได้แล้วสิ.

กาอิอุ มาเรียสนั้นเริ่มแข็งแกร่งขึ้นมาใน2ปีที่ผ่านมานี้แต่หลังจากสงครามสังคม, พันธมิตรของเขาทั้งหมดถูกปราบพ่าย, กองกำลังเองก็ขาดอำนาจ. จากนั้นพ่อของซีซาร์กับลุงก็จะตายบนสนามรบและกาอิอุส มาเรียสก็จะพ่ายสงครามระหว่างสุละ. ต่อมาเขาก็จะพ่ายแพ้ให้กับสุละอีกเรื่องพยายามหยุดยั้งอำนาจ แล้วก็จะถูกเนรเทศออกไป. จากนั้นเขากับฉินน่าจะใช้ประโยชน์จากการเดินทางไปมิทราดาตี้ของสุละ, ทำการหยุดยั้งอำนาจครั้งที่สองแล้วก็ประสบความสำเร็จ. แต่ทว่าเขาจะสิ้นใจหลังจากขึ้นปกครองได้ไม่กี่วันและถูกฉินน่าแทนที่ไป.

หลังจากหลายปีที่ฉินน่าปกครอง, สุละที่เอาชนะสงครามได้ก็ฆ่าเขาลง.

ตั้งแต่ตอนนั้นมา ประวัติศาตร์ของตระกูลซีซาร์ก็พบกับจุดจบ!

แต่ถึงยังไงก็อีกหลายปีกว่าจะถึง.

ในอีกหลายปีเย่เทียนอาจจะไม่มีพลังพอจะเปลี่ยนแปลงประวัติศาตร์ของโรมโบราณแต่อย่างน้อยเขาก็มีพลังพอที่จะปกป้องตัวเขาเองและคนของเขาได้.

ดังนั้นเย่เทียนเลยไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้มากเท่าไหร่.

“ซีซาร์, เจ้าได้เรียนรู้อะไรมาจากอาจารย์ของเจ้าบ้างล่ะ?”

ยูเลียถามซีซาร์ด้วยความสงสัย.

“เยอะเลยครับ, วิชาดาบแกร่งๆเยอะแยะเลยแม้ว่าท่านน้องเขยของข้าจะสอนมาหน่อยนึงแต่ก็ใช้ได้จริงเยอะเลย!”

ซีซาร์พูดอย่างภูมิใจ.

“ท่านหญิงทั้งสาม, โปรดให้ข้าสรรเสริญเกียรติของพวกท่านด้วยแก้วไวน์ด้วยเถิด, ด้วยเกียรติทั้งหมดของข้าแด่ความงามของพวกท่าน….”

ระหว่างคุยกันนั้น, ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาที่โต๊ะของเย่เทียนแล้วพูดด้วยรอยยิ้มและท่าทางมึนเมา.

“ขอบใจสำหรับคำอวยพรเจ้านะ, มาโคเนีย หลายชายของสุละ!”

ออเรเลียขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ, ท่านหญิงฉินไม่พูดใดๆแต่ก็ยกแก้วขึ้นมาแทน, ส่วนยูเลียนั้นไม่ได้ใส่ใจเขาเลย.

“ท่านหญิงยูเลียผู้สูงส่งของข้า, ข้าสงสัยว่าข้าจะมีโอกาสได้เชิญท่านมาเต้นด้วยกันได้รึไม่. เชื่อข้าเถิด ท่านจะต้องชอบใจร่างกายที่แข็งแกร่งของข้าแน่ๆ….”

มาโคเนียไม่ได้โกรธตอนที่สังเกตเห็นยูเลียเมินเขาแต่พูดกับนางด้วยรอยยิ้มวิปลาศ.

เยาะเย้ยหรอ?

ไม่ใช่, นี่มันหักหน้ากันชัดๆ!

ชนชั้นสูงทุกคนล้วนรู้ว่าระหว่างกาอิอุส มาเรียสกับสุละนั้นกำลังชิงดีชิงเด่นกันอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่. แม้ว่ามันจะยังไม่เป็นที่โจ่งแจ้งแต่การแย่งชิงของพวกเขานั้นก็รุนแรงมาก.

และหลานชายของสุละกำลังก่อกวนภรรยาของกาอิอุส มาเรียสต่อหน้าสาธารณะอยู่, ดูยังไงก็หักหน้ากันชัดๆเลยหนิ?

พอได้ยินดังนั้นหน้าของยูเลียก็เดือดดาลไปด้วยความโกรธและตัวเธอก็เริ่มสั่น.

“ตุ่บ!”

เย่เทียนยิ้มแล้วลุกขึ้น, มือของเขาค่อยๆบีบไปที่ไหล่ของมาโคเนียแต่กำลังของเขานั้นเยอะไปหน่อย.

“ฟุ่บ!!!”

มาโคเนียไม่สามารถทนพละกำลังระดับขีดจำกัดของมนุษย์ของเย่เทียนได้, อีกอย่างตอนนี้เขาก็กำลังเมาด้วย เขาเลยล้มพับคุกเข่าต่อหน้ายูเลีย.

ทุกๆคนรู้สึกช้อค, ไม่ใช่เพราะกำลังของเย่เทียนแต่คือภาพที่มาโคเนียกำลังคุกเข่าอยู่ต่อหน้ายูเลียแบบนั้น, มันคงทำให้สุละอยากฆ่าตัวตายแน่.

“อ่า…อะไรเนี่ย, ท่านลอร์ด, ท่านพูดว่าท่านแข็งแกร่งไม่ใช่รึ? พระเจ้าเป็นพระยานได้.ท่านจะโทษข้าไม่ได้นะ ข้าแค่จะชวนท่านมานั่งแล้วดื่มซักแก้วแค่นั้นเอง…”

เย่เทียนชักมือกลับแล้วแกล้งทำเป็นตกใจแล้วอธิบายด้วยสีหน้าไม่รู้อิโหน่อิเหน่.

“เจ้า……ข้า..ข้าขออภัย, ข้าดื่มมากไปหน่อย, ข้าเสียมารยาทแล้ว, ขอตัวนะ…”

มาโคเนียทั้งเศร้าและโกรธ, อารมณ์เขากำลังพุ่งพลานอยู่และเขาทนรอจะฆ่าเย่เทียนไม่ไหวเลย. เขาไม่เชื่อคำพูดของเย่เทียนเลย. เขาจะคุกเข่าลงได้อย่างไงถ้าเย่เทียนแค่แตะเบาๆเอง? เขาเป็นกระดาษหรอ?

หลังจากพูดเสร็จมาโคเนียลุกขึ้นแล้วจากไปด้วยท่าทีมึนเมา.

“ซาตาน, ขอบใจนะ, เจ้าเป็นฮีโร่ของข้าจริงๆ!”

ยูเลียมองมาทางเย่เทียนด้วยสายตาเป็นประกายและขอบคุณเขาอย่างจริงใจ.

“ยินดีครับ. ข้าแค่สอนมารยาทพื้นฐานของโรมันแทนปู่ของเขาเท่านั้นเอง…”

เย่เทียนพูดด้วยรอยยิ้มเล็กๆและเขาก็เสน่ห์ล้นถึงขนาดทำให้ยูเลียปลื้ม.

“ไอ้เวร!!”

ปอมปีย์เห็นเย่เทียนจัดการสถานการณ์ที่น่าอายแบบนั้นได้จึงสบถออกมา. แต่อย่างน้อยเป้าหมายของเขาก็สำเร็จ ตอนนี้หลายของสุละกับเย่เทียนไม่ชอบขี้หน้ากันแล้ว.

มาโคเนียพยายามเลี่ยงไป ฉะนั้นพวกชนชั้นสูงเลยไม่ได้สังเกตเห็นนัก.

แต่ใครจะรู้ ว่าการเข่นฆ่ากำลังเดินทางมาแล้ว.

“โฮ่ง!!”

สาวหมาป่ามาถึงแมนชั่นของแครสซัสแล้ว. ขณะตามกลิ่นของเจ้าสาวไป เธอก็เข้าไปในห้องนอนของเจ้าสาวทันทีแต่แมนชั่นนั้นใหญ่เกินไปแถมยังมียามคอยเฝ้าอยู่ตามทางด้วย.

“ใครน่ะ!!”

ยามคนหนึ่งได้ยินเสียงฝีเท้าแล้วตะโกนออกมา.

“ฟุ่บ!”

วินาทีที่เขาหันหัวไปก็มีเงาพุ่งเข้ามา. เศษหนังที่คอของเขาหลุดออกมาพร้อมกับหลอดลม.

“ศัตรู!!”

“ศัตรู!!”

ยามคนอื่นเห็นแล้วตะโกนอย่างดัง.

“ปั้ก!!”

ตอนนี้เธอถูกเห็นเข้าแล้ว, วิคตอเรียจึงไม่อยากซ่อนตัวอีกต่อไป. เธอตะปบยามกระเด็นลงไปจากชั้นสองสู่ชั้นแรกที่แขกรวมตัวกันอยู่.

“โคร้ม!!”

เสียงอันโหดร้ายและเลือดที่กระเซ็น ทำให้ทุกๆคนกรีดร้องออกมา. หน้าของแครสซัสก็ยิ่งซีดลงไปอีก. เสียงมันดังมาจากชั้นที่2 ข้างๆห้องเจ้าสาว.

“ไม่ว่ามันจะเป็นใคร ฆ่ามันให้ข้า!!”

แครสซัสคำราม.

“โฮ่ง!!”

วิคตอเรียส่งเสียงขู่, เธอกระโจนอย่างบ้าคลั่ง, ฆ่ายามทุกคนที่เข้ามาหาเธอและร่างของพวกนั้นก็ลงไปกองกับพื้น เลือดสาดและตายอย่างน่าอนาถ.

สาวหมาป่าได้ปลดปล่อยสัญชาตญาณนักฆ่าแล้ว เธอกำลังเข่นฆ่าด้วยความบ้าคลั่ง.

งานเลี้ยงที่โชกเลือด!!

ความคิดนี้โผล่ขึ้นมาในหัวของทุกคน.

เจ้าโรคจิตที่ไหนที่ตระกูลแครสซัสไปทำให้โกรธเข้ากันนะ?!